ขอแท็กในห้องกรีนโซนด้วยนะค่ะ เพราะมีร้านอาหารแนะนำเรื่องการนำขวดแก้วมาเติมกาแฟแทนการซื้อขวดกระดาษ ช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าด้วยค่ะ

กระทู้นี่แล้วสาวเหนือพาไปเช็คอินเก็บกระเป๋ายังที่พักแล้ว กระทู้นี่เราจะไปหาร้านอาหารภายในตัวเมืองขอนแก่นเพื่อเติมพลังกันก่อนเที่ยวค่ะ เอาแบบว่าระยะเดินถึงกันได้(ถ้าเดินกันไหว)

แต่ขอบอกไว้ก่อน หาคาดหวังว่าอิฉันจะพาไปกินร้านดังของขอนแก่น อาจจะเรียกว่าผิดหวัง เนื่องด้วยร้านดังๆมักจะอยู่ไกลเส้นทางที่อิฉันจะนั่งรถประจำทางไปถึง และคุณเพื่อนเจ้าถิ่นก็ไม่มีเวลาพอจะพาไปด้วย...ดังนั้นร้านอาหารที่อิฉันจะรีวิวนั้น จะเป็นร้านที่มีจุดเด่นจุดน่าสนใจน่าเข้าไปกินผ่อนคลาย หรือมีชื่อในกลุ่มลูกค้าบางราย อย่างร้านสุดท้ายที่จะพาไปกิ๋นเป็นร้านขวัญใจเด็กมข.เลย (ร้านสุดท้ายนี่เพื่อนมีเวลาพามาเจี๊ยะจนได้)
เริ่มจากร้านแรกที่อยู่ใกล้กับโรงแรมก่อนเลยดีกว่าค่ะ เผื่อใครอยากออกมาหาอะไรทานใกล้โรงแรม...
ที่จริงแล้วสาวเหนืออยากจะแนะนำให้เดินไปยังใจกลางเมืองขอนแก่น แถวโรงแรมโฆษะ โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น ซึ่งมีที่ตั้งของร้านอาหารมีชื่อดังของขอนแก่น แต่การเดินทางนั้นไกลประมาณหลายบล็อกเลยทีเดียว...ซ้ำร้ายกว่านั้นวันที่อิฉันไปยังย่านนั้น ร้านดังกล่าวกลับปิดเสียวันนั้น ทำให้อิฉันเลยไม่ได้รีวิวร้านอาหารแถวนั้นเลยค่ะ เสียดายมาก

จึงขอรีวิวร้านที่อยู่ใกล้โรงแรมก่อนก็แล้วกัน
เริ่มต้นก็ให้เดินหรือขับรถออกมาจากโรงแรม เลี้ยวซ้าย(ยูเทิร์นกลับไปยังซอยคลีนิกเซนปอล)จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ขับไปจนถึงสี่แยก แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที คราวนี้ไม่ต้องขับตรง แต่ให้หาป้ายที่เขียนว่า โครงการโอโซนวิลเลจ แล้วขับเข้าไปจอดรถภายในโครงการเลยค่ะ มีที่จอดเพียบ และร้านอยู่ทางขวามือติดริมฟุตบาธ อันมีนามกรว่า...
Firehaus Bistro
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ก่อนอื่นต้องแจงก่อนว่า โอโซนวิลเลจ เป็นเหมือนมินิมอลด์บนถนนเทพารักษ์ ที่กำลังมีการพัฒนาสร้างบ้านและคอนโดขึ้น กะให้เป็นทองหล่อแห่งขอนแก่นเลย ภายในโครงการมีร้านค้าและสนามเทนนิส...พอสมควรนะค่ะ มีร้านขายของไม่ถึง 10 ร้าน บางช่องร้านยังไม่มีการเช่า หรือติดป้ายให้เซ้งต่อ...คือดูจากสภาพแล้ว เหมือนโครงการมันไปไม่เวิร์ดหรือไร ทำให้ที่นี่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลย

