พิษรัก ตอนที่ 16

กระทู้สนทนา
พิมชื่อตอนผิดค่ะ อิอิอิ
“แบงค์......”
น้ำตาลอุทานด้วยความตกใจผละถอยห่างจากร่างของแบงค์แต่ทว่าเขากลับคว้าเอวบางของเธอไว้ให้ประชิดลำตัวแข็งแกร่งของเขา
“ผู้หญิงใจร้าย.......”
แบงค์พูดจ้องมองใบหน้างดงามของน้ำตาลด้วยความชื่นชม เพราะสติถูกเลอะเลือนเขาจึงต้องมนต์สะกดของเธออีกครั้ง
“ปล่อย”

น้ำตาลพูดเสียงแผ่วแต่แบงค์กลับโอบรัดร่างเธอจนแน่นหนาและประทับริมฝีปากบางด้วยสัมผัสอ่อนหวานละมุนละไม ยิ่งทำให้น้ำตาลเคลิบเคลิ้มจนไม่อาจถอนตัวทั้งที่ไม่ได้ถูกไวน์เลอะเลือนดังเข่นเดียวกับแบงค์ รสหวานจากของไวน์จากปากแบงค์ยิ่งทำให้สัมผัสนั้นหอมหวานจนทั้งคู่ไม่อาจหักห้ามใจและไม่อาจถอนตัว เมื่อสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่นั้นคือเสียงเพรียกหาของหัวใจความปรารถนาที่โหยหาและรอคอยมาแสนนาน วันนี้ถูกเติมเต็มด้วยความรักและความอบอุ่นที่ทำให้แบงค์ไม่ต้องเจ็บปวดในหัวใจและน้ำตาลไม่นึกหวาดกลัวสัมผัสใดๆอีกแล้ว
“ผมรักคุณ”
แบงค์เอ่ยประโยคแผ่วเบาที่ทำให้น้ำตาลอบอุ่นไปทั้งหัวใจ
เพียงประโยคสั้นๆที่ทำให้เธอต้องยิ้มทั้งน้ำตาเป็นประโยคสั้นๆที่ทำให้เธอแทบละลายอยู่ในอ้อมแขนของแบงค์ด้วยสัมผัสที่แสนอ่อนหวานและเร่าร้อน
“กริ๊งๆๆๆ”เสียงโมบายคริสตรันสีสวยที่ต้องลมถี่ขึ้นเรื่อยๆตามแรงลม ทำให้แบงค์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นด้วยอาการมึนศีรษะ เพียงแค่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องตาโตด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสมส่วนของน้ำตาลที่นอนหลับตาพริ้มอยู่เคียงข้างเขา
“คุณพระช่วย”
แบงค์ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างกลัวว่าน้ำตาลจะรู้สึกตัวก่อนที่เขาจะทบทวนเรื่องทุกอย่างได้
“พระเจ้า”
แบงค์อุทานอีกครั้งเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดเมื่อคืนไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการแสนหวานที่เขาสร้างขึ้นเมื่อคิดถึงน้ำตาลอย่างที่เคยๆ
“ตื่นแล้วเหรอ”
น้ำตาลพูดขึ้นเสียงหวานเมื่อลืมตื่นขึ้นเห็นแบงค์นั่งหันหลังให้เธออยู่
“คุณทำแบบนี้ทำไม.......”
เพราะคำพูดของแบงค์ทำให้น้ำตาลคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันกายและเดินไปขุกเข่าตรงหน้าเขาด้วยความหวัง
“เพราะเธอยังรักเราอยู่เพราะเรารู้ว่าเธอไม่เคยลืมเราเพราะอย่างนั้นเราถึง............”
