ประเดิมตอนแรก 35 หน้า
หน้าเปิด
เปิดตอน บรรยายจากคนๆหนึ่งที่บอกว่าตัวเองอาจจะเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ก็ไม่ได้พิเศษอะไรไม่มีบทความอะไรเป็นที่น่าสนใจเลย แต่วันหนึ่งก็บังเอิญเจอกับมนุษย์ต่างดาว ซึ่งเป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน มนุษย์ต่างดาวมาจากอีกมุมของมุมแกแลคซี่ เดินทางมาด้วยยานอวกาศของตัวเองมายังดาวจุดหมายและ....
[ภาษาต่างดาว แปลแล้วก็แค่ส่งเสียงร้องไม่มีความหมายอะไร]
และนั้นเลยทำให้ต้องมาอาศัยอยู่กับมนุษย์ต่างดาวที่เกาะเล็กๆบนดาวที่ไม่สำคัญอะไรเลย
ที่มุมหนึ่งของเกาะ ชายแก่คนหนึ่งที่หาของที่กำลังหาในตัวไม่เจอ จากนั้นก็เอาดอกไม้ไปเคารพหลุมศพ
และกลับมาบ้าน ดูข่าวจากทีวีที่กำลังพูดถึงซุปเปอร์ไอดอลที่ชื่อ อาซุกิ กำลังขึ้นจรวดไปยังวงโคจรของโลกที่สอง
และข่าวบอกตอนนี้เหลืออีก 3 วันก่อนเดินทางก็เลยสัมภาษณ์อาซุกิว่ารู้สึกยังไงบ้าง อาซุกิก็บอกตื่นเต้น ถึงตัวเธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ความฝันของเธอก็คือการได้ไปร้องเพลงบนอวกาศ ถึงตรงนี้ตาแก่ก็ปิดทีวีและบ่นว่า "ขำตายล่ะ" จากนั้นก็มานั่งที่ระเบียงบ้านอ่านหนังสือ
ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงบางอย่างแต่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไรก็คิดอยู่ว่าเครื่องบินงั้นเหรอ แต่พอมาดูก็เห็นอะไรบางอย่างลอยมาและปล่อยควันเป็นทาง
พอกำลังงงว่าคืออะไรนั้นเองสิ่งนั้นก็ตกทะเลไปแล้ว พอตาแก่เห็นว่าตกไปแล้วก็เห็นว่าดูไม่ค่อยดีเลยรีบมาที่ท่าเทียบเรือ
แต่เพราะมืดไปหมดและเพราะมีสัตว์ประหลาดฉลามอยู่บริเวณนี้ด้วยก็เลยออกเรือไปดูไม่ได้และคิดอย่างเลวร้ายก็คิดว่าอาจจะโดนฉลามกินไปแล้ว แต่ทันทีนั้นเองฉลามก็โผล่มาแต่ก็มีสิ่งหนึ่งเหมือนจะหนีฉลามมาอยู่
พอเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัดก็เห็นใครบางคนว่ายดันยานเข้ามาถึงท่าเทียบและพยายามเอาขึ้นฝั่ง
ถึงขั้นแบกขึ้นมาได้หน้าตาเฉยเลยจนตาแก่ถึงกับอึ้ง
พออีกฝ่ายวางยานลงแล้วตาแก่ก็เข้าไปทัก อีกฝ่ายพึ่งเห็นตาแก่เลยถามทันทีว่าเป็นใครทำไมอยู่ที่นี่ แต่ตาแก่บอกนั้นเขาต่างหากที่ควรจะถาม
อีกฝ่ายเข้าใจได้เองทันทีว่าตาแก่เป็นมนุษย์และบอกตัวเองโชคดีที่มีเกาะอยู่ใกล้ๆพอดี ตาแก่บอกก็โชคดีจริงๆนั้นแหละที่หนีจากเจ้าฉลามได้ แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่รู้เรื่องตาแก่เลยบอกอีกฝ่ายเกือบไปเป็นอาหารไปแล้วไง อีกฝ่ายบอกรู้อยู่ว่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ไล่ตามแต่ไม่เข้าใจว่าแย่ยังไง ตาแก่เลยบอกนั้นมันสัตว์ประหลาดที่หยุดได้กระทั้งเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่แล่นตอนกลางคืนได้เลย แล้วตาแก่ก็ถามถึงยานที่คิดว่าเป็นเครื่องบินแปลกๆก็คิดอยู่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนต่างประเทศรึเปล่า
แต่อีกฝ่ายบอกดูเขาใช่คนต่างประเทศเหรอไง มนุษย์ต่างดาวต่างหาก ตาแก่ก็งงๆ อีกฝ่ายบอกถึงไงจะเรียกเขามนุษย์ต่างดาวทั่วไปก็กระไร เพราะเขาคือผู้พิทักษ์สันติสุขของแกแลคซี่ ผู้ถูกเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด...
