(ที่มา:มติชนรายวัน 29 สิงหาคม 2556)
26 ส.ค. นิวยอร์กไทมส์ หนังสือพิมพ์ระดับโลกของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์บทวิเคราะห์เรื่อง
Well-Mannered Thai Party Throws Down Its Gloves in Government Protests.
โดยนายโทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคเอเชีย
บทวิเคราะห์นี้ชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ละทิ้งแนวทางในรัฐสภาจากที่เคยย้ำว่าจะยึดมั่นในระบอบรัฐสภา
หันมาใช้วิธีปลุกระดมการประท้วงตามท้องถนนแทน
ท่าทีดังกล่าวทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาพรรคนี้มีภาพลักษณ์เป็นพรรค
ที่มีความสุภาพ ไม่ก้าวร้าว และมีลักษณะเชิงปัญญาชน
แต่ทุกวันนี้กลับกลายเป็นกลุ่มการเมืองที่พยายามจุดชนวนการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาล
ด้วยสาเหตุหนึ่งคือความรู้สึกไร้ซึ่งอำนาจ
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคดีกรีระดับออกซ์ฟอร์ด ยังถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถ
เข้าถึงประชาชนรากหญ้าได้
ขณะที่บนเวทีซึ่งพรรคทยอยจัดปราศรัยกับประชาชนตามที่ต่างๆ มีการใช้วาจาด่าทอหยาบคาย
และมีการปลุกระดมให้โค่นล้มรัฐบาลด้วย
รวมใช้วิธีก่อความปั่นป่วนมาใช้ในรัฐสภา
ซึ่งไม่แน่ชัดว่าผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถชุมนุมยืดเยื้อเพื่อโค่นล้มรัฐบาล
ได้ดังที่ต้องการหรือไม่
ไม่ใช่ครั้งเดียวในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกวิจารณ์แบบแทงใจ
นอกจากเสียงวิพากษ์ของคนทั่วไปต่อพฤติกรรมของ ส.ส.พรรคที่แสดงออกในสภา
ทั้งการก่อความปั่นป่วน และการกรีดร้องโหยหวนแล้ว
ยังมีปฏิกิริยาแสดงความไม่พอใจจากคนในภาคใต้ด้วยกัน ต่อกรณีที่ม็อบประท้วง
ราคายางปิดถนนและทางรถไฟจนเกิดความเดือดร้อนในการดำรงชีวิต
เพราะไม่ว่าความเป็นจริงจะเป็นอย่างไร การออกหน้าแสดงความเอาใจใส่ต่อผู้ชุมนุมกลุ่มนี้
ของกลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ทำให้คนจำนวนไม่น้อย-รวมทั้งคนในภาคใต้ด้วย ปักใจเชื่อไปแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์
ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของม็อบ
ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม
แต่ที่แทงใจและเรียกปฏิกิริยาตอบโต้จากสมาชิกประชาธิปัตย์ได้มากที่สุด ก็คือจดหมาย
เปิดผนึกของ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จ่าหน้า
ถึงนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ที่ระบุว่า การป่วนสภา ป่วนถนน และการป่วนอื่นๆ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้าง
สถานการณ์อนาธิปไตย อันจะนำไปสู่การรัฐประหาร ยึดอำนาจ โดยกองทัพหรือกลไกอื่นๆ
เรื่องทำนองนี้เกิดมาแล้วเมื่อ พ.ศ.2490 แล้วก็เกิดอีกเมื่อ พ.ศ.2549 ซึ่งประวัติศาสตร์
อาจซ้ำรอยอีก และเมื่อถึงตอนนั้นกาลียุค ก็จะบังเกิดในสยามประเทศไทย
