สวัสดีค่ะ พอดีวันนี้เจ้าของกระทู้ได้เข้าเว็บไซต์ที่วัยรุ่นนิยมเล่นกันค่ะ แล้วเจอบทความนี้ โดนใจเราดี และเราเห็นว่าเรื่องประเภทนี้ อ่านแล้วรู้สึกได้คิดเยอะดี เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนอะไรไว้หลาย ๆ อย่างของวัยรุ่นไทยในยุควัตถุนิยมแบบนี้ เอามาแชร์ไว้ให้ได้อ่านกันค่ะ
สวัสดีครับ คืออยากจะให้อ่านนะ คือกระผมจะมาบ่นหน่อยดิ คือกลับไทยมาไม่นานเจออะไรแบบนี้ที่ไทยแล้วแบบอยากบินไปนอกโลกเลย ไหนจะต้องแบ่งยูสกับน้องเล่นอีกมันจะอะไรนักหนาวุ๊ ข้ามชอตนี้ไป
คือนานๆทีจะกลับบ้าน แล้วบ้านผมอยู่กัน 3 คน แม่ไปราชการต่างจังหวัดอยู่กับน้องสองคนแล้วน้องกดเปิดเฟสรูปเพื่อนในห้องให้ดูว่าคนนี้รวยมากเลย ใช้น้ำหอมดัง ๆ จาก ฝรั่งเศส (เศษฝรั่ง) แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ เก๋ ใช้แบรนด์ดัง ต่างๆ เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นว่าเล่น ถือจาคอป ใช้พราด้า เยอะแยะมากที่น้องพร่ำให้ฟัง และที่แค้นใจคือน้องบอกว่าเมื่อไหร่เราจะมีบุญวาสนาได้รวยแบบนั้นบ้างอยากใช้พราด่า กระเป๋าอันนี้ใช้มาหลายปีแล้ว ผมก็เลยย้อนถามไปว่า แล้วกีลาโรสที่แกกับพี่ใช้มันไม่ใช้ของฝรั่งเศษหรอถึงราคามันแค่พันกว่าบาทแต่เราใช้มาหลายปี พี่ใช้มาตั้งแต่ม.1 เป็นของขวัญปีใหม่ที่ป๊าซื้อให้ไม่ภูมิใจหรอ
ก็เพราะ น้ำหอมดัง ๆ จากยุโรปหรือฝรั่งเศส แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ ทำให้คนในสังคมมีค่านิยมรักสวยรักงาม มากกว่าที่จะดูกันที่คุณสมบัติภายใน ความดี กิริยามารยาท หน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ หรอครับ ไมเข้าใจผู้หญิงไทยบางคนนะ เมื่อวานไปธนาคารเอาเงินเข้า แล้วธนาคารเงียบมาก วัยรุ่นผู้หญิงกลุ่มนึงเข้ามาคุยเสียงดังแอะอะโวยวาย ทำตัวเหมือนคนเรียกร้องความสนใจ แต่ใช้ของแบรนแต่งตัวดี คนในธนาคารก็เยอะแต่เค้านั่งเงียบกันได้แล้วผู้หญิงกลุ่มนี้มารอคิวข้างหลังผมเลย น่ารำคาณมาก บ่นเรื่องคิวยาว แล้วมองหน้าผมด้วยสายตาเหยียดๆ เพราะผมใส่กางเกงบอลกับเสื่อยืดธรรมดา คีบแตะมา พอผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาน้องว่าให้ต้มโจ๊กเผื่อพี่ด้วย พวกเขาก็มองโทรศัพท์ผม แล้วคุณรู้ไหมว่าพอถึงคิวผมพอผมลุกไปทำธุระ พอทำเสร็จสวนกลับกลุ่มนั้นเขาซุบซิบกันดังว่า "ผู้ชายคนนั้นใช้แค่ไอโฟนเน่าๆ แต่งตัวแบบนี้ยังกล้ามาเดินห้าง " คือเขาจงใจว่าผมรึไงไม่รู้นะแต่ได้ยินเลย และคิดว่าเค้าว่าผมด้วย ทำไมหรอครับการที่ผมใช้ไอโฟน4 ใช้มานานละ ตอนนี้ยังนึกเสียดายเลยว่าไม่น่าซื้อมามันสิ้นเปลือง เพิ่งรู้คุณค่าของเงินเอาตอนที่ไปเรียนนอก เพิ่งรู้ค่าของเงินเอาตอนบ้านติดหนี้หลายล้าน และไอโฟนผมหน้าจอแตกเพราะทำตกปีที่แล้ว แต่ก็ยังใช้อยู่มันเน่าก็จริงแต่ถ้ามันพังผมจะใช้โนเกียละ ทำไมหรอครับ มารยาทไม่มีหรอ คนทุกคนเท่าเทียมกันหนิไม่ว่ารวยหรือจนก็คนเหมือนกัน ทำไมอะครับมีสิทธอะไรมาวิจารณ์คนอื่นจากภายนอก หรือว่าเพราะ
