คำเตือนก่อนอ่าน
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่จินตนาการในความฝัน ไม่ได้เกิดขึ้นจริงบนโลก (แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ดี 5555+) เนื้อเรื่องอาจจะยาวหน่อยนะ แลดูเว่อร์ไปซักนิด แต่เป็นฝันที่สนุกมากในรอบปีเลยทีเดียวสำหรับเรา รู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกของแจ่มใส 555 แต่ไอ้ครั้นจะมาเล่าเม้ามอยธรรมดานั้นก็คงจะไม่ถึงอรรถรส เลยจับมาเขียนในรูปแบบนิยายซะเลย ฟินเว่อร์เฟอร์บี้ =w= พูดแล้วยังเขินไม่หาย อิอิ

ปล. ขออนุญาตยืมรูปภาพประกอบจากเรื่อง Kaichou wa Maid-sama
กลางดึกคืนหนึ่ง ในขณะที่ฝนตกพรำๆ เสียงกดออดที่หน้าบ้านก็ดังขึ้น ฉันลืมตาตื่นและลุกจากเตียงด้วยความงัวเงีย ใครกันนะมาดึกดื่นป่านนี้ ช่างไม่รู้จักความเกรงใจเอาซะบ้างเลย -__-; ปากบ่นพึมพำไปเรื่อยเปื่อย ส่วนมือก็คว้าเอาร่มสีชมพูคันโปรดที่เสียบอยู่ในชั้นรองเท้า เดินฝ่าสายฝนไปยังรั้วหน้าบ้าน แต่ทว่าพบเพียงแต่ความว่างเปล่า ฉันพยายามสอดส่ายสายตามองซ้ายมองขวาจนทั่วบริเวณ กลับไม่พบอะไรนอกเสียจากความมืด..
'
เอ๊ะ ก็เมื้อกี้ได้ยินจริงๆนี่นา หรือว่าเราจะหูฝาดไปนะ'
แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากพุ่มไม้หนาทึบด้านข้างรั้ว ฉันก้มลงไปค้นหาที่มาของเสียงด้วยความแปลกใจและสงสัย =='
'
แฮ่ !!!!'
เสียงร้องน่าเกลียดน่ากลัว พร้อมกับมือขาวซีดปริศนาพุ่งออกมาจากพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจทำเอาฉันถึงกับล้มลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้นหญ้าทันที ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ศีรษะสีทองสยองขวัญค่อยๆโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ข้างรั้วอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มปริศนาผู้เป็นเจ้าของมือสยองขวัญนั่น เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ฉันอย่างช้าๆ
'
ไอ้บ้าเอ้ยยยยย นายเป็นใครเนี่ย อยากตายรึไง !!!! -*-'
สิ้นเสียง ร่มในมือก็ถูกฟาดไปยังศีรษะของคนตรงหน้าทันที ชายหนุ่มชักศีรษะและมือคู่นั้นกลับไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะกุมขมับเดินมาหาฉันที่ประตูเหล็กบานใหญ่หน้าบ้าน
'โอ้ยยยย คุณมาตีผมทำไมเนี่ยย !? มันเจ็บนะ' เขาโวยวายเสียงดัง
'เล่นบ้าอะไรของนาย แล้วนายเป็นใคร ทำไมต้องมาทำท่าลับๆล่อๆที่รั้วบ้านฉันด้วย คิดจะมาขโมยของเสร็จแล้วก็ฆ่าข่มขืนฉันสินะ ไอ้โจรโรคจิต ถ้านายยังไม่ออกไปจากตรงนี้ ฉันโทรแจ้งตำรวจแน่ !!' ฉันขู่ พร้อมกับยกร่มในมือขึ้นทำท่าจะฟาดเขาอีกรอบ
'เฮ้ยย จะบ้าเรอะ ผมไม่ใช่พวกโรคจิตนะ -*- คือผมกำลังจะไปบ้านญาติน่ะ แต่ดันหลงทางซะก่อน แถมติดต่อใครไม่ได้เลย เดินผ่านมาจนถึงที่นี่ เห็นท่าทางบ้านของคุณน่าจะใจดี เลยอยากจะมาขอรบกวนที่พักซักคืนนึง พรุ่งนี้ผมต้องไปมอบตัวที่มหาลัยตอนเช้า แต่ตอนนี้ฝนตกหนักมาก ผมไม่รู้จะไปนอนที่ไหนแล้ว ขอร้องล่ะ เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยนะคุณคนสวย ใจดี๊ใจดี..' เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน หึ.. หน้าหล่อๆ ผิวขาวๆตัดกับแว่นสีเทานั่นมันไม่ทำให้ฉันใจเต้นหรอกนะ
'นายฟังดีๆนะ..
