แบงค์อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลเป็นทางยาวบนใบหน้าของปูน
“เป็นยังไงบ้างปูนเจ็บมากไหม”
แบงค์ถามเสียงตื่นรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาเช็ดเลือดให้ปูนที่ยืนนิ่งงันเพราะความตกใจ
“ฉันขอโทษ”
น้ำตาลกล่าวหน้าเจื่อนค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ปูนและแบงค์ที่แสดงความเป็นห่วงปูนซะจนน้ำตาลรู้สึกอิจฉาอยู่ลึกๆในใจ
“ทำไมเธอถึงชอบสร้างปัญหาให้ฉันนะเห็นหรือปล่าวว่าเพราะความงี่เง่าของเธอทำให้คนอื่นเขาต้องเจ็บตัว”
แบงค์ตะวาดน้ำตาลเสียงลั่นเพราะความโมโห
“ใช่สิฉันมันชอบสร้างปัญหาให้นายอยู่แล้วนี่ แล้วทำไมล่ะนายอยากจะเอาหิน
เขวี้ยงฉันกลับไหมล่ะ ถ้าอยากแก้แค้นสุดที่รักของนายก็ลงมือได้เลย......ฉันจะยืนนิ่งไม่ขยับหนีไปไหนด้วย”
น้ำตาลขึ้นเสียงด้วยความโมโหเช่นกัน ก้มลงหยิบหินยัดใส่มือแบงค์ทั้งน้ำตา
“เราไม่น่ามาเจอกันอีกเลย......ไปโรงพยาบาลกันเถอะปูน”
แบงค์ตัดบทก่อนจะประคองปูนออกไปจากตรงนั้น
“ฉันเกลียดนาย....ไอ้บ้านี่......ฉันเกลียด....เกลียด.....เกลียดที่สุด”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นคว้าก้อนหินเขวี้ยงใส่แบงค์จนเขาต้องร้องโอ๊ะอีกครั้ง
“มากไปแล้วนะ”
ปูนกัดฟันพูดด้วยความโมโหจะหันกลับไปพูดกับน้ำตาลให้รู้เรื่องแต่แบงค์กลับตรึงไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น
“ไปโรงพยาบาลเถอะปูนเลือดยังไหลอยู่เลย”
“เราต้องพูดกับเธอให้รู้เรื่อง เราทนไม่ไหวอีกแล้วเธอไม่ยอมออกห่างจากคุณ”
ปูนบอกแบงค์ก่อนจะเดินไปหาน้ำตาลก่อนที่เธอจะไปทางอื่น
“ฉันขอบอกเธออีกครั้งออกไปจากชีวิตเขาได้แล้ว อย่าพยายามที่จะเดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขาและฉันอีก ไม่ใช่เพราะฉันเลือกเขาแต่เพราะว่าเขาเลือกฉันต่างหาก”
เพราะคำพูดของปูนทำให้น้ำตาลต้องยืนนิ่งและกลั้นหยดน้ำตาที่เตรียมเอ่อไหลไว้
“ฉันจะพูดอีกครั้งว่าฉันยอมรับแล้วว่าเขาไม่รักฉันอีกแล้ว แต่มันไม่ใช่ความผิดของฉันที่ฉันยังตัดใจไม่ขาด”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของน้ำตาลทำให้แบงค์ต้องยืนนิ่งด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดลึกๆในใจที่เขาไม่อาจควบคุมได้แม้สักครั้ง
“เธอทำแบบนี้ทำไม......กลับมาหาเขาอีกทำไม เธอรู้บ้างหรือปล่าวว่ากว่าที่เขาจะยอมรับฉันในฐานะคนรักอย่างทุกวันนี้ฉันต้องทนเจ็บปวดมามากแค่ไหน แล้วเธอรู้บ้างหรือปล่าวว่าเขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะว่ารักเธอ”
ปูนพูดเสียงเรียบพยายามกลั้นน้ำตาอย่างที่สุด
“ใช่.......เขาอาจจะเจ็บปวดเพราะความรักของฉันถึงเขาอาจเกือบเอาชีวิตไม่รอดอย่างที่เธอพูด แต่ก็เขายังไม่ตายและเขามีเธออยู่เคียงข้างจนลืมฉันซะจนสนิทใจ”
น้ำตาลพูดยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่รินไหลจนนองใบหน้า
“เธอบอกว่าเขาเจ็บเพราะฉันแล้วฉันล่ะเธอเคยคิดบ้างไหมว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องเลิกกับคนรักทั้งที่ความรักมันยังมีอยู่เต็มหัวใจของฉัน ฉันโกรธเขาที่ไม่เชื่อฉันจนทำให้เราต้องเลิกกัน ฉันเกลียดเขาที่ทำให้ฉันต้องเจ็บปวดทรมานแต่ฉันก็ยังรักเขามากจนไม่อาจตัดใจ”
