เป็นที่ทราบกันดีว่าเนื้อเรื่องในสตาร์วอร์แม้จะดูความเป็นไซไฟ ไฮเทค แต่ตัวหนังสือตอนเริ่มต้นจะบอกว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นนานมาแล้ว และสถานที่เกิดเหตุไม่มีการกล่าวถึงระบบสุริยจักรวาล หรือดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก (Earth) บ้างเลย เพียงแต่กล่าวถึงดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายกับโลก ซึ่งนั่นไม่ใช่โลกที่เราอาศัยอยู่แน่ๆ เพราะสัตว์ที่ประหลาดที่สุดในโลกของเรานั้นก็เห็นจะมีแต่ไดโนเสาร์เท่านั้น ไม่ได้มีเอเลี่ยนเพ่นพ่านไปมา ไม่งั้นเราคงได้เจอซากฟอสซิลแล้วล่ะครับ
เป็นไปได้ไหมครับว่า บรรพบุรุษของมวลมนุษยชาติในปัจจุบันนี้ นั้นมาจากผู้อพยพจากดาวในระบบอื่น ด้วยวิทยาการแบบในหนังสตาร์วอร์ สามารถเดินทางได้ด้วยยานความเร็วเหนือแสง ประมาณว่าดาวเคราะห์โลกในครั้งกระโน้นยังไม่มีไดโนเสาร์เกิดขึ้นเลย ในอดีตนั้นโลกได้รับการเยี่ยมเยือนจากเหล่าเอเลี่ยนต่างดาวที่อพยพลี้ภัยสงครามมากมาย แน่นอนวัตถุประสงค์คือต้องการหาที่อยู่ใหม่เป็นหลักแหล่ง เนื่องจากดาวเคราะห์นี้มีสภาพเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต มีการสร้างอาณานิคมขึ้นบนโลกครั้งแรก น่าจะสมัยมหายุคพรีแคมเบรียนราวๆ 4,600 ล้านปีก่อน ตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของกำเนิดโลกเลย ตอนนั้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ มีแต่พวกจุลชีพ สภาพอากาศยังไม่เหมาะที่สิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่เรียกว่ามนุษย์จะอยู่ได้ แต่เอเลี่ยนพวกนี้อยู่ได้ พวกนี้อยู่มานานพอสมควรแล้วเห็นว่าโลกกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นอีก ถ้าขืนอยู่ต่อไปพวกตนต้องสูญพันธ์ุแน่ จึงได้พากันอพยพออกจากดาวเคราะห์โลกไปหาดาวดวงอื่นอยู่ต่อไป หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกในคร้งนั้นก็เกิดการสูญพันธ์ุครั้งยิ่งใหญ่กว่าเมื่อครั้งไดโนเสาร์สูญพันธุ์เสียอีกหลายเท่า หลังจากนั้นโลกก็ฟื้นตัวใหม่อีกครั้งเกิดสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ขึ้นซึ่งก็เป็นพวกจุลชีพแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่ไหนจะมาเยี่ยมเยือนโลกอีก จนกระทั่งไดโนเสาร์ จ้าวแห่งโลกที่เกิดและโตมากับโลกอย่างแท้จริง ครองโลกมาตลอดยาวนานกว่า 165 ล้านปีระหว่างนั้นโลกเป็นเพียงแค่ทางผ่านหรือเป็นศาลาริมทางให้เหล่าเอเลี่ยนมาแวะพักชั่วคราว เพราะสภาพอากาศยุคนั้นไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตอยู่ของเอเลี่ยนแล้ว ซึ่งไดโนเสาร์เองก็เคยประจัญหน้ากับเอเลี่ยนมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถบอกเล่าอะไรได้เพราะความลับนี้ตายไปพร้อมกับการสูญพันธ์ุของไดโนเสาร์เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน
เมื่อโลกฟื้นตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง โลกเริ่มเข้าสู่ยุคสัตว์เลี้ยงด้วยนมครองโลก ยุคนั้นมีสภาพบรรยากาศคล้ายกับโลกในปัจจุบัน เหมาะสมกับสิ่งมีชีวิตทรงปัญญากลุ่มหนึ่งซึ่งมีรูปร่างแบบเดียวกับมนุษย์ในปัจจุบันจะมาอยู่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลัง Ep.10 ของสตาร์วอร์ ลุค สกายวอร์คเกอร์และเหล่าผองเพื่อนคงแก่ตายไปแล้วคงเหลือแต่ลูกหลานและเหล่าผู้อพยพบางส่วนซึ่งต้องทำสงครามกับฝ่ายจักรวรรดิอันแข็งแกร่งจนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต้องแยกย้ายกันหลบนี้ไปอยู่ดาวอื่นๆ ในระบบต่างๆ ทั่วจักรวาล เพื่อให้รอดพ้นสายตาของฝ่ายจักรวรรดิ และโลก ดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลมากพอที่ฝ่ายจักรวรรดิจะตามหาไม่เจอ ส่วนหนึ่งได้พาอพยพมาอยู่ที่โลก อีกส่วนหนึ่งไปอยู่ดาวอังคารซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน (ตอนนั้นบรรยากาศดาวอังคารเหมือนโลกมาก) ตอนนั้นโลกกำลังจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง ยานที่พวกเขาโดยสารมาก็เกิดชำรุดเสียหายเนื่องจากเดินทางด้วยระยะทางอันโคตรอภิมหาไกลแสนไกล และยานของพวกเขาก็ถูกจมลงไปใต้มหาสมุทรลึกมาก (โชคไม่ดีดันมาตกบนพื้นน้ำและจมลง ไม่งั้นป่านนี้พวกเราคงได้เห็นซากยานอายุหลายหมื่นปีแล้ว) พวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่โลกจนประสานกลมกลืนวัฒนธรรมกับเหล่า primate รวมถึงมนุษย์ตระกูล Homo แต่ไม่ใช่สายพันธุ์ Sapien แต่พวกเขาไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวให้คนยุคหลังทราบได้เพราะพูดกันคนละภาษาไม่รู้เรื่องกัน คือภาษาที่เราพูดกันทุกวันนี้เป็นภาษาที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ไม่ใช่ภาษาของบรรพบุรุษต่างดาวดั้งเดิม แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาได้เก็บข้อมูลของพวกเขาในรูปแบบไฮเทคชนิดหนึ่งถูกเก็บไว้ที่แห่งหนึ่ง จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ถูกค้นพบ แล้วก็ยังไม่มีเทคโนโลยีใดในโลกตอนนี้ที่ก้าวหน้าจนสามารถอ่านข้อมูลนี้ได้
ทางฝ่ายจักรวรรดินั้นก็ไม่ได้ยุติการแผ่แสนยานุภาพแต่เพียงเท่านี้ ยังคงออกล่าดาวดวงอื่นๆ มาไว้ใต้อาณัติต่อไป และสักวันหนึ่งคงจะถึงคิวโลกของเราแน่ๆ แต่เราจะยอมเหรอ เหตุการณ์ก็จะกลายเป็นวัฏจักรอภิมหากาพย์สตาร์วอร์ให้เล่ากล่าวขานต่อไปไม่จบไม่สิ้น.....จบแล้วครับ
ยุคสมัยในสตาร์วอร์ ตรงกับยุคสมัยใดของโลกมนุษย์?
เป็นไปได้ไหมครับว่า บรรพบุรุษของมวลมนุษยชาติในปัจจุบันนี้ นั้นมาจากผู้อพยพจากดาวในระบบอื่น ด้วยวิทยาการแบบในหนังสตาร์วอร์ สามารถเดินทางได้ด้วยยานความเร็วเหนือแสง ประมาณว่าดาวเคราะห์โลกในครั้งกระโน้นยังไม่มีไดโนเสาร์เกิดขึ้นเลย ในอดีตนั้นโลกได้รับการเยี่ยมเยือนจากเหล่าเอเลี่ยนต่างดาวที่อพยพลี้ภัยสงครามมากมาย แน่นอนวัตถุประสงค์คือต้องการหาที่อยู่ใหม่เป็นหลักแหล่ง เนื่องจากดาวเคราะห์นี้มีสภาพเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต มีการสร้างอาณานิคมขึ้นบนโลกครั้งแรก น่าจะสมัยมหายุคพรีแคมเบรียนราวๆ 4,600 ล้านปีก่อน ตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของกำเนิดโลกเลย ตอนนั้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ มีแต่พวกจุลชีพ สภาพอากาศยังไม่เหมาะที่สิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่เรียกว่ามนุษย์จะอยู่ได้ แต่เอเลี่ยนพวกนี้อยู่ได้ พวกนี้อยู่มานานพอสมควรแล้วเห็นว่าโลกกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นอีก ถ้าขืนอยู่ต่อไปพวกตนต้องสูญพันธ์ุแน่ จึงได้พากันอพยพออกจากดาวเคราะห์โลกไปหาดาวดวงอื่นอยู่ต่อไป หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกในคร้งนั้นก็เกิดการสูญพันธ์ุครั้งยิ่งใหญ่กว่าเมื่อครั้งไดโนเสาร์สูญพันธุ์เสียอีกหลายเท่า