เพื่อนโดนแกล้งทุกวัน เราช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำยังไงดี

เกริ่นก่อนนะคะเราเรียนอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เพื่อนเราคนนี้เรียนคนละห้องกับเราเป็นคนหน้าตาสวยแบบอินเตอร์สูงรูปร่างดี แต่ไม่ใช่พิมพ์นิยมเพราะมีผิวสีน้ำผึ้ง และมีผมหยิก เราสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้น2-3แล้ว แต่เนื่องด้วยอยู่คนละห้องจึงหาโอกาศเจอกันยากมาก พึ่งมาสนิทแบบนั่งกินข้าวด้วยกันก็ตอนเรียนมอปลาย แต่ก็ยังคงอยู่คนละห้องเหมือนเดิมแค่เจอกันบ่อยขึ้นเพราะเวลาว่างมีเยอะขึ้นและคาบเรียนก็ใกล้เคียงกัน เพื่อนเราคนนี้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก เรียนดี เป็นที่รักของครูอาจาร์ย(ขอใช้นามสมมุติ ป.) แต่ดันมาเจอปัญหาใหญ่เพราะเด็กผู้หญิงคนนึง นามสมมุติ น. นางคนนี้เริ่มกลั่นแกล้งเพื่อนเราตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกชั้นม.4เลย เหตุเพียงเพราะว่าเพื่อนเราไปบอกกับอาจาร์ยว่าคาบที่แล้วเรียนอาคารใกล้ๆกันนี้เองแต่พวกเด็กเกเรอย่างน. ดันไปบอกอาจาร์ยว่าเรียนไกลเลยมาสาย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้น.แกล้งป. และมันก็เริ่มจากการกลั่นแกล้งโดยการเดินชน ผลัก ใส่ร้ายป้ายสี พูดจาหยาบคายใส่ แขวะ แซะ ด่า ข่มขู่ วิจาร์ณรูปลักษณ์(ผมหยิก)ให้ป.รู้สึกเสียใจ เอาของไปซ่อนเช่นสมุด บางครั้งก็เตะรองเท้าของป. ครูที่ปรึกษาเคยเรียกไปพบแล้วและตัวน. เองก็พูดพร้อมกับรับปากว่าจะไม่ทำอีกแต่พอผ่านมาได้ไม่ถึง1วันก็กลับมากลั่นแกล้งเหมือนเดิม และเหมือนจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ พอขึ้นม.4เทอม2 น.เองก็ยังคงแกล้งป.ต่อไปจนป.ทนไม่ไหวนำไปปรึกษากับครูกิจการนักเรียน จึงได้มีการเรียกเข้าพบอีกครั้งและน.เองก็ทำเหมือนกับว่าตัวเองไม่ผิด และต่อหน้าครูน.เองก็ทำตัวเรียบร้อยและพยายามทำตัวให้ครูคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งขำๆของนักเรียนหญิงด้วยกัน พร้อมกับรับปากว่าจะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นและปรับตัวเข้าหาป. พร้อมทั้งตัวป.เองก็จะพยายามปรับตัวเข้าหาน. ซึ่งพอออกมาจากห้องกิจการได้นิดเดียวก็มีการพูดจาถากถางเหมือนเดิมทุกวันทั้งๆที่ตอนแรกก็รับปากกับครูไว้ซะดิบดี ป.เองก็เริ่มท้อใจที่จะปรับตัวเข้าหาน.จึงได้ปล่อยผ่านและอยู่กับเพื่อนผู้ชายแทนแต่ก็ไม่ได้สนิทมาก เพราะผู้หญิงในห้องเป็นพวกน.ไปซะหมดจึงไม่อาจสนิทกันได้ หลังจากนั้นน.ก็ยังแกล้งป.เรื่อยมารวมทั้งแซะป.ว่าอ่อยผู้ชายทั้งๆที่ป.