ตกลง..ผมต้องมีแฟนเป็นกระเทยจริงๆใช่มั้ยครับ แล้วผมจะทำยังไงดีถ้าพ่อแม่ผมถามเรื่องแฟนของผม??

กระทู้คำถาม
เรื่องมันยาวมากน่ะครับผมเลยขอเล่าแบบภาพรวมดีกว่า แต่ผมอยากให้อ่านให้จบก่อนแล้วทุกคนจะเข้าใจความรู้สึกของผมเอง
ก่อนอื่น..ผมขอแนะนำตัวก่อนน่ะครับ ปัจจุบัน ผมอายุ23 เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผมไม่ได้เป็นผู้ชายหน้าตาดี แต่ก็พอจะมีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตผมบ้าง เรื่องที่ผมจะเล่า..เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมจริงเมื่อ3ปีที่แล้ว แล้วผมกำลังลังเลที่จะตัดสินใจมาก
  ผมรู้จักกับกระเทยคนหนึ่งผ่านเฟสบุ๊กเมื่อสามปีก่อนตอนแรกผมไม่รู้หรอก ว่าเขาเป็นกระเทยเพราะว่าเขาสวยมาก เราคุยกันอยู่ประมาณเดือนกว่าๆเราถึงนัดเจอกันที่ต่างจังหวัดเพราะผมเป็นคนต่างจังหวัดผมเลยกะจะเปิดโรงแรมเพื่ออยู่กับเขา พอเจอกันผมก็แอบคิดๆว่าเขาสวยมาก แต่รู้สึกแปลกๆเพราะเขาไม่ค่อยคุย พอผมอยู่ใกล้ๆเขาผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ล่ะ ผมรู้แล้วว่าเขาเป็นกระเทย(จะว่าผมโง่ก็ได้น่ะครับ) เขาก็ถามผมว่ารังเกียจมั้ยที่เขาเป็นกระเทย ผมก็ตอบว่าเปล่า เพราะว่าตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมเริ่มคิดกับตัวเองว่านี่กูชอบกระเทยจริงๆหรอ พอไปถึงโรงแรมผกับเขาก็ล้มตัวลงเตียงเพราะความเหนื่อย ผมแอบมองเขาด้วยหางตา เขาหลับไปแล้ว ผมเลยนอนตะแคงเพื่อหันไปมองเขาชัดๆ ผมคิดในใจ"โคตรสวย" ซักพักเขาก็ลืมตา ผมตกใจมากแต่ผมก็ไม่ได่ล่ะสายตาจากเขา ไม่รู้น่ะครับจะว่าผมหน้าม่อก็ได้ตอนนั้นผมรู้สึกอยากมีอะไรกับเขามาก(ก็ผู้ชายอ่ะน่ะ 55) สุดท้ายผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้วก็ลงเอยด้วยเรื่องแบบนั้น!!ผมจะบอกว่าเขายัวไม่ได้แปลงเพศน่ะครับ แต่ ณ วินาทีนั้น ผมรู้สึกว่าผมอยากมีอะไรกับเขามาก มากซ่ะจนไม่สนว่าอะไรคืออะไร
หลังจากนั้นผมกับเขาก็ติดต่อกันบ้างไปมาหาสู่กันบ้าง ผมก็มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่น่ะครับ แล้วผมก็แอบคุยกับเขาด้วยเหมือนกัน แล้วก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องสอบเข้ามหาลัยซึ่งผมกัแอบหึงบเขาก็ปรึกษากันว่าจะเรียนที่ไหนยังไง สุดท้ายก็ตกลงว่าจะสอบที่มหาลัยแห่งหนึ่งแถวๆรังสิต เขาสอบติดแต่ผมนี่สิ 