ด้วยกระแสบริโภคนิยม และการวัดค่าของคนจากวัตถุของสังคมไทยในยุคปัจจุบันนี้ คงไม่แปลกที่สินค้ามียี่ห้อ ราคาแพง และได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ ที่รู้จักกันในนามสินค้า “แบรนด์เนม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างโทรศัพท์มือถือนั้น จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของใครหลายๆ คน มากกว่าการเป็นสิ่งของเครื่องใช้ หากยังเป็นเครื่องวัดความมั่งมี วัดความดีงาม ความน่าเคารพ สรรเสริญของคนในสังคม สิ่งนี้ถือเป็นวิกฤติทางจิตใจ
นั่นเพราะทุกวันนี้ คนในสังคมต่างยึดติดอยู่กับค่านิยมทางวัตถุ “มีเงินเขานับเป็นน้อง มีทองเขานับเป็นพี่” คนดีไม่มีบทบาท ขาดโอกาสทำประโยชน์เพื่อสังคม เลือกมองคนจากวัตถุมากกว่าจิตใจ จึงเป็นเหตุให้หลายๆ คนที่ขาดสติความยั้งคิด เลือกเดินตามทางผิด ดิ้นรนแสวงหาข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง เพียงเพื่อความภาคภูมิใจในการได้ครอบครอง ได้โอ้อวด โดยไม่เลือกวิธีการในการแสวงหาสิ่งเหล่านั้น ดังที่เป็นข่าวออกสื่อกันได้แทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาสาวขายบริการทางเพศ การฉกชิงวิ่งราวจนบานปลายถึงขั้นการปล้นธนาคาร
อย่าคิดว่าชาวต่างชาติมองว่าประเทศไทยดีข่าวพวกนี้ถูกแปลลงเว็บเยอะมาก เพื่อนที่มาเลย์เขาก็บอกกันว่า วัยรุ่นไทยที่รวย พ่อแม่ คุณทำงานใหญ่โต นักการเมือง นักธุรกิจส่งลุกมาใช้เงินนั้น เค้าคิดว่า พ่อแม่คุณคอรัปชั่น และคุณทำตัว ไร้สาระ ส่วนในครอบครัวที่มีฐานะ การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปกับข้าวของที่เรียกได้ว่าไม่ได้มีความจำเป็นต่อปัจจัยในการดำรงชีวิตเหล่านี้ จะยิ่งพอกพูนนิสัยแห่งความฟุ่มเฟือยใช้เงินแลกความสุข จากการได้เดินชอปปิงและมีของใช้ราคาแพงไว้โอ้อวดซึ่งกันและกัน ใครที่ไม่มีเมื่อเห็นคนอื่นมี แล้วหลงคิดไปว่าการมีบ้างถือเป็นสิ่งที่ดี ก็จะเป็นทุกข์ เป็นร้อน และเข้าสู่วังวนแห่งการกระทำความผิดเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของที่เรียกกันว่า แบรนด์เนม ที่สมมติกันไปว่าเป็นของมีค่า เป็นเครื่องตีตราความดีงามของคนในสังคมได้หรอครับ
การยกย่องความดีให้มีอิทธิพลเหนือเงินในทุกวันนี้ เหมือนเป็นคำพูดนามธรรม ยากต่อการทำแต่ก็ใช้ว่าจะไม่สามารถทำอะไรให้ดีขึ้นได้เลย เพียงแต่ต้องเริ่มต้น ปลูกฝังค่านิยมกันเสียใหม่ เลือกให้ความสำคัญกับวัตถุ เลิกยึดติดสินค้าแบรนด์เนมที่เกินความจำเป็น หากนึกภาพอะไรไม่ออก ขอให้มองแบบอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงที่สอนให้ราษฎรของพระองค์มีชีวิตอยู่ด้วยความพอเพียง มีน้ำใจ รู้จักการเสียสละแบ่งปัน อันเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นปัจจัยแห่งความสุขในชีวิต ช่วยเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็งเปี่ยมล้นไปด้วยความสงบสุขที่มั่นคง และยั่งยืน
