นั่งอยู่ว่างๆ ก็ลุกขึ้นมาเหยียดแข้งเหยียดขา ออกกำลังให้เลือดสูบฉีด แค่มีที่ปูเสื่อ ที่ไหนก็เล่นได้ค่ะ
1. เข่า และ ข้อศอก ทั้งสี่ อยู่ที่พื้น
2. วัดระดับความห่างของข้อศอก เท่ากับระยะห่างของหัวไหล่ วัดได้โดยการตั้งข้อศอกเป็นมุมฉาก มือขวาที่ศอกซ้าย มือซ้านที่ศอกขวา
จากนั้นล๊อคความห่างของข้อศอกไว้ ไม่ให้เคลื่อนที่ ละมือประสานกันไว้ที่พื้นด้านหน้า
3. ยืดขาตรง ยกก้นขึ้นตามรูป ข้อศอกและแขน วางมั่นคง
4. วางศีรษะระหว่างฝ่ามือ โดยให้ส่วนกระหม่อมอยู่ในฝ่ามือทั้งสอง
5. เดินเท้าเข้ามาหาลำตัว ระหว่างนี้ ต้องออกแรงเกร็งหัวไหล่ และข้อศอกไม่เคลื่อนที่
6. เดินเข้ามาจนรู้สึกว่าตัวตั้งตรง งอหัวเข่าเข้าหาหน้าอก
7. เกร็งหน้าท้อง ใช้แรงจากหน้าท้อง และหัวไหล่ ยกเข่าขึ้นมา เป็นมุมฉาก กับลำตัว
สำหรับผู้เริ่มฝึก ให้ค้างไว้ที่ตรงนี้ จนเราสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวขึ้นลงของหัวเข่าและขาจากการเกร็งหน้าท้องได้
8. ยืดขาตรง ยกขาตั้งตรงกับลำตัว รู้ได้ว่าตรงจากความรู้สึกว่าหน้าท้องเราเหยียดตรงเต็มที่
9. หายใจ ตามปกติ เกร็งหน้าท้องและหัวไหล่ ช่วยในการทรงตัว แต่ขาเหยียดตรงสบาย
ท่านี้ ดีต่อหัวใจ และการไหลเวียนของเลือดสูสมอง หัวใจพักผ่อนจากการสูบฉีดชั่วความ ปล่อยแรงดึงดูดทำงานให้เลือดไหลเข้าสุ่หัวใจเอง
ข้อระวัง ผู้บาดเจ็บที่ สมอง หัว ไหล่ และต้อ ควรหลีกเลี่ยง
10. ขึ้นแบบไหน ลงมาแบบนั้น
ขอให้สนุกกับการฝึกฝนค่ะ
ปล หวังว่าจะอ่านรู้เรื่อง ;)
ปล. 2 ท่าอื่นๆ visit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://instagram.com/fonneculture
แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ
****คำเตือนสำหรับผู้เริ่มฝึก****
ขอโทษค่ะ ที่ไม่ได้เขียนคำเตือนละเอียด สำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ต้องเอาขาขึ้นค่ะ ให้ค้างไว้ที่ ข้อ 7 ค่ะ ตามที่เขียนไว้
ฝึกเดินเข้ามาหาลำตัว งอเข้าหาตัว ยกเข่าขึ้น แต่ไม่ต้องยืดขา การฝึกขั้นตอนนี้ เป็นการเตรียมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องและหัวไหล่ ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง จนวันนึงเราหาการทรงตัวโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องควบคุมการทรงตัวได้ จึงยืดขาตรง
การทำท่านี้ที่ปลอดภัย ไม่ควรเตะขาขึ้น ควรจะเป็นการเกร็งหน้าท้องและหัวไหล่ และยืดขึ้นช้าๆ แต่กว่าจะถึงวันยืดขาขึ้นได้ ผู้ฝึก ก็คงมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องเพียงพอแล้วค่ะ
แต่ไม่ได้เขียนละเอียดว่า กว่าที่เราจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง และหัวใหล่มากพอ ต้องฝึกการเดินเข้า และการยกเล็กน้อยเป็นเวลานานค่ะ
ควรฝึกชิดกำแพง กว่านี้ค่ะ
ในภาพเป็นครูสอนโยคะค่ะ คุ้นเคยกับท่านี้มาเป็นเวลานานแล้วค่ะ ผู้ฝึกใหม่โปรดระวัง
*****ข้อระวังอีกข้อ *****
ท่านี้ น้ำหนักอยู่ที่ไหล่ แขน และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ค่ะ ไม่มีน้ำหนักส่วนไหนลงที่หัว และคอทั้งสิ้น
เป็นสาเหตุให้ การเตะขาขึ้นไม่เหมาะ เพราะการกำหนดน้ำหนักในระหว่างเตะ เราควบคุมไม่ได้ เพราะฉะนั้น การฝึกเดินเข้าหาลำตัว งอเข่าหาอก แล้วค่อยๆ ยกเข่าขึ้นช้าๆ ถึงจุดที่เรารับน้ำหนักไหว แล้วค้างไว้ตรงนั้น เป็นการบอกให้ร่างกายสังเกตุ และเรียนรู้ว่า นี่คือการลงน้ำหนักที่ถูกต้อง
เขียนเป็นครั้งแรก และเป็ยภาษาไทย โทษทีค่ะ ลืมหลายจุด ไม่เหมือนตอนสอนกันต่อหนา