โดยหยิบยกวาทะของนายปรีดี พนมยงค์ อดีตรัฐบุรุษอาวุโสและอดีตนายกรัฐมนตรี ประกอบว่า
"ข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าเราช่วยกันประคองใช้ให้ระบอบประชาธิปไตยนี้ได้เป็นไปตามระเบียบเรียบร้อย
"ระบอบเผด็จการย่อมมีขึ้นไม่ได้"
และขณะที่พลพรรคประชาธิปัตย์เรียงหน้ากับตอบโต้ ดร.ชาญวิทย์ หรือนิวยอร์ก ไทมส์
ตามความถนัดของแต่ละคน
มีหนึ่งเดียวคนเดิมอย่างนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ผู้เคยเสนอแนวทางให้
ปฏิรูปยกเครื่องพรรคครั้งใหญ่ แสดงความเห็นสวนทาง
โดยให้สัมภาษณ์ "มติชน" ว่า
"บางครั้งถึงแม้เราจะคิดว่าเราต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง แต่ก็ต้องคำนึงถึงวิธีการต่อสู้"
รวมทั้งตอบคำถามของนิวยอร์ก ไทมส์ว่า
ตนเองไม่เห็นด้วยกับยุทธวิธีของพรรคขณะนี้ เพราะจะไม่มีทางชนะใจประชาชนด้วย
"ประชาธิปไตยแบบม็อบ" ที่มีแต่สร้างความแตกแยกไม่สิ้นสุด
และล่าสุดก็ขอร้องให้ "ผู้ใหญ่ของพรรค" เปิดใจกว้างรับฟังสื่อทั้งไทยและเทศ
เพราะข้อวิจารณ์เหล่านั้นเป็นเสียงห่วงใย
ให้นำจุดด้อยมาปรับปรุงแก้ไข และแสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบรัฐสภา
เสียงจากสื่อเทศ สื่อไทย จากนักวิชาการ จากชาวบ้านที่เคยใกล้ชิดกับพรรค
พลเมืองผู้ใส่ใจความเคลื่อนไหวทางการเมือง
รวมทั้งจากคนในด้วยกัน
จะทำให้ประชาธิปัตย์ "ปรับปรุงตัว" ได้แค่ไหน
วันนี้ยังไม่เห็นคำตอบ
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377764522&grpid=&catid=12&subcatid=1200
เสียงท้วงจากใครๆ ก็ไม่มีความหมาย หากเขาเหล่านั้น ได้มาอ่านกระทู้ในห้องรดน.
บอร์ดการเมืองที่ใหญ่ที่สุด อ่านความคิดเห็นที่แตกต่าง ระหว่างฝ่ายรัฐบาล
และฝ่ายไม่ชอบรัฐบาล จะไม่แปลกใจว่าทำไม ประชาธิปัตย์ถึงไม่เปลี่ยน ไม่สะดุ้ง
สะเทือนต่อ คำทักท้วงไม่ว่าจากใครก็ตาม
ใครที่ยังสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ไม่พ้นคำเสียดสี "ขี้ข้าทักษิณ"
คำที่ผู้ดี นักเรียนอังกฤษ นักเรียนอังกฤษ หยิบยกมาใช้ เพื่อเหยียดหยามฝ่ายตรงกันข้าม
สำทับด้วย "ควายแดง" ที่เกลื่อนบอร์ด แห่งนี้ หากจะมีใครทักท้วง ก็มีคนยืนยัน
ว่า "มานเป็นจริง" ก็มีคนสนับสนุน ขนาดนี้ จะไปแคร์อะไร กับคำทักท้วง ไร้สาระ เหล่านั้น
เมื่อหัวหน้าพรรค กำลังจะเป็นแกนนำ รุ่นที่ 3
เมื่อมหาวิทยาลัย ASTV กำลังจะเปิดหลักสูตรสอนแล้ว
การ "โค่นระบอบทักษิณ" ก็น่าจะใกล้เข้ามาทุกทีมิใช่หรือ
จากมหาวิทยาลัยราชดำเนิน สู่ มหาวิทยาลัย ASTV ....ผู้จัดการออนไลน์
http://pantip.com/topic/30915451
สะท้อนรอบทิศ เสียงกรอกหู′ปชป.′ ผู้เมินเฉย′ปฏิรูป′ วิเคราะห์ มติชนออนไลน์
26 ส.ค. นิวยอร์กไทมส์ หนังสือพิมพ์ระดับโลกของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์บทวิเคราะห์เรื่อง
Well-Mannered Thai Party Throws Down Its Gloves in Government Protests.
โดยนายโทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคเอเชีย
บทวิเคราะห์นี้ชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ละทิ้งแนวทางในรัฐสภาจากที่เคยย้ำว่าจะยึดมั่นในระบอบรัฐสภา
หันมาใช้วิธีปลุกระดมการประท้วงตามท้องถนนแทน
ท่าทีดังกล่าวทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาพรรคนี้มีภาพลักษณ์เป็นพรรค
ที่มีความสุภาพ ไม่ก้าวร้าว และมีลักษณะเชิงปัญญาชน
แต่ทุกวันนี้กลับกลายเป็นกลุ่มการเมืองที่พยายามจุดชนวนการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาล
ด้วยสาเหตุหนึ่งคือความรู้สึกไร้ซึ่งอำนาจ
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคดีกรีระดับออกซ์ฟอร์ด ยังถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถ
เข้าถึงประชาชนรากหญ้าได้
ขณะที่บนเวทีซึ่งพรรคทยอยจัดปราศรัยกับประชาชนตามที่ต่างๆ มีการใช้วาจาด่าทอหยาบคาย
และมีการปลุกระดมให้โค่นล้มรัฐบาลด้วย
รวมใช้วิธีก่อความปั่นป่วนมาใช้ในรัฐสภา
ซึ่งไม่แน่ชัดว่าผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถชุมนุมยืดเยื้อเพื่อโค่นล้มรัฐบาล
ได้ดังที่ต้องการหรือไม่
ไม่ใช่ครั้งเดียวในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกวิจารณ์แบบแทงใจ
นอกจากเสียงวิพากษ์ของคนทั่วไปต่อพฤติกรรมของ ส.ส.พรรคที่แสดงออกในสภา
ทั้งการก่อความปั่นป่วน และการกรีดร้องโหยหวนแล้ว
ยังมีปฏิกิริยาแสดงความไม่พอใจจากคนในภาคใต้ด้วยกัน ต่อกรณีที่ม็อบประท้วง
ราคายางปิดถนนและทางรถไฟจนเกิดความเดือดร้อนในการดำรงชีวิต
เพราะไม่ว่าความเป็นจริงจะเป็นอย่างไร การออกหน้าแสดงความเอาใจใส่ต่อผู้ชุมนุมกลุ่มนี้
ของกลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ทำให้คนจำนวนไม่น้อย-รวมทั้งคนในภาคใต้ด้วย ปักใจเชื่อไปแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์
ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของม็อบ
ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม
แต่ที่แทงใจและเรียกปฏิกิริยาตอบโต้จากสมาชิกประชาธิปัตย์ได้มากที่สุด ก็คือจดหมาย
เปิดผนึกของ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จ่าหน้า
ถึงนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ที่ระบุว่า การป่วนสภา ป่วนถนน และการป่วนอื่นๆ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้าง
สถานการณ์อนาธิปไตย อันจะนำไปสู่การรัฐประหาร ยึดอำนาจ โดยกองทัพหรือกลไกอื่นๆ
เรื่องทำนองนี้เกิดมาแล้วเมื่อ พ.ศ.2490 แล้วก็เกิดอีกเมื่อ พ.ศ.2549 ซึ่งประวัติศาสตร์
