ผมเป็นนักเรียนชั้นประถมปลายของโรงเรียนต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง แม้ว่าตัวโรงเรียนนั้นจะน่าอยู่ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเรียนรู้ยิ่งนัก แต่ห้องเรียนของผมก็มีปัญหาที่คอยรบกวนการเรียนที่น่าจะแสนสุขนี้อยู่เช่นกัน
ในห้องเรียนของผมมีนักเลงสองคนทำตัวเป็นหัวโจกของห้อง คนหนึ่งชื่อสมชายกับอีกคนชื่อมนัส พ่อแม่ของพวกเขาเป็นคนใหญ่คนโต ไม่มีใครกล้าแตะต้องสองคนนี้ แม้แต่ครูก็ยังขยาดที่จะเข้าไปตักเตือน เพื่อนๆในห้องผมต่างโดนรีดไถ กลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติประจำวันไปเสียแล้ว ผมช่างอนาถใจกับสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นนี้
---------------------
อยู่มาวันหนึ่งสมชายทะเลาะกับมนัสเพราะต่างคนก็ต่างอยากเป็นหัวหน้าห้อง ห้องของผมจึงแตกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเข้าข้างสมชายกลุ่มหนึ่งเข้าข้างมนัส การเลือกตั้งหัวหน้าห้องจึงเกิดขึ้น และแล้วสมชายก็ชนะ มนัสก็ทำได้แค่ยอมรับเพราะตัวเองมีพวกน้อยกว่าสมชายอยู่เยอะ
แต่การกลั่นแกล้งนั้นยังคงดำเนินต่อไป การแบ่งฝ่ายก็ยังคงอยู่เพราะมนัสยังไม่อยากยอมแพ้และต้องมาอยู่ต่ำกว่าสมชาย สมชายก็ยังคงกลั่นแกล้งไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้าข้างมนัสหรือกลุ่มของตัวเองตามแต่สถานการณ์จะพาไป เพื่อความสนุกสนานของตนเองเพียงเท่านั้น มนัสก็เช่นกัน ในเมื่อเขาเป็นหัวหน้าห้องไม่ได้ แต่อย่างน้อยคนอื่นก็ยังไม่กล้าทำอะไรเขาอยู่ดี เขาจึงยังคงทำตัวแย่ๆต่อไป เหล่าเพื่อนในห้องต่างอยู่ในสภาพจำยอมที่ต้องโดนกลั่นแกล้งเพราะรู้ตัวว่าลำพังตัวเองคงทำอะไรไม่ได้ อาศัยแค่ให้หัวหน้าคอยคุ้มหัวไม่ให้โดนอีกคนหนึ่งมากลั่นแกล้งแค่นั้นเอง
----------------------
วันนี้ผมก็โดนอีกแล้ว ผมเลือกข้างมนัสทำให้สมชายค่อนข้างหมายตาในการเล่นงานเป็นพิเศษอยู่แล้ว เงินสามสิบบาทที่พ่อให้มาขื้อข้าวกินตอนกลางวันตกไปอยู่ในกระเป๋าของสมชายเรียบร้อย เที่ยงนี้ผมคงต้องอดอีกตามเคย
หลังจากที่เดินเล่นเตร็ดเตร่อยู่ในโรงเรียนนั้น ผมแอบไปเห็นครูวรรณา ครูประจำชั้นห้องของผมเอง กำลังยืนคุยอยู่กับครูเอกภาพ ซึ่งทั้งสองคนต่างทำหน้าเครียดทั้งคู่ คงเป็นเรื่องที่เครียดพอดู อาจจะเป็นเรื่องของห้องเรียนผมก็เป็นได้ คงต้องหาทางแอบฟังดู
ผมทำเป็นไปเข้าห้องน้ำแล้วแอบฟังอยู่ที่ซอกระเบียง ครูเอกภาพกำลังบรรยายอะไรบางอย่าง จับใจความได้ว่าเป็นปัญหาของห้องผมจริงๆด้วย ครูเอกภาพบอกว่าหากมันทะเลาะกันแล้วแยกเป็นสองกลุ่มมันจะทำให้ปัญหาดูรุนแรง ก่อนอื่นต้องพามนัสกับสมชายมาตกลงกัน อย่างน้อยถ้าสองคนนี้เลิกทะเลาะกัน สถานการณ์คงจะดีขึ้นเอง
