กู้ 2 ล้านล้าน ภาระหนี้ท่วมหัวคนไทย 5 ล้านล้าน (จริงหรือ)

กระทู้สนทนา
อ้างอิง:
กู้ 2 ล้านล้าน ภาระหนี้ท่วมหัวคนไทย 5 ล้านล้าน น้อยเกินจริง !!
http://www.naewna.com/politic/columnist/6006

จากกระทู้เดิมเรื่อง หนี้สาธารณะ รัฐเป็นคนจ่ายไม่ใช่ประชาชน จนถึงกระทู้โพล ที่หลายๆคนให้ความร่วมมือ จึงต้องขอขอบคุณ มา ณ โอกาสนี้ด้วย

มาว่ากันต่อ จากความเห็นของคุณ แมกดี



ความคิดเห็นที่ 15
ตอนนี้เราเป็นหนี้ 5ล้านล้านหรือ41%
2ล้านล้าน. จะถูกใช้หรือมีการประมูลแน่นอนภายในสองปี. หรือหนี้60%ของgdp
(ยังไม่รวมหนี้รัฐวิสาหกิจ+ธนาคารแห่งประเทศไทย. กองฟื้นฟู)





คือไม่ได้มองหาความชอบธรรมให้กับการกู้ 2.2 ลล บาทนะคะ
เพียงแต่กำลังคิดว่า การคำนวณหนี้สาธารณครั้งนี้ มันเกินจริงหรือไม่
เพราะเราต่างรู้กันดีอยู่ว่า หากกู้มากเกินไปมันไม่ดีอยู่แล้ว ใครๆ ก็ไม่อยากทำ
แต่เราต้องมีหลักการ ปรากฏชัดเจนว่า การเป็นหนี้นั้น มีความเสี่ยง ที่ไม่น่าลงทุนจริงๆ หรือเปล่า


การคำนวนหนี้สาธารณ
บอกไปแล้วว่า 2.2 ลล เป็นวงเงิน
คำว่า วงเงินนั้นคืออะไร ทำไม ต้องยื่นของเป็นวงเงิน เท่านี้
(ทั้งหมดนี้ เป็นวิจารณญาณของตัวเอง ไม่มีอ้างอิงจากที่ไหน หากจะขอหลักฐานคงไม่มีให้ แต่ถ้าจะถกกันว่า ผิดพลาดตรงไหนก็ยินดีค่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การเสนอโครงการเพื่อเสนอความเห็นชอบต่อที่ประชุม ไม่แปลก ที่ต้องบอกยอดวงเงินทั้งหมดที่ต้องใช้ตลอดโครงการ  
โครงการนี้ ต้องใช้เงินเป็นจำนวน 2.2 ลล บาท(เหลือ 2ลล บาท ตอนเสนอ) ก็ต้องทำเรื่องยื่นไปเท่านี้
เพื่อเป็นข้อผู้มัดกับ รัฐบาลว่า กำลังจะเป็นหนี้ 2.2 ลล บาทแล้วนะ เป้นโครงการต่อเนื่อง ไปอีก 10 สมัย (ก็ว่ากันไป)

แต่ในการกู้เงินจริงๆนั้น ไม่ได้กู้ที่เดียวทั้ง 2.2 ลล บาท ณ ปีแรก เช่น
หากต้องการปรับปรุงพื้นถนนทางหลวง 3 พันกว่าล้าน รฐ. ก็ต้องทำสัญญากู้เงินไป 3พันกว่าล้านบาท
และเป็นหนี้ผู้พันไปกี่ปีๆๆ กว่าจะใช้หมด ก็ว่า ไป สมมุติ 5 ปี (ทำถนนจริง ก็ 3 ปี ไปแล้วอย่างน้อย)
เพราะฉนั้นดอกเบี้ยงเงินกู้ จะคิดแค่ 3พันกว่าล้านเท่านั้น ไม่ใช่ที่ 2.2 ลล

