"การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์
ขออย่าถ่ายภาพเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น
จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง"
พระราชดำริเรื่องการถ่ายภาพในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
สวัสดีครับชาวพันทิพ
เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้ลองรวบรวมเรื่องราวจากภาพที่ถ่ายฉลาม ภาพชุดนี้ผมใช้เวลาถ่ายและรวบรวมด้วยกัน2ปี
เป็นภาพถ่ายของฉลามหูดำ
ซึ่งเป็นฉลามสายพันธุ์ที่นักท่องเที่ยวดำน้ำตื้น หรือเล่นน้ำริมชายหาดมีโอกาสที่จะได้พบเจอมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆในไทย
เนื่องจากเป็นฉลามในเขตน้ำอุ่น หากินใกล้ฝั่งพบได้ทั้งอ่าวไทย ทั้งอันดามัน
หลายๆคนคงยังติดกับภาพความน่ากลัวของฉลามที่คิดว่าจะต้องดุ ต้องกัดแน่ๆใช่ไม๊ครับ
แต่จริงๆแล้ว ฉลามเองก็ไม่ได้ดุแบบนั้นเสมอไปนะ
กระทู้นี้เลยอยากจะนำเสนอภาพของสัตว์ทะเลชนิดนี้ ในมุมอื่นๆนอกจากความน่ากลัวดุร้ายดูนะครับ
ฉลามหูดำ หรือ blacktip reef shark มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โตเต็มที่มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร
มีลักษณะเด่นตรงที่บริเวณปลายครีบกระโดงทั้งสามจะมีสีดำ ลำตัวมีสีเทาปนเหลือง ส่วนท้องมีสีขาว มีนิสัยไม่ก้าวร้าว
และไม่ยอมเข้าใกล้มนุษย์มากนัก มีถิ่นที่อยู่ แถบมหาสมุทรอินเดีย อาฟริกาใต้ ทะเลแดง และเขตทะเลอบอุ่น
รวมถึงทะเลอันดามัน และอ่าวไทย
ฉลามหูดำถึงแม้จะเป็นสัตว์ประจำถิ่น พบเจออยู่บริเวณแนวปะการัง และแนวชายหาดตั้งแต่1เมตร แต่การพบเจอฉลามในน่านน้ำไทย มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่บ่อย เนื่องจากฉลามเป็นสัตว์ที่มีลักษณะปราดเปรียวว่องไว ตื่นตกใจง่าย การเข้าใกล้ฉลามจึงเป็นเรื่องที่ยาก
ในประเทศไทย โดยเฉพาะเขตพื้นที่อนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติทางทะเล หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เราจะมีโอกาสได้เห็นฉลามหูดำ ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงตัวเต็มวัยได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากบริเวณโดยรอบของแนวเกาะ เป็นพื้นที่ ที่เหมาะสมต่อการหากิน และการดำรงชีวิตของฉลาม ซึ่งไม่โดนรบกวนจากมนุษย์มากนัก
ในช่วงหลังจากจากคลอดลูก ลูกฉลามก็จะเริ่มข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำตื้นรอบๆเกาะ
ลูกฉลามหูดำ มักมีการรวมฝูงขนาดตั้งแต่ 2-20ตัว โดยเฉพาะบริเวณริมชายหาดใกล้แนวหิน และป่าโกงกาง เราจะพบเห็นฉลามหูดำวัยเด็กได้ง่าย เนื่องจากลูกฉลามมีขนาดเล็กเพียงไม่เกิน1-2ฟุต การอาศัยอยู่ในที่ตื้น และจำนวนมาก เช่นนี้เป็นการเปิดเผยตัวต่อนักล่าอย่างเช่น นกเหยี่ยว และนกออกซึ่งเป็นนกนักล่าได้อย่างง่ายดาย การอำพรางตัวอยู่ตามแนวของรากโกงกางหรือแนวหินจึงเป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการหาอาหารและหลบซ่อนตัวไปด้วย
