วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:42 น. ข่าวสดออนไลน์
"นิวยอร์กไทมส์"มอง-ประชาธิปัตย์แจง
รายงานพิเศษ
นิวยอร์กไทมส์ สื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังระดับโลกของสหรัฐอเมริกา รายงานบรรยากาศเวที "ผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ส.ค. พร้อมบทวิเคราะห์ของ นายโทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคเอเชียของนิวยอร์กไทมส์ ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.
บทวิเคราะห์ที่เขียนโดยนายฟุลเลอร์
ชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ละทิ้งแนวทางในรัฐสภาจากที่เคยย้ำว่าจะยึดมั่นในระบบรัฐสภาและหันมาใช้วิธีปลุกระดมการประท้วงตามท้องถนนแทน โดยอ้างว่าเป็นการเลียนแบบ "อาหรับสปริง"
ซึ่งท่าทีดังกล่าวทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาพรรคนี้มีภาพลักษณ์ที่สุภาพ ไม่ก้าวร้าว และมีลักษณะเชิงปัญญาชน
แต่
ทุกวันนี้กลับกลายเป็นกลุ่มการเมืองที่พยายามจุดชนวนการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากที่เมืองไทยห่างเหินจากบรรยากาศการปะทะกันตามท้องถนนตั้งแต่เหตุการณ์การประท้วงเมื่อปี 2553
รายงานนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า สาเหตุสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์นำการประท้วงในครั้งนี้คือ แผนการผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ของพรรค เพื่อไทย
แต่
อีกสาเหตุหนึ่งคือ ความรู้สึกไร้ซึ่งอำนาจของพรรคประชาธิปัตย์ หลังพรรคนี้แพ้การเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อน จนปูทางให้กลุ่มการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาสู่อำนาจได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังนำพรรคของตนไปสู่ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด และหัวหน้าพรรคดีกรีระดับออกซ์ฟอร์ดผู้นี้ยังถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถเข้าถึงประชาชนรากหญ้าได้ โดยเฉพาะประชาชนในเขตภาคอีสาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนาและคนยากจน
รายงานข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ในการชุมนุมเวที "ผ่าความจริง" เมื่อวันที่ 24 ส.ค. มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากขึ้นเวทีปราศรัย รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โดย
มีการใช้วาจาด่าทอน.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างหยาบคาย และมีการ ปลุกระดมให้โค่นล้มรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้ รายงานของนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า
พรรคประชาธิปัตย์ได้ปฏิเสธกระบวนการปรองดองของรัฐบาล และยังใช้วิธีก่อความปั่นป่วนมาใช้ในรัฐสภาเช่นกัน จนทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งถึงกับพาดหัวว่า "อัปยศ"
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวของนิวยอร์กไทมส์มองว่า ยังไม่แน่ชัดว่าผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถชุมนุมยืดเยื้อเพื่อโค่นล้มรัฐบาลได้ดังที่แกนนำต้องการหรือไม่
เพราะการชุมนุมระยะยาวในประเทศไทยเป็นเรื่องยากลำบาก ต้องเจอกับทั้งสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวหรือพายุฝน อีกทั้ง
ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากเป็นคนชั้นกลาง ซึ่งผู้ประท้วงส่วนหนึ่งก็ให้สัมภาษณ์ในข่าวว่าถ้าลำบากมาก คงดูทีวีอยู่ที่บ้านดีกว่า
รายงานข่าวนิวยอร์กไทมส์ยังสัมภาษณ์ความคิดเห็นของ
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่ง
ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับยุทธวิธีของพรรคในขณะนี้ พรรคจะไม่มีทางชนะใจประชาชน "ประชาธิปไตยแบบม็อบ" มีแต่จะสร้างความแตกแยกไม่สิ้นสุด พรรคประชาธิปัตย์ควรเร่งปฏิรูปตนเองจะดีกว่า