มนุษย์ต่างดาว: แกแลคติคแพโทรลแมน (หน่วยลาดตระเวนแกแลคติค)
ตาแก่: ............ขะ...เข้าใจล่ะ....
ตาแก่เลยบอกจะมนุษย์ต่างดาวหรืออะไรก็ช่างแต่ก็ขอให้ออกไปจากเกาะซะ แต่แพโทรลแมนบอกคงจะไม่ได้เพราะยานอวกาศของเขาพังถึงอยากจะออกไปเองก็ทำไม่ได้ ตาแก่เลยถามว่ายานนี้คือยานอวกาศงั้นเหรอ แพโทรลแมนก็เปิดห้องโดยสารดูสภาพก็เห็นว่าวิทยุสื่อสารที่ติดต่อไปยังคลังเสบียงก็พังด้วย ทางตาแก่เองถึงจะไม่ชอบใจแต่ก็ขอดูยานหน่อยบอกถ้าเขาซ่อมได้ก็ให้ออกไปซะเพราะเขาอยู่ใกล้ใครอื่นไม่ได้ แพโทรลแมนรู้สึกว่าตาแก่จะเชี่ยวเรื่องเครื่องกล ตาแก่บอกเขาเป็นวิศวกร
แพโทรลแมนเลยบอกงั้นก็สุดจะโชคดีเลยและบอกคงเพราะเขามากับดวงของผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด พอตาแก่ดูก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ตาแก่ถึงกับตะลึงเพราะไม่เคยเห็นเครื่องกลไลแบบนี้มาก่อนก็เลยหันมาสนใจแพโทรลแมนและหยิกหน้าจนแพโทรลแมนถามว่าทำอะไร
ตาแก่บอกตอนแรกคิดว่าเป็นหน้ากากแต่นี่หน้าจริงๆนิ แพโทรลแมนบอกแน่นอนสิ เสียมารยาท ตาแก่เลยยอมเชื่อแล้วว่าแพโทรลแมนคือมนุษย์ต่างดาวจริงๆ พอแพโทรลแมนจะแนะนำอีกรอบว่าไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวธรรมดาแต่ตาแก่ก็รีบบอกรู้แล้วๆ แต่ในเมื่อแพโทรลแมนเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆก็ถามว่ามาทำอะไรที่โลก
ทำไมถึงมาตกที่ดาวนี้ แพโทรลแมนบอกเขาดูวีดีโอเพลินไปหน่อยจนบินไปชนดวงจันทร์เข้า ตาแก่ถามอย่างพอเข้าใจว่าแพโทรลแมนก็ติดต่อคนอื่นมาช่วยไม่ได้ ส่วนเรื่องยานคงต้องรอให้สว่างก่อนแล้วจะดูให้อีกทีแต่ก็ไม่รับประกันว่าจะซ่อมได้ ตาแก่เลยไม่มีทางเลือกที่จะให้แพโทรลแมนค้างไปก่อน นอกจากนั้นตาแก่บอกเขาอยู่คนเดียวบนเกาะนี้เพราะงั้นถึงมนุษย์ต่างดาวจะค้างคืนก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่ แพโทรลแมนเห็นบ้านแล้วก็บอกเรียบสุดๆตาแก่เลยบอกขอโทษด้วยแต่ไม่เข้าใจมาตรฐานบ้านของต่างดาวแล้วก็เอาเบาะรองมาให้และถามอยากได้อะไรอื่นอีกมั้ย
