วันนี้เห็นกระทู้แนะนำในห้องแป้ง มีกระทู้เกี่ยวกับเรื่องประสบการณ์แย่ๆ จากพนักงานที่ให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานห้างนะคะ
หลายๆ คนคงเจอประสบการณ์แย่ๆ แบบนี้ บางคนอาจจะเลือกเดินจากไปเงียบๆ หรือ บางคนอาจจะจัดการสั่งสอนพนักงานเหล่านั้นด้วยวิธีการต่างๆ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ซึ่งพนักงานเหล่านั้นอาจจะอารมณ์ไม่ดีมากจากปัญหาทางบ้านหรือ ปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือ ปัญหาอะไรก็แล้วแต่ แต่...ลูกค้า เค้าไม่รู้อะไรด้วยนี่คะ จะเอามาลงกับลูกค้า ซึ่งคุณเรียกว่า "ผู้อุปการะคุณ" แบบนี้จะถูกหรือ
แต่...มีพนักงานแย่ๆ แล้วก็ยังมีพนักงานที่ดี ซึ่งก็ยังมีเป็นส่วนมาก เพียงแต่ลูกค้าบางคนอาจจะโชคไม่ดี ที่ต้องไปเจอกับพนักงานแย่ๆ เท่านั้น
โดยปกติแล้วหากคุณได้รับการให้บริการแบบดีเยี่ยมจากพนักงานท่านหนึ่ง คุณจะทำอย่างไรคะ? คนส่วนใหญ่เดินจากไปพร้อมรอยยิ้มและกลับมาบอกต่อกับญาติสนิทมิตรสหาย และกลับไปใช้บริการที่เดิมนั้นอีกหลายๆ ครั้ง
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากคุณได้รับบริการแย่ๆ จากพนักงาน บางคนเลือกที่จะเงียบ แล้วเดินออกมาแบบจิตใจขุ่นมัน โกรธ..แต่ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือและเลือกไม่กลับไปใช้บริการอีก หรือ ไปเมื่อจำเป็นจริงๆ แต่บางคนกลับ บู๊ล้างผลาญ โวยวายให้แตกหัก เพื่อให้พนักงานผู้นั้นปรับปรุง หรือให้ บริษัทห้างร้านนั้นๆ มีการอบรมพนักงานให้มีคุณภาพในเรื่องการให้บริการมากกว่านี้
แต่ทั้งนี้ มันมีอีกมุมหนึ่งที่ ลูกค้าหลายๆ คนอาจจะทำอยู่แล้วหรือ ยังไม่เคยทำ หรือ รู้ว่าน่าจะทำ ซึ่งขอยกตัวอย่างเพื่อนเรานะคะ เพื่อนเราคนนี้ทำให้เราคิดได้ว่า อยากที่จะรับแล้วต้องรู้จักที่จะให้ด้วย คำๆ นี้ใช้ได้กับทุกเรื่องค่ะ...เพราะว่า ผู้รับและผู้ให้จะได้มีกำลังใจที่จำทำสิ่งดีๆ ต่อ
เพื่อนเราคนนี้ เคยไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ห้างร้านชื่อดังแห่งหนึ่ง จริงๆ เค้าแค่ไปซื้อ เตาไฟฟ้า ตัวเดียวแค่นั้น...เพื่อนเราเล่าว่า พนักงานให้การต้อนรับดีมาก เพื่อนเราคุณกับพนักงานท่านนี้เป็นชั่วโมง (จริงๆ นะคะ) เพราะเพื่อนเราเป็นคนที่ละเอียดมาก คือถ้าจะซื้ออะไรสักอย่าง ต้องมั่นใจว่า ได้ข้อมูลครบมากที่สุด เพื่อเอาไปใช้ในการตัดสินใจ ในขั้นแรกพนักงานอธิบายระบบการทำงานเบื้นต้น จากนั้นเพื่อนเราก็ยิงคำถามใส่เป็นชุดๆ พร้อมกับ ให้สาธิตวิธีการใช้ต่างๆ ให้ดู ค่ะ สุดท้าย เพื่อนเราไม่ซื้อค่ะ...
นึกภาพออกไหมคะ ว่า พอถึงจุดนี้พนักงานบางคนอาจจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากรอยยิ้ม ยิ้มแย้มเปลี่ยนเป็น หน้าบึ้ง พูดจากระโชกโฮกฮาก จนอาจทำให้เราคิดว่า ช่วงเวลาที่ผ่านไปเมื่อสักครู่นี้ มันคือพี่น้องฝาแฝด ซึ่งมีบุคลลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาสลับตัวกันตอนเรากระพริบตาใช่หรือไม่!