55 สอบไม่ติดครับ ผมก็เลยเลือกที่จะเรียนมหาลัยใกล้ๆซึ่งผมก็สอบติด สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเช่าหออยู่กับเขา เราอยู่ด้วยกันจะว่าแฟนก็ไม่ใช่อยู่กันในฐานะเพื่อนก็ไม่เชิง ตอนนั้นผมก็ยังคบกับแฟนผู้หญิงไปด้วยเหมือนกันแต่เขาไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ เราเลยห่างกัน
ผมบอกตรงๆยิ่งเขาใส่ชุดนักศึกษา(ผมลืมบอกไปว่าเขาจบจากสายอาชีพเขาเลยไว้ผมยาวได้ตั้งแต่เรียนปวช.เขาเลยสวยไงครับ 55)
เขาใส่ชุดนศ.แล้วสวยมากบางครั้งก็มีผู้ชายมาคุยกับเขาบ้างน่ะครับ บอกตรงๆผมชอบเขาน่ะครับแต่ไม่ได้แสดงออกอะไร เพราะผมก็มีแฟน(ใหม่)แล้วเหมือนกัน(เลิกกับคนที่ไปเรียนเชียงใหม่แล้วครับ) ผมก็เลยไม่ประสีประสาอะไรที่จะแสดงออกว่าหึงเขา แล้วมีอยู่ครั้งนึงผมป่วยครับ ป่วยจนลุกไปไหนไม่ได้ก็มีแต่เขานี่แหละครับ ที่ดูแลผมต้มโจ๊กให้เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้โดยไม่รังเกียจผมเลย ที่สำคัญแฟนผม(แฟนผู้หญิง)ไม่เคยมาสนใจผมเลยครับ ผมเลยคิดว่าเขาดีกับผมมากไปหรือเปล่าเพราะเขาไม่ไปเรียนแต่เอาเวลามาดูแลผมแทน(ผมเป็นคนดื้อครับ ไม่ชอบไปโรงบาล)ผมป่วยแบบนี้ประมาณสามวันครับเขาก็ไม่ไปเรียนผมสงสารเขาหว่ะจริงๆ ผมคิดกับตัวเองว่า”นี่ผมให้ความหวังเขาหรอ นี่ผมกำลังหลอกเขาอยู่หรือเปล่า”ซึ่งผมไม่ได้หลอกเอาเงินจากเขาเลยหน่ะครับ ค่าหอก็หารครึ่ง เงินก็ใช้ของตัวเองมาตลอดไม่เคยรบกวนเขาเลย
พอผมฟื้นไข้ผมกอดเขาครับ แล้วพูดว่า”ขอบคุณน่ะที่ดูแลเรา” ผมรู้สึกว่ากอดครั้งนี้ระหว่างผมกับเขาเป็นกอดที่อบอุ่นมากครับ ผมบอกตรงๆผมเริ่มรักเขาก็วันนี้แหละครับ หลังจากวันนั้นผมกับเขาไปไหนมาไหนด้วยกันผมจับมือเขาเดินห้างโดยไม่อายสายตาใครเลยครับ(ถึงจะมีคนมองบ้างก็เถอะก็ผมรักเขานี่นา) ผมคิดกับตัวเองว่าผมเริ่มสับสนกับตัวเองน่ะครับว่าผมชอบผู้หญิงไม่ใช่หรอแล้วผมมาชอบกะเทยคนนี้ได้ไง กับกระเทยคนอื่นคนอื่นผมก็เฉยๆน่ะครับ แต่กับเขาผมรู้สึกว่า..ผมรักเขาน่ะครับ หนึ่งปีผ่านไปสำหรับความรักระหว่างผมกับเขา!!