เหลือแต่คอร์ทเทนนิส ร้านขายของร้านสองร้าน...และร้าน
Firehaus Bistro ที่เป็นร้านอาหารแห่งเดียวในโครงการนี่ที่ยังดำเนินกิจการอยู่
Firehaus Bistro เป็นร้านอาหารอเมริกันคาเฟ่ร้านเล็กๆ มีที่นั่งด้านในประมาณแค่ 4 โต๊ะ ส่วนข้างนอกมีประมาณ 2 โต๊ะ สไตล์การตกแต่งร้านเป็นโมเดิร์นแบบง่ายๆ ให้ธีมอารมณ์แบบผู้ชายดิบๆ (แต่ข้างในเปิดแอร์เย็นฉ่ำมาก) ตอนแรกสาวเหนือไม่กล้าเข้าไปเลย เพราะเห็นมีกลุ่มแขกผู้ชายนั่งดื่มเบียร์กันในร้าน...แต่เพราะอยากเก็บข้อมูลไปรีวิว ก็เลยใจกล้าเข้าไปนั่ง...แบบเป็นแขกผู้หญิงคนเดียวในร้านเลย
แต่การบริการก็โอเคนะค่ะ มีพนักงานที่อยู่ในกลุ่มแขกที่ดื่ม เอาเมนูมาให้เราโดยทันที (คาดว่าอาจจะเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้าน) เลยผ่อนคลายอาการเกร็งลงหน่อย

มีเคาน์เตอร์ที่เป็นส่วนกั้นระหว่างห้องอาหารกับห้องทำครัว ตกแต่งติดภาพถ่ายของเมนูไว้

เมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารอเมริกัน-อิตาเลียน พวกสเต็ก สลัด สปาเกตตี้ พิซซ่า แฮมเบเกอร์ ของทานเล่น...ดูเหมือนร้านนี่จะเป็นร้านกินหนักก็ได้ ทานเล่นในวงเหล้าก็โอเค เน้นกลุ่มลูกค้าผู้ชายเป็นหลัก...และน่าจะเน้นกลุ่มคนที่มาใช้บริการคอร์ทเทนนิส เล่นเสร็จก็กินข้าวที่นี่รวดเดียวไปเลย จบ

บนโต๊ะมีถาดไม้เครื่องปรุงแบบอเมริกัน

และเมนูที่สาวเหนือสั่งมาประเดิมก็คือ...
เบเกอร์หมูบดกับเห็ด (189 บาท)

ตอนอิฉันเห็นมันมาวางตรงหน้า แทบจะตกเก้าอี้เลย เพราะจานนึงก็เต็มโต๊ะแล้ว...เพิ่งได้กินเบเกอร์โฮมเมดแบบต้องใช้มีดส้อมตัดกินเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ (ปกติกินแต่แมค)
ลักษณะของเบเกอร์เห็ดนี่ย่างเกือบเกรียม ราดด้วยซอสเห็ดแชมปิญองอีกทีหนึ่ง ได้กลิ่นซอสพริกไทยดำ ซอสข้นคลั่กรสชาติออกเค็มไปนิด แต่ปริมาณที่ให้นี่ใหญ่สะใจมาก...มากจนชนิดว่า อิ่มไปถึงมื้อเช้าวันพรุ่งนี้ (ใช้เวลากินจานนี่ประมาณเกือบ 1 ชม.ได้เลย) เรียกว่าราคานี่เกินคุ้มกว่าเซทฟาสต์ฟู้ดยี่ห้อดังเสียอีก

แต่จะให้รีวิวเมนูเดียวก็กระไรอยู่ วันต่อมามื้อเย็น สาวเหนือจึงแวะกลับไปอุดหนุนที่ร้านต่อ คราวนี้สั่งเบาๆมาหน่อยกับ
Fish & Chip (159 บาท) ตอนแรกจะสั่งเมนูอาหารทะเล แต่ทางร้านเพิ่งเปิด ยังไม่พร้อมเมนูอาหารทะเล พวกหอยแมงภู่นิวซีแลนด์ เลยยังไม่มีค่ะ)

ร้านก็ยังคงคอนเซปใหญ่สะใจมาอีกแล้ว

(ไม่เบาอย่างที่คาด ถ้าเบาๆ คงต้องสั่งสลัดหรือของทานเล่นซินะ...แต่ก็กลัวมาแบบบิ๊กไซส์