แต่พนักงานคนนี้ ที่อธิบายเพื่อนเราจนแตกฉาน กลับพูดจายิ้มแย้มและ บอกอย่างสุภาพว่า "ด้วยความยินดี (ที่ได้ให้คำแนะนำเพื่อนเรา) หากมีข้อสงสัยประการใดก็เชิญติดต่อกลับมาได้ครับ"
หลังจากเดินออกมาจากแผนกนั้น เพื่อนเราเดินไปจุดบริการลูกค้า ขอพบกับ ผู้จัดการแผนกค่ะ พนักงาน ตกใจกันใหญ่ ผจก. วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา หลังจากที่ทางพนักงานติดต่อไปว่ามีลูกค้าต้องการจะพบ เมื่อ ผจก. มาถึง เพื่อนเราก็บอกชื่อพนักงานที่ให้คำแนะนำกับทาง ผจก. และบอกกับ ผจก. ว่า เค้าต้องการที่จะชื่นชม พนักงานท่านนี้ให้กับทาง ผจก. และอยากให้แจ้งไปยัง ระดับผู้บริหารของห้างว่า พนักงานท่านนี้ได้ให้บริการอย่างดีมากๆ กับเค้าและ สาธิตวิธีการใช้งานอย่างดี เป็นเวลาชั่วโมงกว่า โดยไม่มีท่าทีรำคาญแต่อย่างใดเมื่อเค้ามีคำถามมากมาย และยังให้คำตอบที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น จึงอยากจะให้ห้างร้านแห่งนี้ ได้รับทราบความดีของพนักงานท่านนี้เพื่อให้ พนักงานมีกำลังใจในการให้บริการดีๆ เช่นนี้ต่อไปและเป็นแบบอย่างทีดีให้กับพนักงานท่านอื่นด้วย
ผจก. ถึงกับโล่งอก และบอกเพื่อนเราว่า โดยปกติ หากมีลูกค้าเรียกมาพบ นั่นหมายความว่า อาจจะเกิดเรื่องให้ถูกตำหนิหรือพนักงานทำสิ่งผิดพลาดต่อลูกค้า แต่ เพื่อนเราทำให้เค้าแปลกใจ และ ดีใจว่า อย่างน้อย ยังมีลูกค้าที่เห็นความดี และ ให้กำลังใจพนักงานที่ให้บริการแบบเพื่อนเราอยู่
จากนั้น ผจก. ก็ให้พนักงานอีกท่าน เรียกพี่พนักงานที่ให้บริการเพื่อนเรามา เมื่อพี่พนักงานมาถึงก็หน้าซีด แลดูตกใจเพราะคิดว่า เค้าทำอะไรผิดแน่ๆ ต้องถูกว่าแน่ๆ
แต่กลายเป็นว่า เพื่อนเราชมเค้าต่อหน้า ผจก. และ ผจก. ก็ชื่นชมเค้า ทั้งต่อหน้า ลูกค้าและเพื่อนร่วมงานที่อยู่บริเวณนั้น
และอีกไม่กี่วันถัดมาเพื่อนเราก็ตัดสินใจไปซื้อสินค้าตัวนั้นที่ห้างเดิม ก็พบว่า มีประกาศ ชื่อพี่พนักงานคนนี้ เป็นพนักงานดีเด่นประจำเดือน ติดอยู่ ในบอร์ดประกาศที่เห็นได้ชัดเจนและทราบว่ามีรางวัลให้กับพนักงานดีเด่นท่านนี้ด้วย
ปลื้มใจนะคะ ทั้งผู้ให้และผู้รับ...เราได้ฟังยังอดปลื้มไม่ได้ค่ะ เลยเอาเพื่อนเป็นแบบอย่าง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ถ้าเจอบริการแย่ๆ ก็ไม่ไปต่อปากต่อคำนะคะ แต่จะ สนับสนุนพนักงานที่ทำดีๆ เพื่อให้ พนักงานเหล่านี้ได้เจริญก้าวหน้าและได้รับสิ่งที่เค้าสมควรได้ค่ะ
ต่อจากนี้หากเจอพนักงานดีๆ อยากให้ทุกๆ ท่านช่วยเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าเหล่านี้ด้วยนะคะ เพื่อให้เค้ามีกำลังใจในการให้บริการดีๆ ต่อไปค่ะ
อย่าลืมนะคะ...ได้รับแล้วต้องรู้จักที่จะให้ด้วยค่ะ
ทั้งนี้มันอยู่ที่คุณค่ะ ว่าจะ ปฎิบัติกับ พนักงานเหล่านั้นทั้งดีและไม่ดีอย่างไร เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้ฟังมาเท่านั้นเองค่ะ