น้ำเสียงสะอื้นของน้ำตาลที่ดังขึ้นทำให้แบงค์ต้องกำมือแน่นอย่างพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ให้หวั่นไหว
“ฉันเกลียดเธอที่เป็นที่รักของเขาแทนฉัน โกรธเธอที่คอยอยู่ข้างๆฉัน ฉันอิจฉาเธอที่เขาเป็นห่วงเธอจนหันมาตวาดคนรักเก่าอย่างฉัน แต่เช่นเดียวกันฉันรู้สึกขอบคุณเธอ........ที่รักเขา”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้ปูนถึงกับพูดอะไรไม่ออกทำได้แค่ยืนนิ่งและร้องไห้โฮออกมากับสิ่งที่น้ำตาลพูด แม้ว่าแบงค์จะไม่พูดอะไรแต่ปูนรู้ดีว่าภายใต้ท่าทีเฉยชาของเขามีความรู้สึกบ้างอย่างที่ไม่เคยหายไปตามกาลเวลาซ่อนอยู่
“ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว”
แบงค์กล่าวประโยคสั้นๆก่อนจะประคองน้ำตาลเดินออกไปเงียบๆในขณะที่น้ำตาลต้องทรุดลงร้องไห้เพราะเขาเป็นครั้งที่หนึ่งร้อย
“คนอย่างคุณเจ็บเป็นด้วยเหรอ” น้ำเสียงเฉยชาของพันธการในนามพันธมิตรเอ่ยขึ้นด้วยความเฉยชาต่อความเสียใจของน้ำตาล

“นายยังมีหน้ามาพบฉันอีกอย่างงั้นเหรอ.........ไอ้สารเลว”
น้ำตาลตะวาดเสียงลั่นกำทรายที่พื้นปาใส่พันธการ
“สิ่งที่คุณสูญเสียมันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ผมเสียไปเพราะฉะนั้นเตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ ผมจะทำให้คุณต้องอยู่ต่อไปเหมือนตายทั้งเป็น”
พันธการกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันตรงเข้ากระชากแขนน้ำตาลให้ลุกขึ้นและลากเธอไปตามหาดทรายอย่างไร้ความปราณี
“ปล่อยฉันนะ.......ปล่อย”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นพยายามขัดขืนสุดแรง
“ช่วยด้วย.......ไอ้โรคจิต”
น้ำตาลพยายามขอความช่วยเหลือจากพนักงานที่อยู่บริเวณนั้นแต่ทว่าทุกคนกลับยืนนิ่งไม่ปริปากหรือเข้ามาช่วยเธอ
“ปล่อยนะ.......ฉันไม่ไปกับนาย”
น้ำตาลพยายามอย่างสุดแรงแต่ก็ถูกพันธการลากเข้ามาในห้องของเขาจนได้
“อยู่ที่นี่จนกว่าผมจะกลับมา”
พันธการออกคำสั่งขณะจะจับน้ำตาลมัดมือมัดเท้าและโยนเธอไว้บนเตียงนุ่ม
“นายมันบ้า.....ฉันไม่ใช่ของเล่นของนายนะถึงได้มาทำกับฉันแบบนี้.....นายมีสิทธิอะไร......ฮือ”น้ำตาลร้องไห้โฮให้กับชากรรมอันหดหู่ของตัวเอง
“ผมมีสิทธิจะเรียกสิ่งที่ผมเสียไปจากคุณ.......แม้ว่าไม่อาจเอาของสิ่งนั้นกลับคืนมาได้แต่คุณก็ต้องชดใช้ผม.........ความสุขทั้งชีวิตเป็นสิ่งที่ผมต้องการจากคุณ”
พันธการพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยหัวใจที่แสนชินชา
บนหาดทรายขาวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาสายลมเย็นๆที่พัดเอาไอแดดมาประทะผิวสวยของปูน ทำให้แบงค์ต้องถอดเสื้อตัวนอกมาคุมไหล่ปูนไว้ด้วยความเป็นห่วง
“ยังเจ็บแผลอยู่ไหม”
แบงค์เอ่ยถามปูนที่ตอนนี้ทำแผลเรียบร้อยแล้ว
“มันเทียบไม่ได้เลยกับบาดแผลที่หัวใจของเรา”
ปูนพูดเสียงเรียบหยุดอยู่กับที่
“อย่าเจ็บปวดอย่าร้องไห้เพราะเราอีก พอแล้วสำหรับน้ำตาของเธอเพื่อเราอย่าทำให้เราต้องเจ็บปวดเพราะว่าเธอร้องไห้”
แบงค์พูดรวบมือทั้งสองข้างของปูนไว้
“เราไม่อยากหวั่นไหวแบบตอนนี้หรอกแต่เราห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ เพราะว่าเรารู้อยู่เต็มอกว่าเธอไม่เคยลืมเขาเลยผู้หญิงคนนั้นยังคงอยู่ในใจเธอไม่เคยหายไปไหน..........มันเจ็บมากรู้ไหมที่เธอเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนทั้งที่โอบกอดเราอยู่”