) ปลาดอลลี่ตัวเบ้อเร่อที่ทอดมากรอบมากๆ กัดทีเนื้อแป้งทอดกรอบร่วงกราว เนื้อปลาทอดข้างในอย่างนุ่มแบบกรอบนอกนุ่มใน โรยด้วยผงเครื่องเทศและใบออริกาโน่ซอย เสิร์ฟพร้อมเฟรนฟรายแท่งหนา มาพร้อมกับซอสครีมสลัดสองแบบ อิฉันชอบซอสสีส้มครีมมากกว่า มันหวานกลมกล่อมเข้ากันดี...และมื้อนี่ก็ใช้เวลากิน 1 ชม. เหมือนเมนูแรก...ก็มันเยอะจัดหนักซะขนาดนี่ ดูแล้วสมเป็นอาหารฝรั่งแบบผู้ชายจริงๆเลยค่ะ เพราะผู้ชายชอบกินเยอะสะใจซะขนาดนี่
เพราะแต่ละเมนูจัดมาหนักขนาดนี่ แถมสาวเหนือมีเวลาน้อยเลยไม่ได้รีวิวเมนูอื่นอีก...โดยรวมแล้วถ้าไม่ติดเรื่องร้านมีพื้นที่เล็กและบรรยากาศเป็นผู้ชายสักหน่อย ก็ได้คะแนนเต็มเรื่องที่จอดรถและปริมาณอาหารเลยร้านเปิดทุกวัน 10:00-21:30 น.
รวมลิงค์ไดอารี่สาวเหนือเซาะกิ๋นแอ่วขอนแก่น
ตอนที่ 1 เช็คอินโรงแรมน่ารักราคาน่าคบ ช่วงเทศกาลรับปริญญามข.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/31072475
ตอนที่ 3 เที่ยวในเมืองขอนแก่น เยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/31287608
[CR] สาวเหนือเซาะกิ๋นแอ่วขอนแก่น@ตอนที่ 2 กิ๋นลำม่วนในเมืองขอนแก่นยันท้ายมข.
เริ่มจากร้านแรกที่อยู่ใกล้กับโรงแรมก่อนเลยดีกว่าค่ะ เผื่อใครอยากออกมาหาอะไรทานใกล้โรงแรม...
ที่จริงแล้วสาวเหนืออยากจะแนะนำให้เดินไปยังใจกลางเมืองขอนแก่น แถวโรงแรมโฆษะ โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น ซึ่งมีที่ตั้งของร้านอาหารมีชื่อดังของขอนแก่น แต่การเดินทางนั้นไกลประมาณหลายบล็อกเลยทีเดียว...ซ้ำร้ายกว่านั้นวันที่อิฉันไปยังย่านนั้น ร้านดังกล่าวกลับปิดเสียวันนั้น ทำให้อิฉันเลยไม่ได้รีวิวร้านอาหารแถวนั้นเลยค่ะ เสียดายมาก
เริ่มต้นก็ให้เดินหรือขับรถออกมาจากโรงแรม เลี้ยวซ้าย(ยูเทิร์นกลับไปยังซอยคลีนิกเซนปอล)จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ขับไปจนถึงสี่แยก แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที คราวนี้ไม่ต้องขับตรง แต่ให้หาป้ายที่เขียนว่า โครงการโอโซนวิลเลจ แล้วขับเข้าไปจอดรถภายในโครงการเลยค่ะ มีที่จอดเพียบ และร้านอยู่ทางขวามือติดริมฟุตบาธ อันมีนามกรว่า... Firehaus Bistro
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ก่อนอื่นต้องแจงก่อนว่า โอโซนวิลเลจ เป็นเหมือนมินิมอลด์บนถนนเทพารักษ์ ที่กำลังมีการพัฒนาสร้างบ้านและคอนโดขึ้น กะให้เป็นทองหล่อแห่งขอนแก่นเลย ภายในโครงการมีร้านค้าและสนามเทนนิส...พอสมควรนะค่ะ มีร้านขายของไม่ถึง 10 ร้าน บางช่องร้านยังไม่มีการเช่า หรือติดป้ายให้เซ้งต่อ...คือดูจากสภาพแล้ว เหมือนโครงการมันไปไม่เวิร์ดหรือไร ทำให้ที่นี่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลย
Firehaus Bistro เป็นร้านอาหารอเมริกันคาเฟ่ร้านเล็กๆ มีที่นั่งด้านในประมาณแค่ 4 โต๊ะ ส่วนข้างนอกมีประมาณ 2 โต๊ะ สไตล์การตกแต่งร้านเป็นโมเดิร์นแบบง่ายๆ ให้ธีมอารมณ์แบบผู้ชายดิบๆ (แต่ข้างในเปิดแอร์เย็นฉ่ำมาก) ตอนแรกสาวเหนือไม่กล้าเข้าไปเลย เพราะเห็นมีกลุ่มแขกผู้ชายนั่งดื่มเบียร์กันในร้าน...แต่เพราะอยากเก็บข้อมูลไปรีวิว ก็เลยใจกล้าเข้าไปนั่ง...แบบเป็นแขกผู้หญิงคนเดียวในร้านเลย
แต่การบริการก็โอเคนะค่ะ มีพนักงานที่อยู่ในกลุ่มแขกที่ดื่ม เอาเมนูมาให้เราโดยทันที (คาดว่าอาจจะเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้าน) เลยผ่อนคลายอาการเกร็งลงหน่อย
มีเคาน์เตอร์ที่เป็นส่วนกั้นระหว่างห้องอาหารกับห้องทำครัว ตกแต่งติดภาพถ่ายของเมนูไว้
เมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารอเมริกัน-อิตาเลียน พวกสเต็ก สลัด สปาเกตตี้ พิซซ่า แฮมเบเกอร์ ของทานเล่น...ดูเหมือนร้านนี่จะเป็นร้านกินหนักก็ได้ ทานเล่นในวงเหล้าก็โอเค เน้นกลุ่มลูกค้าผู้ชายเป็นหลัก...และน่าจะเน้นกลุ่มคนที่มาใช้บริการคอร์ทเทนนิส เล่นเสร็จก็กินข้าวที่นี่รวดเดียวไปเลย จบ
บนโต๊ะมีถาดไม้เครื่องปรุงแบบอเมริกัน
และเมนูที่สาวเหนือสั่งมาประเดิมก็คือ...เบเกอร์หมูบดกับเห็ด (189 บาท)
ตอนอิฉันเห็นมันมาวางตรงหน้า แทบจะตกเก้าอี้เลย เพราะจานนึงก็เต็มโต๊ะแล้ว...เพิ่งได้กินเบเกอร์โฮมเมดแบบต้องใช้มีดส้อมตัดกินเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ (ปกติกินแต่แมค)
ลักษณะของเบเกอร์เห็ดนี่ย่างเกือบเกรียม ราดด้วยซอสเห็ดแชมปิญองอีกทีหนึ่ง ได้กลิ่นซอสพริกไทยดำ ซอสข้นคลั่กรสชาติออกเค็มไปนิด แต่ปริมาณที่ให้นี่ใหญ่สะใจมาก...มากจนชนิดว่า อิ่มไปถึงมื้อเช้าวันพรุ่งนี้ (ใช้เวลากินจานนี่ประมาณเกือบ 1 ชม.ได้เลย) เรียกว่าราคานี่เกินคุ้มกว่าเซทฟาสต์ฟู้ดยี่ห้อดังเสียอีก
แต่จะให้รีวิวเมนูเดียวก็กระไรอยู่ วันต่อมามื้อเย็น สาวเหนือจึงแวะกลับไปอุดหนุนที่ร้านต่อ คราวนี้สั่งเบาๆมาหน่อยกับ Fish & Chip (159 บาท) ตอนแรกจะสั่งเมนูอาหารทะเล แต่ทางร้านเพิ่งเปิด ยังไม่พร้อมเมนูอาหารทะเล พวกหอยแมงภู่นิวซีแลนด์ เลยยังไม่มีค่ะ)
ร้านก็ยังคงคอนเซปใหญ่สะใจมาอีกแล้ว
เพราะแต่ละเมนูจัดมาหนักขนาดนี่ แถมสาวเหนือมีเวลาน้อยเลยไม่ได้รีวิวเมนูอื่นอีก...โดยรวมแล้วถ้าไม่ติดเรื่องร้านมีพื้นที่เล็กและบรรยากาศเป็นผู้ชายสักหน่อย ก็ได้คะแนนเต็มเรื่องที่จอดรถและปริมาณอาหารเลยร้านเปิดทุกวัน 10:00-21:30 น.
ตอนที่ 1 เช็คอินโรงแรมน่ารักราคาน่าคบ ช่วงเทศกาลรับปริญญามข. [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 เที่ยวในเมืองขอนแก่น เยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น