ปล. ขออนุญาตแท็กห้องตามนั้นนะคะ เพราะพบเจอกระทู้ระบายแบบนี้บ่อยค่ะ
งานให้บริการ (ลูกค้า+พนักงาน)
หลายๆ คนคงเจอประสบการณ์แย่ๆ แบบนี้ บางคนอาจจะเลือกเดินจากไปเงียบๆ หรือ บางคนอาจจะจัดการสั่งสอนพนักงานเหล่านั้นด้วยวิธีการต่างๆ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ซึ่งพนักงานเหล่านั้นอาจจะอารมณ์ไม่ดีมากจากปัญหาทางบ้านหรือ ปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือ ปัญหาอะไรก็แล้วแต่ แต่...ลูกค้า เค้าไม่รู้อะไรด้วยนี่คะ จะเอามาลงกับลูกค้า ซึ่งคุณเรียกว่า "ผู้อุปการะคุณ" แบบนี้จะถูกหรือ
แต่...มีพนักงานแย่ๆ แล้วก็ยังมีพนักงานที่ดี ซึ่งก็ยังมีเป็นส่วนมาก เพียงแต่ลูกค้าบางคนอาจจะโชคไม่ดี ที่ต้องไปเจอกับพนักงานแย่ๆ เท่านั้น
โดยปกติแล้วหากคุณได้รับการให้บริการแบบดีเยี่ยมจากพนักงานท่านหนึ่ง คุณจะทำอย่างไรคะ? คนส่วนใหญ่เดินจากไปพร้อมรอยยิ้มและกลับมาบอกต่อกับญาติสนิทมิตรสหาย และกลับไปใช้บริการที่เดิมนั้นอีกหลายๆ ครั้ง
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากคุณได้รับบริการแย่ๆ จากพนักงาน บางคนเลือกที่จะเงียบ แล้วเดินออกมาแบบจิตใจขุ่นมัน โกรธ..แต่ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือและเลือกไม่กลับไปใช้บริการอีก หรือ ไปเมื่อจำเป็นจริงๆ แต่บางคนกลับ บู๊ล้างผลาญ โวยวายให้แตกหัก เพื่อให้พนักงานผู้นั้นปรับปรุง หรือให้ บริษัทห้างร้านนั้นๆ มีการอบรมพนักงานให้มีคุณภาพในเรื่องการให้บริการมากกว่านี้
แต่ทั้งนี้ มันมีอีกมุมหนึ่งที่ ลูกค้าหลายๆ คนอาจจะทำอยู่แล้วหรือ ยังไม่เคยทำ หรือ รู้ว่าน่าจะทำ ซึ่งขอยกตัวอย่างเพื่อนเรานะคะ เพื่อนเราคนนี้ทำให้เราคิดได้ว่า อยากที่จะรับแล้วต้องรู้จักที่จะให้ด้วย คำๆ นี้ใช้ได้กับทุกเรื่องค่ะ...เพราะว่า ผู้รับและผู้ให้จะได้มีกำลังใจที่จำทำสิ่งดีๆ ต่อ
เพื่อนเราคนนี้ เคยไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ห้างร้านชื่อดังแห่งหนึ่ง จริงๆ เค้าแค่ไปซื้อ เตาไฟฟ้า ตัวเดียวแค่นั้น...เพื่อนเราเล่าว่า พนักงานให้การต้อนรับดีมาก เพื่อนเราคุณกับพนักงานท่านนี้เป็นชั่วโมง (จริงๆ นะคะ) เพราะเพื่อนเราเป็นคนที่ละเอียดมาก คือถ้าจะซื้ออะไรสักอย่าง ต้องมั่นใจว่า ได้ข้อมูลครบมากที่สุด เพื่อเอาไปใช้ในการตัดสินใจ ในขั้นแรกพนักงานอธิบายระบบการทำงานเบื้นต้น จากนั้นเพื่อนเราก็ยิงคำถามใส่เป็นชุดๆ พร้อมกับ ให้สาธิตวิธีการใช้ต่างๆ ให้ดู ค่ะ สุดท้าย เพื่อนเราไม่ซื้อค่ะ...
นึกภาพออกไหมคะ ว่า พอถึงจุดนี้พนักงานบางคนอาจจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากรอยยิ้ม ยิ้มแย้มเปลี่ยนเป็น หน้าบึ้ง พูดจากระโชกโฮกฮาก จนอาจทำให้เราคิดว่า ช่วงเวลาที่ผ่านไปเมื่อสักครู่นี้ มันคือพี่น้องฝาแฝด ซึ่งมีบุคลลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาสลับตัวกันตอนเรากระพริบตาใช่หรือไม่!