ผมว่าวิธีการของครูเอกภาพก็ดูสวยหรูดีนะ แต่ปัญหาที่ผมโดนรีดไถอยู่นี่ล่ะ จะปล่อยให้ผมอดข้าวไปอีกกี่วันกันถึงจะมาสนใจกันบ้าง ดูเหมือนครูวรรณาจะเล็งเห็นปัญหานี้เหมือนกัน อย่างน้อยการที่ได้เป็นครูประจำชั้นคงทำให้ครูวรรณาเข้าใจปัญหานี้มากกว่าครูเอกภาพ
ครูวรรณาเสนอว่าถ้าเราช่วยกันออกกฎควบคุมไม่ให้สองคนนั้นมีโอกาสกลั่นแกล้งคนอื่น อย่างน้อยคิดว่าคงช่วยแบ่งเบาความตึงเครียดภายในห้องเรียนไว้บ้าง ส่วนสองคนนั้นทะเลาะกันไว้ค่อยจับมาทำความเข้าใจกันทีหลังก็ได้ ผมว่าวิธีนี้ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่จะทำยังไงไม่ให้สองคนนั้นมากลั่นแกล้งพวกผมได้ล่ะ
------------------------
หลังจากแอบฟังมาพอสมควร ผมก็รีบผละออกมาก่อนที่ครูสองคนนั้นจะจับได้ ผมครุ่นคิดดูว่าต้นตอปัญหานี้ที่แท้แล้วคือสองคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แล้วทำไมเราไม่หาทางจัดการสองคนนั้นให้สิโรราบต่อพวกเรากันล่ะ พวกเราในห้องก็มีอยู่ตั้งหลายสิบคน คนแค่สองคนน่ะไม่เห็นจะจัดการยากตรงไหนถ้าเราร่วมมือกัน
ถ้าเราโค่นสองคนนั้นได้แล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะไม่มีใครมาทำตัวเป็นนักเลงคุมห้องอีก แต่มันก็เป็นไปได้ยาก ตราบใดที่มีคนแข็งแรงกว่า การข่มเหงกันก็คงจะเกิดขึ้นได้เสมอ แล้วเราจะทำอย่างไรดี
ผมครุ่นคิดเรื่องนี้ต่อจนถึงตอนกลับบ้าน ระหว่างเดินกลับบ้านผมเดินผ่านร้านของชำร้านใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของมนัส ในซุ้มต้นไม้อันร่มรื่นข้างๆร้านของมนัส ผมแอบมองเข้าไปเห็นมนัสนั่งกินโค้กคุยกับสมชายอยู่อย่างสนุกสนาน
ปัญหา ณ ห้องเรียนแห่งหนึ่ง
ในห้องเรียนของผมมีนักเลงสองคนทำตัวเป็นหัวโจกของห้อง คนหนึ่งชื่อสมชายกับอีกคนชื่อมนัส พ่อแม่ของพวกเขาเป็นคนใหญ่คนโต ไม่มีใครกล้าแตะต้องสองคนนี้ แม้แต่ครูก็ยังขยาดที่จะเข้าไปตักเตือน เพื่อนๆในห้องผมต่างโดนรีดไถ กลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติประจำวันไปเสียแล้ว ผมช่างอนาถใจกับสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นนี้
---------------------
อยู่มาวันหนึ่งสมชายทะเลาะกับมนัสเพราะต่างคนก็ต่างอยากเป็นหัวหน้าห้อง ห้องของผมจึงแตกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเข้าข้างสมชายกลุ่มหนึ่งเข้าข้างมนัส การเลือกตั้งหัวหน้าห้องจึงเกิดขึ้น และแล้วสมชายก็ชนะ มนัสก็ทำได้แค่ยอมรับเพราะตัวเองมีพวกน้อยกว่าสมชายอยู่เยอะ
แต่การกลั่นแกล้งนั้นยังคงดำเนินต่อไป การแบ่งฝ่ายก็ยังคงอยู่เพราะมนัสยังไม่อยากยอมแพ้และต้องมาอยู่ต่ำกว่าสมชาย สมชายก็ยังคงกลั่นแกล้งไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้าข้างมนัสหรือกลุ่มของตัวเองตามแต่สถานการณ์จะพาไป เพื่อความสนุกสนานของตนเองเพียงเท่านั้น มนัสก็เช่นกัน ในเมื่อเขาเป็นหัวหน้าห้องไม่ได้ แต่อย่างน้อยคนอื่นก็ยังไม่กล้าทำอะไรเขาอยู่ดี เขาจึงยังคงทำตัวแย่ๆต่อไป เหล่าเพื่อนในห้องต่างอยู่ในสภาพจำยอมที่ต้องโดนกลั่นแกล้งเพราะรู้ตัวว่าลำพังตัวเองคงทำอะไรไม่ได้ อาศัยแค่ให้หัวหน้าคอยคุ้มหัวไม่ให้โดนอีกคนหนึ่งมากลั่นแกล้งแค่นั้นเอง