“ถึงนอนกับผมอย่างงั้นเหรอ........คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่มียางอายเอาซะเลยนะ”

เพราะคำพูดและแววตาดูถูกของแบงค์ทำให้น้ำตาลถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่เธอก็พยายามเข้มแข็งด้วยความหวังว่าจะรักษาความรักของตัวเองเอาไว้ให้ได้
“ฉันไม่สนหรอกไม่สนว่าใครจะเกลียดจะสาปแช่งฉันยังไง........ขอแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแค่เธอบอกว่ารักฉัน”
น้ำตาลอ้อนวอนด้วยหยดน้ำตาแต่แบงค์ก็ยังคงนั่นนิ่งจ้องมองเธอด้วยแววตาที่ไม่ไหวหวั่น
“มันเรื่องของผู้หญิงไม่มียางอายอย่างคุณ คุณไม่สนใครทั้งนั้นมันเรื่องของคุณแต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ผมทำร้ายผู้หญิงที่รักผมที่สุดไม่ได้ผมทำร้ายผู้ชายหน้าโง่เหมือนผมที่หมั้นกับคุณไม่ได้......คนไม่มีหัวใจอย่างคุณไม่มีค่าพอให้ผมทำแบบนั้นหรอก คุณรู้ไหมว่าถูกตราหน้าว่าชู้มันน่าอนาถแค่ไหน”
“ใจร้ายเหลือเกินนะ.......ตอนนี้มาบอกว่าเป็นฉันที่ชั่วช้าให้ท่าคุณเองทั้งที่เมื่อคืนนี้เป็นคุณที่ไม่ยอมปล่อยฉัน”
น้ำตาลร้องไห้โฮนึกสมเพชตัวเองที่ถูกแบงค์ดูถูกจนไม่เหลือชิ้นดี
“ไม่ใช่ผม.....คนที่พูดแบบนั้นไม่ใช่ผมคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าคุณแต่เป็นผมที่ตายไปแล้วเมื่อสามปีก่อน........เพราะเหล้าผู้ชายอ่อนแอคนนั้นถึงได้กลับมา และเป็นความโชคร้ายของคุณที่หลงเข้าใจผิดเพราะคำพูดของคนเมาอย่างผม”
“พอเถอะไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วฉันเข้าใจทุกอย่างที่คุณพูดว่าสำหรับคุณแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพราะว่าคุณเมา ฉันมันบ้าไปเองที่หลงคิดว่าสัมผัสอบอุ่นที่ได้รับมันคือความรักคือความผูกพัน แต่มันผิดเข้าใจผิดไปไกลมาก เป็นฉันคนเดียวที่มีความสุขเป็นฉันคนเดียวที่ไม่เหน็บหนาวและก็เป็นฉันคนเดียวที่ไม่อาจตัดความรักความผูกพัน”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้แบงค์ต้องนั่งนิ่งและฟังเสียงสะอื้นของเธอ เขาไม่อาจยอมรับความเป็นจริงที่หัวใจรู้สึกสิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่มองเธอด้วยสายตาที่แสนชินชา
“เรื่องระหว่างเราใช่ว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น............คืนนี้ก็แค่อีกหนึ่งคืนที่ไม่มีอะไรน่าจดจำ ลืมมันซะ” แบงค์พูดเสียงเรียบก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและหายไปในห้องน้ำ มีเพียงเสียงร้องไห้ของน้ำตาลที่ดังก้องไปทั่วห้อง เพียงเท่านี้หัวใจของแบงค์ก็หายไปจากตัวจนไกลแสนไกลมีเพียงเสียงน้ำไหลเท่านั้นที่ดังขึ้นในวินาทีต่อมาเพื่อกลบเกลื่อนเสียงร้องไห้ของเขาไม่ให้น้ำตาลได้ยิน
                 “อรุณสวัสดิ์จ๊ะที่รัก”     น้ำเสียงเบิกบานของพันธการดังขึ้นพร้อมปรากฏร่างของเขาที่ยืนอยู่หลังบานประตู