วันครับรอบ ผมไม่ได้สนใจหรอกน่ะครับเพราะผมไม่ได้นับ แต่เขาสิครับ ซื้อของขวัญให้ผม ผมแกะดูผมก็ตกใจน่ะครับเพราะเป็นนาฬิกาข้อมือที่ผมอยากได้ ซึ่งราคาแพงมากก ผมยังเก็บเงินอยู่ แต่เขาก็ซื้อให้ผม ตอนแรกผมไม่เอาน่ะครับเพราะมันแพงอีกอย่างผมเป็นผู้ชาย มันน่าเกลียดน่ะผมว่า ที่ให้ผู้หญิง(เทียม)ซื้อของแพงๆให้ แต่สุดท้ายเขาก็คะยั้นคะยอจนผมตกลงใส่ให้ได้ ผมเลยคิดในใจว่าผมจะให้อะไรกับเขาดี สุดท้ายผมก็ตัดสินใจชวนเขาไปเที่ยวทะเลครับ โดยที่ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเลยครับ ผมเลือกหัวหินครับเพราะไม่ไกลจากกรุงเทพมาก อีกอย่างผมมีเวลาแค่สองสามวันที่จะพาเขาเที่ยวเพราะใกล้สอบล่ะ ผมเช่าบังกะโลที่นึงครับบรรยากาศดีมาก ผมกับเขาก็อยู่ที่หัวหินสองวันสามคืนโดยที่แอบมีเรื่องอย่างว่าบ้าง(ให้เป็นของขวัญเขาครับ 55 ผมทะลึ่งหรือเปล่าครับเนี่ย) พอเที่ยวเสร็จผมกับเขาก็กลับมาสอบต่างคนต่างสอบเพราะอยู่คนล่ะมหาลัย ปิดเทอมครับ!!ผมกับเขาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ผ ช่วงปิดเทอมสองผมกับเขาก็ถึงช่วงเวลาที่เกณฑ์ทหาร ผมผ่อนผันไว้ครับเพราะผมอยากเรียนให้จบก่อน ส่วนเขาผมก็โทรคุยกับเขาทุกวันผมรู้สึกคิดถึงเขามาก เพราะไม่ได้เจอกันมาหลายอาทิตย์แล้ว ผมเลยตัดสินใจไปหาเขาที่บ้านครับ ซึ่งผมไม่เคยไปบ้านเขาเลยเพราะอยู่คนละภาคเลยครับ บ้านผมอยู่อีสานแต่เขาเป็นคนเหนือ ตอนแรกเขาไม่ให้ไปน่ะครับเพราะมันไกลแต่สุดท้ายเขาก็แพ้ลูกอ้อนผมครับ 55 ผมนั่งรถทัวร์จากบ้านไปถึงบ้านเขาประมาณ9ชั่วโมงครับ นานมากกกก แต่ก็น่ะครับเพื่อไปหาคนที่ผมรักผมทนได้ พอไปถึงบ้านพ่อแม่เขาต้อนรับผมเป็นอย่างดีเพราะเขาบอกพ่อแม่เรื่องผมจะมาแล้วครับ อย่างแรกที่ผมอึ้งคือ!!อาหารเหนือครับ ผมกินไม่เป็น 55 แม่เขาก็แนะนำผมน่ะครับว่ากินแบบนั้นแบบนี้ ส่วนพ่อกับพี่ชายเขาไม่ค่อยจะชอบผมเท่าไหร่มั้งครับ เพราะไม่คุยกับผมเลย(ผมเพิ่งรู้ทีหลังว่า..พ่อกับพี่ชายเขากลัวผมมาหลอกเอาเงินหน่ะครับเลยไม่ค่อยชอบผม) แม่เขาดีกับผมมากครับ ผมรู้สึกประหม่าน่ะครับเวลาอยู่ต่อหน้าเขาและพี่ชายเขา แต่ผมก็ใจดีสู้เสื้อน่ะครับอาสาไปช่วยพ่อเขาทำงานโดยไม่รับค่าแรงเลยซักบาท จนสุดท้ายผมก็พิชิตใจพ่อเขาได้แล้วครับ ส่วนพี่ชายเขาหรอพ่อเขาไว้ใจผมพี่ชายเขาก็ไว้ใจผมเหมือนกันครับ
ถึงวันเกณฑ์ทหารผมไปส่งเขาครับไปพร้อมแม่เขาไปแต่เช้าเลย คนเยอะมาก!! เขาก็ไปต่อแถวเข้าคิวรอเรียกตัวระหว่างที่รอเรียกก็มีทหารหลายคนเข้ามาขอถ่ายรูปบ้างน่ะครับ ถามผมว่าผมหึงมั้ย”นิดนึงครับ 55” เขาไม่ได้จับใบดำใบแดงหรอกครับแค่ไปรายงานตัว เพราะเขาเป็นเพศที่สามและที่สำคัญเขามีหน้าอก!!ช่วงสงกรานต์ผมก็อยู่ที่บ้านเขาแหละครับทำงานกับพ่อเขาบ้างช่วยพี่เขาเลี้ยงลูกบ้าง ผมชอบครับชอบบรรยากาศที่เชียงรายทั้งประเพณีสงกรานต์ที่ผมไม่เคยเห็นและบรรยากาศการเล่นน้ำที่ต่างจากบ้านผมมาก
