จากกระทู้ของคุณชานเมือง
http://pantip.com/topic/30989808
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจให้ถูกก่อนนะครับ คำว่า "เงินแผ่นดิน" นั้น หมายถึงอะไร
คำว่า เงินแผ่นดิน เป็นคำพูดสั้น ๆ ครับ พูดบนฐานที่เข้าใจ แต่มีหลายคนที่ไม่เข้าใจ เข้าใจผิด
เข้าใจผิดคิดว่า ไม่ใช่เงินของประเทศ ถึงขนาดบอกว่า งั้นรัฐบาลยืมมาเองก็ใช้เองสิ
ไม่ใช่ครับ
คำว่า เงินแผ่นดิน หมายถึง เงินงบประมาณแผ่นดินครับ
การที่รัฐบาลออก พรบ. กู้เงินสองล้านล้านบาท เงินจึงเป็นเงินนอกงบประมาณ ไม่ใช่เงินงบประมาณ
ฉะนั้น การจะใช้กฎหมายเกี่ยวกับเงินงบประมาณมาบอกว่า พรบ.เงินกู้สองล้านล้านนี้ขัด รธน. จึงเป็นการตีความแบบการเมืองครับ
แล้วทำไมรัฐบาลถึงต้องทำให้เป็นเงินนอกงบประมาณ ?
ก็เพราะเป็นเงินที่ใช้เป็นการเฉพาะในเรื่องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม
ซึ่งต้องทำติดต่อกันเจ็ดปี ต้องมีเม็ดเงินแน่นอนในการดำเนินการ
ต่างกับเงินงบประมาณ ที่อาจถูกโยก ดึงไปใช้ในงานอื่นได้ ถูกระงับได้ และเม็ดเงินไม่แน่นอน
ความแน่นอนของเม็ดเงินนี้สำคัญครับ เพราะคือความมั่นใจของนักลงทุน
หากนักลงทุนเห็นว่า ไทยเราจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมสำเร็จแน่ เขาก็กล้าครับที่จะวางแผนการลงทุนในไทย
แล้วทำไมรัฐบาลไม่ใช้เงินงบประมาณปกติ ?
ก็เพราะงบประมาณปกติไม่พอครับ
สองล้านล้านในระยะเวลาเจ็ดปี ก็ตกเฉลี่ยปีละสามแสนล้านบาท
เงินงบประมาณไทย มากแค่ไหนก็ตาม จะเป็นงบลงทุนน้อยครับ (งบลงทุนคืองบใช้ในการพัฒนา ก่อสร้าง ฯลฯ)
ร้อยละแปดสิบจะเป็นงบประจำ(เงินเดือน ค่าจ้าง ฯลฯ)
ไทยเราจะมีงบประมาณด้านการลงทุนปีหนึ่ง ๆ ก็ประมาณสามถึงสี่แสนล้านครับ
ซ่อมถนน สร้างนั่นสร้างนี่ ก็แทบไม่พอครับ
แล้วจะเอางบประมาณประจำปีที่ไหนมาใช้ปีละสามแสนล้านในการพัฒนาการคมนาคม
หากจะบอกว่าก็กู้ แล้วให้เงินอยู่ในงบประมาณสิ เอาไว้นอกงบประมาณทำไม
มันก็จะอย่างที่บอกครับ ว่าเม็ดเงินจะไม่แน่นอนเหมือนทำเป็น พรบ.นอกงบประมาณตั้งไว้เฉพาะเลย
ต่อให้ตั้งไว้เป็นงบประมาณผูกพันก็เถอะ ความเชื่อมั่นมันต่างกันครับกับเงินที่มีเห็น ๆ แน่นอน
ในระยะเวลาเจ็ดปีข้างหน้า พรรคใดมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องดำเนินการตาม พรบ.เงินกู้สองล้านล้านครับ
จะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่เหมือนเงินงบประมาณที่อาจขอแปรงบประมาณได้
อีกสองปีข้างหน้า หาก ปชป. ได้มาเป็นรัฐบาล
ผมว่า ปชป. จะพูดว่า เงินสองล้านล้านมีความจำเป็นต้องดำเนินการแน่นอนครับ
(เหมือนกลางปี 40 ที่บิ๊กจิ๋วกู้ไอเอ็มเอฟ ปชป.บอกว่าบิ๊กจิ๋วไม่ควรกู้
แต่พอปลายปี 40 ปชป. ได้เป็นรัฐบาล ปชป.(โดยแหลมาร์คคนนี้แหละ) พูดทันทีว่า