เมื่อฉลามหูดำโตเต็มวัย ขนาด 1-1.5 เมตรก็จะออกหากินในพื้นที่ ที่กว้างขึ้นและลึกขึ้นกว่าเดิม มักเจอว่ายน้ำอยู่ตามลำพัง ทั้งในแนวรอบป่าโกงกางเอง และแนวปะการัง โดยอาหารส่วนใหญ่ของฉลามหูดำคือสัตว์น้ำขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม การเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ของแนวปะการังรอบเกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์และโดยรอบของทะเลไทยได้รับความเสียหาย จำนวนลดจำนวนลงไปอย่างมากจนส่งผลให้ปลาในแนวปะการังซึ่งเป็นแหล่งหากินของฉลามลดจำนวนลงไปด้วย
นอกจากนั้นแล้วฉลามกำลังโดนคุกคามอย่างหนัก ทั้งจากการล่าโดยมนุษย์เพื่อนำครีบไปเป็นอาหาร การทำลายป่าโกงกางซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลของปลาฉลามหูดำ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหล่านี้ส่งผลต่อจำนวนของประชากรซึ่งลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ฉลามตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัว1.5 เมตรว่ายวนอยู่ในแนวปะการังรอบเกาะ โดยส่วนใหญ่จะพบว่ายอยู่ลำพัง ไม่ห่างจากฝั่งในระดับความลึก5-7 เมตร

ฉลามหูดำในวัยเด็กขนาดลำตัวไม่เกิน1-2ฟุต มักจะเข้ามาอาศัยป่าโกงกางที่มีรากซับซ้อน และร่มเงาเพื่อปิดบังตัวจากนักล่าที่มาจากบนฟ้าอย่างเช่น เหยี่ยว และนกออก และใช้เป้นที่หาอาหาร โดยฉลามวันเด็กจะเข้ามารวมฝูงมีมากตั้งแต่ 10-20 ตัวขึ้นไป ถึงแม้ฝูงจะมีขนาดใหญ่ แต่ไม่มีท่าทีก้าวร้าว

บริเวณป่าโกงกางที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ตลอดช่วงกลางวัน ฉลามวัยหนุ่มขนาดลำตัว1เมตร จะว่ายวนเข้ามาเพื่อสำรวจแหล่งหากิน

ลูกฉลามขนาดเล็กไม่เกิน1ฟุต กำลังว่ายเข้าใกล้แนวชายหาดในช่วงน้ำขึ้น เพื่อหากินปลาขนาดเล็กริมชายหาด

ฝูงของฉลามวัยเด็กขนาด1-2ฟุตใกล้ๆริมชายหาด และแนวโขดหิน เป็นพื้นที่ที่สามารถพบเห็นลูกฉลามได้ไม่ยากเช่นกัน

หวังว่ารูปถ่ายเล็กๆของผมพอจะเป็นประโยชน์ ที่จะทำให้หลายๆคนเวลาไปท่องเที่ยวแล้วเกิดไปจ๊ะเอ๋เข้ากับฉลามหน้าตาแบบนี้
จะไม่ตกใจกลัว ไม่ไปทำร้าย หรือว่าวิ่งหนีเค้านะครับ
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานทุกท่านทั้งหมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย ที่คอยช่วยเหลือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับฉลาม
และคอยดูแลทรัพยากรอันมีค่านี้ไว้ให้กับเรานะครับ
ขอบคุณ กรีนวิวสำหรับการอำนวยความสะดวกเรื่องเรือ สตร์ฟ
ปล. อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายเซตนี้คือ Nikon D810 ในเฮาซิงค์(เคสกันน้ำ)ของ nauticam ใช้ domeport ขนาด 8.5 นิ้ว
กับเลนส์ fisheye 16mm ระยะ f8 ไม่ได้ใช้ flash ใช้แสงธรรมชาติ, iso 500 เพราะน้ำใกล้ฝั่งค่อนข้างมีตะกอน
ใช้ single shot เหตุผลคือกดชัตเตอร์แค่ครังเดียว เสียงชัตเตอร์ก็ทำให้เค้าหนีจากเราทันทีแล้วจะไม่กลับเข้ามาบริเวณนั้นอีก
วิธีการถ่ายคือนั่งรออยู่ในน้ำอย่างเดียว ในช่วงน้ำขึ้น เราไม่สามารถว่ายตามถ่ายฉลามได้
เพราะเค้าไวกว่า ตกใจง่าย กะเกณฑ์แน่นอนไม่ได้ว่าเค้าจะเข้ามาในระยะที่เราต้องการหรือไม่