ไม่ มี ทาง ! แม่ฉันสอนไว้ว่าอย่าไว้ใจ
คนหน้าแปลก -_- อีกอย่างบ้านของฉันเลี้ยงแมว และมันก็ไม่ชอบคนแปลกหน้าซะด้วยสิ เอาล่ะ กลับบ้านกลับช่องของนายไปได้แล้วไป' ฉันเตรียมตัวถือร่มจะหันหลังกลับ แต่ก็ถูกมือขาวซีดนั้นยื่นผ่านรั้วมารั้งชายเสื้อเอาไว้
'นะ น้าาาา.. รับรองว่าต่อให้เหลือคุณเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลก ผมก็ไม่ปล้ำคุณแน่นอน สาบานให้ฟ้าผ่าตายเลยก็ได้' เขาพูดพร้อมกับยกนิ้ว3นิ้วขึ้นมาชูข้างขมับ
'ปากนายนี่มัน.. ช่างเหมาะสมกับสีผมเสี่ยวๆของนายจริงๆ ถ้าขืนนายอ้าปากพูดอีกทีนะ ฉันจะเอามีดมาตัดลิ้นนายซะ แล้วสับเป็นชิ้นๆ โยนให้อีแร้งกิน
-__-; ' ฉันขู่ด้วยความโมโหนิดๆ
'ใจคอคุณจะให้ผมนอนกลางสายฝนจริงๆหรอ ผมหนาวจริงๆนะ T_T ...ฮัดเช้ย !!!!' เสียงจามดังสนั่น เจ้าตัวเอามืดปาดจมูกทำหน้าเหยเก
'งั้นรอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปเอาน้ำร้อนมาสาด เผื่อบางทีมันอาจจะช่วยทำให้นายอุ่นขึ้น - -' ฉันพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กๆ
'ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งหาที่เปรียบมิได้ ถ้าจะทำกันขนาดนั้นล่ะก็นะ.. เอาร่มฟาดหัวกระผมตายลงตรงหน้ารั้วบ้านนี่เถอะครับคุณผู้หญิง
-_- แต่ไม่รู้ล่ะ ยังไงถ้าคุณไม่ยอมช่วย ผมก็จะนอนอยู่หน้ารั้วบ้านคุณเนี่ย เพราะผมไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ' เขาพูดพร้อมกับนั่งลงกับพื้นจริงๆอย่างที่ว่า
'เห้ยยย นายจะทำงั้นไม่ได้นะ -*- เอาเป็นว่า ฉันจะช่วยนายก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะยอมให้นายเข้าบ้านหรอกนะ เอ้า เอานี่ไปซะ' ฉันโยนร่มสีชมพู แล้วยื่นโทรศัพท์ที่มีหมายเลขของใครหนึ่งโชว์อยู่บนหน้าจอให้เขา
'ห๊ะ ? จะให้เบอร์ผมหรอ หลงรักผมขึ้นมาแล้วรึไง - -' เขารับโทรศัพท์ไปถามด้วยสีหน้างงๆ
'จะบ้ารึไง เบอร์นั่นน่ะเป็นเบอร์โทรของญาติฉันเอง เม็มไว้ซะ เขาทำกิจการเกี่ยวกับโรงแรมอยู่ คงพอมีห้องว่างให้นายนอนสักคืน มันก็ไม่ไกลจากที่นี่มากหรอก เดินไปอีกสัก 10 กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย ป้ายสีเขียว'
'สิบกิโลเนี่ยนะไม่ไกล...' เขาบ่นพึมพำ แล้วจึงล้วงโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก้มกดระงม จากสภาพนั้น.. ตอนนี้มันเปียกชุ่มไปด้วยละอองฝนที่กำลังเริ่มซา หวังว่าคงไม่พังหรอกนะ สักพักเขาก็ยื่นโทรศัพท์และร่มคืนให้กับฉัน
'ร่มนั่นนายเอาไปเถอะ ยังไงตอนนี้ฉันก็เปียกเลอะเป็นลูกหมาตกน้ำอยู่แล้ว คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน - -* เอาล่ะ ฉันไปอาบน้ำนอนแล้วนะ โชคดี บ้ายยย' ฉันโบกมือแล้ววิ่งเข้าบ้านทันที โดยไม่รอฟังเสียงของชายหนุ่มที่ตะโกนไล่หลังมาแม้แต่น้อย
.
