ชวนเล่าประสบการณ์ตู้เย็นออฟฟิสผีสิงค่ะ อาหารหายไปเองได้!!!!????

มีใครเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับตู้เย็นของออฟฟิสไหมคะ?
ตู้เย็นผีสิงหรือยังไงก็ไม่รู้ ที่พอเราเอาอาหารไปแช่ไว้ กะไว้กินยามหิวโหย แล้วจู่ๆ มันก็อันตธานหายไป เม่าตกใจ

จขกท. เจอมาสดๆ วันนี้เลยค่ะ
บอกก่อนนะคะว่าออฟฟิศที่ จขกท. ทำงานอยู่ เป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา 3 ชั้น
ชั้นล่างเปิดเป็นออฟฟิส ส่วนชั้นบนจะให้เป็นที่พักสำหรับพนักงานค่ะ
ซึ่ง จขกท. ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ ก็จะมีพนักงานแค่ 2 คนที่มาอาศัยอยู่ เป็นคู่สามีภรรยากัน
ออฟฟิสของ จขกท. เป็นออฟฟิสขนาดเล็กๆ มีคนทำงานอยู่ไม่กี่คน

เรื่องมีอยู่ว่า ..
โดยปกติแล้ว จขกท. จะพกข้าวกล้อง 1 กล่อง ผลไม้ 1 ลูก และไข่ต้ม  1 ฟอง ใส่ถุงพลาสติก ผูกปากถุง 1 ที มาทำงานทุกวันในตอนเช้า
ก็จะเอามาแช่ตู้เย็นของออฟฟิสไว้ เผื่อว่าช่วงบ่ายๆ เกิดหิวขึ้นมา กินข้าวกลางวันอิ่มไม่พอ ก็จะไปงัดผลไม้มาทานบ้าง
หรือเอาไข่ต้มมารองท้อง รออาหารมื้อเย็น แต่ว่าบางทีที่พกมา ก็ไม่ได้ถูกทานทุกวัน บางวัน จขกท. ไม่หิวในช่วงบ่ายๆ ก็ไม่ได้กิน
จึงแช่ค้างคืนเอาไว้ กะไว้กินในช่วงบ่ายของวันถัดไป จะได้ไม่ต้องพกไป พกกลับ
และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น.. ในวันนี้ เท่

จขกท. มาทำงานพร้อมกับพี่อีกคนที่อยู่บ้านใกล้กัน (อาศัยเค้ามาทำงานด้วยค่ะ) พี่คนนี้เป็นคนถือกุญแจออฟฟิส
เหตุการณ์ในครึ่งเช้าผ่านไปอย่างปกติ จน จขกท. เกิดรู้สึกกระหายน้ำ เดินไปเปิดตู้เย็น (ซึ่งอยู่ด้านหลังออฟฟิส) และดื่มน้ำ
สายตาก็สาดส่องไปมองของที่เราแช่ทิ้งไว้เมื่อวาน วันนี้ฉันอาจจะได้กินแกก็ได้นะ
แต่แล้วก็ต้อง.. เอ๊ะ!!! เหมือนในถุงมีอะไรขาดหายไป (เป็นถุงพลาสติดใสแจ๋วค่ะ) ละ ละ แล้ว ก็รู้ว่า..
ไข่ต้มหนูหายไปไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน????????????? ไข่ต้มมมม แค่ไข่ต้มเองงงง ยังคิดจะขโมยของหนูอีกหรอออ เม่าโกรธ

เดินดุ่มๆ เข้าออฟฟิสด้วยความโมโห 100 กะโหลกไขว้ เม่าพาล ในใจก็คิดว่าเอาอีกแล้วหรอฟ่ะ!!!!
ใช่ค่ะ.. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกกกกกกกก
- ชามะนาวขวดลิตร ที่เพิ่งดื่มไปไม่ถึงครึ่งขวด วันรุ่งขึ้นหายไปทั้งขวดค่ะ
- ผลไม้ที่ซื้อมาจากรถเข็นผลไม้ ยังไม่ได้ทานสักชิ้น วันรุ่งขึ้นหายไปเกือบครึ่งถุง
- ขนม นมแช่ไว้ หายค่ะ หายยยย
แต่จะไม่หายแบบติดกันทุกวันนะคะ หลายเดือนครั้ง เหมือนกับว่าพอมีเรื่องขึ้นก็จะเงียบหายไปสักพักให้เราตายใจ
ไอ้เราก็ไม่เข็ด ก็ยังจะหาอะไรไปแช่ตู้เย็นอยู่แบบนั้น เม่าเป็นลม