แพโทรลแมนเลยขอนมกับชีสโดยบอกเป็นอาหารที่ใกล้เคียงกับอาหารของพวกเขาที่สุดแล้ว ตาแก่เลยบอกน่ารำคาญจริงและบอกไม่มีชีสแต่พอมานมอยู่ ตอนที่กำลังหยิบนมมาให้ก็ถามแพโทรลแมนว่าเคยมาที่โลกกี่ครั้งแล้ว แพโทรลแมนบอกพวกเขาส่งหุ่นมาเก็บข้อมูลโดยแมลงวันทุกๆ 1 แสนตัวจะมีหุ่นอยู่สักตัว ตาแก่เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่เคยรู้สึกตัวว่าถูกรบกวนมาก่อน แล้วแพโทรลแมนก็ดื่มนมอย่างอร่อย
ตาแก่ถามต่อว่าที่เข้าใจภาษาของโลกเพราะเหตุนี้ด้วยรึเปล่า แพโทรลแมนบอกใช่และถึงจะดูโม้แต่เขารู้ทุกภาษาในแกแลคซี่หมดนั้นเพราะเขาคือผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ตาแก่ก็ทึ่งที่จำได้หมดเลยงั้นเหรอ แพโทรลแมนบอกเลยว่าถ้าให้พูดถึงหนังสือที่รู้จักทุกเล่มในหัวก็ใช้เวลา 4 ชั่วโมงเพื่อบอกให้หมดแล้ว ตาแก่เลยบอกงั้นทำไมถึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อมยานเลยล่ะ แพโทรลแมนบอกเพราะเขาข้ามไม่อ่านหนังสือพวกนั้นเลยนะสิ ตาแก่ก็ขอถามอีกอย่าง...
ว่าดาวของแพโทรลแมนมีไทม์แมชชีนรึเปล่า หรือของที่สามารถเดินทางข้ามเวลาไปอดีตหรืออนาคต แพโทรลแมนบอกของแบบนั้นไม่มีอยู่หรอกเพราะการควบคุมเวลามันอันตรายและเป็นกฎข้อห้ามของแกแลคติค ตาแก่ก็บอกงั้นเหรอ พอแพโทรลแมนถามว่าถามทำไมตาแก่ก็บอกก็แค่อยากรู้ พอถึงเวลานอนตาแก่บอกเขาไม่เคยมีแขกมาก่อนเลยให้แพโทรลแมนจัดการตัวเองแล้วกัน แพโทรลแมนก็ตกลง
ก่อนนอนแพโทรลแมนก็ถามชื่อตาแก่ ตาแก่ก็บอกชื่อโอโอโมริ (ปาเข้าไป 2 ใน 3 ตอนแล้วพึ่งรู้ชื่อ) แพโทรลแมนก็เหมือนจะขำจนโอโอโมริถามว่ามีอะไร แพโทรลแมนบอกในโลกของเขาโอโอโมริคือขี้หมูที่บังเอิญหลุดออกมาจากรูจมูก โอโอโมริก็ไม่เข้าใจที่โลกนั้นตั้งชื่อแบบนั้นทำไมและก็ถามชื่อของแพโทรลแมนบ้าง แพโทรลแมนก็ขอโทษที่ยังไม่ได้บอกและบอกชื่อที่เหมาะสมกับผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนนี้ก็คือ... จาโกะ โอโอโมริก็เลยพูดบ้างว่าตอนหนุ่มๆเพื่อนบ้านของเขามีหมาชื่อเหมือนกันนี้เลย แล้วก็ได้ฤกษ์นอนกันจริงๆสักที
จาโกะที่นอนๆแป๊บเดียวก็ตื่น เก็บที่นอนและสวมชุดแล้วออกไปข้างนอกทันที
โดนลงทะเลไปหาสัตว์ประหลาดฉลามที่โอโอโมริพูดไว้
จัดการทีเดียวอยู่