เช่น ใช้ระบบไพรมารีคัดสรรผู้สมัครเลือกตั้งที่ประชาชนต้องการ และเน้นการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนในขณะที่เศรษฐกิจของไทยและประเทศรอบข้างเริ่มส่อเค้าถดถอย
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์รายงานข่าวนิวยอร์กไทมส์ว่า พรรคประชาธิปัตย์คาดการณ์ความรู้สึกของประชาชนผิดพลาด จึงจุดกระแสไม่ติด
นอกจากนี้ นายสมบัติยังแสดงความผิดหวังที่เห็นพรรคประชาธิปัตย์ลงมาเล่นการเมืองบนท้องถนน โดยเปรียบเทียบว่าเหมือนเป็นมาราโดน่าลดตัวลงมาเล่นบอลข้างถนนเสียเอง
อลงกรณ์ พลบุตร
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
การวิเคราะห์และแสดงความเห็นของนิวยอร์กไทมส์ที่ทรงอิทธิพลของโลกเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง อะไรที่เป็นจุดอ่อน จุดด้อยต้องนำมาปรับปรุง ส่วนประเด็นที่มองต่างเราก็สามารถชี้แจงได้
และไม่เฉพาะสื่อต่างประเทศ สื่อในประเทศเราก็ต้องยอมรับ อย่าไปตอบโต้ ควรใช้เหตุผลชี้แจงและเปิดใจกว้าง
เพราะ
ขณะนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญสำหรับพรรคว่า ยังยึดมั่นในระบบรัฐสภาหรือไม่ หรือจะเดินในวิถีทางอื่น ซึ่งพรรคต้องตอบคำถามนี้ให้ชัดเจน
ผมตอบผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทมส์ไปว่าพรรคยึดมั่นในระบบรัฐสภา และไม่คิดว่าพรรคจะเปลี่ยนจุดยืน แม้จะเห็นต่างกันในแนวทางการต่อสู้ เช่น การเดินขบวนมายังสภา การจัดปราศรัยเวทีผ่าความจริง เหตุการณ์อลหม่านในรัฐสภา
เพียงแต่กรรมการบริหารพรรคจะต้องชี้แจงให้สมาชิกพรรคทราบ เพราะ
การดำเนินการทั้งในและนอกสภาเริ่มสร้างความคลางแคลงใจในความน่าเชื่อถือของพรรคที่มีมายาวนาน
ยืนยันว่าพรรคต้องต่อสู้ในรัฐสภาเพื่อให้ชนะใจประชาชนและชนะเลือกตั้งครั้งหน้า รวมถึงจะต้องมีการปฏิรูปพรรค ซึ่งขณะนี้แผนงานเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงกรรมการบริหารดำเนินการต่อ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ผมอ่านฉบับภาษาอังกฤษ ความรู้สึกจะไม่ตรงกับที่อ่านจากมติชน เพราะถ้อยคำไม่ได้เป็นลักษณะนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้มีการออกมาเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมนอกสภามากยิ่งขึ้น อาจดูแตกต่างไปจากบทบาทที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้
ซึ่งผมยืนยันมาตลอดว่า การทำกิจกรรมนอกสภาไม่ได้ละทิ้งแนวคิดหลักการที่ต้องการส่งเสริมระบบรัฐสภา เพราะไม่ได้เคลื่อนไหวในลักษณะที่ทำผิดกฎหมาย เผาบ้านเผาเมือง เอากองกำลังติดอาวุธเข้ามา แต่ทำอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้
ที่สำคัญประเด็นที่เคลื่อนไหวก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะไปล้มล้างรัฐบาลขณะนี้ แต่เคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายที่จะทำให้ระบบรัฐสภาเสื่อมลงไป
ดังนั้น
ขอให้อ่านฉบับภาษาอังกฤษจะได้อารมณ์ของการสะท้อนที่ชัดเจนกว่า
ชวน หลีกภัย
ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบบรัฐสภาการชุมนุมภายนอกสภาเป็นการทำตามกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ทำผิดกฎหมายเหมือนที่อีกฝ่ายเคยทำ
ฝ่ายที่ผิดกฎหมาย คือคนที่เผาบ้านเผาเมือง พรรคประชาธิปัตย์ทำด้วยความ ชอบธรรม
ผมพูดได้เต็มปากว่าเป็นนักประชาธิปไตย
ปัญหาการเมืองขณะนี้คือ[i]
คนของรัฐบาลพยายามทำให้เกิดปัญหา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เหมือนกับคนของรัฐบาล ขอร้องว่าอย่าทำให้เกิดความสับสน
เนื่องจาก
ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่อยู่ในรัฐสภาอย่างเดียว
-----------
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056a3lOemc1Tmc9PQ==§ionid=
????????????????????????????????????
เอ้าเฮ้.......
จงพากัน"แหล"ต่อไป
ไมต้องปรับตัวปรับตนสู้กับโลกของความจริงกันแล้ว.......
สูญพันธ์ไปให้หมดซะ ....สมน้ำหน้ามัน.....
