ใครนึกภาพอนุมูลอิสระไม่ออก ผมมีภาพเปรียบเทียบมาให้ดูครับ

เนื่องจากอนุมูลอิสระมีขนาดเล็กมาก จนเรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หลายๆคนอาจจะจินตนาการไม่ออกว่า อนุมูลอิสระเหล่านั้นจะทำลายเซลล์ต่างๆของร่างกายได้ยังไง ผมขอเปรียบเทียบดังนี้นะครับ ผมเข้าใจว่าทุกคนรู้จักพลุไฟ ที่ใช้ในการจุดเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ และทุกคนในวัยเด็กก็น่าจะเคยจุดพลุด้วยตัวเอง และเอามาถือไว้ในมือ เกิดเป็นประกายไฟอย่างสวยงาม เป็นพลุไฟอันเล็กๆตามรูปภาพที่ผมนำมาประกอบ แล้วใครเคยโดนประกายไฟของพลุที่ผิวหนังบ้างครับ ตอนเด็กๆผมโดนประจำ ทุกครั้งที่จุดพลุไฟ เวลาโดนประกายไฟของพลุ เราก็จะรู้สึกแสบๆร้อนๆ ถึงจะไม่มากก็ตาม และตอนเด็กๆเพื่อนผมคนหนึ่งเคยโดนประกายของพลุไฟนี่ละครับ ถึงกับผิวหนังพองเลย ต้องพาไปโรงพยาบาลกันทีเดียว แล้วเกี่ยวอย่างไรกับ อนุมูลอิสระ ถ้าเรามองเปรียบเทียบกัน ภาพตรงนี้จะเห็นชัดมากครับ ประกายไฟที่เกิดขึ้น ก็เปรียบกับ อนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นในร่างกายนั่นละครับ ถึงแม้ ประกายไฟแค่ครั้งเดียวอาจทำให้ผิวหนังของเราไม่เกิดอันตราย แต่ถ้าโดนซ้ำๆบ่อยๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง ผิวหนังก็เกิดแผลพองได้ อย่างที่เพื่อนผมโดนประกายไฟพลุตอนเด็กๆครับ ร่างกายโดนอนุมูลอิสระทำลายบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดโรคได้ครับ

แล้วเราจะป้องกันได้อย่างไร ก็ต้องมีสารต้านอนุมูลอิสระครับ ตอนเด็กๆเวลาไปเล่นพลุไฟ แม่ผมมักจะบอกให้ใส่เสื้อแขนยาว ผิวหนังจะได้ไม่โดนประกายไฟของพลุ ซึ่งมันก็จริงๆ อย่างที่แม่ผมบอก แต่ด้วยความสนุกเล่นพลุมากไปหน่อย เสื้อแขนยาวที่ใส่ไป ก็เกิดรูโหว่ได้เช่นกัน เพราะโดนประกายไฟของพลุหล่นใส่เรื่อยๆ เสื้อเลยขาดได้ ซึ่งก็เหมือนร่างกายเรา ถ้าไม่อยากโดนทำลายด้วยอนุมูลอิสระ ก็ต้องมีสารต้านอนุมูลอิสระไปช่วยป้องกัน แต่สารต้านอนุมูลอิสระนั้นก็สามารถเสื่อมสภาพได้เช่นกัน ดังนั้นร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในทุกๆวันครับ

สรุป เพื่อให้เข้าใจง่าย ประกายไฟของพลุที่ถูกจุดขึ้นมา สามารถทำลายผิวหนังได้ ก็เปรียบได้กับ อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ก็ทำลายร่างกายได้ครับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=303687916435969&set=a.303104179827676.1073741828.303083489829745&type=1&theater