พอตอนเช้า โอโอโมริตื่นขึ้นมาเห็นจาโกะกำลังดูทีวีก็ถามตื่นนานแล้วเหรอ จาโกะบอกเขานอนแค่ 30 นาทีก็พอเพียงแล้วแถมยังไปวิ่งรอบเกาะ อ่านหนังสือและร้องเพลงมาแล้วด้วย นอกจากนั้นยังจัดการฉลามนั้นให้แล้ว โอโอโมริคิดว่าเป็นมุขตลกของมนุษย์ต่างดาวแต่จาโกะบอกให้ลองมองไปที่ทะเลดูสิ
โอโอโมริก็ถึงกับตะลึงที่เห็นเจ้าฉลามนั้นนอนหงายท้องขึ้นอืดไปแล้ว ถึงกับพูดเลยว่าจริงงั้นเหรอถึงจะไม่รู้ว่าทำได้ไงแต่ก็สุดยอด จาโกะบอกถือเป็นการตอบแทนที่จะช่วยซ่อมยานให้เขา โอโอโมริบอกถึงจะดูป่าเถื่อนแต่ก็ถือว่าทำให้เขาสะดวกขึ้นจริง แล้วจาโกะก็พูดถึงเรื่องที่ข่าวออกว่าเรื่องที่ไอดอลจะขึ้นจรวด โอโอโมริบอกนั้นก็คือขำๆไร้สาระ ก็แค่พวกหน่วยงานอวกาศใช้ไอดอลที่ไม่ได้ฝึกมาทำให้สนใจและระดมทุน
พอกินข้าวเช้ากันแล้วโอโอโมริก็คิดว่าได้เวลาไปดูยานให้แล้ว แต่จาโกะถามก่อนว่าตึกตรงนั้นคืออะไร โอโอโมริดูเหมือนไม่อยากพูดถึงแต่ก็บอกว่าเป็นซากของห้องทดลอง เมื่อก่อนเกาะนี้เคยเป็นศูนย์วิจัยเพื่อศึกษาการเดินทางข้ามเวลาของรัฐบาล พวกรัฐบาลก็ให้เงินทุนกับทฤษฎีของโอโอโมริและจัดสถานที่และสต๊าฟให้
โอโอโมริบอกในฐานะของหัวหน้าโปรเจคเขาเลยยอมมาอยู่เกาะนี้กับภรรยาซึ่งเป็นเงื่อนไขของเขาเอง ภรรยาเขาก็รักเกาะนี้แม้จะไม่มีสิ่งอำนวยความสำดวกเลยแต่อากาศและสิ่งแวดล้อมก็ช่วยชดเชยให้ได้ แล้ววันหนึ่งผู้ช่วยของเขาก็ทำพลาดในขณะกำลังควบคุมความดันก๊าซทำให้เกิดเรื่องเลวร้าย หลายคนตายไปถึงเขาจะโชคดีแต่ภรรยาเขาไม่โชคดีตามด้วย หลังจากนั้นรัฐบาลก็ตัดสินใจยกเลิกการวิจัยแต่เขาก็อยู่ต่อ อยู่ข้างๆหลุมศพภรรยาของตัวเอง แต่เล่าจบจาโกะกลับถามว่าตัวที่พื้นคืออะไรเหมือนไม่ได้สนใจเรื่องของโอโอโมริเลย โอโอโมริเลยถึงกับเงียบครู่หนึ่งแล้วค่อยบอกว่าเป็นเหาทะเล
[Spoil] Ginga Patrol Jako - 1 [ซีรีส์ล่าสุดของ อ.โทริยามะ อากิระ ผู้เขียน DragonBall]
หน้าเปิด
เปิดตอน บรรยายจากคนๆหนึ่งที่บอกว่าตัวเองอาจจะเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ก็ไม่ได้พิเศษอะไรไม่มีบทความอะไรเป็นที่น่าสนใจเลย แต่วันหนึ่งก็บังเอิญเจอกับมนุษย์ต่างดาว ซึ่งเป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน มนุษย์ต่างดาวมาจากอีกมุมของมุมแกแลคซี่ เดินทางมาด้วยยานอวกาศของตัวเองมายังดาวจุดหมายและ....