ฝันดีครับ จากใจ เปรม วงศ์กุลวิจิตร
เครดิต. สยามโซน
*ส่วนตัวเราคิดว่า ปัญหาบางอย่างก็เกิดจากการเลี้ยงดู และระดับฐานะต่างกัน บางคนมีน้อยใช้น้อยรู้จักออม และจำเป็นต้องเก็บไว้สำหรับเรื่องที่จำเป็น
บางคนมีมากใช้มาก อาจจะหมดไปกับของจำเป็น และส่วนหนึ่งเป็นการใช้เงินซื้อความสุข ซึ่งอาจจะไม่ได้กระทบอะไรกับเงินก้อนที่หามาได้มาก ซึ่งเรามองว่า การซื้อราคาแพงใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การที่ซื้อของที่แพงเกินตัวมากๆ ให้เด็ก บางทีมันก็เหมือนการปลูกฝังค่านิยมอะไรให้เขาทีละนิด หากเราไม่ได้ชี้แนะค่ะ แต่บางครอบครัวอาจจะมีการสอนลูกหลังจากซื้อของมีราคาให้ ไม่ได้ให้ไปอวดแต่ให้ใช้อย่างรักษาและรู้คุณค่า
ปัญหาอีกอย่างคือสังคมไทยเรา แน่นอนว่า เลือกปฏิบัติ สองมาตรฐานกับคนต่างฐานะ ไม่ได้เหมือนต่างชาติค่ะ คนก็คนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะรวยจะจน จะครบ 32หรือไม่ครบ และกรณีเลือกปฏิบัติในไทย ตัวอย่างที่เห็นได้เยอะจากกรณีที่มีกระทู้ดังๆที่เห็นบ่อยจากห้องแป้งอย่างเห็นได้ชัดก็ บางอาชีพที่เหยียดลูกค้าจากการแต่งตัวค่ะ
การแต่งตัวบ้านๆ ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นไม่ได้มีกำลังทรัพย์นะคะ ของแบบนี้ตัดสินกันไม่ได้จากภายนอกจริงๆ มันเป็นเรื่องที่ถกกันไม่จบสิ้น แต่ถ้าเอาจริงๆ แค่ภายนอกดูดี หิ้วของแบรนด์จะก๊อปไม่ก๊อปไม่รู้ แต่งตัวประหนึ่งเศรษฐี ต่อให้กระเป๋าสตางค์ไม่ได้มีธนบัตรสีเทาเป็นฟ่อน บัตรเครดิตนับสิบ คนเขาก็ปฏิบัติกับคุณอีกแบบแล้ว ทั้งที่ๆมันก็แค่ เปลือกนอก
วัยรุ่นไทยกับของแบรนด์เนม
สวัสดีครับ คืออยากจะให้อ่านนะ คือกระผมจะมาบ่นหน่อยดิ คือกลับไทยมาไม่นานเจออะไรแบบนี้ที่ไทยแล้วแบบอยากบินไปนอกโลกเลย ไหนจะต้องแบ่งยูสกับน้องเล่นอีกมันจะอะไรนักหนาวุ๊ ข้ามชอตนี้ไป
คือนานๆทีจะกลับบ้าน แล้วบ้านผมอยู่กัน 3 คน แม่ไปราชการต่างจังหวัดอยู่กับน้องสองคนแล้วน้องกดเปิดเฟสรูปเพื่อนในห้องให้ดูว่าคนนี้รวยมากเลย ใช้น้ำหอมดัง ๆ จาก ฝรั่งเศส (เศษฝรั่ง) แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ เก๋ ใช้แบรนด์ดัง ต่างๆ เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นว่าเล่น ถือจาคอป ใช้พราด้า เยอะแยะมากที่น้องพร่ำให้ฟัง และที่แค้นใจคือน้องบอกว่าเมื่อไหร่เราจะมีบุญวาสนาได้รวยแบบนั้นบ้างอยากใช้พราด่า กระเป๋าอันนี้ใช้มาหลายปีแล้ว ผมก็เลยย้อนถามไปว่า แล้วกีลาโรสที่แกกับพี่ใช้มันไม่ใช้ของฝรั่งเศษหรอถึงราคามันแค่พันกว่าบาทแต่เราใช้มาหลายปี พี่ใช้มาตั้งแต่ม.1 เป็นของขวัญปีใหม่ที่ป๊าซื้อให้ไม่ภูมิใจหรอ