.
10 นาทีผ่านไป..
'ตุ่ง ตุง ตุ๊งงงง ~~'
เสียง message ที่แสนคุ้นหูดังขึ้น ข้อความโฆษณาอีกล่ะสิท่า ส่งมาอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน นี่ใจคอจะไม่เว้นแม้แต่กลางดึกเลยสินะ -__- ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยความหัวเสีย ก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง เตรียมกดลบข้อความสีเขียวน่ารำคาญนั่นทิ้ง แต่ทว่าตัวหนังสือเล็กๆที่โชว์อยู่ ทำให้ฉันรีบกระตุกนิ้วกลับแทบไม่ทัน
'You have a new message by 088-68493XX ;
ขอบคุณมากๆ ไว้ฉันจะเอาร่มไปคืนทีหลัง ฝันดีนะ.. ยัยแม่มด (/- ω-)/'
เฮ้ยยยย !! อีตาบ้านี่แอบขโมยเอาเบอร์ฉันไปตอนไหนวะเนี่ยยย ชั่วร้ายที่สุด อย่าให้เจอนะโว้ยยยย แม่จะสับให้เป็นชิ้นๆเลยคอยดู =[]=
# บ่ายวันรุ่งขึ้น..
'ขอบใจนะ รมิตา เธอนี่ช่วยได้เยอะเลย'
'ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์ เอกสารแค่นี้ชิวๆ มีอะไรให้หนูช่วยอีกก็บอกได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ^^'
หลังจากช่วยงานอาจารย์เสร็จ ท้องก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที กะว่าจะรีบกลับบ้านไปอาบน้ำให้เจ้าจิงเกิลเบลล์ตัวยุ่งที่บ้านซะหน่อย แต่ช่วยไม่ได้แฮะ ไหนๆก็มาถึงมหาลัยแล้ว แอบแวะไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน ว่าแล้วฉันก็เดินตรงดิ่งไปยังโรงอาหารของคณะนิเทศศาสตร์ทันที ก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋นับว่าเป็นสุดยอดของที่นี่ ฉันมาทีไรก็มักจะแวะกินกับเพื่อนสาวประจำ รสชาติมันช่างลึกล้ำเกินจะหาใดเทียบได้จริงๆ
'ป้าคะ/ครับ เอาวุ้นเส้นต้มยำไข่ยางมะตูมชามนึง'
ฉันรีบหันขวับไปหาเจ้าของเสียงทันที กำหมัดเตรียมเอาเรื่องเต็มที่ ฉันมาก่อนนะ แย่งพูดยังไม่พอ แถมกล้าดียังไงมาสั่งตามฉันอีก -_-
'นี่มันคิวฉั.... เฮ้ยยยย !! นาย.. =[]= ' บ้าน่า ไม่จริง เวรกรรมอะไรของฉันนะ ถึงต้องมาเจอหน้าอีตานี่อีกแล้ว
'อ้าว.. ยัยแม่มด เธอเองหรอกหรอ สวัสดียามบ่าย' เขาโบกมือทักทาย แถมยังส่งยิ้มหวานชวนขนหัวลุกให้ฉันอีกด้วย
'ป้าคะ ขอโทษนะคะ คือว่าหนูไม่ทานแล้วดีกว่าค่ะ พอดีนึกได้ว่ามีธุระ ไว้คราวหน้านะคะป้า ^^' ฉันส่งยิ้มแหยๆให้ป้า ก่อนจะหันหลังหมุนตัวเตรียมกลับบ้านทันที
'จะรีบไปไหนน่ะ เดี๋ยวก่อนสิ..' เขาตะโกนถาม
'ยินดีที่ไม่รู้จักนะคะ ฉันจะกลับแล้ว ลาก่อน สวัสดี - -' ฉันรีบสาวเท้าเดินหนีออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับถึงบ้านฉันก็รีบลงมืออาบน้ำให้ลูกชายสุดที่รักทันที อาบเสร็จก็ได้เวลาเป่าขน แต่ปากก็ยังไม่วายบ่นพึมพำให้เจ้าเหมียวฟังไปเรื่อยเปื่อย ให้ตายเถอะ ท่าทางหมอนี่ดูยังไงก็ไม่ต่างจากโรคจิตชัดๆ แถมมาอยู่มหาลัยเดียวกันอีก ช่างบรมซวยสองชั้นจริงๆ =_='