“เราไม่เคยทำแบบนั้น”
“เธออาจไม่เคยรู้ว่าเธอทำแบบนั้นเพราะว่าเธอไม่เคยพูดถ้าเธอไม่เมา”
ปูนพูดหันหน้าหนีแบงค์เพราะความเจ็บปวดที่มีเต็มหัวใจ
“ขอโทษนะปูน...ขอโทษที่เราทำร้ายเธอ”
แบงค์พูดโอบกอดร่างบางของปูนไว้ในอ้อมแขนสิ่งที่เขากลัวเวลาที่อยู่กับปูนก็คือทำให้เธอรู้สึกได้ว่ามีคนอื่นอยู่ในหัวใจของเขา
“บอกเราหน่อยได้ไหมว่าเราเชื่อเธอได้.........บอกเราทีว่าเราจะไม่เสียเธอไปอีกครั้ง......เธอบอกเราได้ไหมว่าจะไม่กลับไปหาเขาอีก”
ปูนกล่าวพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลรินจนเปียกชุ่มไหล่กว้างของแบงค์
“ขอแค่เธออดทน.....และเชื่อใจเราได้โปรดเชื่อว่าสักวันนึงหัวใจของเราจะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น”แบงค์พูดประโยคที่ทำให้ปูนต้องร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะเธอไม่เคยลืมที่จะหวาดกลัวว่าน้ำตาลจะกลับมาอยู่ในที่ที่เคยเป็นของเธออีกครั้ง
“เปลี่ยนชุดซะ” พันธการออกคำสั่งเสียงเข้มโยนกล่องใส่เสื้อผ้าสุดหรูลงบนเตียง ก่อนจะก้มลงแก้มัดให้น้ำตาล
“ฉันไม่เปลี่ยน”
น้ำตาลโวยวายทันทีที่เป็นอิสระ พุ่งตรงไปที่ประตูอย่างรวดเร็วแต่ทว่าช้ากว่าพันธการเพียงครึ่งก้าวเท้านั้น
“เปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้”
พันธการขึ้นเสียงลากน้ำตาลกลับมาที่เตียง
“นายก็ใส่เองซิฉันไม่อยากใส่”
น้ำตาลเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ยืนกอดอกนิ่งอย่างท้าทายพันธการ
“เปลี่ยนเดี๋ยวนี้”
พันธการขึ้นเสียงดุดันแต่น้ำตาลก็ยังยืนนิ่งจ้องเขาตาขวาง
“ผมจะเปลี่ยนให้คุณเอง”
พันธการตะวาดเสียงลั่นตรงเข้าถอดเสื้อของน้ำตาลด้วยความป่าเถื่อน

“ปล่อยฉันนะนายมาทำกับฉันแบบนี้ทำไม......นายมีสิทธิอะไร......ไอ้บ้า”
น้ำตาลโวยวายดิ้นรนสุดแรง
“ปล่อยนะ.....ปล่อย”
น้ำตาลยังคงดิ้นรนอย่างไม่ยอมแพ้แม้ว่าเสื้อตัวนอกจะถูกถอดออกไปแล้วเธอก็ยังไม่ยอมร้องขอความปราณีจากเขา
“ปล่อย.......”
น้ำตาลยังคงดิ้นรนอย่างสุดความสามารถแม้ว่าหยดน้ำตาจะไหลรินแต่เธอก็ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่ยอมปล่อยให้พันธการได้บังการชีวิตเธอได้ตามอำเภอใจ
“ปล่อยนะ......ไอ้คนเลวนายมันเลวที่สุด.....สารเลวฉันเกลียดนายไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนนายมันก็ยังสารเลวเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ผู้หญิงเขาไม่ยอมก็ใช้กำลังปลุกปล้ำ...เลวที่สุด”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้พันธการต้องหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนของตัวเองด้วยความรู้สึกผิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึกสุดของหัวใจ
“เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
พันธการพูดเสียงเข้มเดินหนีน้ำตาลอย่างนึกกลัวใจตัวเองเองที่ดูจะอ่อนลงทุกทีที่เข้าใกล้น้ำตาล
“ทำไมยังกล้าทำกับฉันแบบนี้........เพราะอะไรนายถึงได้ทำให้ฉันเกลียดนายมากขนาดนี้ ทำไมต้องทำเหมือนฉันไม่ใช่คนทำไมถึงดูถูกฉันขนาดนั้น....ทำไมต้องทำให้ฉันไม่เหลือค่าทั้งที่เป็นนายเองที่ทำให้ฉันต้องเจ็บปวดแบบนี้....ฮือ”