“นายมาทำไม.....ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้เลย”
น้ำตาลตวาดเสียงลั่นคว้าหมอนปาใส่พันธมิตรอย่างแสนเกลียดชัง
“ผมควรถามคุณมากกว่าว่าคุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่ทั้งคืน.......มากินข้าว......นอนเล่น....หรือว่ามาทำลูก.....แต่ผมว่าเป็นอย่างหลังแน่นอนเลย”
เพราะสิ่งทีพันธมิตรพูดคือเรื่องจริงทำให้น้ำตาลทำได้แค่นั่งนิ่งลำตัวชาไปทั้งตัว เธอไม่เคยรู้สึกว่าทำผิดจนได้เห็นหน้าว่าที่สามีอย่างพันธมิตร
“ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอครับคุณน้ำตาล”
พันธมิตรยังคงส่งรอยยิ้มสบายใจให้น้ำตาล
“จนถึงตอนนี้ฉันก็ไม่เสียใจที่ฉันมาที่นี่เพราะอย่างน้อยฉันก็มีความสุขแม้ว่ามันจะนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน......ฉันไม่สนหรอกว่านายจะรู้สึกยังไงที่ฉันมาที่นี่ ถ้าไม่พอใจอยากจะถอนหมั้นก็เชิญ”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้พันธมิตรนึกโมโหอยู่ในใจแต่เขาก็ต้องทนฝืนยิ้มให้เธอ
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกคุณผู้หญิงผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ”
พันธมิตรไม่พูดปล่าวคว้าข้อมือน้ำตาลและฉุดเธอไปหน้าประตูห้องน้ำก่อนจะเคาะประตูรัวเพื่อเรียกให้แบงค์เปิดประตู
“นาย........”
แบงค์อุทานด้วยความตกใจเมื่อเปิดประตูขึ้นแล้วพบว่าพันธมิตรยืนอยู่หน้าประตู
“เสร็จแล้วใช่ไหมฉันจะได้พาตัวเธอกลับ”
พันธมิตรพูดกับแบงค์ด้วยรอยยิ้มทำให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก เช่นเดียวกับน้ำตาลที่ยืนหน้าชาเพราะความอับอาย
“ขอบใจนะที่ช่วยให้เธอไม่เหงาเมื่อคืนนี้ฉันดื่มมากไปหน่อยเลยเมาจนไม่มีปัญญาเล่นสนุกกับเธอ”สิ้นเสียงพันธมิตรใบหน้าคมเข้มของเขาก็ต้องสะบัดอย่างแรงเพราะฝ่ามือของน้ำตาล
“ไอ้เลว.......แกมันเลว......เลวที่สุด”
น้ำตาลร้องไห้โฮทุบตีพันธมิตรอย่างสุดทนกับพฤติกรรมของเขาที่ดูถูกเธออย่างร้ายกาจ
“ฉันเกลียดแก.......เกลียดแกที่สุดในโลก”
“ทำไงได้ล่ะก็ผมรักคุณนี่นา”
พันธมิตรยังคงส่งรอยยิ้มให้น้ำตาล สองมือแข็งแกร่งรวบข้อมือบางของน้ำตาลไว้มั่น
“ฉันเกลี..........”
น้ำตาลยังไม่ทันได้เอ่ยครบประโยคริมฝีปากบางก็ถูกพันธมิตรประกบไว้ด้วยริมฝีปากร้อนแรงของเขา ไม่ใช่แค่น้ำตาลที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแบงค์ก็เช่นกันเขายืนมองภาพตรงหน้าเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น  เพียงชั่วอึดใจเดียวพันธมิตรก็ปล่อยริมฝีปากบางของน้ำตาลให้เป็นอิสระ
“ผมจะทำให้คุณลืมเขาเอง”
พันธมิตรกล่าวก่อนจะโถมตัวใส่น้ำตาลจนล้มไปที่เตียงอย่างอย่างรวดเร็ว เป็นช่วงจังหวะเดียวกับที่น้ำตาลได้สติกลับคืนมาและต่อต้านเขา
“ปล่อยฉันนะ......ปล่อย......”