การกู้เงินไอเอ็มเอฟ เป็นเรื่องจำเป็นและสมควรที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อไป
- ดิส อิส ปชป. )
เรื่องนี้ แทนที่ฝ่ายค้านจะมุ่งเน้นตรวจสอบการใช้จ่าย
ว่ามีแผนการใช้จ่าย มีแผนงานดำเนินการอย่างไร โปร่งใส รอบคอบ คุ้มค่าไหม
ดันกลับใช้วาทกรรมให้ร้าย ว่าจะมีการโกง ๆ ๆ ๆ ทั้งที่เงินก็ยังไม่ได้กู้สักบาท
และโหมสร้างกระแสว่า กู้สองล้านล้าน ต้องใช้หนี้ห้าล้านล้าน ระยะเวลาห้าสิบปี
หลังสุด นายกรณ์วันเวย์ ก็ออกมาปั่นหัวสลิ่มอีกว่า ขาดทุนแน่ หกร้อยปีถึงจะได้ทุน
เป็นการให้ข้อมูลและเหตุด้านลบอย่างเดียว โดยไม่มีเหตุผล ข้อมูลด้านอื่นเลย
ขณะที่นายชัชชาติ รมว.คมนาคม อธิบายให้เห็นภาพชัดเจน ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ ปชป. ใช้แต่วาทกรรมให้ร้ายทำลายคนอื่น ไร้หลักคิดและข้อมูลอันครบถ้วน
การทำงานการเมือง แบบเล่นการเมืองด้วยวาทกรรม สร้างคำพูดสวยหรูไปวัน ๆ
กับการทำงานการเมืองแบบเป็นรูปธรรม มันต่างกันครับ
คนไทยส่วนใหญ่มองเห็นและเข้าใจว่าต่างกันอย่างไร ก็เหลือแต่เสียงส่วนน้อยครับ
ที่ยังติดวาทกรรม ติดภาพลักษณ์ ติดจินตนาการที่ ปชป. กรอกหูยัดหัวอยู่ทุกวัน
คร่าว ๆ นะครับ เมื่อย
จบ

เรื่องนี้ เรื่องเงินแผ่นดินนี่ ผมเคยตั้งกระทู้แสดงความคิดเห็นไปแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ขออีกสักครั้งครับ
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจให้ถูกก่อนนะครับ คำว่า "เงินแผ่นดิน" นั้น หมายถึงอะไร
คำว่า เงินแผ่นดิน เป็นคำพูดสั้น ๆ ครับ พูดบนฐานที่เข้าใจ แต่มีหลายคนที่ไม่เข้าใจ เข้าใจผิด
เข้าใจผิดคิดว่า ไม่ใช่เงินของประเทศ ถึงขนาดบอกว่า งั้นรัฐบาลยืมมาเองก็ใช้เองสิ
ไม่ใช่ครับ
คำว่า เงินแผ่นดิน หมายถึง เงินงบประมาณแผ่นดินครับ
การที่รัฐบาลออก พรบ. กู้เงินสองล้านล้านบาท เงินจึงเป็นเงินนอกงบประมาณ ไม่ใช่เงินงบประมาณ
ฉะนั้น การจะใช้กฎหมายเกี่ยวกับเงินงบประมาณมาบอกว่า พรบ.เงินกู้สองล้านล้านนี้ขัด รธน. จึงเป็นการตีความแบบการเมืองครับ
แล้วทำไมรัฐบาลถึงต้องทำให้เป็นเงินนอกงบประมาณ ?
ก็เพราะเป็นเงินที่ใช้เป็นการเฉพาะในเรื่องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม
ซึ่งต้องทำติดต่อกันเจ็ดปี ต้องมีเม็ดเงินแน่นอนในการดำเนินการ
ต่างกับเงินงบประมาณ ที่อาจถูกโยก ดึงไปใช้ในงานอื่นได้ ถูกระงับได้ และเม็ดเงินไม่แน่นอน
ความแน่นอนของเม็ดเงินนี้สำคัญครับ เพราะคือความมั่นใจของนักลงทุน
หากนักลงทุนเห็นว่า ไทยเราจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมสำเร็จแน่ เขาก็กล้าครับที่จะวางแผนการลงทุนในไทย
แล้วทำไมรัฐบาลไม่ใช้เงินงบประมาณปกติ ?