วันแห่นางนพมาศเขาถูกเรียกให้ไปถือป้ายซึ่งผมก็โดนเหมือนกันครับ ตอนแรกผมปฏิเสธเพราะไม่เคยและอายครับเพราะชุดที่ใส่ผมใส่แต่ท่อนล่างสิครับ55 แต่สุดท้ายผมก็ขอเดินคู่เขาดีกว่จะได้สบายใจ มีผู้หญิงมาขอถ่ายรูปคู่ผมบ้างน่ะครับทั้งผมสั้นทรงหนูหิ่น และเด็กม.ปลายน่ารักๆครับ(แอบชอบน้องคนนึงครับน่ารักมาก)
พอผ่านวันสงกรานต์ไปผมก็อยู่ที่เหนือจนเปิดเทอมเลย โดยผมไม่ได้กลับบ้านเลยครับ
เปิดเทอมผมกับเขาก็กลับมากรุงเทพด้วยกันขึ้นปีสองแล้ว โตเป็นหนุ่มแล้วครับผม ผมมีโอกาสได้เจอผู้หญิงคนนึงซึ่งผมก็เผลอใจแอบไปคบกับผู้หญิงคนนั้นโดยที่เขาไม่รู้ผมนอกใจเขาได้ประมาณสี่เดือนกว่าๆครับ เขาจับได้ครับเพราะเขาเห็นผมเดินจตุจักรกับผู้หญิงคนนั้น ผมอึ้งครับที่เจอเขา เขาไม่พูดอะไรเลยครับแต่ผมสังเกตุเห็นตาเขา ตาเขาแดงๆผมคิดว่าเขากำลังจะร้องไห้ เขาเดินหนีผมผมไม่รู้จะทำยังไงดี คนนั้นก็แฟนคนนี้ก็แฟน ผมก็เลยพยายามทำตัวปกติเดินกับผู้หญิงของผมเรื่อยๆจนถึงเวลากลับหอ ในใจผมคิดน่ะครับผมผิดมากแต่ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยทำตัวปกติไว้ก่อน พอกลับหอห้องผมว่งเปล่าครับ  เขาไม่อยู่เสื้อผ้าก็ไม่อยู่ ผมตกใจมากครับ!!เขาหนีไปไหน ไปยังไง ไปอยู่กับใคร คำถามเหล่านี้วนอยู่ในสมองผมตลอดเวลา สิ่งแรกที่ผมทำได้คือโทรหาเขาแต่เขาไม่รับ!!แล้วก็ปิดเครื่องใส่ผมเฉยเลย ผมก็เลยโทรหาเพื่อนเขาครับโทรหาลายคนมากแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ไหน ผมกดโทรศัพท์ไปเรื่อยจนไปเจอเบอร์แม่เขา ผมเลยตัดสินใจโทรไปครับ โทรไปถามว่าพอจะรู้บ้างมั้ยว่าเขาพอจะอยู่ไหนได้บ้างในกรุงเทพ แม่เขาเลยให้เบอร์น้าของเขามาให้ผมโทรถามเองแถมทิ้งท้ายไว้ว่า"อย่าทำให้ลูกสาวแม่เสียใจน่ะ"ผมรู้เลยครับว่าแม่เขาพอจะเดาออกว่าผมกับเขาทะเลาะกัน