[ภาษาต่างดาว แปลแล้วก็แค่ส่งเสียงร้องไม่มีความหมายอะไร]
และนั้นเลยทำให้ต้องมาอาศัยอยู่กับมนุษย์ต่างดาวที่เกาะเล็กๆบนดาวที่ไม่สำคัญอะไรเลย
ที่มุมหนึ่งของเกาะ ชายแก่คนหนึ่งที่หาของที่กำลังหาในตัวไม่เจอ จากนั้นก็เอาดอกไม้ไปเคารพหลุมศพ
และกลับมาบ้าน ดูข่าวจากทีวีที่กำลังพูดถึงซุปเปอร์ไอดอลที่ชื่อ อาซุกิ กำลังขึ้นจรวดไปยังวงโคจรของโลกที่สอง
และข่าวบอกตอนนี้เหลืออีก 3 วันก่อนเดินทางก็เลยสัมภาษณ์อาซุกิว่ารู้สึกยังไงบ้าง อาซุกิก็บอกตื่นเต้น ถึงตัวเธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ความฝันของเธอก็คือการได้ไปร้องเพลงบนอวกาศ ถึงตรงนี้ตาแก่ก็ปิดทีวีและบ่นว่า "ขำตายล่ะ" จากนั้นก็มานั่งที่ระเบียงบ้านอ่านหนังสือ
ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงบางอย่างแต่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไรก็คิดอยู่ว่าเครื่องบินงั้นเหรอ แต่พอมาดูก็เห็นอะไรบางอย่างลอยมาและปล่อยควันเป็นทาง
พอกำลังงงว่าคืออะไรนั้นเองสิ่งนั้นก็ตกทะเลไปแล้ว พอตาแก่เห็นว่าตกไปแล้วก็เห็นว่าดูไม่ค่อยดีเลยรีบมาที่ท่าเทียบเรือ
แต่เพราะมืดไปหมดและเพราะมีสัตว์ประหลาดฉลามอยู่บริเวณนี้ด้วยก็เลยออกเรือไปดูไม่ได้และคิดอย่างเลวร้ายก็คิดว่าอาจจะโดนฉลามกินไปแล้ว แต่ทันทีนั้นเองฉลามก็โผล่มาแต่ก็มีสิ่งหนึ่งเหมือนจะหนีฉลามมาอยู่
พอเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัดก็เห็นใครบางคนว่ายดันยานเข้ามาถึงท่าเทียบและพยายามเอาขึ้นฝั่ง
ถึงขั้นแบกขึ้นมาได้หน้าตาเฉยเลยจนตาแก่ถึงกับอึ้ง
พออีกฝ่ายวางยานลงแล้วตาแก่ก็เข้าไปทัก อีกฝ่ายพึ่งเห็นตาแก่เลยถามทันทีว่าเป็นใครทำไมอยู่ที่นี่ แต่ตาแก่บอกนั้นเขาต่างหากที่ควรจะถาม
อีกฝ่ายเข้าใจได้เองทันทีว่าตาแก่เป็นมนุษย์และบอกตัวเองโชคดีที่มีเกาะอยู่ใกล้ๆพอดี ตาแก่บอกก็โชคดีจริงๆนั้นแหละที่หนีจากเจ้าฉลามได้ แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่รู้เรื่องตาแก่เลยบอกอีกฝ่ายเกือบไปเป็นอาหารไปแล้วไง อีกฝ่ายบอกรู้อยู่ว่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ไล่ตามแต่ไม่เข้าใจว่าแย่ยังไง ตาแก่เลยบอกนั้นมันสัตว์ประหลาดที่หยุดได้กระทั้งเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่แล่นตอนกลางคืนได้เลย แล้วตาแก่ก็ถามถึงยานที่คิดว่าเป็นเครื่องบินแปลกๆก็คิดอยู่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนต่างประเทศรึเปล่า
แต่อีกฝ่ายบอกดูเขาใช่คนต่างประเทศเหรอไง มนุษย์ต่างดาวต่างหาก ตาแก่ก็งงๆ อีกฝ่ายบอกถึงไงจะเรียกเขามนุษย์ต่างดาวทั่วไปก็กระไร เพราะเขาคือผู้พิทักษ์สันติสุขของแกแลคซี่ ผู้ถูกเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด...