รายงานพิเศษข่าวสด"นิวยอร์กไทมส์"มอง-ประชาธิปัตย์แจง...คุณคิดว่าควรจะเชื่อฝ่ายใดระหว่างสื่อยักษ์ของโลกกับพวก"แหล"สารขัณฑ์
"นิวยอร์กไทมส์"มอง-ประชาธิปัตย์แจง
รายงานพิเศษ
นิวยอร์กไทมส์ สื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังระดับโลกของสหรัฐอเมริกา รายงานบรรยากาศเวที "ผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ส.ค. พร้อมบทวิเคราะห์ของ นายโทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคเอเชียของนิวยอร์กไทมส์ ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.
บทวิเคราะห์ที่เขียนโดยนายฟุลเลอร์ชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ละทิ้งแนวทางในรัฐสภาจากที่เคยย้ำว่าจะยึดมั่นในระบบรัฐสภาและหันมาใช้วิธีปลุกระดมการประท้วงตามท้องถนนแทน โดยอ้างว่าเป็นการเลียนแบบ "อาหรับสปริง"
ซึ่งท่าทีดังกล่าวทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาพรรคนี้มีภาพลักษณ์ที่สุภาพ ไม่ก้าวร้าว และมีลักษณะเชิงปัญญาชน
แต่ทุกวันนี้กลับกลายเป็นกลุ่มการเมืองที่พยายามจุดชนวนการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากที่เมืองไทยห่างเหินจากบรรยากาศการปะทะกันตามท้องถนนตั้งแต่เหตุการณ์การประท้วงเมื่อปี 2553
รายงานนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า สาเหตุสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์นำการประท้วงในครั้งนี้คือ แผนการผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ของพรรค เพื่อไทย
แต่อีกสาเหตุหนึ่งคือ ความรู้สึกไร้ซึ่งอำนาจของพรรคประชาธิปัตย์ หลังพรรคนี้แพ้การเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อน จนปูทางให้กลุ่มการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาสู่อำนาจได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังนำพรรคของตนไปสู่ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด และหัวหน้าพรรคดีกรีระดับออกซ์ฟอร์ดผู้นี้ยังถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถเข้าถึงประชาชนรากหญ้าได้ โดยเฉพาะประชาชนในเขตภาคอีสาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนาและคนยากจน
รายงานข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ในการชุมนุมเวที "ผ่าความจริง" เมื่อวันที่ 24 ส.ค. มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากขึ้นเวทีปราศรัย รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โดยมีการใช้วาจาด่าทอน.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างหยาบคาย และมีการ ปลุกระดมให้โค่นล้มรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้ รายงานของนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ปฏิเสธกระบวนการปรองดองของรัฐบาล และยังใช้วิธีก่อความปั่นป่วนมาใช้ในรัฐสภาเช่นกัน จนทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งถึงกับพาดหัวว่า "อัปยศ"
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวของนิวยอร์กไทมส์มองว่า ยังไม่แน่ชัดว่าผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถชุมนุมยืดเยื้อเพื่อโค่นล้มรัฐบาลได้ดังที่แกนนำต้องการหรือไม่
เพราะการชุมนุมระยะยาวในประเทศไทยเป็นเรื่องยากลำบาก ต้องเจอกับทั้งสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวหรือพายุฝน อีกทั้งผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากเป็นคนชั้นกลาง ซึ่งผู้ประท้วงส่วนหนึ่งก็ให้สัมภาษณ์ในข่าวว่าถ้าลำบากมาก คงดูทีวีอยู่ที่บ้านดีกว่า
รายงานข่าวนิวยอร์กไทมส์ยังสัมภาษณ์ความคิดเห็นของนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับยุทธวิธีของพรรคในขณะนี้ พรรคจะไม่มีทางชนะใจประชาชน "ประชาธิปไตยแบบม็อบ" มีแต่จะสร้างความแตกแยกไม่สิ้นสุด พรรคประชาธิปัตย์ควรเร่งปฏิรูปตนเองจะดีกว่า