น้ำตาลร้องไห้โฮทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
“ต่อให้คุณถูกเขาทำร้ายแค่ไหน.....นั่นก็เพราะว่าเขารักคุณคุณไม่มีสิทธิฆ่าเขาทั้งเป็น โทษของเขาไม่ควรถึงตายแต่คุณก็ทำจนได้คุณทำให้เขาหัวใจสลายและไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป”
“เรื่องที่ทิ้งคุณฉันไม่เคยนึกเสียใจไม่เคยเลยแม้แต่นาทีเดียว เพราะว่าคุณทำให้ฉันเจ็บไม่น้อยกว่าที่คุณรู้สึกสักนิด”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้พันธการหันกลับมาหาเธออีกครั้งด้วยแววตาที่หน้าหวาดกลัวกว่าเดิมเสียอีก
“ถ้าหากว่าการทิ้งใครสักคนสำหรับคุณเป็นเรื่องง่ายดายขนาดนั้นล่ะก็ผมจะทำให้คุณรู้สึกเสียใจเองที่คุณทิ้งผมไป......ผมจะเลือดเย็นกับคุณให้มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
พันธการกล่าวด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะตรงเข้าถอดเสื้อผ้าน้ำตาลและเปลี่ยนชุดให้เธอด้วยความรุนแรงและป่าเถื่อนกว่าเดิม
“ฉันไม่อยากเปลี่ยนชุดแต่คุณก็ใช้กำลังกับฉันคุณทำกับฉันเหมือนฉันไม่มีเลือดเนื้อไม่มีความรู้สึก.......ฉันก็จะทำแบบนั้นกับคุณเช่นกันรับลองเลยว่าคุณจะต้องเจ็บเพราะฉันเป็นครั้งที่สองแน่”
น้ำตาลกล่าวอาฆาตขณะพยายามขัดขืนพันธการที่จับเธอเปลี่ยนใส่ชุดราตรีสุดหรูจนสำเร็จ
“แล้วเราจะได้เห็นกันว่าผมกับคุณใครจะเจ็บได้มากกว่ากัน”
พันธการกล่าวเสียงเหี้ยมก่อนจะจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองเป็นชุดสุดหรูโดยไม่เกรงใจน้ำตาลที่อยู่ตรงนั้นสักนิด
“ถ้าคุณอยากจะเล่นเกมส์นี้กับฉันฉันก็จะเล่นกับคุณ เพราะว่าฉันไม่มีอะไรจะให้เสียใจอยู่แล้ว......ระวังหัวใจตัวเองไว้ให้ดีเถอะระวังว่ามันจะเจ็บจนรับไม่ไหวเป็นครั้งที่สอง”
น้ำตาลกล่าวท้าทายอย่างไม่นึกหวาดหวั่นสักนิดเธอไม่เคยคิดว่าจะต้องพัวพันกับพันธมิตรอีกเมื่อเธอแสนเกลียดชังเขาแต่ทว่าวันนี้เธอกลับเดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขาด้วยความเต็มใจ
“ปากกล้าจังนะ”
พันธการตรงเข้าประชิดร่างสมส่วนของน้ำตาล กระซิบข้างหูเธอแผ่วเบาก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้ก้นน้ำตาลเบาๆอย่างท้าทาย
“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการจากฉันอย่างงั้นเหรอ”
น้ำตาลทำใจดีสู้เสือยิ้มหวานให้พันธการทั้งที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความหวาดกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นทีละนิดในใจของเธอ
“สำหรับผมแล้วมันไม่มีค่าอะไรเลยต่างหาก”
พันธการกล่าวก้มลงหอมแก้มน้ำตาลด้วยอาการหยาบคาย ก่อนจะโอบเอวน้ำตาลให้เดินออกไปจากห้องนอนกับเขาท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองดูไม่วางสายตารวมทั้งปูนและแบงค์ที่กำลังเดินกลับมาที่ห้องพักด้วย
“สวัสดีครับทุกคน”
พันธการเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงผิดปกติกอดเอวน้ำตาลไว้แน่นหนากว่าเดิม
“ทำบ้าอะไรของคุณ”
น้ำตาลตะวาดพันธการเสียงลั่นเมื่อเห็นว่าเขาจงใจพูดเสียงดังให้แบงค์หันมาสนใจตัวเธอ

“ใจเย็นจ๊ะที่รักผมแค่อยากจะเชิญทุกคนไปงานหมั้นของเราเย็นนี้ที่ริมหาดเท่านั้นเอง”
พันธการมัดมือชกน้ำตาลเอาดื้อๆ
“นาย.....นาย......”