ดิ้ง ด่องงง ~~
เสียงออดดังขึ้นที่หน้าบ้าน ทำเอาฉันสะดุ้งโหยง ใครมาอีกละเนี่ย หวังว่าคงไม่ใช่นายโรคจิตอีกหรอกนะ - - ฉันเปิดประตูเดินไปยังรั้วหน้าบ้าน แต่แล้วก็เป็นอย่างที่คิด หน้าเดิมๆ หัวสีทองเสี่ยวๆ กับแว่นตาสีเทาอันเดิม คงเป็นใครไปไม่ได้อีกแล้วสินะ นอกเสียจาก..
'กลับ ไป ซะ' ฉันพูดเสียงดุ และชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขาด้วยความหงุดหงิด
'เดี๋ยวสิ ฉันแค่เอาร่มมาคืน แล้วก็ตั้งใจจะเอาซองเอกสารมาส่งน่ะ'
เขายื่นจดหมายในมือให้ ฉันรับมันมาด้วยความงุนงน ข้างในซองมีพาสปอตและเอกสารอยู่จำนวนหนึ่ง และในนั้นยังมีซองจดหมายสีชมพู หน้าซองจ่าที่อยู่ผู้ส่งที่คุ้นเคย จากออสเตรเลีย แม่สินะ.. ฉันรีบเปิดจดหมายอ่านด้วยความลุ้นระทึกทันที
" เป็นไงบ้างลูก แม่หวังว่าลูกกับจิงเกิลเบลล์คงสบายดีใช่มั้ย ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าหนูชื่อชารอล เขาเป็นพนักงานเสริฟที่ร้านอาหารของแม่ที่ออสเตรเลีย ชารอลเป็นเด็กดีนะ ขยันทำงาน แถมยังติดคะแนน top ten ของชั้นเรียนประจำอีกด้วย แม่เลยตัดสินใจรับเขามาเป็นบุตรบุญธรรมเมื่อเดือนที่แล้ว ขอโทษนะที่แม่เพิ่งมาบอกเรื่องสำคัญตอนนี้ คือทางบ้านเรามีปัญหานิดหน่อย แม่เลยจำเป็นต้องส่งชารอลมาเรียนที่เมืองไทย เอกสารสำคัญทั้งหมด รวมถึงเอกสารการมอบตัวของมหาวิทยาลัย แม่รวบรวมไว้ให้อยู่ในซองสีน้ำตาลนี้แล้ว อ้อ ! ส่วนเรื่องภาระงานบ้านไม่ต้องห่วงนะลูก ชารอลบอกแม่ว่าเขาจะเป็นคนช่วยจัดการทุกอย่างเอง ยังไงแม่ขอฝากลูกช่วยดูเขาด้วยนะ รักและคิดถึงเสมอ... จากแม่ "
หะ... !!??? อ่านจบฉันเงยหน้ากำมือแน่นด้วยความโมโห ส่วนคนตรงหน้าก็เอาแต่ทำหน้ายิ้มระรื่นชื่นบาน ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย นายนี่น่ะหรอ จะมาเป็นพี่ชายของฉัน บ้าน่า ! แม่นะแม่.. จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาฉันสักคำบ้างเลยยยย ฉันไม่ได้อยากจะมีพี่ชายสักหน่อยนะ ฮือออ T_T
'อ่านจบแล้วสินะ นับตั้งแต่นี้ฉันก็คือพี่ชายของเธอ ว่าแต่.. เธอชื่อไอติมสินะ งั้นจากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกันนะ น้องสาว ^-^'
ว่าที่พี่ชายคนใหม่ชะโงกหน้าผ่านรั้วมาจุ้บแก้มฉันเบาๆ ตามธรรมเนียมการทักทายของฝรั่ง แน่นอนว่าคนไทยอย่างฉันไม่คุ้นชินกับการกระทำแบบนี้เอาซะเลย และด้วยความเขินอาย จึงส่งผลให้แก้มทั้งสองข้างนั้นแดงก่ำราวกับลูกตำลึงทันที
ไม่นะ.. ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่ความฝันใช่มั้ย น้ำตาจะไหล
พระเจ้าต้องกำลังเล่นตลกกับฉันอยู่แน่ๆ !!