ผมโทรไปตามเบอร์ที่แม่ให้มา ใช่ครับเขาอยู่ที่นั่นจริงๆ ผมไม่สนครับเสื้อผ้าก็ไม่เอาไป นั่งแท็กซี่จากหอไปบ้านซึ่งตอนนั้นดึกมากรถตู้รถเมย์ก็ไม่มี(ค่าแท็กซี่ปาไปเกือบ800เลยครับ) ผมไปถึงแถวๆบ้านน้าเขาไม่มีคนเลยครับผมเลยโทรหาน้าเขาน้าเขาก็บอกทางผมผมนั่งแท็กซี่ต่อเข้าไปอีก ก็ถึงบ้านน้าเขา ผมไหว้น้าเขาแล้วก็ถามหาเขา น้าเขาก็บอกว่าอยู่หลังบ้าน ผมเดินไปหลังบ้านผทเห็นเขานั่งหั่นหมูอยู่ ผมไม่สนครับผมเดินไปกอดเขาจากข้างหลัง ผมร้องไห้ครับ!!นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำตาจากลูกผู้ชายของผมไหลออกมา(ผมไม่เคยร้องไห้เรื่องผู้หญิง(เทียม)เลยครับ)เขาตบหน้าผม ผมหน้าชาครับแต่ผมไม่ตอบโต้ ก็ผมผิดนี่ครับ ผมพูดกับ"เค้ายอมตัวเองทุกอย่าง เค้าผิดเอง ตัวเองจะทำอะไรเค้าก็ได้ จะตบจะดีก็ได้ขอแค่ตัวเองหายโกรษเค้า เค้าสัญญาว่าเค้าจะไม่ทำแบบนี้อีก"ผมจำประโยคนี้ได้ขึ้นใจผมพูดทั้งน้ำตา เขาก็ร้องไห้ครับ เอามื้อมาลูบแก้มผมแล้วถามผมว่าเจ็บมั้ย ผมส่ายหัวครับเพราะผมพูดไม่ออก เขาก็เหมือนจะร้องไห้น่ะครับเพราะเสียงเขาสั่น เขากอดผมแล้วบอกผมว่าไม่เป็นไรหรอก เขาเข้าใจว่าผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย ไม่ได้คู่กับกระเทยอย่างเขา ผมได้ยินคำนี้ผมใจแป้วเลยครับผมกลัวเขาเลิกกับผม ผมเลยพูดไปว่า"เค้าไม่เคยมองตัวเองเป็นกระเทยเลยน่ะ เค้ามองตัวเองเป็นผู้หญิงคนนึงมาตลอด คืนดีกับเค้าน่ะ ให้อภัยเค้าน่ะ" เขากอดผมแน่นแล้วลูบหัวผมแล้วบอกผมว่า"อื้ม" ถึงแม้จะเป็นคำสั้นแต่ผมรู้สึกว่าเป็นคำที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก สรุปคือคืนนั้นผมก็นอนบ้านน้าเขา หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยคิดนอกใจเขาอีกเลย
ครบรอบสองปี รอบนี้ผมไม่ลืมครับ ผมพาเขาไปไหว้พระที่อยุธยาครับนั่งรถตู้จากหน้าฟิวเจอร์ไปไปถึงผมก็เหมาตุ๊กๆครับจะได้สะดวก พาเขาไหว้พระหลายวัดมากครับ วันนั้นผมมีความสุขมาก ผมไม่อายสายตาคนมองเลยครับเพราะถึงแม้แฟนผมจะเป็นกระเทยแต่เขาก็ดีกับผมมากครับ ทั้งช่วยติวข้อสอบ ทำกับข้าวให้ผมกิน ดูแลผมเวลาผมป่วย อีกทั้งยังไม่เคยนอกใจผมเลยครับถึงแม้จะมีผู้ชายเข้ามาคุยมาจีบเขาบ้างแต่เขาก็ไม่นอกใจผมเลยครับ(อันนี้ผมก็สืบๆเอาเองบ้าง..ก็ผมหึงเขานี่ครับ)
จนปัจจุบันนี้ผมกับเขาก็คบกันได้สองปีเกือบสามปีแล้วครับ อาทิตย์ก่อนผมก็เพิ่งชวนเขาไปดูบาซ่ามา เขาเป็นคนไม่ชอบดูบอลน่ะครับ แต่ผมก็คะยั้ยคะยอให้เขาไป เพราะเพื่อนผมไม่ว่างไปเป็นเพื่อนผมเลยผมซื้อบัตรใบละ1000ไว้สองใบ(ผมกะจะชวนเขาไปด้วยอยู่แล้วหล่ะ) สุดท้ายเขาก็ยอมไปกับผม พอไปถึงสนามราชมังคลาคนเยอะมากครับผมกับเขาก็เดินหาที่นั่งกันแล้วก็มีฝรั่งเข้ามานั่งข้างๆข้าง