น้ำตาลถึงกับพูดอะไรไม่ออกยืนนิ่งอึ้งด้วยความตกใจเช่นเดียวกับแบงค์ที่ถึงกับก้าวเท้าไม่ออก
“ขอบคุณนะครับสำหรับสถานที่จัดงานสวยๆผมกับแฟนชอบมากๆเลยครับ”พันธการหันไปขอบคุณแบงค์อย่างต้องการฉีกหน้าน้ำตาล
“มะ...ไม่เป็นไรครับ”
แบงค์ตอบเสียงเรียบแต่ทว่าสติของเขากลับเลือนลอยไปไกลอย่างไม่รู้ตัว
พิษรัก ตอนที่ 13
“เป็นยังไงบ้างปูนเจ็บมากไหม”
แบงค์ถามเสียงตื่นรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาเช็ดเลือดให้ปูนที่ยืนนิ่งงันเพราะความตกใจ
“ฉันขอโทษ”
น้ำตาลกล่าวหน้าเจื่อนค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ปูนและแบงค์ที่แสดงความเป็นห่วงปูนซะจนน้ำตาลรู้สึกอิจฉาอยู่ลึกๆในใจ
“ทำไมเธอถึงชอบสร้างปัญหาให้ฉันนะเห็นหรือปล่าวว่าเพราะความงี่เง่าของเธอทำให้คนอื่นเขาต้องเจ็บตัว”
แบงค์ตะวาดน้ำตาลเสียงลั่นเพราะความโมโห
“ใช่สิฉันมันชอบสร้างปัญหาให้นายอยู่แล้วนี่ แล้วทำไมล่ะนายอยากจะเอาหิน
เขวี้ยงฉันกลับไหมล่ะ ถ้าอยากแก้แค้นสุดที่รักของนายก็ลงมือได้เลย......ฉันจะยืนนิ่งไม่ขยับหนีไปไหนด้วย”
น้ำตาลขึ้นเสียงด้วยความโมโหเช่นกัน ก้มลงหยิบหินยัดใส่มือแบงค์ทั้งน้ำตา
“เราไม่น่ามาเจอกันอีกเลย......ไปโรงพยาบาลกันเถอะปูน”
แบงค์ตัดบทก่อนจะประคองปูนออกไปจากตรงนั้น
“ฉันเกลียดนาย....ไอ้บ้านี่......ฉันเกลียด....เกลียด.....เกลียดที่สุด”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นคว้าก้อนหินเขวี้ยงใส่แบงค์จนเขาต้องร้องโอ๊ะอีกครั้ง
“มากไปแล้วนะ”
ปูนกัดฟันพูดด้วยความโมโหจะหันกลับไปพูดกับน้ำตาลให้รู้เรื่องแต่แบงค์กลับตรึงไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น
“ไปโรงพยาบาลเถอะปูนเลือดยังไหลอยู่เลย”
“เราต้องพูดกับเธอให้รู้เรื่อง เราทนไม่ไหวอีกแล้วเธอไม่ยอมออกห่างจากคุณ”
ปูนบอกแบงค์ก่อนจะเดินไปหาน้ำตาลก่อนที่เธอจะไปทางอื่น
“ฉันขอบอกเธออีกครั้งออกไปจากชีวิตเขาได้แล้ว อย่าพยายามที่จะเดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขาและฉันอีก ไม่ใช่เพราะฉันเลือกเขาแต่เพราะว่าเขาเลือกฉันต่างหาก”
เพราะคำพูดของปูนทำให้น้ำตาลต้องยืนนิ่งและกลั้นหยดน้ำตาที่เตรียมเอ่อไหลไว้
“ฉันจะพูดอีกครั้งว่าฉันยอมรับแล้วว่าเขาไม่รักฉันอีกแล้ว แต่มันไม่ใช่ความผิดของฉันที่ฉันยังตัดใจไม่ขาด”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของน้ำตาลทำให้แบงค์ต้องยืนนิ่งด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดลึกๆในใจที่เขาไม่อาจควบคุมได้แม้สักครั้ง
“เธอทำแบบนี้ทำไม......กลับมาหาเขาอีกทำไม เธอรู้บ้างหรือปล่าวว่ากว่าที่เขาจะยอมรับฉันในฐานะคนรักอย่างทุกวันนี้ฉันต้องทนเจ็บปวดมามากแค่ไหน แล้วเธอรู้บ้างหรือปล่าวว่าเขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะว่ารักเธอ”
ปูนพูดเสียงเรียบพยายามกลั้นน้ำตาอย่างที่สุด
“ใช่.......เขาอาจจะเจ็บปวดเพราะความรักของฉันถึงเขาอาจเกือบเอาชีวิตไม่รอดอย่างที่เธอพูด แต่ก็เขายังไม่ตายและเขามีเธออยู่เคียงข้างจนลืมฉันซะจนสนิทใจ”
น้ำตาลพูดยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่รินไหลจนนองใบหน้า
“เธอบอกว่าเขาเจ็บเพราะฉันแล้วฉันล่ะเธอเคยคิดบ้างไหมว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องเลิกกับคนรักทั้งที่ความรักมันยังมีอยู่เต็มหัวใจของฉัน ฉันโกรธเขาที่ไม่เชื่อฉันจนทำให้เราต้องเลิกกัน ฉันเกลียดเขาที่ทำให้ฉันต้องเจ็บปวดทรมานแต่ฉันก็ยังรักเขามากจนไม่อาจตัดใจ”