ไม่ว่าน้ำตาลจะร้องดังแค่ไหนพันธมิตรก็ยังคงซุกไซร้ซอกคอขาวไม่หยุดหย่อนแม้ว่าแบงค์จะยืนอยู่ด้วยก็ตาม
“ปล่อย.......ช่วยด้วย........แบงค์......ช่วยด้วย”
น้ำตาลร้องเสียงหลงในขณะทีแบงค์เพิ่งได้สติและมองดูภาพตรงหน้าอย่างนึกสมเพชน้ำตาล
“คุณเป็นแบบนี้นี่เอง.......เป็นผู้หญิงแบบนี้เองนะเหรอ”
แบงค์บอกกับตัวเองมองดูภาพน้ำตาลที่ร้องจนเสียงหลงและพันธมิตรที่พยายามใช้กำลังกับเธอด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียนในความไร้ยางอายของน้ำตาล
“ผมจะไม่มองคุณอีกแล้ว.......ผมจะไม่มองผู้หญิงแพศยาอย่างคุณ”
แบงค์ให้สัญญากับตัวเองก่อนจะเดินออกไปจากห้องทั้งที่น้ำตาลร้องเรียกให้เขาช่วย
เสียง “ปั้ง”ใหญ่ที่ดังขึ้นพร้อมประตูที่ปิดลงทำให้น้ำตาลถึงกับหมดแรงที่จะขัดขืนพันธมิตรต่อไป ปล่อยให้พันธมิตรได้ทำตามที่ใจเขาต้องการแต่เช่นเดียวกันเมื่อแบงค์ก้าวเท้าพ้นประตูออกไปพันธมิตรก็ผละออกจากร่างของน้ำตาล
“รู้ไว้ด้วยนะผมไม่เคยปรารถนาเรือนร่างของคุณ ต่อให้คุณสวยกว่านี่อีกร้อยเท่าพันเท่ามันก็เทียบไม่ได้เลยกับความโสมมในใจคุณ”
พันธมิตรพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไปอีกคน
                     เพราะความละอายใจทำให้แบงค์หนีปูนกับบ้านโดยไม่บอกลาสักคำแต่เพราะความบังเอิญทำให้เขาได้พบปูนที่กำลังจะกลับบ้านที่สนามบินเช่นกัน
“กลับบ้านเหรอ”
แบงค์เอ่ยถามปูนเมื่อไม่อาจหลีกเลี่ยงเธอได้
“ใช่หนีกลับบ้านเหมือนเธอเลย”
ปูนพูดเสียงเรียบเดินเลยแบงค์ไป
“สมควรแล้ว.....”
แบงค์บอกตัวเองก่อนจะเดินนิ่งไปนั่งบนเก้าอี้ กว่าชั่วโมงที่แบงค์และปูนนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้โดยไม่ปริปากพูดประโยคใดๆจนในที่สุดปูนก็ทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ใส่แบงค์ด้วยความโมโห
“เธอจะไม่อธิบายอะไรกับเราเลยใช่ไหมจะนั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปอีกนานแค่ไหน”
“เราขอโทษ.......”
แบงค์พูดประโยคสั้นๆอย่างยอมรับผิด เพราะคำทำพลาดไปแล้วจริงๆ
“ขอโทษอย่างนั้นเหรอขอโทษแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นหรือปล่าว.......เธอจะเรียกความรู้สึกของตัวเองคืนมาได้ไหมเมื่อเธอเดินกลับไปหาเขาเอง ทำไมต้องทำแบบนี้......ทำไม”
ปูนร้องไห้โฮอย่างไม่อายผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยที่มองดูเธอและแบงค์ด้วยความสนใจ
“ขอโทษนะที่ทำให้เธอเจ็บปวด”
แบงค์พูดประโยคเดิมที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขา
“ใช่เราเจ็บ.....เจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้วเราไม่ได้เพิ่งรู้สึกแต่มันเป็นมานานแล้ว แต่ที่เรายังทนไหวเพราะเราเชื่อว่าเธอจะอยู่กับเราในสุดแต่ว่าเมื่อคืนนี้........เมื่อคืนนี้เธอ....เธอ......”