// ..............END........... //
จบแค่นี้ เพราะดันตื่นซะก่อน จริงๆอยากฝันต่อนะ รู้สึกค้างคา
ไม่รู้คืนนี้จะได้เจอคุณพี่ชายอีกรึเปล่า ขอให้ชีวิตจริงเจอแบบนี้สักคน 55
## เมื่อคืนฝันสนุกมากกกกก เอามาเขียนเป็นเรื่องราวซะเลย (¯▽¯'')
ปล. ขออนุญาตยืมรูปภาพประกอบจากเรื่อง Kaichou wa Maid-sama
กลางดึกคืนหนึ่ง ในขณะที่ฝนตกพรำๆ เสียงกดออดที่หน้าบ้านก็ดังขึ้น ฉันลืมตาตื่นและลุกจากเตียงด้วยความงัวเงีย ใครกันนะมาดึกดื่นป่านนี้ ช่างไม่รู้จักความเกรงใจเอาซะบ้างเลย -__-; ปากบ่นพึมพำไปเรื่อยเปื่อย ส่วนมือก็คว้าเอาร่มสีชมพูคันโปรดที่เสียบอยู่ในชั้นรองเท้า เดินฝ่าสายฝนไปยังรั้วหน้าบ้าน แต่ทว่าพบเพียงแต่ความว่างเปล่า ฉันพยายามสอดส่ายสายตามองซ้ายมองขวาจนทั่วบริเวณ กลับไม่พบอะไรนอกเสียจากความมืด..
'เอ๊ะ ก็เมื้อกี้ได้ยินจริงๆนี่นา หรือว่าเราจะหูฝาดไปนะ'
แต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากพุ่มไม้หนาทึบด้านข้างรั้ว ฉันก้มลงไปค้นหาที่มาของเสียงด้วยความแปลกใจและสงสัย =='
'แฮ่ !!!!'
เสียงร้องน่าเกลียดน่ากลัว พร้อมกับมือขาวซีดปริศนาพุ่งออกมาจากพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจทำเอาฉันถึงกับล้มลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้นหญ้าทันที ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ศีรษะสีทองสยองขวัญค่อยๆโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ข้างรั้วอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มปริศนาผู้เป็นเจ้าของมือสยองขวัญนั่น เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ฉันอย่างช้าๆ
'ไอ้บ้าเอ้ยยยยย นายเป็นใครเนี่ย อยากตายรึไง !!!! -*-'
สิ้นเสียง ร่มในมือก็ถูกฟาดไปยังศีรษะของคนตรงหน้าทันที ชายหนุ่มชักศีรษะและมือคู่นั้นกลับไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะกุมขมับเดินมาหาฉันที่ประตูเหล็กบานใหญ่หน้าบ้าน
'โอ้ยยยย คุณมาตีผมทำไมเนี่ยย !? มันเจ็บนะ' เขาโวยวายเสียงดัง
'เล่นบ้าอะไรของนาย แล้วนายเป็นใคร ทำไมต้องมาทำท่าลับๆล่อๆที่รั้วบ้านฉันด้วย คิดจะมาขโมยของเสร็จแล้วก็ฆ่าข่มขืนฉันสินะ ไอ้โจรโรคจิต ถ้านายยังไม่ออกไปจากตรงนี้ ฉันโทรแจ้งตำรวจแน่ !!' ฉันขู่ พร้อมกับยกร่มในมือขึ้นทำท่าจะฟาดเขาอีกรอบ
'เฮ้ยย จะบ้าเรอะ ผมไม่ใช่พวกโรคจิตนะ -*- คือผมกำลังจะไปบ้านญาติน่ะ แต่ดันหลงทางซะก่อน แถมติดต่อใครไม่ได้เลย เดินผ่านมาจนถึงที่นี่ เห็นท่าทางบ้านของคุณน่าจะใจดี เลยอยากจะมาขอรบกวนที่พักซักคืนนึง พรุ่งนี้ผมต้องไปมอบตัวที่มหาลัยตอนเช้า แต่ตอนนี้ฝนตกหนักมาก ผมไม่รู้จะไปนอนที่ไหนแล้ว ขอร้องล่ะ เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยนะคุณคนสวย ใจดี๊ใจดี..' เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน หึ.. หน้าหล่อๆ ผิวขาวๆตัดกับแว่นสีเทานั่นมันไม่ทำให้ฉันใจเต้นหรอกนะ