เล่าต่อนะคะ.. พอ จขกท. เปิดประตู้ออฟฟิสเข้าไป ก็ถามไปลอยๆ แต่ให้ได้ยินทุกคนว่า “ไข่ต้ม หนูหายไปไหน??”
ก็มีพี่คนหนึ่งกุลีกุจอเดินมาหา แล้วก็บอกว่า “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” คนนั้นก็คือคนที่อาศัยอยู่ที่ออฟฟิสค่ะ พี่คนนี้เป็นผู้หญิง
จขกท. ไม่ได้คิดว่าเค้าเป็นคนกินไข่ต้มหรอก แต่คิดว่าเป็นพี่ผู้ชาย ที่เป็นสามีเค้า แต่คือเค้าก็ต้องรู้ด้วยแน่นอนค่ะ
ทำไมนะเหรอคะ ที่ทำให้ จขกท. มั่นใจว่าเค้าสองคนเป็นคนทำให้ไข่ต้มของหนูหายไปปปป
เพราะเหตุการณ์ที่ของกินในตู้เย็นหายในครั้งก่อนๆ จขกท. ก็จับได้ว่าเค้าสองคนเป็นคนทำค่ะ
เค้ายอมรับและก็ขอโทษ ไม่ได้ติดใจอะไรค่ะ เพราะเค้าก็ซื้อมาคืนให้

แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันเกิดขึ้นห่างจากครั้งก่อนๆ นานพอสมควร
ที่เกือบจะทำให้ จขกท. ลืมว่ามีคนชอบเอาอาหารของคนอื่นที่แช่ไว้ในตู้เย็นออฟฟิสไปทาน
และเมื่อมันเกิดขึ้นในครั้งนี้ จขกท. จึงไม่ลังเลที่จะคิดว่าเค้าทั้งสองเป็นคนทำ
พี่ผู้หญิง : พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน
จขกท. : จะไม่รู้ได้ไงอะ ก่อนหนูล็อคออฟฟิส ยังไปเปิดตู้เย็นดูอยู่เลย เพราะลังเลว่าจะเอากลับดีไหม
พี่ผู้หญิง : พี่ไม่รู้ พี่ไม่ได้กินนะ
จขกท. : คือถ้าจะกิน ขอก็ได้ค่ะ หนูให้ได้ ไม่ชอบเลยที่มาขโมยแบบนี้
จขกท.พูดจบก็กลับมานั่งโต๊ะทำงาน
พี่ผู้หญิงเงียบและเดินกลับโต๊ะไม่ได้พูดอะไรกันต่อ
ในใจ จขกท. ก็คือไม่ได้เสียดายไข่นะคะ หิวแล้วกินผลไม้แทนก็ได้ค่ะ แต่เค้าไม่ยอมรับผิด ไม่ขอโทษ
แถมยังมาปฎิเสธ มันยิ่งทำให้แทนที่จะช่างมันเถอะ ไม่เป็นไร กลายเป็น ฉันไม่อยากจะให้อภัยแกสองคนอีกแหละนะะะะ
จนพี่ผู้ชายที่เป็นเป็นสามีเค้ากลับมาจากทำธุระข้างนอก
พี่ผู้หญิง : ไข่น้องหาย ร้อยวันพันปีไม่เคยหาย
ด้วยเสียงที่ดังเหมือนจะให้เราได้ยิน และคำว่าร้อยวันพันปีไม่เคยหาย ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า การที่ไข่ต้มฉันหาย ฉันผิด ฉันผิดที่ไปกล่าวหาเธอออ เม่าโกรธ
ไข่ฉันมันล่องหนไปเองแหละ ตู้เย็นมันกินมั้ง ตู้เย็นผีสิงงงงงว
พี่ผู้ชายก็เหมือนจะปฎิเสธแหละค่ะ
จขกท. : พอเถอะค่ะ ไม่อยากฟังคำแก้ตัวแล้ว เบื่อ!!!!! เม่าเซย์โน