สำหรับฉลามไซด์ใหญ่ ต้องไปดำน้ำในบริเวณที่เค้าชอบมาอาศัยอยู่ ส่วนมากช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งจะเจอตัวง่ายหน่อย
ต้องไปกันน้อยคน และว่ายรอ
ให้เค้าผ่านเข้ามา ทำแบบนี้อยู่สักอาทิตย์เพื่อให้ฉลามเค้าคุ้นกับเรา ก่อนจะหาจังหวะดีๆ ดำตัวเปล่าลงไปรอให้เค้าว่ายเข้ามาหน้ากล้อง
กดพลาดครั้งเดียวก็ต้องรอวันอื่นเพราะเค้าจะหนีไปที่ลึกทันที
ต้องการชมภาพชัดๆ และอัพเดท ลองแวะไปเยี่ยมชมได้ที่ facebook นะครับ
https://www.facebook.com/armi.blue
สำหรับกระทู้ก่อนหน้า
เกาะที่งดงามตั้งแต่เช้าจรดค่ำ 2
http://pantip.com/topic/35077603
เชียงดาว
http://pantip.com/topic/34686570
จากใต้ทะเลสู่ดวงดาว
http://pantip.com/topic/34129989
ครึ่งบกครึ่งน้ำ
http://pantip.com/topic/33638964
ดาว
http://pantip.com/topic/33069390
ดอยทูเล
http://pantip.com/topic/32911784
ทะเลสีขาว
http://pantip.com/topic/32813404
หน้าต่างจากฟ้า
http://pantip.com/topic/32697831
เพื่อนร่วมทะเลไทย
http://pantip.com/topic/32623696
Losin อ่าวไทยตอนใต้
http://pantip.com/topic/32568835
อ่าวไทยสวยไม่เหมือนใคร
http://pantip.com/topic/32465386 ,
มองมุมกว้าง
http://pantip.com/topic/32187510 ,
บางกอก
http://pantip.com/topic/32143993 ,
เขาสกเขื่อนเชี่ยวหลาน
http://pantip.com/topic/32122791 ,
อันดามันใต้
http://pantip.com/topic/32015992 ,
เกาะที่งดงามตั้งแต่เช้าจรดค่ำ 1
http://pantip.com/topic/31910178
ฉ ล า ม น ้ำ ตื้ น [Armiblue]
ขออย่าถ่ายภาพเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น
จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง"
พระราชดำริเรื่องการถ่ายภาพในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
สวัสดีครับชาวพันทิพ
เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้ลองรวบรวมเรื่องราวจากภาพที่ถ่ายฉลาม ภาพชุดนี้ผมใช้เวลาถ่ายและรวบรวมด้วยกัน2ปี
เป็นภาพถ่ายของฉลามหูดำ
ซึ่งเป็นฉลามสายพันธุ์ที่นักท่องเที่ยวดำน้ำตื้น หรือเล่นน้ำริมชายหาดมีโอกาสที่จะได้พบเจอมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆในไทย
เนื่องจากเป็นฉลามในเขตน้ำอุ่น หากินใกล้ฝั่งพบได้ทั้งอ่าวไทย ทั้งอันดามัน
หลายๆคนคงยังติดกับภาพความน่ากลัวของฉลามที่คิดว่าจะต้องดุ ต้องกัดแน่ๆใช่ไม๊ครับ
แต่จริงๆแล้ว ฉลามเองก็ไม่ได้ดุแบบนั้นเสมอไปนะ
กระทู้นี้เลยอยากจะนำเสนอภาพของสัตว์ทะเลชนิดนี้ ในมุมอื่นๆนอกจากความน่ากลัวดุร้ายดูนะครับ
ฉลามหูดำ หรือ blacktip reef shark มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โตเต็มที่มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร
มีลักษณะเด่นตรงที่บริเวณปลายครีบกระโดงทั้งสามจะมีสีดำ ลำตัวมีสีเทาปนเหลือง ส่วนท้องมีสีขาว มีนิสัยไม่ก้าวร้าว
และไม่ยอมเข้าใกล้มนุษย์มากนัก มีถิ่นที่อยู่ แถบมหาสมุทรอินเดีย อาฟริกาใต้ ทะเลแดง และเขตทะเลอบอุ่น
รวมถึงทะเลอันดามัน และอ่าวไทย