'นายฟังดีๆนะ.. ไม่ มี ทาง ! แม่ฉันสอนไว้ว่าอย่าไว้ใจคนหน้าแปลก -_- อีกอย่างบ้านของฉันเลี้ยงแมว และมันก็ไม่ชอบคนแปลกหน้าซะด้วยสิ เอาล่ะ กลับบ้านกลับช่องของนายไปได้แล้วไป' ฉันเตรียมตัวถือร่มจะหันหลังกลับ แต่ก็ถูกมือขาวซีดนั้นยื่นผ่านรั้วมารั้งชายเสื้อเอาไว้
'นะ น้าาาา.. รับรองว่าต่อให้เหลือคุณเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลก ผมก็ไม่ปล้ำคุณแน่นอน สาบานให้ฟ้าผ่าตายเลยก็ได้' เขาพูดพร้อมกับยกนิ้ว3นิ้วขึ้นมาชูข้างขมับ
'ปากนายนี่มัน.. ช่างเหมาะสมกับสีผมเสี่ยวๆของนายจริงๆ ถ้าขืนนายอ้าปากพูดอีกทีนะ ฉันจะเอามีดมาตัดลิ้นนายซะ แล้วสับเป็นชิ้นๆ โยนให้อีแร้งกิน
-__-; ' ฉันขู่ด้วยความโมโหนิดๆ
'ใจคอคุณจะให้ผมนอนกลางสายฝนจริงๆหรอ ผมหนาวจริงๆนะ T_T ...ฮัดเช้ย !!!!' เสียงจามดังสนั่น เจ้าตัวเอามืดปาดจมูกทำหน้าเหยเก
'งั้นรอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปเอาน้ำร้อนมาสาด เผื่อบางทีมันอาจจะช่วยทำให้นายอุ่นขึ้น - -' ฉันพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กๆ
'ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งหาที่เปรียบมิได้ ถ้าจะทำกันขนาดนั้นล่ะก็นะ.. เอาร่มฟาดหัวกระผมตายลงตรงหน้ารั้วบ้านนี่เถอะครับคุณผู้หญิง
-_- แต่ไม่รู้ล่ะ ยังไงถ้าคุณไม่ยอมช่วย ผมก็จะนอนอยู่หน้ารั้วบ้านคุณเนี่ย เพราะผมไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ' เขาพูดพร้อมกับนั่งลงกับพื้นจริงๆอย่างที่ว่า
'เห้ยยย นายจะทำงั้นไม่ได้นะ -*- เอาเป็นว่า ฉันจะช่วยนายก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะยอมให้นายเข้าบ้านหรอกนะ เอ้า เอานี่ไปซะ' ฉันโยนร่มสีชมพู แล้วยื่นโทรศัพท์ที่มีหมายเลขของใครหนึ่งโชว์อยู่บนหน้าจอให้เขา
'ห๊ะ ? จะให้เบอร์ผมหรอ หลงรักผมขึ้นมาแล้วรึไง - -' เขารับโทรศัพท์ไปถามด้วยสีหน้างงๆ
'จะบ้ารึไง เบอร์นั่นน่ะเป็นเบอร์โทรของญาติฉันเอง เม็มไว้ซะ เขาทำกิจการเกี่ยวกับโรงแรมอยู่ คงพอมีห้องว่างให้นายนอนสักคืน มันก็ไม่ไกลจากที่นี่มากหรอก เดินไปอีกสัก 10 กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย ป้ายสีเขียว'
'สิบกิโลเนี่ยนะไม่ไกล...' เขาบ่นพึมพำ แล้วจึงล้วงโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก้มกดระงม จากสภาพนั้น.. ตอนนี้มันเปียกชุ่มไปด้วยละอองฝนที่กำลังเริ่มซา หวังว่าคงไม่พังหรอกนะ สักพักเขาก็ยื่นโทรศัพท์และร่มคืนให้กับฉัน
'ร่มนั่นนายเอาไปเถอะ ยังไงตอนนี้ฉันก็เปียกเลอะเป็นลูกหมาตกน้ำอยู่แล้ว คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน - -* เอาล่ะ ฉันไปอาบน้ำนอนแล้วนะ โชคดี บ้ายยย' ฉันโบกมือแล้ววิ่งเข้าบ้านทันที โดยไม่รอฟังเสียงของชายหนุ่มที่ตะโกนไล่หลังมาแม้แต่น้อย
.
