ชุมพร ถิ่นฉลามวาฬ


เมื่อพูดถึงจังหวัดชุมพร หลายคนก็จะมองว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ หลายครั้งที่เดินทางลงภาคใต้จะแวะพักที่ชุมพรก่อนเดินทางต่อ แต่รู้หรือไม่ชุมพรนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง และเป็นแหล่งรวมความสมบูรณ์ของท้องทะเลอ่าวไทย หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าไปเที่ยวทะเลดำน้ำต้องไปเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต พังงา หาดสวย น้ำทะเลสีฟ้า ไปดูปลานีโม่ฝั่งอันดามัน มันต้องสวยกว่าทะเลฝั่งอ่าวไทยแน่นอน แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ชุมพร มีของดีที่ซุกซ่อนอยู่ในทะเล มีสิ่งล้ำค่าที่เหล่านักดำน้ำหลายคนอาจจะยังไม่เคยพบเจอและครั้งหนึ่งในชีวิตการดำน้ำขอให้ได้เจอ นั่นคือ “เจ้าฉลามวาฬ” หรือ ชาวบ้านเรียกว่า ปลาจุด ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลจังหวัดชุมพร ซึ่งทะเลชุมพรเป็นเหมือนบ้านของเจ้าฉลามวาฬ นอกจากจะมีเจ้าฉลามวาฬแล้ว ทะเลชุมพรยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ภูเขาดอกไม้ทะเลบ้านของเจ้าปลานีโม่ แต่ปลานีโม่ฝั่งอ่าวไทย จะเป็นสายพันธุ์อินเดียนแดงชมพู ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์กับนี่โม่ฝั่งอันดามัน และคนละสายพันธุ์กับการ์ตูนเรื่องนีโม่ นอกจากนี้มีฝูงปลาสาก ฝูงปลาซีกุน ปลาข้างเหลือง ฝูงปลาหูช้าง และนูดี้ หรือทากทะเลสายพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย







เรามารู้จักเจ้าฉลามวาฬ หรือ ปลาจุด ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลชุมพร ว่ากันว่าเจ้าฉลามวาฬอยู่ที่เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ โดยจะว่ายวนไปมาตามเกาะต่าง ๆ จุดที่สามารถพบเห็นเจ้าฉลามวาฬได้ก็จะมีที่เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ เกาะเวียง เกาะง่าม จุดดำน้ำลึกเรือปราบ 741 จุดดำน้ำลึกกองหินสามเหลี่ยม และจุดดำน้ำหินแพ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร โดยเจ้าฉลามวาฬจะว่ายวนไปมาหาอาหารตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งอาหารของมันก็คือ แพลนตอน นั่นเอง

แนะนำการดำน้ำที่ชุมพร มี 2 แบบ คือ ดำน้ำลึก (Scuba) และ ดำน้ำตื้น (Snorkeling) ซึ่งการจะพบเจ้าฉลามวาฬนั้น ไม่จำเป็นต้องดำน้ำลึกอย่างเดียว เพราะเจ้าฉลามวาฬมักจะขึ้นมากินแพลงตอนบริเวณผิวน้ำ ทำให้คนที่ดำน้ำตื้น หรือพวก Snorkeling สามารถพบเจอเจ้าฉลามวาฬได้เช่นกัน 

คำถาม : เจ้าฉลามวาฬ ตัวใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเราดำน้ำอยู่ จะว่ายมากินหรือกัดเราไหม? 
ตอบ : ฉลามวาฬ เป็นสัตว์ที่กินแพลงตอน พวกแตนทะเล เปรียบเหมือนเครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่ของท้องทะเลที่คอยกินพวกแตนทะเล ทุกคนไม่ต้องกลัวว่า น้องจะเข้ามาทำร้ายนะคะ 



วิธีดำน้ำที่ถูกต้องเมื่อเจอฉลามวาฬ
1. ห้ามเอามือ เท้า ทุกส่วนของร่างกายไปสัมผัสเจ้าฉลามวาฬ เพราะมือของเรามีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อผิวของฉลามวาฬ อาจทำให้น้องป่วยได้
2. เมื่อเจอฉลามวาฬ เราควรดำน้ำห่างจากบริเวณส่วนหัวของฉลามวาฬ 2 เมตร และบริเวณด้านข้างตลอดจนบริเวณหาง 3 เมตร เพื่อป้องกันการสัมผัสถูกเจ้าฉลามวาฬและเพื่อป้องกันอันตรายจากหางของเจ้าฉลามวาฬที่อาจจะฟาดมาโดนเราได้
3. เมื่อเจอฉลามวาฬและอยากถ่ายรูป เราไม่ควรเปิดแฟลตหรือใช้ไฟฉายส่องไปที่ดองตาของเจ้าฉลามวาฬ เพราะแสงไฟและแสงแฟลตอาจจะทำให้ตาของเจ้าฉลามวาฬบอดหรือมีปัญหาได้




ใครที่สนใจดำน้ำที่ชุมพร เราก็ขอแนะนำ ดังนี้ 
1. ชุมพร สามารถดำน้ำได้ ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. - ก.ย. ตลอดปี (เป็นช่วงที่ทะเลฝั่งอันดามันปิด)

2. ถ้าอยากดำน้ำและเผื่อโชคดีได้เจอฉลามวาฬ ก็ขอแนะนำให้ไป อ.ปะทิว จ.ชุมพร โดยเกาะที่มักพบเจ้าฉลามวาฬ ได้แก่ เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เรือปราบ 741 หินแพ กองหินสามเหลี่ยม และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

3. บริษัททัวร์ดำน้ำที่เราเคยไปใช้บริการ มีดังนี้
            - ทัวร์ดำน้ำตื้น Snorkelling หรือ Freedive (เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่) แนะนำ 
“บริษัท กรีนนำเที่ยว ดำน้ำชมปะการัง เกาะเวียง” https://www.facebook.com/greendivingtour พร้อมรถรับ - ส่งสนามบิน ท่ารถทัวร์ และ
สถานีรถไฟ(มาบอำมฤต) 
1) แพคเก็จดำน้ำ 1 วัน 2 เกาะ พร้อมอาหารทะเลและประกันภัย 1,900 บาท/คน 
2) แพคเก็จดำน้ำ 2 เกาะ พร้อมที่พัก อาหาร 3 มื้อ และประกันภัย 2,700 บาท/คน
ทั้ง 2 แพ็คเกจ มีบริการถ่ายภาพใต้น้ำให้ ฟรี โดยสามารถไปโหลดรูปได้จากเฟสบุ๊คของร้าน









- ทัวร์ดำน้ำตื้น และ ดำน้ำลึก (เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เรือปราบ 741 หินแพ กองหินสามเหลี่ยมหินหลักง่าม) แนะนำ “บริษัท ชุมพรไดฟ์วิ่งเซนเตอร์” (Seach เฟสบุ๊ค “ชุมพรไดฟ์วิ่งเซ็นเตอร์”) https://www.facebook.com/chumphondivingcenter




การเดินทาง 
1. รถส่วนตัว - จาก กรุงเทพฯ - ชุมพร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม. 
2. รถไฟ - จาก กทม.(ชุมทางบางซื่อ) – ชุมพร รถไฟชั้น 1 ราคา 509 บาท ขบวนที่ 39 และ ขบวนที่ 41  
3. เครื่องบิน (สายการบินนกแอร์, แอร์เอเชีย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่