น้ำเสียงสะอื้นของน้ำตาลที่ดังขึ้นทำให้แบงค์ต้องกำมือแน่นอย่างพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ให้หวั่นไหว
“ฉันเกลียดเธอที่เป็นที่รักของเขาแทนฉัน โกรธเธอที่คอยอยู่ข้างๆฉัน ฉันอิจฉาเธอที่เขาเป็นห่วงเธอจนหันมาตวาดคนรักเก่าอย่างฉัน แต่เช่นเดียวกันฉันรู้สึกขอบคุณเธอ........ที่รักเขา”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้ปูนถึงกับพูดอะไรไม่ออกทำได้แค่ยืนนิ่งและร้องไห้โฮออกมากับสิ่งที่น้ำตาลพูด แม้ว่าแบงค์จะไม่พูดอะไรแต่ปูนรู้ดีว่าภายใต้ท่าทีเฉยชาของเขามีความรู้สึกบ้างอย่างที่ไม่เคยหายไปตามกาลเวลาซ่อนอยู่
“ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว”
แบงค์กล่าวประโยคสั้นๆก่อนจะประคองน้ำตาลเดินออกไปเงียบๆในขณะที่น้ำตาลต้องทรุดลงร้องไห้เพราะเขาเป็นครั้งที่หนึ่งร้อย
“คนอย่างคุณเจ็บเป็นด้วยเหรอ” น้ำเสียงเฉยชาของพันธการในนามพันธมิตรเอ่ยขึ้นด้วยความเฉยชาต่อความเสียใจของน้ำตาล
“นายยังมีหน้ามาพบฉันอีกอย่างงั้นเหรอ.........ไอ้สารเลว”
น้ำตาลตะวาดเสียงลั่นกำทรายที่พื้นปาใส่พันธการ
“สิ่งที่คุณสูญเสียมันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ผมเสียไปเพราะฉะนั้นเตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ ผมจะทำให้คุณต้องอยู่ต่อไปเหมือนตายทั้งเป็น”
พันธการกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันตรงเข้ากระชากแขนน้ำตาลให้ลุกขึ้นและลากเธอไปตามหาดทรายอย่างไร้ความปราณี
“ปล่อยฉันนะ.......ปล่อย”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นพยายามขัดขืนสุดแรง
“ช่วยด้วย.......ไอ้โรคจิต”
น้ำตาลพยายามขอความช่วยเหลือจากพนักงานที่อยู่บริเวณนั้นแต่ทว่าทุกคนกลับยืนนิ่งไม่ปริปากหรือเข้ามาช่วยเธอ
“ปล่อยนะ.......ฉันไม่ไปกับนาย”
น้ำตาลพยายามอย่างสุดแรงแต่ก็ถูกพันธการลากเข้ามาในห้องของเขาจนได้
“อยู่ที่นี่จนกว่าผมจะกลับมา”
พันธการออกคำสั่งขณะจะจับน้ำตาลมัดมือมัดเท้าและโยนเธอไว้บนเตียงนุ่ม
“นายมันบ้า.....ฉันไม่ใช่ของเล่นของนายนะถึงได้มาทำกับฉันแบบนี้.....นายมีสิทธิอะไร......ฮือ”น้ำตาลร้องไห้โฮให้กับชากรรมอันหดหู่ของตัวเอง
“ผมมีสิทธิจะเรียกสิ่งที่ผมเสียไปจากคุณ.......แม้ว่าไม่อาจเอาของสิ่งนั้นกลับคืนมาได้แต่คุณก็ต้องชดใช้ผม.........ความสุขทั้งชีวิตเป็นสิ่งที่ผมต้องการจากคุณ”
พันธการพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยหัวใจที่แสนชินชา
บนหาดทรายขาวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาสายลมเย็นๆที่พัดเอาไอแดดมาประทะผิวสวยของปูน ทำให้แบงค์ต้องถอดเสื้อตัวนอกมาคุมไหล่ปูนไว้ด้วยความเป็นห่วง
“ยังเจ็บแผลอยู่ไหม”
แบงค์เอ่ยถามปูนที่ตอนนี้ทำแผลเรียบร้อยแล้ว
“มันเทียบไม่ได้เลยกับบาดแผลที่หัวใจของเรา”
ปูนพูดเสียงเรียบหยุดอยู่กับที่
“อย่าเจ็บปวดอย่าร้องไห้เพราะเราอีก พอแล้วสำหรับน้ำตาของเธอเพื่อเราอย่าทำให้เราต้องเจ็บปวดเพราะว่าเธอร้องไห้”
แบงค์พูดรวบมือทั้งสองข้างของปูนไว้
“เราไม่อยากหวั่นไหวแบบตอนนี้หรอกแต่เราห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ เพราะว่าเรารู้อยู่เต็มอกว่าเธอไม่เคยลืมเขาเลยผู้หญิงคนนั้นยังคงอยู่ในใจเธอไม่เคยหายไปไหน..........มันเจ็บมากรู้ไหมที่เธอเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนทั้งที่โอบกอดเราอยู่”