ก็เพราะ น้ำหอมดัง ๆ จากยุโรปหรือฝรั่งเศส แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ ทำให้คนในสังคมมีค่านิยมรักสวยรักงาม มากกว่าที่จะดูกันที่คุณสมบัติภายใน ความดี กิริยามารยาท หน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ หรอครับ ไมเข้าใจผู้หญิงไทยบางคนนะ เมื่อวานไปธนาคารเอาเงินเข้า แล้วธนาคารเงียบมาก วัยรุ่นผู้หญิงกลุ่มนึงเข้ามาคุยเสียงดังแอะอะโวยวาย ทำตัวเหมือนคนเรียกร้องความสนใจ แต่ใช้ของแบรนแต่งตัวดี คนในธนาคารก็เยอะแต่เค้านั่งเงียบกันได้แล้วผู้หญิงกลุ่มนี้มารอคิวข้างหลังผมเลย น่ารำคาณมาก บ่นเรื่องคิวยาว แล้วมองหน้าผมด้วยสายตาเหยียดๆ เพราะผมใส่กางเกงบอลกับเสื่อยืดธรรมดา คีบแตะมา พอผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาน้องว่าให้ต้มโจ๊กเผื่อพี่ด้วย พวกเขาก็มองโทรศัพท์ผม แล้วคุณรู้ไหมว่าพอถึงคิวผมพอผมลุกไปทำธุระ พอทำเสร็จสวนกลับกลุ่มนั้นเขาซุบซิบกันดังว่า "ผู้ชายคนนั้นใช้แค่ไอโฟนเน่าๆ แต่งตัวแบบนี้ยังกล้ามาเดินห้าง " คือเขาจงใจว่าผมรึไงไม่รู้นะแต่ได้ยินเลย และคิดว่าเค้าว่าผมด้วย ทำไมหรอครับการที่ผมใช้ไอโฟน4 ใช้มานานละ ตอนนี้ยังนึกเสียดายเลยว่าไม่น่าซื้อมามันสิ้นเปลือง เพิ่งรู้คุณค่าของเงินเอาตอนที่ไปเรียนนอก เพิ่งรู้ค่าของเงินเอาตอนบ้านติดหนี้หลายล้าน และไอโฟนผมหน้าจอแตกเพราะทำตกปีที่แล้ว แต่ก็ยังใช้อยู่มันเน่าก็จริงแต่ถ้ามันพังผมจะใช้โนเกียละ ทำไมหรอครับ มารยาทไม่มีหรอ คนทุกคนเท่าเทียมกันหนิไม่ว่ารวยหรือจนก็คนเหมือนกัน ทำไมอะครับมีสิทธอะไรมาวิจารณ์คนอื่นจากภายนอก หรือว่าเพราะ
ด้วยกระแสบริโภคนิยม และการวัดค่าของคนจากวัตถุของสังคมไทยในยุคปัจจุบันนี้ คงไม่แปลกที่สินค้ามียี่ห้อ ราคาแพง และได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ ที่รู้จักกันในนามสินค้า “แบรนด์เนม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างโทรศัพท์มือถือนั้น จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของใครหลายๆ คน มากกว่าการเป็นสิ่งของเครื่องใช้ หากยังเป็นเครื่องวัดความมั่งมี วัดความดีงาม ความน่าเคารพ สรรเสริญของคนในสังคม สิ่งนี้ถือเป็นวิกฤติทางจิตใจ
นั่นเพราะทุกวันนี้ คนในสังคมต่างยึดติดอยู่กับค่านิยมทางวัตถุ “มีเงินเขานับเป็นน้อง มีทองเขานับเป็นพี่” คนดีไม่มีบทบาท ขาดโอกาสทำประโยชน์เพื่อสังคม เลือกมองคนจากวัตถุมากกว่าจิตใจ จึงเป็นเหตุให้หลายๆ คนที่ขาดสติความยั้งคิด เลือกเดินตามทางผิด ดิ้นรนแสวงหาข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง เพียงเพื่อความภาคภูมิใจในการได้ครอบครอง ได้โอ้อวด โดยไม่เลือกวิธีการในการแสวงหาสิ่งเหล่านั้น ดังที่เป็นข่าวออกสื่อกันได้แทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาสาวขายบริการทางเพศ การฉกชิงวิ่งราวจนบานปลายถึงขั้นการปล้นธนาคาร