น่าจะถามทางถามอะไรมั้งครับ ผมไม่รู้เรื่องหรอกเพราะผมโง่ภาษาก็เลยนั่งเฉยๆ ผมรู้สึกว่าเขาคุยกันนานไปล่ะผมรู้สึกอารมณ์ไม่ดีแปลกๆ แล้วเขาก็หันมาถามผมว่าฝรั่งคนนั้นขอเฟสเขา ผมก็ไม่รู้สิก็เลยตอบเขาไปว่า"ตามใจ"ทั้งๆที่ในใจผมคิดว่า"อย่าให้กูจับได้น่ะว่าแอบคบกันไม่งั้นผมเอาตาย 55" ซักพักผมเริ่มรู้สึกว่าคุยกันนานไปแล้วหล่ะแต่ผมไม่ได้แสดงอาการน่ะ ผมเลยชวนเขาไปเดินหาของกิน แล้วถึงเวลาก็เขาดูบอลจนจบเกมส์ล่ะครับ
*จนถึงวันนี้ผมมีปัญหาอยู่ข้อนึงที่จะถามเพื่อนๆชาวพันทิป พ่อแม่ผมโทรมาถามเรื่องราวระหว่างผมกับเขาเพราะมีคนปากไม่ดี(เพื่อนผมบางคน)ไปบอกพ่อกับแม่ของผมเรื่องผมกับเขา ผมจะทำยังไงดีครับ ผมรักเขาแต่ผมไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ ผมจะทำยังไงดีครับ
ปล.จะเกินกำนดตัวอักษรแล้ว ว่างๆผมจะเข้ามาเล่าเรื่องราวของผมกับเขาให้ฟังน่ะครับ ถ้าทุกคนอยากรู้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
แนะนำว่า ตอนนี้ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ อย่าเพิ่งใจร้อนบอกความจริง
ชีวิตยังอีกยาวไกล รอให้ทำงานซักหน่อย ให้พ่อแม่เห็นว่าเรารับผิดชอบดูแลตัวเองได้ก่อน
และรอให้น้องมั่นใจในความรักของตัวเองก่อนจริงๆ ว่ามันจะมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง
พ่อแม่ส่วนมากรับไม่ได้ในทันทีอยู่แล้ว ต้องมีเสียใจบ้างแน่นอน มากน้อยต่างกัน
แต่ถ้าน้องมั่นคงพอ ซักวันนึงเค้าจะเข้าใจ

ตอนนี้ถ้าจำเป็นให้พาไปแนะนำแบบเพื่อนค่ะ ถึงมันจะดูแปลกซักหน่อย
คุยกะแฟนให้เข้าใจก่อนว่าต่อหน้าพ่อแม่ขอให้เป็นแค่เพื่อนสนิท
ถ้ารักกันจริง เรื่องแบบนี้น่าจะเข้าใจ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
หลายคนจะเข้าใจผิดว่า
ผู้ชายไปรักกะเทยแล้วเป็นเกย์
ไม่ใช่นะ เค้าก็ยังเป็นผู้ชายตามเดิม
เพราะเค้ารักที่ความสวย ความเป็นผู้หญิงของกะเทยคนนั้น
เค้าไม่ได้ชอบผู้ชาย เค้าไม่ได้ชอบหรรมซักหน่อย
ความคิดเห็นที่ 6