“เราไม่เคยทำแบบนั้น”
“เธออาจไม่เคยรู้ว่าเธอทำแบบนั้นเพราะว่าเธอไม่เคยพูดถ้าเธอไม่เมา”
ปูนพูดหันหน้าหนีแบงค์เพราะความเจ็บปวดที่มีเต็มหัวใจ
“ขอโทษนะปูน...ขอโทษที่เราทำร้ายเธอ”
แบงค์พูดโอบกอดร่างบางของปูนไว้ในอ้อมแขนสิ่งที่เขากลัวเวลาที่อยู่กับปูนก็คือทำให้เธอรู้สึกได้ว่ามีคนอื่นอยู่ในหัวใจของเขา
“บอกเราหน่อยได้ไหมว่าเราเชื่อเธอได้.........บอกเราทีว่าเราจะไม่เสียเธอไปอีกครั้ง......เธอบอกเราได้ไหมว่าจะไม่กลับไปหาเขาอีก”
ปูนกล่าวพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลรินจนเปียกชุ่มไหล่กว้างของแบงค์
“ขอแค่เธออดทน.....และเชื่อใจเราได้โปรดเชื่อว่าสักวันนึงหัวใจของเราจะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น”แบงค์พูดประโยคที่ทำให้ปูนต้องร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะเธอไม่เคยลืมที่จะหวาดกลัวว่าน้ำตาลจะกลับมาอยู่ในที่ที่เคยเป็นของเธออีกครั้ง
“เปลี่ยนชุดซะ” พันธการออกคำสั่งเสียงเข้มโยนกล่องใส่เสื้อผ้าสุดหรูลงบนเตียง ก่อนจะก้มลงแก้มัดให้น้ำตาล
“ฉันไม่เปลี่ยน”
น้ำตาลโวยวายทันทีที่เป็นอิสระ พุ่งตรงไปที่ประตูอย่างรวดเร็วแต่ทว่าช้ากว่าพันธการเพียงครึ่งก้าวเท้านั้น
“เปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้”
พันธการขึ้นเสียงลากน้ำตาลกลับมาที่เตียง
“นายก็ใส่เองซิฉันไม่อยากใส่”
น้ำตาลเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ยืนกอดอกนิ่งอย่างท้าทายพันธการ
“เปลี่ยนเดี๋ยวนี้”
พันธการขึ้นเสียงดุดันแต่น้ำตาลก็ยังยืนนิ่งจ้องเขาตาขวาง
“ผมจะเปลี่ยนให้คุณเอง”
พันธการตะวาดเสียงลั่นตรงเข้าถอดเสื้อของน้ำตาลด้วยความป่าเถื่อน
“ปล่อยฉันนะนายมาทำกับฉันแบบนี้ทำไม......นายมีสิทธิอะไร......ไอ้บ้า”
น้ำตาลโวยวายดิ้นรนสุดแรง
“ปล่อยนะ.....ปล่อย”
น้ำตาลยังคงดิ้นรนอย่างไม่ยอมแพ้แม้ว่าเสื้อตัวนอกจะถูกถอดออกไปแล้วเธอก็ยังไม่ยอมร้องขอความปราณีจากเขา
“ปล่อย.......”
น้ำตาลยังคงดิ้นรนอย่างสุดความสามารถแม้ว่าหยดน้ำตาจะไหลรินแต่เธอก็ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่ยอมปล่อยให้พันธการได้บังการชีวิตเธอได้ตามอำเภอใจ
“ปล่อยนะ......ไอ้คนเลวนายมันเลวที่สุด.....สารเลวฉันเกลียดนายไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนนายมันก็ยังสารเลวเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ผู้หญิงเขาไม่ยอมก็ใช้กำลังปลุกปล้ำ...เลวที่สุด”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้พันธการต้องหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนของตัวเองด้วยความรู้สึกผิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึกสุดของหัวใจ
“เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
พันธการพูดเสียงเข้มเดินหนีน้ำตาลอย่างนึกกลัวใจตัวเองเองที่ดูจะอ่อนลงทุกทีที่เข้าใกล้น้ำตาล
“ทำไมยังกล้าทำกับฉันแบบนี้........เพราะอะไรนายถึงได้ทำให้ฉันเกลียดนายมากขนาดนี้ ทำไมต้องทำเหมือนฉันไม่ใช่คนทำไมถึงดูถูกฉันขนาดนั้น....ทำไมต้องทำให้ฉันไม่เหลือค่าทั้งที่เป็นนายเองที่ทำให้ฉันต้องเจ็บปวดแบบนี้....ฮือ”
น้ำตาลร้องไห้โฮทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