ปูนร้องไห้โฮไม่อาจพูดเรื่องที่ทำให้เธอต้องตายทั้งเป็น
“เราขอโทษสำหรับเรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นแต่ทุกอย่างจะเหมือนเดิมเราจะแต่งานกัน”
“ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้วไม่มีวันจะเหมือนเดิมอีก........เรารู้ว่าไม่มีวันเหมือนเดิม เธอรู้บ้างหรือปล่าวว่าเรารู้ว่าเธอไม่เคยลืมเขาได้เลยเธอยังคงรักเขาและความรู้สึกนั้นไม่เคยน้อยลง แต่เพราะเขาทำร้ายเธอเธอถึงปิดกลั้นตัวเองจากเขา เธอพยายามทุกอย่างเพื่อหนีความรู้สึกของตัวเอง”
ปูนร้องไห้โฮจ้องมองแบงค์ด้วยความปวดร้าว
“แต่มาวันนี้เธอเดินกลับไปหาเขาเธอพาทั้งตัวและหัวใจกลับไปให้เขาและมันจะไม่มีวันหวนกลับมาได้อีก เพราะเธอ.....ไม่มีวันลืมอ้อมกอดอบอุ่นที่เธอโหยหามาตลอดได้.......เธอจะไม่มีวันลืมเขาได้อีกและเขาจะยึดครองทุกพื้นที่ในใจของเธอจนไม่มีที่เหลือให้ฉันอีก......ที่ของฉันที่ที่มันมีแค่เศษเสี้ยวหัวใจของเธอ”
ปูนร้องไห้โฮหยดน้ำตาและแววตาที่แสนเจ็บปวดของเธอทำให้แบงค์เจ็บร้าวไปทั้งใจ
“ขอโทษนะ...ขอโทษ”

แบงค์พูดประโยคเดิมก่อนจะสวมกอดร่างสั่นเทาของปูนไว้ในอ้อมแขน สิ่งที่เขาหวาดกลัวกำลังเกิดขึ้นปูนกำลังร้องไห้เพราะความรู้สึกที่เขามีต่อน้ำตาล
“เราเคยบอกให้เธอไปแต่เธอก็เลือกที่จะอยู่กับเราเพราะอย่างนั้นไม่ว่าวันของหน้าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่มีวันปล่อยเธอไป.......เราทำแบบนั้นไม่ได้ทำไม่ได้จริงๆ”
ปูนร้องไห้โฮอยู่ในอ้อมแขนแบงค์ที่ตอนนี้เจ็บปวดจนนึกอะไรไม่ออกเขาเจ็บจนไม่อยากจะรู้สึกอะไรอีกแล้ว
                      ทันทีที่กลับถึงบ้านน้ำตาลก็ขอร้องให้การันต์ช่วยย้ายตัวเองไปทำงานที่สาขาอื่น แต่การันต์ไม่ยอมน้ำตาลจึงขอร้องให้ย้ายแบงค์แทนเพื่อจบปัญหาทุกอย่างก่อนที่เธอจะเจ็บจนทนไม่ไหวเพราะเขา
“ทำไมต้องย้ายพนักงานเก่งๆอย่างเขาล่ะลูก ลูกค้าผู้หญิงส่วนมากร่วมงานกับเราก็เพราะนายคนนี้นะลูก”
การันต์เอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
“หนูกับเขาพ่อก็เลือกเอาแล้วกันว่าจะให้ใครอยู่ถ้าพ่อไม่ย้ายเขาไปไกลๆพ่ออาจจะได้เห็นหนูกลายเป็นซากศพที่เดินได้ก็ได้”
เพราะถ้าทีเหนื่อยล้าเต็มทีของลูกสาวสุดที่รักทำให้การันต์ไม่สนใจอะไรอีก ออกคำสั่งย้ายแบงค์ไปประจำที่สาขาเชียงใหม่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่