สมัยนี้อะไรอะไรก็เป็นไปได้ ขอให้ก้าวผ่านความรู้สึกนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว และไม่ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้ยังไงก็ตามคุณเท่านั้นจะต้องรับผลแห่งการตัดสินใจไปตลอดชีวิต ผมก็เป็นคนหนึ่งที่คิดว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่ความรักระหว่างชายกับหญิง เพราะความรักไม่เคยเลือกเพศ แต่มนุษย์ต่างหากที่ตั้งบรรทัดฐานเองว่าความรักแบบชู้สาวต้องเป็นความรักของชายและหญิงถึงจะปรกติ ซึ่งแท้จริงแล้ว เนื้อหา แก่นแท้ สาระ หรือนิยามของความรักแท้ก็ยังไม่เคยมีใครตั้งขึ้นมาให้เป็นที่ยอมรับได้สักที ดังนั้น ถ้าวัดตามความรู้สึก ถ้ารู้สึกได้ว่าเป็นความรัก ไม่ว่าจะเพศไหนรักกับเพศไหน ความรักก็ไม่ได้ต่างกันเลย (ทั้งหมดคือความรู้สึกและความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้ามีความเห็นต่างขอรับฟังจากนี้อย่างเต็มใจยิ่ง)
ความคิดเห็นที่ 68
ของกรณีลูกพี่ลูกน้องของผมที่เป็นเกย์นะครับ ใช้วิธีถามพ่อกับแม่ของแกแบบอ้อมๆ (ทางครอบครัวแฟนแกรับรู้)
คือ แกนั่งดูทีวีกับพ่อ-แม่ของแก(น้าชายกับน้าสะใภ้ผม) แล้วมันเข้าทางพอดีฉากในหนังเรื่องไรไม่รุจำไม่ได้ ที่มีฉากเรื่องราวคู่รักที่เป็นเกย์ แล้วแกถามพ่อกับแม่ของแกว่า
"แม่ว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องปกติแล้วไหมละ ผู้ชายมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน..."
แม่แกตอบว่า "ก็สังคมยอมรับนี่ถ้าเค้าเป็นคนดีและรักกันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน"
คำตอบพ่อของแกนี่สิครับ เราเงียบกันหมดเลย "ถ้าเป็นลูกกู ได้คุยกันยาวๆแน่ ฮึ"
หลังจากนั้นแกก็แอบบอกกับแม่ของแกก่อน แม่แกก็อึ้งไปพักใหญ่ๆ ก็ถามแกกลับว่าลูกแน่ใจว่ารักเค้าจริงๆและเป็นแบบนี้จริงๆนะ แกก็รับ และแม่แกบอกว่าจะหาทางคุยกับน้าชายให้
แล้ววันนึงแกรวบรวมความกล้าพาแฟนมาที่บ้าน โดยที่น้าสะใภ้ลากผมไปด้วย เอาไว้ช่วยห้ามน้าชาย ถ้าเกิดแกอาละวาดขึ้นมา
ตอนมาถึงบ้านแล้วเข้าไปในบ้าน แม่แกออกมารับก่อน พ่อแกก็ต้อนรับอย่างดีแล้วก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ โดยตอนนั้นยังคิดว่าเป็นเพื่อนสนิท
แล้วทีนี้ก็เข้าเรื่อง แกถอนหายใจเฮือกใหญ่เลยครับ 5555 บอกกับพ่อแกด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
"พ่อครับ ผมเป็นเกย์นะ ผมชอบผู้ชาย และ...(ชื่อแฟนแก)ก็เป็นแฟนผม เราสองคนรักกัน..." ตอนนั้นแฟนแกก็ไหว้อีกครั้งเหมือนเป็นการแนะนำตัวในสถานะใหม่ ด้วยความสั่นไปทั้งตัว 555555
น้าชายใบ้รับ'ทานไปพักใหญ่เลยครับ นั่งลูบเคราพร้อมถอนหายใจ สักพักนึงก็เอ่ยปากพูดที่จะไม่มีใครตรงนั้นลืมแน่ๆ