มนุษย์ต่างดาว: แกแลคติคแพโทรลแมน (หน่วยลาดตระเวนแกแลคติค)
ตาแก่: ............ขะ...เข้าใจล่ะ....
ตาแก่เลยบอกจะมนุษย์ต่างดาวหรืออะไรก็ช่างแต่ก็ขอให้ออกไปจากเกาะซะ แต่แพโทรลแมนบอกคงจะไม่ได้เพราะยานอวกาศของเขาพังถึงอยากจะออกไปเองก็ทำไม่ได้ ตาแก่เลยถามว่ายานนี้คือยานอวกาศงั้นเหรอ แพโทรลแมนก็เปิดห้องโดยสารดูสภาพก็เห็นว่าวิทยุสื่อสารที่ติดต่อไปยังคลังเสบียงก็พังด้วย ทางตาแก่เองถึงจะไม่ชอบใจแต่ก็ขอดูยานหน่อยบอกถ้าเขาซ่อมได้ก็ให้ออกไปซะเพราะเขาอยู่ใกล้ใครอื่นไม่ได้ แพโทรลแมนรู้สึกว่าตาแก่จะเชี่ยวเรื่องเครื่องกล ตาแก่บอกเขาเป็นวิศวกร
แพโทรลแมนเลยบอกงั้นก็สุดจะโชคดีเลยและบอกคงเพราะเขามากับดวงของผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด พอตาแก่ดูก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ตาแก่ถึงกับตะลึงเพราะไม่เคยเห็นเครื่องกลไลแบบนี้มาก่อนก็เลยหันมาสนใจแพโทรลแมนและหยิกหน้าจนแพโทรลแมนถามว่าทำอะไร
ตาแก่บอกตอนแรกคิดว่าเป็นหน้ากากแต่นี่หน้าจริงๆนิ แพโทรลแมนบอกแน่นอนสิ เสียมารยาท ตาแก่เลยยอมเชื่อแล้วว่าแพโทรลแมนคือมนุษย์ต่างดาวจริงๆ พอแพโทรลแมนจะแนะนำอีกรอบว่าไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวธรรมดาแต่ตาแก่ก็รีบบอกรู้แล้วๆ แต่ในเมื่อแพโทรลแมนเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆก็ถามว่ามาทำอะไรที่โลก
ทำไมถึงมาตกที่ดาวนี้ แพโทรลแมนบอกเขาดูวีดีโอเพลินไปหน่อยจนบินไปชนดวงจันทร์เข้า ตาแก่ถามอย่างพอเข้าใจว่าแพโทรลแมนก็ติดต่อคนอื่นมาช่วยไม่ได้ ส่วนเรื่องยานคงต้องรอให้สว่างก่อนแล้วจะดูให้อีกทีแต่ก็ไม่รับประกันว่าจะซ่อมได้ ตาแก่เลยไม่มีทางเลือกที่จะให้แพโทรลแมนค้างไปก่อน นอกจากนั้นตาแก่บอกเขาอยู่คนเดียวบนเกาะนี้เพราะงั้นถึงมนุษย์ต่างดาวจะค้างคืนก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่ แพโทรลแมนเห็นบ้านแล้วก็บอกเรียบสุดๆตาแก่เลยบอกขอโทษด้วยแต่ไม่เข้าใจมาตรฐานบ้านของต่างดาวแล้วก็เอาเบาะรองมาให้และถามอยากได้อะไรอื่นอีกมั้ย