.
10 นาทีผ่านไป..
'ตุ่ง ตุง ตุ๊งงงง ~~'
เสียง message ที่แสนคุ้นหูดังขึ้น ข้อความโฆษณาอีกล่ะสิท่า ส่งมาอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน นี่ใจคอจะไม่เว้นแม้แต่กลางดึกเลยสินะ -__- ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยความหัวเสีย ก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง เตรียมกดลบข้อความสีเขียวน่ารำคาญนั่นทิ้ง แต่ทว่าตัวหนังสือเล็กๆที่โชว์อยู่ ทำให้ฉันรีบกระตุกนิ้วกลับแทบไม่ทัน
'You have a new message by 088-68493XX ; ขอบคุณมากๆ ไว้ฉันจะเอาร่มไปคืนทีหลัง ฝันดีนะ.. ยัยแม่มด (/- ω-)/'
เฮ้ยยยย !! อีตาบ้านี่แอบขโมยเอาเบอร์ฉันไปตอนไหนวะเนี่ยยย ชั่วร้ายที่สุด อย่าให้เจอนะโว้ยยยย แม่จะสับให้เป็นชิ้นๆเลยคอยดู =[]=
# บ่ายวันรุ่งขึ้น..
'ขอบใจนะ รมิตา เธอนี่ช่วยได้เยอะเลย'
'ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์ เอกสารแค่นี้ชิวๆ มีอะไรให้หนูช่วยอีกก็บอกได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ^^'
หลังจากช่วยงานอาจารย์เสร็จ ท้องก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที กะว่าจะรีบกลับบ้านไปอาบน้ำให้เจ้าจิงเกิลเบลล์ตัวยุ่งที่บ้านซะหน่อย แต่ช่วยไม่ได้แฮะ ไหนๆก็มาถึงมหาลัยแล้ว แอบแวะไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน ว่าแล้วฉันก็เดินตรงดิ่งไปยังโรงอาหารของคณะนิเทศศาสตร์ทันที ก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋นับว่าเป็นสุดยอดของที่นี่ ฉันมาทีไรก็มักจะแวะกินกับเพื่อนสาวประจำ รสชาติมันช่างลึกล้ำเกินจะหาใดเทียบได้จริงๆ
'ป้าคะ/ครับ เอาวุ้นเส้นต้มยำไข่ยางมะตูมชามนึง'
ฉันรีบหันขวับไปหาเจ้าของเสียงทันที กำหมัดเตรียมเอาเรื่องเต็มที่ ฉันมาก่อนนะ แย่งพูดยังไม่พอ แถมกล้าดียังไงมาสั่งตามฉันอีก -_-
'นี่มันคิวฉั.... เฮ้ยยยย !! นาย.. =[]= ' บ้าน่า ไม่จริง เวรกรรมอะไรของฉันนะ ถึงต้องมาเจอหน้าอีตานี่อีกแล้ว
'อ้าว.. ยัยแม่มด เธอเองหรอกหรอ สวัสดียามบ่าย' เขาโบกมือทักทาย แถมยังส่งยิ้มหวานชวนขนหัวลุกให้ฉันอีกด้วย
'ป้าคะ ขอโทษนะคะ คือว่าหนูไม่ทานแล้วดีกว่าค่ะ พอดีนึกได้ว่ามีธุระ ไว้คราวหน้านะคะป้า ^^' ฉันส่งยิ้มแหยๆให้ป้า ก่อนจะหันหลังหมุนตัวเตรียมกลับบ้านทันที