ฉลามหูดำถึงแม้จะเป็นสัตว์ประจำถิ่น พบเจออยู่บริเวณแนวปะการัง และแนวชายหาดตั้งแต่1เมตร แต่การพบเจอฉลามในน่านน้ำไทย มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่บ่อย เนื่องจากฉลามเป็นสัตว์ที่มีลักษณะปราดเปรียวว่องไว ตื่นตกใจง่าย การเข้าใกล้ฉลามจึงเป็นเรื่องที่ยาก
ในประเทศไทย โดยเฉพาะเขตพื้นที่อนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติทางทะเล หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เราจะมีโอกาสได้เห็นฉลามหูดำ ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงตัวเต็มวัยได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากบริเวณโดยรอบของแนวเกาะ เป็นพื้นที่ ที่เหมาะสมต่อการหากิน และการดำรงชีวิตของฉลาม ซึ่งไม่โดนรบกวนจากมนุษย์มากนัก
ในช่วงหลังจากจากคลอดลูก ลูกฉลามก็จะเริ่มข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำตื้นรอบๆเกาะ
ลูกฉลามหูดำ มักมีการรวมฝูงขนาดตั้งแต่ 2-20ตัว โดยเฉพาะบริเวณริมชายหาดใกล้แนวหิน และป่าโกงกาง เราจะพบเห็นฉลามหูดำวัยเด็กได้ง่าย เนื่องจากลูกฉลามมีขนาดเล็กเพียงไม่เกิน1-2ฟุต การอาศัยอยู่ในที่ตื้น และจำนวนมาก เช่นนี้เป็นการเปิดเผยตัวต่อนักล่าอย่างเช่น นกเหยี่ยว และนกออกซึ่งเป็นนกนักล่าได้อย่างง่ายดาย การอำพรางตัวอยู่ตามแนวของรากโกงกางหรือแนวหินจึงเป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการหาอาหารและหลบซ่อนตัวไปด้วย
เมื่อฉลามหูดำโตเต็มวัย ขนาด 1-1.5 เมตรก็จะออกหากินในพื้นที่ ที่กว้างขึ้นและลึกขึ้นกว่าเดิม มักเจอว่ายน้ำอยู่ตามลำพัง ทั้งในแนวรอบป่าโกงกางเอง และแนวปะการัง โดยอาหารส่วนใหญ่ของฉลามหูดำคือสัตว์น้ำขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม การเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ของแนวปะการังรอบเกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์และโดยรอบของทะเลไทยได้รับความเสียหาย จำนวนลดจำนวนลงไปอย่างมากจนส่งผลให้ปลาในแนวปะการังซึ่งเป็นแหล่งหากินของฉลามลดจำนวนลงไปด้วย
นอกจากนั้นแล้วฉลามกำลังโดนคุกคามอย่างหนัก ทั้งจากการล่าโดยมนุษย์เพื่อนำครีบไปเป็นอาหาร การทำลายป่าโกงกางซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลของปลาฉลามหูดำ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหล่านี้ส่งผลต่อจำนวนของประชากรซึ่งลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ฉลามตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัว1.5 เมตรว่ายวนอยู่ในแนวปะการังรอบเกาะ โดยส่วนใหญ่จะพบว่ายอยู่ลำพัง ไม่ห่างจากฝั่งในระดับความลึก5-7 เมตร
ฉลามหูดำในวัยเด็กขนาดลำตัวไม่เกิน1-2ฟุต มักจะเข้ามาอาศัยป่าโกงกางที่มีรากซับซ้อน และร่มเงาเพื่อปิดบังตัวจากนักล่าที่มาจากบนฟ้าอย่างเช่น เหยี่ยว และนกออก และใช้เป้นที่หาอาหาร โดยฉลามวันเด็กจะเข้ามารวมฝูงมีมากตั้งแต่ 10-20 ตัวขึ้นไป ถึงแม้ฝูงจะมีขนาดใหญ่ แต่ไม่มีท่าทีก้าวร้าว
บริเวณป่าโกงกางที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ตลอดช่วงกลางวัน ฉลามวัยหนุ่มขนาดลำตัว1เมตร จะว่ายวนเข้ามาเพื่อสำรวจแหล่งหากิน