เช่น ใช้ระบบไพรมารีคัดสรรผู้สมัครเลือกตั้งที่ประชาชนต้องการ และเน้นการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนในขณะที่เศรษฐกิจของไทยและประเทศรอบข้างเริ่มส่อเค้าถดถอย
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์รายงานข่าวนิวยอร์กไทมส์ว่า พรรคประชาธิปัตย์คาดการณ์ความรู้สึกของประชาชนผิดพลาด จึงจุดกระแสไม่ติด
นอกจากนี้ นายสมบัติยังแสดงความผิดหวังที่เห็นพรรคประชาธิปัตย์ลงมาเล่นการเมืองบนท้องถนน โดยเปรียบเทียบว่าเหมือนเป็นมาราโดน่าลดตัวลงมาเล่นบอลข้างถนนเสียเอง
อลงกรณ์ พลบุตร
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
การวิเคราะห์และแสดงความเห็นของนิวยอร์กไทมส์ที่ทรงอิทธิพลของโลกเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง อะไรที่เป็นจุดอ่อน จุดด้อยต้องนำมาปรับปรุง ส่วนประเด็นที่มองต่างเราก็สามารถชี้แจงได้
และไม่เฉพาะสื่อต่างประเทศ สื่อในประเทศเราก็ต้องยอมรับ อย่าไปตอบโต้ ควรใช้เหตุผลชี้แจงและเปิดใจกว้าง
เพราะขณะนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญสำหรับพรรคว่า ยังยึดมั่นในระบบรัฐสภาหรือไม่ หรือจะเดินในวิถีทางอื่น ซึ่งพรรคต้องตอบคำถามนี้ให้ชัดเจน
ผมตอบผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทมส์ไปว่าพรรคยึดมั่นในระบบรัฐสภา และไม่คิดว่าพรรคจะเปลี่ยนจุดยืน แม้จะเห็นต่างกันในแนวทางการต่อสู้ เช่น การเดินขบวนมายังสภา การจัดปราศรัยเวทีผ่าความจริง เหตุการณ์อลหม่านในรัฐสภา
เพียงแต่กรรมการบริหารพรรคจะต้องชี้แจงให้สมาชิกพรรคทราบ เพราะการดำเนินการทั้งในและนอกสภาเริ่มสร้างความคลางแคลงใจในความน่าเชื่อถือของพรรคที่มีมายาวนาน
ยืนยันว่าพรรคต้องต่อสู้ในรัฐสภาเพื่อให้ชนะใจประชาชนและชนะเลือกตั้งครั้งหน้า รวมถึงจะต้องมีการปฏิรูปพรรค ซึ่งขณะนี้แผนงานเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงกรรมการบริหารดำเนินการต่อ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ผมอ่านฉบับภาษาอังกฤษ ความรู้สึกจะไม่ตรงกับที่อ่านจากมติชน เพราะถ้อยคำไม่ได้เป็นลักษณะนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้มีการออกมาเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมนอกสภามากยิ่งขึ้น อาจดูแตกต่างไปจากบทบาทที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้
ซึ่งผมยืนยันมาตลอดว่า การทำกิจกรรมนอกสภาไม่ได้ละทิ้งแนวคิดหลักการที่ต้องการส่งเสริมระบบรัฐสภา เพราะไม่ได้เคลื่อนไหวในลักษณะที่ทำผิดกฎหมาย เผาบ้านเผาเมือง เอากองกำลังติดอาวุธเข้ามา แต่ทำอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้
ที่สำคัญประเด็นที่เคลื่อนไหวก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะไปล้มล้างรัฐบาลขณะนี้ แต่เคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายที่จะทำให้ระบบรัฐสภาเสื่อมลงไป
ดังนั้น ขอให้อ่านฉบับภาษาอังกฤษจะได้อารมณ์ของการสะท้อนที่ชัดเจนกว่า
ชวน หลีกภัย
ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบบรัฐสภาการชุมนุมภายนอกสภาเป็นการทำตามกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ทำผิดกฎหมายเหมือนที่อีกฝ่ายเคยทำ ฝ่ายที่ผิดกฎหมาย คือคนที่เผาบ้านเผาเมือง พรรคประชาธิปัตย์ทำด้วยความ ชอบธรรม
ผมพูดได้เต็มปากว่าเป็นนักประชาธิปไตย ปัญหาการเมืองขณะนี้คือ[i]คนของรัฐบาลพยายามทำให้เกิดปัญหา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เหมือนกับคนของรัฐบาล ขอร้องว่าอย่าทำให้เกิดความสับสน
เนื่องจากระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่อยู่ในรัฐสภาอย่างเดียว
-----------
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056a3lOemc1Tmc9PQ==§ionid=
????????????????????????????????????
เอ้าเฮ้.......
จงพากัน"แหล"ต่อไป
ไมต้องปรับตัวปรับตนสู้กับโลกของความจริงกันแล้ว.......
สูญพันธ์ไปให้หมดซะ ....สมน้ำหน้ามัน.....