เค้าก็เงียบกันไป แล้วพี่ผู้หญิงก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยวพี่ต้มไข่มาคืน”
นั่นไง มาแบบเดิมเลย คราวนี้มันไม่ใช่แหละ ไม่อยากได้ของคืนแหละ อยากได้การยอมรับผิด คำขอโทษ
และเราก็พร้อมที่จะบอกว่าช่างมันเถอะค่ะสักอีกครั้ง
จขกท. : ไม่ต้องค่ะ ไม่อยากได้ไข่คืน ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้น
พี่ผู้หญิง : แล้วประเด็นมันอยู่ตรงไหน พี่ก็ไม่อยากมีปัญหา กับสิ่งที่พี่ไม่ได้ทำ (จ้ะ ให้สามีพี่มายอมรับกับหนูสิ หึหึ เท่)
แล้วก็ทำเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้ อย่าคิดว่าเธอจะร้องไห้จริงงงง เธอมาแนวนี้ตลอดค่ะ จนคนทั้งออฟฟิสเอือม

แล้ว จขกท. ก็ออกไปทำธุระข้างนอก พอกลับออฟฟิสก็มีไข่ต้มวางอยู่บนโต๊ะ
จขกท. ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่อยากพูดแล้วจริงๆ ค่ะ ไข่ก็ไม่อยากได้ ก็เลยเดินเอาไข่ไปวางในช่องใส่ไข่ในตู้เย็น คืนให้เค้าไป
เรื่องก็มีเท่านี้ค่ะ เม่าในกองไฟ

สรุปเรื่องนี้ จขกท. ก็ปล่อยให้เรื่องมัน ช่างมันเถอะอีกครั้งค่ะ
เบื่อจังคนแบบนี้ ไม่รู้ว่าตอนเค้าเอาของคนอื่นไปกินคิดอะไรอยู่ มีใครเคยเจอบ้างไหมคะ??

ปล. อ่านๆ แล้ว อาจมีบางคนข้องใจ ทำไม จขกท. ถึงปักใจเชื่อว่าเค้าท้งสองเป็นคนทำ
ซึ่งบางทีครั้งนี้ เค้าอาจจะไม่ได้ทำจริงๆ ก็ได้ แกมีหลักฐานอะไรไปกล่าวหาเค้าาาา
เพราะมันไม่มีเหตุผลที่จะไม่เป็นเค้าสองคนค่ะ..
ขอย้ำอีกรอบนะคะ ออฟฟิสของ จขกท. เป็นออฟฟิสเล็กๆ มีคนอยู่ไม่กี่คน สองคนนั้นอาศัยอยู่บนออฟฟิสแค่สองคน
และใช้ตู้เย็นร่วมกับคนในออฟฟิส คือในตู้เย็นจะมีของสด ของคาว ที่เค้าแช่ไว้สำหรับทำอาหารค่ะ
และเมื่อวานก่อนกลับบ้าน ก่อนที่ จขกท. จะล็อคออฟฟิส ก็เห็นแล้วว่าในถุงอาหารของ จขกท. อยู่ครบ ทั้งข้าวไข่ และผลไม้
เพราะตอนนั้น จขกท. ลังเลว่าจะเอากลับดีไหม แต่แล้วก็ไม่ได้เอากลับ เพราะถึงยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องพกมาอีก จึงแช่ค้างคืนไว้
ดังนั้น จึงเหลือเค้าสองคนที่แตะต้องตู้เย็นได้ค่ะ ตอนเช้า จขกท. ก็เป็นคนเปิดออฟฟิส
ไม่มีทางที่จะเป็นพนักงานคนอื่นจะมาขโมยได้ และที่สำคัญเค้าทั้งสองคนมีประวัติว่าเคยทำอย่างที่เล่าไว้ข้างบนค่ะ

พิมพ์ซะยาวเหยียดเลย เรื่องนิดเดียว แต่ก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
มาแชร์ประสบการ์กันค่ะ พาพันขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่