แต่ณ ขณะหนึ่ง คงไม่ได้ทำแค่โปรเจคเดียว ขณะทำถนน ก็ทำรางรถไฟร่วมด้วยไปด้วยกัน ก็ได้
หากคิดเป็นจำนวน 6หมื่นล้าน ก็ว่ากันไป ตามนั้น
ซึ่ง ใน 1-5 ปีแรก เงินกู้ที่ทำจริง อาจจะแค่ 1ลล บาทเท่านั้น (หรือมากกว่านั้น)

ฉนั้น ต่อกราฟตัวนี้

จึงอาจต้องหมายเหตุไว้ด้วยว่า เป็น worst case ถ้ารบ. เกิด กู้ เพื่อทำทุกโครงงาน ในแผนงานนี้ พร้อมกัน


ต่อประเด็น %หนี้สาธารณะ ต่อ GDP

หากมองว่า ไม่ควรมีหนี้สาธารณะไม่เกิน 50%/GDP ต้องถามว่า
การที่คุณ แมกดีบอกว่า

ความคิดเห็นที่ 63
จากคห27.  รัฐบาลไทยมีหนี้อยู่5ล้านล้านบาท(ยังไม่รวมหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย. รัฐวิสาหกิจ)
                 มีการควบคุมหนี้สาธารณะ. แต่รัฐบาลหลีกเลี่ยงด้วยการออกพรก
                 รัฐบาลมีปัญหาเรื่องการควบคุมเพดานหนี้ซึี่งยังไม่ออกเป็นกฏหมาย(ตอนนี้41)
                 ซึ่งเหมือนกับรัฐบาลสหรัฐที่ควบคุมที่50%. หรือรัฐดีทอยที่ยื่นล้มละลายอยู่

แต่ความจริงประเทศไทยจะมีหนี้. 60%ในปี56
                                            70%ในปี59(ธนาคารแห่งประเทศไทย)

แมกดี  


(ขอตัดตอนมา ใครอยากอ่านของเต็มเชิญกระทู้เดิมนะคะ http://pantip.com/topic/30745352/comment63
คือไม่ทราบว่า คุณแมกดีใช้ตัวเลขไหนถึงออกมาเป็น 60%ได้ เลยคิดประเมินเอาว่าเป็นตัวเลขเดียวกับที่ทีมงานคุณกรณ์ลงไว้)

จึงขอบอกว่า เป็นตัวเลขที่ไม่ถูกต้องค่ะ เพราะ 60-70%นี้ คิดที่ 2.2 ลล บาทตั้งแต่วันแรก
"และ" คิดจาก GDP เดิมเท่าตัวตลอด ไม่มีการเพิ่มขึ้น

หากมองในแง่ดีว่า การกู้เป็นไปอย่างค่อยๆ ไป หรือ GDP เติบโตอย่างเป็นขั้นตอน (ซึ่งก็คงยากแหละข้อนี้)
ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า % ของหนี้สาธารณ ต่อ GDP จะไม่สูงถุง 70%



ซึ่ง ตัวคุณกรณ์เอง ก็ได้เห็นนัยตรงนี้ จึงได้มีข้อเสนอที่ 7 ตามลิงค์ ว่า

7.รัฐบาลได้อ้างว่า ถึงแม้จะกู้ยืมเงิน 2 ล้านล้านบาท สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศจะไม่สูงกว่า 50% เราจึงขอให้กำหนดเป็นเงื่อนไขในกฎหมายว่า ถ้าหนี้ของประเทศสูงกว่า 50% ของ GDP เมื่อใด ให้พ.ร.บ. เป็นโมฆะทันที เราจะได้จำกัดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจได้

ซึ่ง วิธีนี้ ก็อาจจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ว่า จะไม่เป็นหนี้ ที่ไม่คุ้มต่อการลงทุน


จบข่าว.. เชิญเสวนา..
อมยิ้ม29

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่