แต่พนักงานคนนี้ ที่อธิบายเพื่อนเราจนแตกฉาน กลับพูดจายิ้มแย้มและ บอกอย่างสุภาพว่า "ด้วยความยินดี (ที่ได้ให้คำแนะนำเพื่อนเรา) หากมีข้อสงสัยประการใดก็เชิญติดต่อกลับมาได้ครับ"
หลังจากเดินออกมาจากแผนกนั้น เพื่อนเราเดินไปจุดบริการลูกค้า ขอพบกับ ผู้จัดการแผนกค่ะ พนักงาน ตกใจกันใหญ่ ผจก. วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา หลังจากที่ทางพนักงานติดต่อไปว่ามีลูกค้าต้องการจะพบ เมื่อ ผจก. มาถึง เพื่อนเราก็บอกชื่อพนักงานที่ให้คำแนะนำกับทาง ผจก. และบอกกับ ผจก. ว่า เค้าต้องการที่จะชื่นชม พนักงานท่านนี้ให้กับทาง ผจก. และอยากให้แจ้งไปยัง ระดับผู้บริหารของห้างว่า พนักงานท่านนี้ได้ให้บริการอย่างดีมากๆ กับเค้าและ สาธิตวิธีการใช้งานอย่างดี เป็นเวลาชั่วโมงกว่า โดยไม่มีท่าทีรำคาญแต่อย่างใดเมื่อเค้ามีคำถามมากมาย และยังให้คำตอบที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น จึงอยากจะให้ห้างร้านแห่งนี้ ได้รับทราบความดีของพนักงานท่านนี้เพื่อให้ พนักงานมีกำลังใจในการให้บริการดีๆ เช่นนี้ต่อไปและเป็นแบบอย่างทีดีให้กับพนักงานท่านอื่นด้วย
ผจก. ถึงกับโล่งอก และบอกเพื่อนเราว่า โดยปกติ หากมีลูกค้าเรียกมาพบ นั่นหมายความว่า อาจจะเกิดเรื่องให้ถูกตำหนิหรือพนักงานทำสิ่งผิดพลาดต่อลูกค้า แต่ เพื่อนเราทำให้เค้าแปลกใจ และ ดีใจว่า อย่างน้อย ยังมีลูกค้าที่เห็นความดี และ ให้กำลังใจพนักงานที่ให้บริการแบบเพื่อนเราอยู่
จากนั้น ผจก. ก็ให้พนักงานอีกท่าน เรียกพี่พนักงานที่ให้บริการเพื่อนเรามา เมื่อพี่พนักงานมาถึงก็หน้าซีด แลดูตกใจเพราะคิดว่า เค้าทำอะไรผิดแน่ๆ ต้องถูกว่าแน่ๆ
แต่กลายเป็นว่า เพื่อนเราชมเค้าต่อหน้า ผจก. และ ผจก. ก็ชื่นชมเค้า ทั้งต่อหน้า ลูกค้าและเพื่อนร่วมงานที่อยู่บริเวณนั้น
และอีกไม่กี่วันถัดมาเพื่อนเราก็ตัดสินใจไปซื้อสินค้าตัวนั้นที่ห้างเดิม ก็พบว่า มีประกาศ ชื่อพี่พนักงานคนนี้ เป็นพนักงานดีเด่นประจำเดือน ติดอยู่ ในบอร์ดประกาศที่เห็นได้ชัดเจนและทราบว่ามีรางวัลให้กับพนักงานดีเด่นท่านนี้ด้วย
ปลื้มใจนะคะ ทั้งผู้ให้และผู้รับ...เราได้ฟังยังอดปลื้มไม่ได้ค่ะ เลยเอาเพื่อนเป็นแบบอย่าง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ถ้าเจอบริการแย่ๆ ก็ไม่ไปต่อปากต่อคำนะคะ แต่จะ สนับสนุนพนักงานที่ทำดีๆ เพื่อให้ พนักงานเหล่านี้ได้เจริญก้าวหน้าและได้รับสิ่งที่เค้าสมควรได้ค่ะ
ต่อจากนี้หากเจอพนักงานดีๆ อยากให้ทุกๆ ท่านช่วยเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าเหล่านี้ด้วยนะคะ เพื่อให้เค้ามีกำลังใจในการให้บริการดีๆ ต่อไปค่ะ
อย่าลืมนะคะ...ได้รับแล้วต้องรู้จักที่จะให้ด้วยค่ะ
ทั้งนี้มันอยู่ที่คุณค่ะ ว่าจะ ปฎิบัติกับ พนักงานเหล่านั้นทั้งดีและไม่ดีอย่างไร เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้ฟังมาเท่านั้นเองค่ะ
ปล. ขออนุญาตแท็กห้องตามนั้นนะคะ เพราะพบเจอกระทู้ระบายแบบนี้บ่อยค่ะ