“ต่อให้คุณถูกเขาทำร้ายแค่ไหน.....นั่นก็เพราะว่าเขารักคุณคุณไม่มีสิทธิฆ่าเขาทั้งเป็น โทษของเขาไม่ควรถึงตายแต่คุณก็ทำจนได้คุณทำให้เขาหัวใจสลายและไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป”
“เรื่องที่ทิ้งคุณฉันไม่เคยนึกเสียใจไม่เคยเลยแม้แต่นาทีเดียว เพราะว่าคุณทำให้ฉันเจ็บไม่น้อยกว่าที่คุณรู้สึกสักนิด”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้พันธการหันกลับมาหาเธออีกครั้งด้วยแววตาที่หน้าหวาดกลัวกว่าเดิมเสียอีก
“ถ้าหากว่าการทิ้งใครสักคนสำหรับคุณเป็นเรื่องง่ายดายขนาดนั้นล่ะก็ผมจะทำให้คุณรู้สึกเสียใจเองที่คุณทิ้งผมไป......ผมจะเลือดเย็นกับคุณให้มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
พันธการกล่าวด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะตรงเข้าถอดเสื้อผ้าน้ำตาลและเปลี่ยนชุดให้เธอด้วยความรุนแรงและป่าเถื่อนกว่าเดิม
“ฉันไม่อยากเปลี่ยนชุดแต่คุณก็ใช้กำลังกับฉันคุณทำกับฉันเหมือนฉันไม่มีเลือดเนื้อไม่มีความรู้สึก.......ฉันก็จะทำแบบนั้นกับคุณเช่นกันรับลองเลยว่าคุณจะต้องเจ็บเพราะฉันเป็นครั้งที่สองแน่”
น้ำตาลกล่าวอาฆาตขณะพยายามขัดขืนพันธการที่จับเธอเปลี่ยนใส่ชุดราตรีสุดหรูจนสำเร็จ
“แล้วเราจะได้เห็นกันว่าผมกับคุณใครจะเจ็บได้มากกว่ากัน”
พันธการกล่าวเสียงเหี้ยมก่อนจะจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองเป็นชุดสุดหรูโดยไม่เกรงใจน้ำตาลที่อยู่ตรงนั้นสักนิด
“ถ้าคุณอยากจะเล่นเกมส์นี้กับฉันฉันก็จะเล่นกับคุณ เพราะว่าฉันไม่มีอะไรจะให้เสียใจอยู่แล้ว......ระวังหัวใจตัวเองไว้ให้ดีเถอะระวังว่ามันจะเจ็บจนรับไม่ไหวเป็นครั้งที่สอง”
น้ำตาลกล่าวท้าทายอย่างไม่นึกหวาดหวั่นสักนิดเธอไม่เคยคิดว่าจะต้องพัวพันกับพันธมิตรอีกเมื่อเธอแสนเกลียดชังเขาแต่ทว่าวันนี้เธอกลับเดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขาด้วยความเต็มใจ
“ปากกล้าจังนะ”
พันธการตรงเข้าประชิดร่างสมส่วนของน้ำตาล กระซิบข้างหูเธอแผ่วเบาก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้ก้นน้ำตาลเบาๆอย่างท้าทาย
“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการจากฉันอย่างงั้นเหรอ”
น้ำตาลทำใจดีสู้เสือยิ้มหวานให้พันธการทั้งที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความหวาดกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นทีละนิดในใจของเธอ
“สำหรับผมแล้วมันไม่มีค่าอะไรเลยต่างหาก”
พันธการกล่าวก้มลงหอมแก้มน้ำตาลด้วยอาการหยาบคาย ก่อนจะโอบเอวน้ำตาลให้เดินออกไปจากห้องนอนกับเขาท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองดูไม่วางสายตารวมทั้งปูนและแบงค์ที่กำลังเดินกลับมาที่ห้องพักด้วย
“สวัสดีครับทุกคน”
พันธการเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงผิดปกติกอดเอวน้ำตาลไว้แน่นหนากว่าเดิม
“ทำบ้าอะไรของคุณ”
น้ำตาลตะวาดพันธการเสียงลั่นเมื่อเห็นว่าเขาจงใจพูดเสียงดังให้แบงค์หันมาสนใจตัวเธอ
“ใจเย็นจ๊ะที่รักผมแค่อยากจะเชิญทุกคนไปงานหมั้นของเราเย็นนี้ที่ริมหาดเท่านั้นเอง”
พันธการมัดมือชกน้ำตาลเอาดื้อๆ
“นาย.....นาย......”
น้ำตาลถึงกับพูดอะไรไม่ออกยืนนิ่งอึ้งด้วยความตกใจเช่นเดียวกับแบงค์ที่ถึงกับก้าวเท้าไม่ออก
“ขอบคุณนะครับสำหรับสถานที่จัดงานสวยๆผมกับแฟนชอบมากๆเลยครับ”พันธการหันไปขอบคุณแบงค์อย่างต้องการฉีกหน้าน้ำตาล
“มะ...ไม่เป็นไรครับ”
แบงค์ตอบเสียงเรียบแต่ทว่าสติของเขากลับเลือนลอยไปไกลอย่างไม่รู้ตัว