คือผมอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับให้เช่าอสังหานอกจากงานประจำอยู่ ตอนนี้ต้นทุนที่มีคือตึกหนึ่งหลังและกำลังมีผู้ติดต่อขอเช่าแล้วซึ่งผู้เช่าอาจจะเป็นรุปบริษัท
จากการพูดคุยเบื้องต้นคือ ทางผู้(อาจจะ)เช่าขออยากออกบิลค่าใช้จ่ายให้กับเรา โดยอยากให้เราอยู่ในรูปนิติบุคคลซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้ อะไรทำนองนี้เพื่อความง่ายในการออกบิลค่าใช้จ่ายของทางบริษัทผู้เช่า(แต่เขาไม่ได้บังคับนะครับ แค่ลองสอบถามเราดู)
จริงๆผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากมีแผนจะจดทะเบียนบริษัทตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าติดปัญหาคือ
1.รายได้จากค่าเช่าบ้านหลังนี้รวมแล้ว(ยังไม่หักอะไรทั้งสิ้น)รวมทั้งปีคงอยู่ที่ประมาณสามแสนบาท ซึ่งผมคิดว่ายังเป็นจำนวนที่ไม่มากพอ หากผมจะไปทำในรูปบริษัทจดทะเบียนบริษัทใหม่เลย
กรณีเช่นนี้จะถือว่าคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายไหมครับ เพราะเท่าที่ทราบจะต้องจ้างบริษัทบัญชีทำบัญชีและเสียภาษี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องมีแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเท่าไร
ซึ่งหากผมไม่ทำอะไรแล้วเอาไปเสียภาษีบุคคลธรรมดาจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าไปตังบริษัทหรือเปล่าครับ
2.ผมตั้งใจจะเอาเข้าไปทำธุรกิจทางด้านอสังหา จากความคิดตอนนี้หากผมไปจดในรุปบริษัท เฉพาะฉะนั้นรายได้เกี่ยวกับอสังหาของผมน่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ในอนาคต(ใช้เงินต่อเงิน) ซึ่งหากจะเอาที่เข้าธนาคารกรณีเช่นนี้เงินที่ขอกู้ธนาคารเพื่อนำเงินทุนไปต่อยอดต่อจะมีโอกาสมากกว่าในรูปบุคคลธรรมดาเปล่าครับ
ประเด็นในข้อนี้คือถ้ามองในระยะยาวแล้ว การจดทะเบียนตั้งแต่ตอนนี้น่าจะมีผลดีมากกว่าถึงแม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทางบัญชีก็ตาม ตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ
3.หากคำแนะนำคือยังไม่สมควรตั้งในรูปแบบนิติบุคคลในตอนนี้(อาจจะเพราะว่ารายได้น้อยไป จัดตั้งไปไม่คุ้ม) กรณีเช่นนี้ใครพอจะมีข้อแนะนำในเรื่องการทำสัญญาเช่าไหมครับว่าควรทำแบบไหนให้ฐานภาษีเราน้อยที่สุด จากที่อ่านมามีคำแนะนำว่าให้ทำสัญญาเช่าพื้นที่แค่บางส่วน เพื่อที่จะเสียภาษีโรงเรือนน้อยลงและทำสัญญาเช่าอสังหาและเช่าใช้ทรัพย์สินในบ้าน เช่นตู้ โต๊ะ อะไรทำนองนี้
โดยเฉพาะบางความเห็นบอกว่ามีค่าบริหารงานจัดการ ตรงนี้ใครพอจะอธิบายได้บ้างครับหมายถึงอะไร เช่นค่าน้ำค่าไฟพอบิลออกมาแล้วเราไปจ่ายก่อนแล้วไปเก็บที่หลัง ค่าเสียเวลาที่เราต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟพวกนี้ถือว่าเป็นค่าบริการจัดการได้เปล่าครับ
หากเขียนแล้วเข้าใจยากก็ขอโทษด้วยครับ ตอนนี้มึนๆไม่รุ้ว่าเรียบเรียงข้อมูลได้ครบถ้วนถูกต้องเปล่า