"แล้วตกลงใครเป็นผัวเป็นเมียกันละเนี่ย"
ประโยคนี้เล่นเอาพวกเรามองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความงงปนเสียงหัวเราะ ว่าแกจะมารูปแบบไหน สักพักแกก็พูดว่า
"ก็ดีสิ มาเป็นลูกชายพ่อกับแม่อีกคนนะ"
แกพูดทั้งน้ำตา พร้อมเรียกลูกกับแฟนไปกอด ผมก็เดินออกมาปล่อยให้เค้าอยู่กันแบบครอบครัว
หลายวันหลังจากแกกับแฟนกลับไปทำงาน น้าชายก็เรียกผมไปถามว่ารู้เห็นเรื่องที่เค้ามาคุยใช่ไหม ผมก็รับแต่โดยดี โดนแกชำระโทษด้วยการเลี้ยงเหล้า เล่นเอาผมงอมพระรามเลย 555555 แกก็คุยเปิดอกว่าทีแรกก็ก็ทำใจไม่ค่อยได้หรอก แต่ทำไงละก็ลูกเป็นแบบนี้ก็ต้องเข้าใจและยอมรับ เพราะคิดว่าเค้าก้เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่แล้ว งานการก็ดี และรักกันจริงถึงได้กล้ามาคุย
ผมว่าการคุยกับแม่น่าจะง่ายกว่าการคุยกับพ่อในเรื่องแบบนี้ ทางที่ดีถ้าคุยกับแม่ก่อนได้นี่ ปัญหาจะโล่งไปเยอะแน่ๆ
ทางที่ดีอย่าเพิ่งคุยแบบตรงๆ ใช้วิธีถามความเห็นจะดีกว่าครับ ดูว่าแกคิดเห็นยังไงจะแก้ไขง่ายกว่านะครับ
ความคิดเห็นที่ 1
กลับมาเคลียร์เรื่องก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ! Mr.H งง //ตาลาย

.

ความคิดเห็นที่ 20
ผมขอบคุณทุกๆคำแนะนำเลยน่ะครับ..หลังจากที่ผมอ่านคำแนะนำของทุกคนแล้ว ผมพอจะตัดสินใจได้ว่า

ผมจะกลับบ้านเสาร์นี้แล้วไปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ผมฟังก่อน แล้วดูว่าพ่อแม่ผมจะมีความรู้สึกลบหรือบวก

ถ้าพ่อแม่ผมโอเคกับความรู้สึกผม ผมจะพาเขาไปแนะนำพ่อแม่ผมครับ ไม่อาทิตย์หน้าก็สิ้นเดือน

แต่ถ้าพ่อแม่ผมไม่โอเค ผมก็จะหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน(หมายถึงว่า..หยุดพูดเรื่องผมกับเขาให้พ่อแม่ฟังแต่ก็ยังคบเขาต่อน่ะครับ)แล้วพอผมพร้อมหรือถึง

เวลาไม่ก็อีกปีกว่าๆที่ผมจะเรียนจบ ผมค่อยกลับไปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ฟังอีกที

ทุกคนคิดว่าผมทำถูกหรือเปล่าครับ..ผมไม่ได้ทำร้ายจิตใจเขาและไม่ได้ทำร้ายจิตใจพ่อแม่ผมใช่มั้ยครับ

ผมขอเวลารวบรวมความกล้าอีกสองวันครับ..แล้วผมจะกลับบ้านไปคุยกับพ่อแม่ผมด้วยตัวเอง

ขอบคุณทุกๆคำแนะนำอีกครั้งน่ะครับ ขอบคุณมากๆจริงๆ

*เรื่องราวเป็นยังไงเดี๋ยวไม่วันเสาร์วันอาทิตย์ผมจะมาเล่าให้ฟังน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่