หลังจากนั้นโลกก็ฟื้นตัวใหม่อีกครั้งเกิดสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ขึ้นซึ่งก็เป็นพวกจุลชีพแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่ไหนจะมาเยี่ยมเยือนโลกอีก จนกระทั่งไดโนเสาร์ จ้าวแห่งโลกที่เกิดและโตมากับโลกอย่างแท้จริง ครองโลกมาตลอดยาวนานกว่า 165 ล้านปีระหว่างนั้นโลกเป็นเพียงแค่ทางผ่านหรือเป็นศาลาริมทางให้เหล่าเอเลี่ยนมาแวะพักชั่วคราว เพราะสภาพอากาศยุคนั้นไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตอยู่ของเอเลี่ยนแล้ว ซึ่งไดโนเสาร์เองก็เคยประจัญหน้ากับเอเลี่ยนมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถบอกเล่าอะไรได้เพราะความลับนี้ตายไปพร้อมกับการสูญพันธ์ุของไดโนเสาร์เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน
เมื่อโลกฟื้นตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง โลกเริ่มเข้าสู่ยุคสัตว์เลี้ยงด้วยนมครองโลก ยุคนั้นมีสภาพบรรยากาศคล้ายกับโลกในปัจจุบัน เหมาะสมกับสิ่งมีชีวิตทรงปัญญากลุ่มหนึ่งซึ่งมีรูปร่างแบบเดียวกับมนุษย์ในปัจจุบันจะมาอยู่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลัง Ep.10 ของสตาร์วอร์ ลุค สกายวอร์คเกอร์และเหล่าผองเพื่อนคงแก่ตายไปแล้วคงเหลือแต่ลูกหลานและเหล่าผู้อพยพบางส่วนซึ่งต้องทำสงครามกับฝ่ายจักรวรรดิอันแข็งแกร่งจนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต้องแยกย้ายกันหลบนี้ไปอยู่ดาวอื่นๆ ในระบบต่างๆ ทั่วจักรวาล เพื่อให้รอดพ้นสายตาของฝ่ายจักรวรรดิ และโลก ดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลมากพอที่ฝ่ายจักรวรรดิจะตามหาไม่เจอ ส่วนหนึ่งได้พาอพยพมาอยู่ที่โลก อีกส่วนหนึ่งไปอยู่ดาวอังคารซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน (ตอนนั้นบรรยากาศดาวอังคารเหมือนโลกมาก) ตอนนั้นโลกกำลังจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง ยานที่พวกเขาโดยสารมาก็เกิดชำรุดเสียหายเนื่องจากเดินทางด้วยระยะทางอันโคตรอภิมหาไกลแสนไกล และยานของพวกเขาก็ถูกจมลงไปใต้มหาสมุทรลึกมาก (โชคไม่ดีดันมาตกบนพื้นน้ำและจมลง ไม่งั้นป่านนี้พวกเราคงได้เห็นซากยานอายุหลายหมื่นปีแล้ว) พวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่โลกจนประสานกลมกลืนวัฒนธรรมกับเหล่า primate รวมถึงมนุษย์ตระกูล Homo แต่ไม่ใช่สายพันธุ์ Sapien แต่พวกเขาไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวให้คนยุคหลังทราบได้เพราะพูดกันคนละภาษาไม่รู้เรื่องกัน คือภาษาที่เราพูดกันทุกวันนี้เป็นภาษาที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ไม่ใช่ภาษาของบรรพบุรุษต่างดาวดั้งเดิม แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาได้เก็บข้อมูลของพวกเขาในรูปแบบไฮเทคชนิดหนึ่งถูกเก็บไว้ที่แห่งหนึ่ง จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ถูกค้นพบ แล้วก็ยังไม่มีเทคโนโลยีใดในโลกตอนนี้ที่ก้าวหน้าจนสามารถอ่านข้อมูลนี้ได้
ทางฝ่ายจักรวรรดินั้นก็ไม่ได้ยุติการแผ่แสนยานุภาพแต่เพียงเท่านี้ ยังคงออกล่าดาวดวงอื่นๆ มาไว้ใต้อาณัติต่อไป และสักวันหนึ่งคงจะถึงคิวโลกของเราแน่ๆ แต่เราจะยอมเหรอ เหตุการณ์ก็จะกลายเป็นวัฏจักรอภิมหากาพย์สตาร์วอร์ให้เล่ากล่าวขานต่อไปไม่จบไม่สิ้น.....จบแล้วครับ