ขยายความเรื่องเด็กจมน้ำที่รอดตายปาฎิหารย์จากรายการตีสิบครับ

สืบเนื่องจากรายการตี10 เมื่อวานนี้ มีช่วงของรายการตอนหนึ่งที่เล่าถึงเด็กที่จมน้ำนานกว่า10นาที และสุดท้ายได้รับการช่วยเหลือด้วยการปั้มหัวใจและทำการรักษาhypothermia(ลดอุณหภูมิร่างกาย)จนเด็กคนนั้นสามารถกลับมามีชีวิตได้ตามปกติอย่างมหัศจรรย์ ผมในฐานะแพทย์คนหนึ่งรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่มีประโยชน์และควรค่าแก่การนำมาขยายความมาก จึงขออนญาตนำมาเล่าสู่กันฟังใหม่ ในฐานะที่แม้ไม่ได้เป็นแพทย์ที่ช่วยเหลือเอง แต่ก็ได้รับรู้รายละเอียดปลีกย่อยของแพทย์ที่ได้ทำการช่วยเหลือไว้ในวันนั้นครับ (ขอออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่ได้ดูรายการตี10เมื่อวานนี้ แต่พอจะทราบคร่าวๆแล้วว่ามีการพูดถึงประเด็นไหนกันบ้างผ่านทางsocial networkต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในหัวหิน มีเด็กคนหนึ่งจมน้ำไปนานกว่า10 นาที ซึ่งโดยปกติแล้ว หากไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ หรือได้รับความช่วยเหลือที่ล่าช้า ก็มีโอกาสสูงมากที่เด็กคนนั้นจะเสียชีวิต หรือพิการทางสมองเนื่องจากการขาดออกซิเจนที่นาน แต่เด็กคนนี้ต้องกล่าวว่ามีความโชคดีตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างแท้จริง กล่าวคือ หลังจากมีคนช่วยขึ้นมาจากน้ำได้ ก็ได้รับการช่วยด้วยการปั้มหัวใจอยู่ที่ข้างสระน้ำโดยฝรั่งท่านหนึ่งทันที (ซึ่งจากการศึกษาเป็นที่ชัดเจนว่า ยิ่งผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือโดยการปั้มหัวใจเร็วและถูกวิธีเท่าไหร่ โอกาสการรอดชีวิตก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น) ซึ่งความโชคดีมากๆอย่างแรกของเด็กคนนี้ก็คือ ฝรั่งคนที่ทำการปั้มหัวใจให้เด็กคนนี้ ท่านเป็นแพทย์เฉพาะทางทางด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินจากประเทศออสเตรเลียพอดี!! และในวันนั้นก็มาพักร้อนอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้พอดี เด็กคนนี้จึงได้รับการปั้มหัวใจอย่างทันท่วงทีและถูกต้องสมบูรณ์แบบโดยแพทย์ที่ชำนาญการทางด้านช่วยชีวิตอยู่ข้างสระน้ำ นั่นคือความโชคดีข้อที่หนึ่ง

หลังจากนั้นแพทย์ฝรั่งท่านนี้ก็ได้นำส่งเด็กคนนี้ไปที่รพ.กรุงเทพหัวหิน (ซึ่งขณะนี้ ก็ยังเป็นรพ.แห่งเดียวในหัวหินที่มีแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินประจำอยู่ที่โรงพยาบาลพอดี) โดยแพทย์ที่ปฎิบัติงานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในวันนั้น ก็เป็นอาจารย์แพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินของรพ.จุฬาลงกรณ์ ที่บังเอิญไปปฎิบัติงานที่รพ.แห่งนั้นในช่วงวันหยุดพอดี

หลังจากได้ทำการช่วยปั้มหัวใจจนเด็กกลับมามีชีพจรอีกครั้ง แพทย์ท่านนั้นได้ประเมินแล้วว่าหากต้องการที่จะช่วยเหลือเด็กคนนี้ให้มีโอกาสรอดชีวิตรวมถึงการกลับมาเป็นปกติของระบบประสาทที่ดีที่สุด จำเป็นจะต้องทำการรักษาด้วยวิธีที่เรียกว่า therapeutic hypothermia ซึ่งก็หมายความว่า การทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง อธิบายง่ายๆก็เหมือนเข้าfreeze เซลล์ต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมองไว้ก่อน เพื่อรอการฟื้นฟูของร่างกายภายหลังจากที่ปั้มหัวใจขึ้นมา (จากการศึกษาพบว่าวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยสามารถมีการรอดชีวิตที่สูงขึ้น รวมถึงมีระบบประสาทที่กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด เทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ทำการรักษาด้วยวิธีนี้)

คราวนี้ปัญหาจึงเกิดขึ้น เนื่องจากแพทย์ท่านนั้นประเมินแล้วว่า มีความจำเป็นที่จะต้องทำการรักษาด้วยวิธี therapeutic hypothermia ในเด็กคนนี้ก็จริง แต่พบว่าที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่มีเครื่องสำหรับทำ hypothermia ประจำอยู่ในรพ. (ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะทั้งประเทศไทยก็มีเจ้าเครื่องนี้อยู่ไม่กี่โรงพยาบาล เนื่องจากราคาค่าเครื่องที่ค่อนข้างสูง และที่สำคัญคือยังไม่มีบุคลากรที่พอจะสามารถดูแลระหว่างการทำhypothermia นี้ได้ เนื่องจากยังเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย)