ลูกฉลามขนาดเล็กไม่เกิน1ฟุต กำลังว่ายเข้าใกล้แนวชายหาดในช่วงน้ำขึ้น เพื่อหากินปลาขนาดเล็กริมชายหาด
ฝูงของฉลามวัยเด็กขนาด1-2ฟุตใกล้ๆริมชายหาด และแนวโขดหิน เป็นพื้นที่ที่สามารถพบเห็นลูกฉลามได้ไม่ยากเช่นกัน
หวังว่ารูปถ่ายเล็กๆของผมพอจะเป็นประโยชน์ ที่จะทำให้หลายๆคนเวลาไปท่องเที่ยวแล้วเกิดไปจ๊ะเอ๋เข้ากับฉลามหน้าตาแบบนี้
จะไม่ตกใจกลัว ไม่ไปทำร้าย หรือว่าวิ่งหนีเค้านะครับ
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานทุกท่านทั้งหมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย ที่คอยช่วยเหลือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับฉลาม
และคอยดูแลทรัพยากรอันมีค่านี้ไว้ให้กับเรานะครับ
ขอบคุณ กรีนวิวสำหรับการอำนวยความสะดวกเรื่องเรือ สตร์ฟ
ปล. อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายเซตนี้คือ Nikon D810 ในเฮาซิงค์(เคสกันน้ำ)ของ nauticam ใช้ domeport ขนาด 8.5 นิ้ว
กับเลนส์ fisheye 16mm ระยะ f8 ไม่ได้ใช้ flash ใช้แสงธรรมชาติ, iso 500 เพราะน้ำใกล้ฝั่งค่อนข้างมีตะกอน
ใช้ single shot เหตุผลคือกดชัตเตอร์แค่ครังเดียว เสียงชัตเตอร์ก็ทำให้เค้าหนีจากเราทันทีแล้วจะไม่กลับเข้ามาบริเวณนั้นอีก
วิธีการถ่ายคือนั่งรออยู่ในน้ำอย่างเดียว ในช่วงน้ำขึ้น เราไม่สามารถว่ายตามถ่ายฉลามได้
เพราะเค้าไวกว่า ตกใจง่าย กะเกณฑ์แน่นอนไม่ได้ว่าเค้าจะเข้ามาในระยะที่เราต้องการหรือไม่
สำหรับฉลามไซด์ใหญ่ ต้องไปดำน้ำในบริเวณที่เค้าชอบมาอาศัยอยู่ ส่วนมากช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งจะเจอตัวง่ายหน่อย
ต้องไปกันน้อยคน และว่ายรอ
ให้เค้าผ่านเข้ามา ทำแบบนี้อยู่สักอาทิตย์เพื่อให้ฉลามเค้าคุ้นกับเรา ก่อนจะหาจังหวะดีๆ ดำตัวเปล่าลงไปรอให้เค้าว่ายเข้ามาหน้ากล้อง
กดพลาดครั้งเดียวก็ต้องรอวันอื่นเพราะเค้าจะหนีไปที่ลึกทันที
ต้องการชมภาพชัดๆ และอัพเดท ลองแวะไปเยี่ยมชมได้ที่ facebook นะครับ
https://www.facebook.com/armi.blue
สำหรับกระทู้ก่อนหน้า
เกาะที่งดงามตั้งแต่เช้าจรดค่ำ 2 http://pantip.com/topic/35077603
เชียงดาว http://pantip.com/topic/34686570
จากใต้ทะเลสู่ดวงดาว http://pantip.com/topic/34129989
ครึ่งบกครึ่งน้ำ http://pantip.com/topic/33638964
ดาว http://pantip.com/topic/33069390
ดอยทูเล http://pantip.com/topic/32911784
ทะเลสีขาว http://pantip.com/topic/32813404
หน้าต่างจากฟ้า http://pantip.com/topic/32697831
เพื่อนร่วมทะเลไทย http://pantip.com/topic/32623696
Losin อ่าวไทยตอนใต้ http://pantip.com/topic/32568835
อ่าวไทยสวยไม่เหมือนใคร http://pantip.com/topic/32465386 ,
มองมุมกว้าง http://pantip.com/topic/32187510 ,
บางกอก http://pantip.com/topic/32143993 ,
เขาสกเขื่อนเชี่ยวหลาน http://pantip.com/topic/32122791 ,
อันดามันใต้ http://pantip.com/topic/32015992 ,
เกาะที่งดงามตั้งแต่เช้าจรดค่ำ 1 http://pantip.com/topic/31910178