แพโทรลแมนเลยขอนมกับชีสโดยบอกเป็นอาหารที่ใกล้เคียงกับอาหารของพวกเขาที่สุดแล้ว ตาแก่เลยบอกน่ารำคาญจริงและบอกไม่มีชีสแต่พอมานมอยู่ ตอนที่กำลังหยิบนมมาให้ก็ถามแพโทรลแมนว่าเคยมาที่โลกกี่ครั้งแล้ว แพโทรลแมนบอกพวกเขาส่งหุ่นมาเก็บข้อมูลโดยแมลงวันทุกๆ 1 แสนตัวจะมีหุ่นอยู่สักตัว ตาแก่เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่เคยรู้สึกตัวว่าถูกรบกวนมาก่อน แล้วแพโทรลแมนก็ดื่มนมอย่างอร่อย
ตาแก่ถามต่อว่าที่เข้าใจภาษาของโลกเพราะเหตุนี้ด้วยรึเปล่า แพโทรลแมนบอกใช่และถึงจะดูโม้แต่เขารู้ทุกภาษาในแกแลคซี่หมดนั้นเพราะเขาคือผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ตาแก่ก็ทึ่งที่จำได้หมดเลยงั้นเหรอ แพโทรลแมนบอกเลยว่าถ้าให้พูดถึงหนังสือที่รู้จักทุกเล่มในหัวก็ใช้เวลา 4 ชั่วโมงเพื่อบอกให้หมดแล้ว ตาแก่เลยบอกงั้นทำไมถึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อมยานเลยล่ะ แพโทรลแมนบอกเพราะเขาข้ามไม่อ่านหนังสือพวกนั้นเลยนะสิ ตาแก่ก็ขอถามอีกอย่าง...
ว่าดาวของแพโทรลแมนมีไทม์แมชชีนรึเปล่า หรือของที่สามารถเดินทางข้ามเวลาไปอดีตหรืออนาคต แพโทรลแมนบอกของแบบนั้นไม่มีอยู่หรอกเพราะการควบคุมเวลามันอันตรายและเป็นกฎข้อห้ามของแกแลคติค ตาแก่ก็บอกงั้นเหรอ พอแพโทรลแมนถามว่าถามทำไมตาแก่ก็บอกก็แค่อยากรู้ พอถึงเวลานอนตาแก่บอกเขาไม่เคยมีแขกมาก่อนเลยให้แพโทรลแมนจัดการตัวเองแล้วกัน แพโทรลแมนก็ตกลง
ก่อนนอนแพโทรลแมนก็ถามชื่อตาแก่ ตาแก่ก็บอกชื่อโอโอโมริ (ปาเข้าไป 2 ใน 3 ตอนแล้วพึ่งรู้ชื่อ) แพโทรลแมนก็เหมือนจะขำจนโอโอโมริถามว่ามีอะไร แพโทรลแมนบอกในโลกของเขาโอโอโมริคือขี้หมูที่บังเอิญหลุดออกมาจากรูจมูก โอโอโมริก็ไม่เข้าใจที่โลกนั้นตั้งชื่อแบบนั้นทำไมและก็ถามชื่อของแพโทรลแมนบ้าง แพโทรลแมนก็ขอโทษที่ยังไม่ได้บอกและบอกชื่อที่เหมาะสมกับผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนนี้ก็คือ... จาโกะ โอโอโมริก็เลยพูดบ้างว่าตอนหนุ่มๆเพื่อนบ้านของเขามีหมาชื่อเหมือนกันนี้เลย แล้วก็ได้ฤกษ์นอนกันจริงๆสักที