ลองทำดู How to headstand
นั่งอยู่ว่างๆ ก็ลุกขึ้นมาเหยียดแข้งเหยียดขา ออกกำลังให้เลือดสูบฉีด แค่มีที่ปูเสื่อ ที่ไหนก็เล่นได้ค่ะ
1. เข่า และ ข้อศอก ทั้งสี่ อยู่ที่พื้น
2. วัดระดับความห่างของข้อศอก เท่ากับระยะห่างของหัวไหล่ วัดได้โดยการตั้งข้อศอกเป็นมุมฉาก มือขวาที่ศอกซ้าย มือซ้านที่ศอกขวา
จากนั้นล๊อคความห่างของข้อศอกไว้ ไม่ให้เคลื่อนที่ ละมือประสานกันไว้ที่พื้นด้านหน้า
3. ยืดขาตรง ยกก้นขึ้นตามรูป ข้อศอกและแขน วางมั่นคง
4. วางศีรษะระหว่างฝ่ามือ โดยให้ส่วนกระหม่อมอยู่ในฝ่ามือทั้งสอง
5. เดินเท้าเข้ามาหาลำตัว ระหว่างนี้ ต้องออกแรงเกร็งหัวไหล่ และข้อศอกไม่เคลื่อนที่
6. เดินเข้ามาจนรู้สึกว่าตัวตั้งตรง งอหัวเข่าเข้าหาหน้าอก
7. เกร็งหน้าท้อง ใช้แรงจากหน้าท้อง และหัวไหล่ ยกเข่าขึ้นมา เป็นมุมฉาก กับลำตัว
สำหรับผู้เริ่มฝึก ให้ค้างไว้ที่ตรงนี้ จนเราสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวขึ้นลงของหัวเข่าและขาจากการเกร็งหน้าท้องได้
8. ยืดขาตรง ยกขาตั้งตรงกับลำตัว รู้ได้ว่าตรงจากความรู้สึกว่าหน้าท้องเราเหยียดตรงเต็มที่
9. หายใจ ตามปกติ เกร็งหน้าท้องและหัวไหล่ ช่วยในการทรงตัว แต่ขาเหยียดตรงสบาย
ท่านี้ ดีต่อหัวใจ และการไหลเวียนของเลือดสูสมอง หัวใจพักผ่อนจากการสูบฉีดชั่วความ ปล่อยแรงดึงดูดทำงานให้เลือดไหลเข้าสุ่หัวใจเอง
ข้อระวัง ผู้บาดเจ็บที่ สมอง หัว ไหล่ และต้อ ควรหลีกเลี่ยง
10. ขึ้นแบบไหน ลงมาแบบนั้น
ขอให้สนุกกับการฝึกฝนค่ะ
ปล หวังว่าจะอ่านรู้เรื่อง ;)
ปล. 2 ท่าอื่นๆ visit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ
****คำเตือนสำหรับผู้เริ่มฝึก****
ขอโทษค่ะ ที่ไม่ได้เขียนคำเตือนละเอียด สำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ต้องเอาขาขึ้นค่ะ ให้ค้างไว้ที่ ข้อ 7 ค่ะ ตามที่เขียนไว้
ฝึกเดินเข้ามาหาลำตัว งอเข้าหาตัว ยกเข่าขึ้น แต่ไม่ต้องยืดขา การฝึกขั้นตอนนี้ เป็นการเตรียมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องและหัวไหล่ ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง จนวันนึงเราหาการทรงตัวโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องควบคุมการทรงตัวได้ จึงยืดขาตรง
การทำท่านี้ที่ปลอดภัย ไม่ควรเตะขาขึ้น ควรจะเป็นการเกร็งหน้าท้องและหัวไหล่ และยืดขึ้นช้าๆ แต่กว่าจะถึงวันยืดขาขึ้นได้ ผู้ฝึก ก็คงมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องเพียงพอแล้วค่ะ
แต่ไม่ได้เขียนละเอียดว่า กว่าที่เราจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง และหัวใหล่มากพอ ต้องฝึกการเดินเข้า และการยกเล็กน้อยเป็นเวลานานค่ะ
ควรฝึกชิดกำแพง กว่านี้ค่ะ
ในภาพเป็นครูสอนโยคะค่ะ คุ้นเคยกับท่านี้มาเป็นเวลานานแล้วค่ะ ผู้ฝึกใหม่โปรดระวัง
*****ข้อระวังอีกข้อ *****
ท่านี้ น้ำหนักอยู่ที่ไหล่ แขน และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ค่ะ ไม่มีน้ำหนักส่วนไหนลงที่หัว และคอทั้งสิ้น
เป็นสาเหตุให้ การเตะขาขึ้นไม่เหมาะ เพราะการกำหนดน้ำหนักในระหว่างเตะ เราควบคุมไม่ได้ เพราะฉะนั้น การฝึกเดินเข้าหาลำตัว งอเข่าหาอก แล้วค่อยๆ ยกเข่าขึ้นช้าๆ ถึงจุดที่เรารับน้ำหนักไหว แล้วค้างไว้ตรงนั้น เป็นการบอกให้ร่างกายสังเกตุ และเรียนรู้ว่า นี่คือการลงน้ำหนักที่ถูกต้อง
เขียนเป็นครั้งแรก และเป็ยภาษาไทย โทษทีค่ะ ลืมหลายจุด ไม่เหมือนตอนสอนกันต่อหนา