อยู่กับพวกผู้ชายเพราะผู้หญิงเองก็นินทาป.ลับหลังเช่นกัน จนเริ่มมาหนักข้อช่วงม.5 ป.เองก็มาปรึกษาตัวจขกท.บ่อยๆบางครั้งก็มาเล่าวีรกรรมที่โดนน.กลั่นแกล้งให้จขกท.ฟังแทบทุกวัน จนตัวจขกท.เองก็คิดว่าแม่นี่มันอะไรนักหนากับเพื่อนฉันคิดเรื่องมาแกล้งมาแขวะได้ทุกวันไม่มีเหนื่อย แต่ตัวจขกท.เองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะอยู่คนละห้อง แม้จะได้รู้ว่าน.แกล้งป.มาจากตัวป.เอง และคนที่เห็นว่าป.โดนแกล้งมาเล่าให้จขกท.ฟังแต่ตัวเราเองก็ทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่เห็นว่าน.กลั่นแกล้งซึ่งๆหน้าจนเอาผิดได้ แม้บางครั้งจะเห็นแต่ก็ไปช่วยไม่ทันเพราะเป็นการแกล้งเล็กๆน้อยๆเท่านั้น และยังคงมีการเรียกน.ไปพบอยู่เรื่อยๆสาเหตุเพราะกลั่นแกล้งป.เองและบางครั้งน.เองก็ไปมีเรื่องเทลาะวิวาทกับคนอื่นค่อนข้างจะบ่อยหรือพฤติกรรมก้าวร้าวต่อครูอาจาร์ย จนตอนนี้มันหนักจนเราทนไม่ไหวเนื่องจาก น.ได้นำไฟแช็กมาจุดใกล้ๆกับใบหน้าป. ทั้งยังพ่นน้ำลายใส่หัวป.เวลาเดินผ่านทุกวันและพูดว่าป.สกปรก มีน้ำลายติดหัวทั้งๆที่ตนเป็นคนทำ อีกยังมีการขว้างปาก้อนหินใส่ป.จนมีรอยช้ำ เราเคยพูดกับป.หลายต่อหลายครั้งว่าให้ตอบโต้บ้างแต่ป.กลัวเรื่องบานปลายและไม่อยากมีประวัติไม่ดีติดตัวจึงได้แต่อดทน อีกทั้งทางบ้านและทางโรงเรียนเองก็บอกให้ตัวป.ไม่ต้องไปตอบโต้และอดทนป.จึงอดทนเรื่อยมา จนตอนนี้จากแค่การกลั่นแกล้งเล็กๆอย่างพูดจาเสียดสี เดินชน มันเริ่มลามมาเป็นการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ ซึ่งเราเองก็มองว่ามันผิดกฎหมายแล้ว ทำไมคนอื่นยังนิ่งเฉยไม่ยอมทำอะไรกัน ตัวเราเองก็อยากช่วยเพื่อนให้มากที่สุด โดยตอนนี้เรื่องเหล่านี้คุณแม่ของป.ได้นำมาบอกกล่าวและปรึกษาคณะครูแล้ว และทางครูฝ่ายกิจการเองก็ทราบเรื่องและจะเรียกน.มาพบในวันจันทร์ แต่เราเองก็กังวลว่ามันจะกลับมาเป็นแบบทุกทีอีก กลัวว่าน.จะไม่ยอมสำนึกผิดและยังทำตัวแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และเพื่อนเราก็ต้องทนไปเรื่อยๆ อยากจะทราบว่าจะมีทางไหนที่พอจะช่วยให้เพื่อนเราพ้นเรื่องแย่ๆแบบนี้ หรือทำให้น.เลิกทำตัวแบบนี้ซักที ทางครูเองก็ยังไม่เข้มงวดพอในความคิดเรา


ชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน
1. น.มีเพื่อนค่อนข้างเยอะและเป็นเด็กเกเร อีกทั้งแม่เป็นนักวิชาการจึงไม่ค่อยมีใครกล้าเถียงหรือตั้งตนค้าน
2. หากสงสัยทำไมไม่มีใครช่วย เพราะไม่ว่าใครต่างก็ไม่อยากลากตัวเองไปพัวพันเรื่องน่าปวดหัว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่