จาโกะที่นอนๆแป๊บเดียวก็ตื่น เก็บที่นอนและสวมชุดแล้วออกไปข้างนอกทันที
โดนลงทะเลไปหาสัตว์ประหลาดฉลามที่โอโอโมริพูดไว้
จัดการทีเดียวอยู่
พอตอนเช้า โอโอโมริตื่นขึ้นมาเห็นจาโกะกำลังดูทีวีก็ถามตื่นนานแล้วเหรอ จาโกะบอกเขานอนแค่ 30 นาทีก็พอเพียงแล้วแถมยังไปวิ่งรอบเกาะ อ่านหนังสือและร้องเพลงมาแล้วด้วย นอกจากนั้นยังจัดการฉลามนั้นให้แล้ว โอโอโมริคิดว่าเป็นมุขตลกของมนุษย์ต่างดาวแต่จาโกะบอกให้ลองมองไปที่ทะเลดูสิ
โอโอโมริก็ถึงกับตะลึงที่เห็นเจ้าฉลามนั้นนอนหงายท้องขึ้นอืดไปแล้ว ถึงกับพูดเลยว่าจริงงั้นเหรอถึงจะไม่รู้ว่าทำได้ไงแต่ก็สุดยอด จาโกะบอกถือเป็นการตอบแทนที่จะช่วยซ่อมยานให้เขา โอโอโมริบอกถึงจะดูป่าเถื่อนแต่ก็ถือว่าทำให้เขาสะดวกขึ้นจริง แล้วจาโกะก็พูดถึงเรื่องที่ข่าวออกว่าเรื่องที่ไอดอลจะขึ้นจรวด โอโอโมริบอกนั้นก็คือขำๆไร้สาระ ก็แค่พวกหน่วยงานอวกาศใช้ไอดอลที่ไม่ได้ฝึกมาทำให้สนใจและระดมทุน
พอกินข้าวเช้ากันแล้วโอโอโมริก็คิดว่าได้เวลาไปดูยานให้แล้ว แต่จาโกะถามก่อนว่าตึกตรงนั้นคืออะไร โอโอโมริดูเหมือนไม่อยากพูดถึงแต่ก็บอกว่าเป็นซากของห้องทดลอง เมื่อก่อนเกาะนี้เคยเป็นศูนย์วิจัยเพื่อศึกษาการเดินทางข้ามเวลาของรัฐบาล พวกรัฐบาลก็ให้เงินทุนกับทฤษฎีของโอโอโมริและจัดสถานที่และสต๊าฟให้
โอโอโมริบอกในฐานะของหัวหน้าโปรเจคเขาเลยยอมมาอยู่เกาะนี้กับภรรยาซึ่งเป็นเงื่อนไขของเขาเอง ภรรยาเขาก็รักเกาะนี้แม้จะไม่มีสิ่งอำนวยความสำดวกเลยแต่อากาศและสิ่งแวดล้อมก็ช่วยชดเชยให้ได้ แล้ววันหนึ่งผู้ช่วยของเขาก็ทำพลาดในขณะกำลังควบคุมความดันก๊าซทำให้เกิดเรื่องเลวร้าย หลายคนตายไปถึงเขาจะโชคดีแต่ภรรยาเขาไม่โชคดีตามด้วย หลังจากนั้นรัฐบาลก็ตัดสินใจยกเลิกการวิจัยแต่เขาก็อยู่ต่อ อยู่ข้างๆหลุมศพภรรยาของตัวเอง แต่เล่าจบจาโกะกลับถามว่าตัวที่พื้นคืออะไรเหมือนไม่ได้สนใจเรื่องของโอโอโมริเลย โอโอโมริเลยถึงกับเงียบครู่หนึ่งแล้วค่อยบอกว่าเป็นเหาทะเล