แต่ความโชคดีที่สองของเด็กคนนี้ก็ยังเกิดขึ้น นั่นคือความเก่งและความมีไหวพริบที่ดีของแพทย์ฉุกเฉินท่านนี้ ที่ตัดสินใจที่จะทำการรักษาวิธี hypothermia ให้ได้แม้ไม่มีเครื่องมือที่จะทำ โดยการพยามหาอุปกรณ์รอบๆตัวมาทำการลดอุณหภูมิในเด็กคนนี้ให้ได้ โดยแพทย์ท่านนี้ได้ใช้วิธีการคือ เอาน้ำเกลือไปแช่น้ำแข็ง เพื่อให้น้ำเกลือมีอุณหภูมิที่ต่ำลงแล้วจึงค่อยเอามาให้ทางหลอดเลือดดำแก่เด็ก , หาน้ำแข็งที่พอจะหาได้ในตอนนั้นเช่น cold pack , น้ำแข็งถุง มาวางตามตำแหน่งต่างๆของร่างกายเด็ก , ล้างท้องเด็กด้วยน้ำเย็น , …. 9ล9 ตลอดทั้งทางที่อยู่บนรถพยาบาลที่กำลังนำส่งเด็กคนนี้มารักษาต่อที่รพ.จุฬาลงกรณ์

ความโชคดีที่สามของเด็กคนนี้ก็คือความพร้อมของแผนก ICU รพ.จุฬา ที่มีประสบการณ์ในการทำhypothermia เด็กมาพอสมควร รวมถึงได้รับความกรุณาจากอาจารย์แพทย์เด็กและแพทย์ประจำบ้านเด็กหลายท่านที่ร่วมกันดูแลรักษาต่อ จนกระทั่งเด็กคนนี้กลับมาสมบูรณ์อย่างที่ทุกท่านได้เห็นในรายการตีสิบ

ทุกอย่างล้วนมีเบื้องหลังเสมอ เด็กคนนี้อาจจะเสียชีวิตหรือปัจจุบันอาจจะนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราไปแล้วก็ได้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือต่างๆอย่างทันท่วงทีตั้งแต่แรกจนสิ้นสุดการรักษาดังที่กล่าวมา (ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นรพ.จุฬารักษาเท่านั้นนะครับ รพ.อื่นที่พร้อมที่จะรักษาด้วยวิธีhypothermia ถ้าทำได้ก็มีผลการรักษาที่ไม่ต่างกัน)

คราวนี้สิ่งที่สังคมไทยเราได้จากเหตุการณ์นี้นอกจากการร่วมดีใจกับครอบครัวของเด็กคนนี้แล้ว พวกเราทุกคนน่าจะร่วมกันนำประสบการณ์ที่มีค่าเหล่านี้มาทำให้มันเกิดขึ้นกับคนในสังคมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือพวกเราทุกๆคนจึงควรที่จะเรียนรู้วิธีการช่วยชีวิตเบื้องต้นด้วยการปั้มหัวใจเบื้องต้นเอาไว้ เพราะยิ่งมีคนที่มีทักษะการช่วยชีวิตเหล่านี้มากเท่าไหร่ คนไข้ที่เกิดภาวะฉุกเฉินในที่ต่างๆก็มีโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหล่านี้มากขึ้นตามไปด้วย (ในประเทศพัฒนาแล้วเช่น ญี่ปุ่นหรืออเมริกา ประชาชนทั่วไปจะได้รับการสอนวิธีปั้มหัวใจตั้งแต่เด็กๆในหลักสูตรการเรียนแล้วครับ) เพราะอย่างน้อยถ้าคุณมีทักษะเหล่านี้ติดตัวไว้ บางครั้งนอกจากคุณจะได้ช่วยชีวิตคนที่คุณรักแล้ว คุณอาจจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไว้ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วคุณจะรู้สึกว่ามันมีค่าจริงๆครับ

ปล.1 ขอบคุณแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินของรพ.กรุงเทพหัวหิน และรพ.จุฬาลงกรณ์ รวมทั้งแพทย์เฉพาะทางสาขากุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปล.2 ขอบคุณครอบครัวของเด็กคนนี้ที่ได้นำประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาแบ่งปันให้กับสังคมไทยครับ
ปล.3 ทุกคนควรมีความคาดหวังที่ถูกต้อง การช่วยชีวิตด้วยการปั้มหัวใจ และการทำhypothermia สามารถที่จะทำให้มีโอกาสในการรอดชีวิตและมีการกลับมาเป็นปกติของระบบประสาทของร่างกายสูงขึ้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ได้รับการช่วยเหลือทั้งสองวิธีนี้ จะต้องกลับมาเป็นปกติดังเช่นเด็กคนนี้ทุกคน
ปล.4 ยิ่งได้รับการช่วยเหลือเร็วเท่าไหร่ และถูกต้องเท่าไหร่ โอกาสที่ผู้ป่วยคนนั้นจะรอดชีวิตก็สูงขึ้นเท่านั้น
ปล.5 วิธีการช่วยปั้มหัวใจผู้ป่วยเบื้องต้น มีตามในyoutube ทั่วไปเลยครับ (รวมถึงเมื่อวานรายการตีสิบก็ได้มีการนำมาสอนในรายการด้วย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่