ขอบคุณครับผม
รบกวนขอคำแนะนำด้านภาษีและจัดตั้งบริษัทครับโดยเฉพาะท่านที่ทำธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ขอคำแนะนำด้วยครับ
จากการพูดคุยเบื้องต้นคือ ทางผู้(อาจจะ)เช่าขออยากออกบิลค่าใช้จ่ายให้กับเรา โดยอยากให้เราอยู่ในรูปนิติบุคคลซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้ อะไรทำนองนี้เพื่อความง่ายในการออกบิลค่าใช้จ่ายของทางบริษัทผู้เช่า(แต่เขาไม่ได้บังคับนะครับ แค่ลองสอบถามเราดู)
จริงๆผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากมีแผนจะจดทะเบียนบริษัทตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าติดปัญหาคือ
1.รายได้จากค่าเช่าบ้านหลังนี้รวมแล้ว(ยังไม่หักอะไรทั้งสิ้น)รวมทั้งปีคงอยู่ที่ประมาณสามแสนบาท ซึ่งผมคิดว่ายังเป็นจำนวนที่ไม่มากพอ หากผมจะไปทำในรูปบริษัทจดทะเบียนบริษัทใหม่เลย
กรณีเช่นนี้จะถือว่าคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายไหมครับ เพราะเท่าที่ทราบจะต้องจ้างบริษัทบัญชีทำบัญชีและเสียภาษี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องมีแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเท่าไร
ซึ่งหากผมไม่ทำอะไรแล้วเอาไปเสียภาษีบุคคลธรรมดาจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าไปตังบริษัทหรือเปล่าครับ
2.ผมตั้งใจจะเอาเข้าไปทำธุรกิจทางด้านอสังหา จากความคิดตอนนี้หากผมไปจดในรุปบริษัท เฉพาะฉะนั้นรายได้เกี่ยวกับอสังหาของผมน่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ในอนาคต(ใช้เงินต่อเงิน) ซึ่งหากจะเอาที่เข้าธนาคารกรณีเช่นนี้เงินที่ขอกู้ธนาคารเพื่อนำเงินทุนไปต่อยอดต่อจะมีโอกาสมากกว่าในรูปบุคคลธรรมดาเปล่าครับ
ประเด็นในข้อนี้คือถ้ามองในระยะยาวแล้ว การจดทะเบียนตั้งแต่ตอนนี้น่าจะมีผลดีมากกว่าถึงแม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทางบัญชีก็ตาม ตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ
3.หากคำแนะนำคือยังไม่สมควรตั้งในรูปแบบนิติบุคคลในตอนนี้(อาจจะเพราะว่ารายได้น้อยไป จัดตั้งไปไม่คุ้ม) กรณีเช่นนี้ใครพอจะมีข้อแนะนำในเรื่องการทำสัญญาเช่าไหมครับว่าควรทำแบบไหนให้ฐานภาษีเราน้อยที่สุด จากที่อ่านมามีคำแนะนำว่าให้ทำสัญญาเช่าพื้นที่แค่บางส่วน เพื่อที่จะเสียภาษีโรงเรือนน้อยลงและทำสัญญาเช่าอสังหาและเช่าใช้ทรัพย์สินในบ้าน เช่นตู้ โต๊ะ อะไรทำนองนี้
โดยเฉพาะบางความเห็นบอกว่ามีค่าบริหารงานจัดการ ตรงนี้ใครพอจะอธิบายได้บ้างครับหมายถึงอะไร เช่นค่าน้ำค่าไฟพอบิลออกมาแล้วเราไปจ่ายก่อนแล้วไปเก็บที่หลัง ค่าเสียเวลาที่เราต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟพวกนี้ถือว่าเป็นค่าบริการจัดการได้เปล่าครับ
หากเขียนแล้วเข้าใจยากก็ขอโทษด้วยครับ ตอนนี้มึนๆไม่รุ้ว่าเรียบเรียงข้อมูลได้ครบถ้วนถูกต้องเปล่า
ขอบคุณครับผม