ก็เพราะงบประมาณปกติไม่พอครับ
สองล้านล้านในระยะเวลาเจ็ดปี ก็ตกเฉลี่ยปีละสามแสนล้านบาท
เงินงบประมาณไทย มากแค่ไหนก็ตาม จะเป็นงบลงทุนน้อยครับ (งบลงทุนคืองบใช้ในการพัฒนา ก่อสร้าง ฯลฯ)
ร้อยละแปดสิบจะเป็นงบประจำ(เงินเดือน ค่าจ้าง ฯลฯ)
ไทยเราจะมีงบประมาณด้านการลงทุนปีหนึ่ง ๆ ก็ประมาณสามถึงสี่แสนล้านครับ
ซ่อมถนน สร้างนั่นสร้างนี่ ก็แทบไม่พอครับ
แล้วจะเอางบประมาณประจำปีที่ไหนมาใช้ปีละสามแสนล้านในการพัฒนาการคมนาคม
หากจะบอกว่าก็กู้ แล้วให้เงินอยู่ในงบประมาณสิ เอาไว้นอกงบประมาณทำไม
มันก็จะอย่างที่บอกครับ ว่าเม็ดเงินจะไม่แน่นอนเหมือนทำเป็น พรบ.นอกงบประมาณตั้งไว้เฉพาะเลย
ต่อให้ตั้งไว้เป็นงบประมาณผูกพันก็เถอะ ความเชื่อมั่นมันต่างกันครับกับเงินที่มีเห็น ๆ แน่นอน
ในระยะเวลาเจ็ดปีข้างหน้า พรรคใดมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องดำเนินการตาม พรบ.เงินกู้สองล้านล้านครับ
จะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่เหมือนเงินงบประมาณที่อาจขอแปรงบประมาณได้
อีกสองปีข้างหน้า หาก ปชป. ได้มาเป็นรัฐบาล
ผมว่า ปชป. จะพูดว่า เงินสองล้านล้านมีความจำเป็นต้องดำเนินการแน่นอนครับ
(เหมือนกลางปี 40 ที่บิ๊กจิ๋วกู้ไอเอ็มเอฟ ปชป.บอกว่าบิ๊กจิ๋วไม่ควรกู้
แต่พอปลายปี 40 ปชป. ได้เป็นรัฐบาล ปชป.(โดยแหลมาร์คคนนี้แหละ) พูดทันทีว่า
การกู้เงินไอเอ็มเอฟ เป็นเรื่องจำเป็นและสมควรที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อไป
- ดิส อิส ปชป. )
เรื่องนี้ แทนที่ฝ่ายค้านจะมุ่งเน้นตรวจสอบการใช้จ่าย
ว่ามีแผนการใช้จ่าย มีแผนงานดำเนินการอย่างไร โปร่งใส รอบคอบ คุ้มค่าไหม
ดันกลับใช้วาทกรรมให้ร้าย ว่าจะมีการโกง ๆ ๆ ๆ ทั้งที่เงินก็ยังไม่ได้กู้สักบาท
และโหมสร้างกระแสว่า กู้สองล้านล้าน ต้องใช้หนี้ห้าล้านล้าน ระยะเวลาห้าสิบปี
หลังสุด นายกรณ์วันเวย์ ก็ออกมาปั่นหัวสลิ่มอีกว่า ขาดทุนแน่ หกร้อยปีถึงจะได้ทุน
เป็นการให้ข้อมูลและเหตุด้านลบอย่างเดียว โดยไม่มีเหตุผล ข้อมูลด้านอื่นเลย
ขณะที่นายชัชชาติ รมว.คมนาคม อธิบายให้เห็นภาพชัดเจน ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ ปชป. ใช้แต่วาทกรรมให้ร้ายทำลายคนอื่น ไร้หลักคิดและข้อมูลอันครบถ้วน
การทำงานการเมือง แบบเล่นการเมืองด้วยวาทกรรม สร้างคำพูดสวยหรูไปวัน ๆ
กับการทำงานการเมืองแบบเป็นรูปธรรม มันต่างกันครับ
คนไทยส่วนใหญ่มองเห็นและเข้าใจว่าต่างกันอย่างไร ก็เหลือแต่เสียงส่วนน้อยครับ
ที่ยังติดวาทกรรม ติดภาพลักษณ์ ติดจินตนาการที่ ปชป. กรอกหูยัดหัวอยู่ทุกวัน
คร่าว ๆ นะครับ เมื่อย
จบ