----------------------
วันนี้ผมก็โดนอีกแล้ว ผมเลือกข้างมนัสทำให้สมชายค่อนข้างหมายตาในการเล่นงานเป็นพิเศษอยู่แล้ว เงินสามสิบบาทที่พ่อให้มาขื้อข้าวกินตอนกลางวันตกไปอยู่ในกระเป๋าของสมชายเรียบร้อย เที่ยงนี้ผมคงต้องอดอีกตามเคย
หลังจากที่เดินเล่นเตร็ดเตร่อยู่ในโรงเรียนนั้น ผมแอบไปเห็นครูวรรณา ครูประจำชั้นห้องของผมเอง กำลังยืนคุยอยู่กับครูเอกภาพ ซึ่งทั้งสองคนต่างทำหน้าเครียดทั้งคู่ คงเป็นเรื่องที่เครียดพอดู อาจจะเป็นเรื่องของห้องเรียนผมก็เป็นได้ คงต้องหาทางแอบฟังดู
ผมทำเป็นไปเข้าห้องน้ำแล้วแอบฟังอยู่ที่ซอกระเบียง ครูเอกภาพกำลังบรรยายอะไรบางอย่าง จับใจความได้ว่าเป็นปัญหาของห้องผมจริงๆด้วย ครูเอกภาพบอกว่าหากมันทะเลาะกันแล้วแยกเป็นสองกลุ่มมันจะทำให้ปัญหาดูรุนแรง ก่อนอื่นต้องพามนัสกับสมชายมาตกลงกัน อย่างน้อยถ้าสองคนนี้เลิกทะเลาะกัน สถานการณ์คงจะดีขึ้นเอง
ผมว่าวิธีการของครูเอกภาพก็ดูสวยหรูดีนะ แต่ปัญหาที่ผมโดนรีดไถอยู่นี่ล่ะ จะปล่อยให้ผมอดข้าวไปอีกกี่วันกันถึงจะมาสนใจกันบ้าง ดูเหมือนครูวรรณาจะเล็งเห็นปัญหานี้เหมือนกัน อย่างน้อยการที่ได้เป็นครูประจำชั้นคงทำให้ครูวรรณาเข้าใจปัญหานี้มากกว่าครูเอกภาพ
ครูวรรณาเสนอว่าถ้าเราช่วยกันออกกฎควบคุมไม่ให้สองคนนั้นมีโอกาสกลั่นแกล้งคนอื่น อย่างน้อยคิดว่าคงช่วยแบ่งเบาความตึงเครียดภายในห้องเรียนไว้บ้าง ส่วนสองคนนั้นทะเลาะกันไว้ค่อยจับมาทำความเข้าใจกันทีหลังก็ได้ ผมว่าวิธีนี้ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่จะทำยังไงไม่ให้สองคนนั้นมากลั่นแกล้งพวกผมได้ล่ะ
------------------------
หลังจากแอบฟังมาพอสมควร ผมก็รีบผละออกมาก่อนที่ครูสองคนนั้นจะจับได้ ผมครุ่นคิดดูว่าต้นตอปัญหานี้ที่แท้แล้วคือสองคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แล้วทำไมเราไม่หาทางจัดการสองคนนั้นให้สิโรราบต่อพวกเรากันล่ะ พวกเราในห้องก็มีอยู่ตั้งหลายสิบคน คนแค่สองคนน่ะไม่เห็นจะจัดการยากตรงไหนถ้าเราร่วมมือกัน
ถ้าเราโค่นสองคนนั้นได้แล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะไม่มีใครมาทำตัวเป็นนักเลงคุมห้องอีก แต่มันก็เป็นไปได้ยาก ตราบใดที่มีคนแข็งแรงกว่า การข่มเหงกันก็คงจะเกิดขึ้นได้เสมอ แล้วเราจะทำอย่างไรดี
ผมครุ่นคิดเรื่องนี้ต่อจนถึงตอนกลับบ้าน ระหว่างเดินกลับบ้านผมเดินผ่านร้านของชำร้านใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของมนัส ในซุ้มต้นไม้อันร่มรื่นข้างๆร้านของมนัส ผมแอบมองเข้าไปเห็นมนัสนั่งกินโค้กคุยกับสมชายอยู่อย่างสนุกสนาน