อาจซ้ำรอยอีก และเมื่อถึงตอนนั้นกาลียุค ก็จะบังเกิดในสยามประเทศไทย
โดยหยิบยกวาทะของนายปรีดี พนมยงค์ อดีตรัฐบุรุษอาวุโสและอดีตนายกรัฐมนตรี ประกอบว่า
"ข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าเราช่วยกันประคองใช้ให้ระบอบประชาธิปไตยนี้ได้เป็นไปตามระเบียบเรียบร้อย
"ระบอบเผด็จการย่อมมีขึ้นไม่ได้"
และขณะที่พลพรรคประชาธิปัตย์เรียงหน้ากับตอบโต้ ดร.ชาญวิทย์ หรือนิวยอร์ก ไทมส์
ตามความถนัดของแต่ละคน
มีหนึ่งเดียวคนเดิมอย่างนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ผู้เคยเสนอแนวทางให้
ปฏิรูปยกเครื่องพรรคครั้งใหญ่ แสดงความเห็นสวนทาง
โดยให้สัมภาษณ์ "มติชน" ว่า
"บางครั้งถึงแม้เราจะคิดว่าเราต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง แต่ก็ต้องคำนึงถึงวิธีการต่อสู้"
รวมทั้งตอบคำถามของนิวยอร์ก ไทมส์ว่า
ตนเองไม่เห็นด้วยกับยุทธวิธีของพรรคขณะนี้ เพราะจะไม่มีทางชนะใจประชาชนด้วย
"ประชาธิปไตยแบบม็อบ" ที่มีแต่สร้างความแตกแยกไม่สิ้นสุด
และล่าสุดก็ขอร้องให้ "ผู้ใหญ่ของพรรค" เปิดใจกว้างรับฟังสื่อทั้งไทยและเทศ
เพราะข้อวิจารณ์เหล่านั้นเป็นเสียงห่วงใย
ให้นำจุดด้อยมาปรับปรุงแก้ไข และแสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบรัฐสภา
เสียงจากสื่อเทศ สื่อไทย จากนักวิชาการ จากชาวบ้านที่เคยใกล้ชิดกับพรรค
พลเมืองผู้ใส่ใจความเคลื่อนไหวทางการเมือง
รวมทั้งจากคนในด้วยกัน
จะทำให้ประชาธิปัตย์ "ปรับปรุงตัว" ได้แค่ไหน
วันนี้ยังไม่เห็นคำตอบ
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377764522&grpid=&catid=12&subcatid=1200
เสียงท้วงจากใครๆ ก็ไม่มีความหมาย หากเขาเหล่านั้น ได้มาอ่านกระทู้ในห้องรดน.
บอร์ดการเมืองที่ใหญ่ที่สุด อ่านความคิดเห็นที่แตกต่าง ระหว่างฝ่ายรัฐบาล
และฝ่ายไม่ชอบรัฐบาล จะไม่แปลกใจว่าทำไม ประชาธิปัตย์ถึงไม่เปลี่ยน ไม่สะดุ้ง
สะเทือนต่อ คำทักท้วงไม่ว่าจากใครก็ตาม
ใครที่ยังสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ไม่พ้นคำเสียดสี "ขี้ข้าทักษิณ"
คำที่ผู้ดี นักเรียนอังกฤษ นักเรียนอังกฤษ หยิบยกมาใช้ เพื่อเหยียดหยามฝ่ายตรงกันข้าม
สำทับด้วย "ควายแดง" ที่เกลื่อนบอร์ด แห่งนี้ หากจะมีใครทักท้วง ก็มีคนยืนยัน
ว่า "มานเป็นจริง" ก็มีคนสนับสนุน ขนาดนี้ จะไปแคร์อะไร กับคำทักท้วง ไร้สาระ เหล่านั้น
เมื่อหัวหน้าพรรค กำลังจะเป็นแกนนำ รุ่นที่ 3
เมื่อมหาวิทยาลัย ASTV กำลังจะเปิดหลักสูตรสอนแล้ว
การ "โค่นระบอบทักษิณ" ก็น่าจะใกล้เข้ามาทุกทีมิใช่หรือ
จากมหาวิทยาลัยราชดำเนิน สู่ มหาวิทยาลัย ASTV ....ผู้จัดการออนไลน์
http://pantip.com/topic/30915451