เอาต้มข่าหัวปลาลูกผสม มาเล่าสู่กันฟัง

กระทู้สนทนา
หลังจากยึกยัก ยึกยือ  ยึดเยื้อ  มาร่วม 2 เดือน  ด้วยความอยากได้ปลาช่อนตัวใหญ่ ๆ สักตัว
เมื่อวานพ่อค้าปลาพรรคพวกเดียวกันโทรมาบอกว่า  ได้มาแล้ว ตัวหนัก 2 ก.ก. รีบมาได้เลย

ผมก็รีบไปทันที  เป็นปลาน๊อคน้ำแข็งไว้  ตัวใหญ่ใช้ได้เลย  เมื่อเทียบกับปลานิลตัวละฝ่ามือ



พ่อค้ายังไม่ว่างทำให้เพระมัวชั่งปลาที่มีพ่อค้าย่อยมารับช่วงไปอีกที  ผมก็ยืนดูยืนคุยประดับความรู้
ไปอย่างนั้น  ทราบว่าเอาไปขายบนดอย



ชั่งเสร็จ  พ่อค้ามาทำปลาให้  มัวเพลินดูความคล่องแคล่ว  พอนึกได้ เป็นอย่างนี้ไปแล้ว



เอากลับมาทำความสะอาด ล้างเมือกล้างคาวด้วยน้ำส้มสายชู  



ผมจัดการเอาแพ๊คใส่ถุง ถุงละชิ้น จะใช้เมื่อไหร่ก็หยิบมาใช้ตามต้องการ



แบ่งทำกับข้าวมื้อเย็น  ตามที่อยากกินมานาน คือต้มข่าหัวปลาช่อน



วันนี้จัดข่าอ่อนอย่างหนัก  กะเคี้ยวกินเล่นเป็นยาเลย  ท้องชอบอืดดีนัก



เอาเครื่องสมุนไพรไทยลงต้ม ให้ออกกลิ่น



เสร็จแล้วใส่หางกะทิลงไปต้มด้วย  วันกะไม่ให้ออกมัน  ขอแค่หางก็พอ



เอาปลาลงต้ม ตามด้วยพริกขี้หนู  วันนี้ขอเผ็ด ๆ สักวัน



เหลือบมองบนชั้น  เจอนี่ครับ   จะใส่ดีไม่ใส่ดี ชั่งใจอยู่นาน  ต้มยำกับต้มข่า  กลิ่นรส
มันไม่เหมือนกัน



แค่หางกะทิเท่านั้นเอง  ตัดสินใจใส่น้ำพริกเผา แถมด้วยใบกะเพราอีก 1 กำมือ



ชักจะเพี้ยน ๆ  อย่างที่ผมบอกในหัวกระทู้ว่าต้มข่าหัวปลาลูกผสม  นอกจากหัวปลาช่อน
ผมใส่ปลาหมึกลงไปด้วย  เผื่อมีใครอยากกินแบบทะเลบ้าง

ปรุงเปรี้ยว  ปรุงเค็ม  ถูกปากถูกใจ  ตักใส่หม้อไฟขึ้นโต๊ะเสริฟคงเท่ไม่หยอก



เอามาชิมก่อนสักชามเล็ก ๆ  







มื้อเย็นเมื่อวานสล่าปู่  เข้าสเป๊ค กินปลาเป็นหลัก  กินผักเป็นยา  แถมด้วยข้าวกล้องอีกต่างหาก



ว่ากันมาอย่างยาว  ชนิดม้วนเดียวจบ  ขอบคุณที่อ่าน  สวัสดีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่