อย่าคิดว่าชาวต่างชาติมองว่าประเทศไทยดีข่าวพวกนี้ถูกแปลลงเว็บเยอะมาก เพื่อนที่มาเลย์เขาก็บอกกันว่า วัยรุ่นไทยที่รวย พ่อแม่ คุณทำงานใหญ่โต นักการเมือง นักธุรกิจส่งลุกมาใช้เงินนั้น เค้าคิดว่า พ่อแม่คุณคอรัปชั่น และคุณทำตัว ไร้สาระ ส่วนในครอบครัวที่มีฐานะ การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปกับข้าวของที่เรียกได้ว่าไม่ได้มีความจำเป็นต่อปัจจัยในการดำรงชีวิตเหล่านี้ จะยิ่งพอกพูนนิสัยแห่งความฟุ่มเฟือยใช้เงินแลกความสุข จากการได้เดินชอปปิงและมีของใช้ราคาแพงไว้โอ้อวดซึ่งกันและกัน ใครที่ไม่มีเมื่อเห็นคนอื่นมี แล้วหลงคิดไปว่าการมีบ้างถือเป็นสิ่งที่ดี ก็จะเป็นทุกข์ เป็นร้อน และเข้าสู่วังวนแห่งการกระทำความผิดเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของที่เรียกกันว่า แบรนด์เนม ที่สมมติกันไปว่าเป็นของมีค่า เป็นเครื่องตีตราความดีงามของคนในสังคมได้หรอครับ
การยกย่องความดีให้มีอิทธิพลเหนือเงินในทุกวันนี้ เหมือนเป็นคำพูดนามธรรม ยากต่อการทำแต่ก็ใช้ว่าจะไม่สามารถทำอะไรให้ดีขึ้นได้เลย เพียงแต่ต้องเริ่มต้น ปลูกฝังค่านิยมกันเสียใหม่ เลือกให้ความสำคัญกับวัตถุ เลิกยึดติดสินค้าแบรนด์เนมที่เกินความจำเป็น หากนึกภาพอะไรไม่ออก ขอให้มองแบบอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงที่สอนให้ราษฎรของพระองค์มีชีวิตอยู่ด้วยความพอเพียง มีน้ำใจ รู้จักการเสียสละแบ่งปัน อันเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นปัจจัยแห่งความสุขในชีวิต ช่วยเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็งเปี่ยมล้นไปด้วยความสงบสุขที่มั่นคง และยั่งยืน
ฝันดีครับ จากใจ เปรม วงศ์กุลวิจิตร
เครดิต. สยามโซน
*ส่วนตัวเราคิดว่า ปัญหาบางอย่างก็เกิดจากการเลี้ยงดู และระดับฐานะต่างกัน บางคนมีน้อยใช้น้อยรู้จักออม และจำเป็นต้องเก็บไว้สำหรับเรื่องที่จำเป็น
บางคนมีมากใช้มาก อาจจะหมดไปกับของจำเป็น และส่วนหนึ่งเป็นการใช้เงินซื้อความสุข ซึ่งอาจจะไม่ได้กระทบอะไรกับเงินก้อนที่หามาได้มาก ซึ่งเรามองว่า การซื้อราคาแพงใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การที่ซื้อของที่แพงเกินตัวมากๆ ให้เด็ก บางทีมันก็เหมือนการปลูกฝังค่านิยมอะไรให้เขาทีละนิด หากเราไม่ได้ชี้แนะค่ะ แต่บางครอบครัวอาจจะมีการสอนลูกหลังจากซื้อของมีราคาให้ ไม่ได้ให้ไปอวดแต่ให้ใช้อย่างรักษาและรู้คุณค่า
ปัญหาอีกอย่างคือสังคมไทยเรา แน่นอนว่า เลือกปฏิบัติ สองมาตรฐานกับคนต่างฐานะ ไม่ได้เหมือนต่างชาติค่ะ คนก็คนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะรวยจะจน จะครบ 32หรือไม่ครบ และกรณีเลือกปฏิบัติในไทย ตัวอย่างที่เห็นได้เยอะจากกรณีที่มีกระทู้ดังๆที่เห็นบ่อยจากห้องแป้งอย่างเห็นได้ชัดก็ บางอาชีพที่เหยียดลูกค้าจากการแต่งตัวค่ะ
การแต่งตัวบ้านๆ ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นไม่ได้มีกำลังทรัพย์นะคะ ของแบบนี้ตัดสินกันไม่ได้จากภายนอกจริงๆ มันเป็นเรื่องที่ถกกันไม่จบสิ้น แต่ถ้าเอาจริงๆ แค่ภายนอกดูดี หิ้วของแบรนด์จะก๊อปไม่ก๊อปไม่รู้ แต่งตัวประหนึ่งเศรษฐี ต่อให้กระเป๋าสตางค์ไม่ได้มีธนบัตรสีเทาเป็นฟ่อน บัตรเครดิตนับสิบ คนเขาก็ปฏิบัติกับคุณอีกแบบแล้ว ทั้งที่ๆมันก็แค่ เปลือกนอก