KEY POINTS
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศ 7 หลักเกณฑ์ใหม่เพื่อกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์
มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้มีความเป็นธรรม โปร่งใส และคุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน
หลักเกณฑ์สำคัญครอบคลุมการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ย การคิดค่าบริการและเบี้ยปรับ และเงื่อนไขการปิดบัญชีก่อนกำหนด โดยจะเริ่มบังคับใช้ 1 มิ.ย. 2569
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ออกประกาศ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2568
โดยประกาศฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อจะยกระดับการให้บริการทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจฯ ภายใต้การกำกับของ ธปท. ให้มีความรับผิดชอบ เป็นธรรม และโปร่งใส เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน ภายใต้ราคาและเงื่อนไขที่เหมาะสม รวมถึงได้รับการดูแลช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาในการชำระหนี้
ประกาศฯ ดังกล่าวกำหนดหลักเกณฑ์สำคัญ 7 ด้าน ได้แก่
(1) การปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ค่าบริการ และเบี้ยปรับ
(2) ประเภทของค่าบริการที่เรียกเก็บได้
(3) เพดานอัตราดอกเบี้ย
(4) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับดอกเบี้ยผิดนัดและลำดับการตัดชำระหนี้
(5) เงื่อนไขการปิดบัญชีก่อนกำหนด
(6) การให้บริการทางการเงินอย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม
(7) การใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก
โดยหลักเกณฑ์เหล่านี้จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2569 ยกเว้นหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้เช่าซื้อแก่บุคคลธรรมดาเพื่อใช้ส่วนตัว ในเรื่องเพดานอัตราดอกเบี้ย การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ และส่วนลดการปิดบัญชีก่อนกำหนด จะมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจถือปฏิบัติอยู่แล้วในปัจจุบัน
ธปท. คาดหวังว่าการยกระดับมาตรฐานการให้บริการและการคุ้มครองลูกค้าให้ได้รับบริการที่เป็นธรรม จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนให้ระบบเศรษฐกิจและการเงินมีเสถียรภาพ และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับที่มาและความจำเป็นในการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของ ธปท. เนื่องจากประชาชาชนใช้บริการเช่าซื้อและลีสซิ่งในวงกว้าง โดยข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ ณ เดือน ธ.ค.2567 ยอดธุรกรรมคงค้างสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของยอดหนี้ครัวเรือนของประเทศ โดยประมาณ 1 ใน 3 ของยอดธุรกรรมคงค้างดังกล่าว เป็นการให้บริการโดยผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะ
ประกอบกับจำนวนเรื่องร้องเรียนมายัง ธปท. ในเรื่องการให้บริการมีค่อนข้างสูง เช่น การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน, การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไม่สอดคล้องกับรายได้, ปัญหาค่าธรรมเนียม และปัญหายอดหนี้
ประโยชน์จากการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ แบ่งออกเป็น
ผู้ใช้บริการ
ได้รับบริการที่มีมาตรฐาน ราคาเหมาะสม ได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
มีข้อมูลเพียงพอเพื่อให้เลือกใช้บริการได้อย่างเหมาะสม
ผู้ประกอบธุรกิจ
ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
เพิ่มการแข่งขันที่เท่าเทียมจากการขยายกลุ่มผู้ให้บริการที่มาอยู่ภายใต้กำกับ
ระบบเศรษฐกิจการเงิน
หน่วยงานกำกับดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินได้ดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือน
ธปท. ออก 7 หลักเกณฑ์ คุมธุรกิจเช่าซื้อลีสซิ่งฯ รถยนต์-รถจักรยานยนต์ เริ่ม 1/6/69