'จะรีบไปไหนน่ะ เดี๋ยวก่อนสิ..' เขาตะโกนถาม
'ยินดีที่ไม่รู้จักนะคะ ฉันจะกลับแล้ว ลาก่อน สวัสดี - -' ฉันรีบสาวเท้าเดินหนีออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับถึงบ้านฉันก็รีบลงมืออาบน้ำให้ลูกชายสุดที่รักทันที อาบเสร็จก็ได้เวลาเป่าขน แต่ปากก็ยังไม่วายบ่นพึมพำให้เจ้าเหมียวฟังไปเรื่อยเปื่อย ให้ตายเถอะ ท่าทางหมอนี่ดูยังไงก็ไม่ต่างจากโรคจิตชัดๆ แถมมาอยู่มหาลัยเดียวกันอีก ช่างบรมซวยสองชั้นจริงๆ =_='
ดิ้ง ด่องงง ~~
เสียงออดดังขึ้นที่หน้าบ้าน ทำเอาฉันสะดุ้งโหยง ใครมาอีกละเนี่ย หวังว่าคงไม่ใช่นายโรคจิตอีกหรอกนะ - - ฉันเปิดประตูเดินไปยังรั้วหน้าบ้าน แต่แล้วก็เป็นอย่างที่คิด หน้าเดิมๆ หัวสีทองเสี่ยวๆ กับแว่นตาสีเทาอันเดิม คงเป็นใครไปไม่ได้อีกแล้วสินะ นอกเสียจาก..
'กลับ ไป ซะ' ฉันพูดเสียงดุ และชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขาด้วยความหงุดหงิด
'เดี๋ยวสิ ฉันแค่เอาร่มมาคืน แล้วก็ตั้งใจจะเอาซองเอกสารมาส่งน่ะ'
เขายื่นจดหมายในมือให้ ฉันรับมันมาด้วยความงุนงน ข้างในซองมีพาสปอตและเอกสารอยู่จำนวนหนึ่ง และในนั้นยังมีซองจดหมายสีชมพู หน้าซองจ่าที่อยู่ผู้ส่งที่คุ้นเคย จากออสเตรเลีย แม่สินะ.. ฉันรีบเปิดจดหมายอ่านด้วยความลุ้นระทึกทันที
" เป็นไงบ้างลูก แม่หวังว่าลูกกับจิงเกิลเบลล์คงสบายดีใช่มั้ย ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าหนูชื่อชารอล เขาเป็นพนักงานเสริฟที่ร้านอาหารของแม่ที่ออสเตรเลีย ชารอลเป็นเด็กดีนะ ขยันทำงาน แถมยังติดคะแนน top ten ของชั้นเรียนประจำอีกด้วย แม่เลยตัดสินใจรับเขามาเป็นบุตรบุญธรรมเมื่อเดือนที่แล้ว ขอโทษนะที่แม่เพิ่งมาบอกเรื่องสำคัญตอนนี้ คือทางบ้านเรามีปัญหานิดหน่อย แม่เลยจำเป็นต้องส่งชารอลมาเรียนที่เมืองไทย เอกสารสำคัญทั้งหมด รวมถึงเอกสารการมอบตัวของมหาวิทยาลัย แม่รวบรวมไว้ให้อยู่ในซองสีน้ำตาลนี้แล้ว อ้อ ! ส่วนเรื่องภาระงานบ้านไม่ต้องห่วงนะลูก ชารอลบอกแม่ว่าเขาจะเป็นคนช่วยจัดการทุกอย่างเอง ยังไงแม่ขอฝากลูกช่วยดูเขาด้วยนะ รักและคิดถึงเสมอ... จากแม่ "
หะ... !!??? อ่านจบฉันเงยหน้ากำมือแน่นด้วยความโมโห ส่วนคนตรงหน้าก็เอาแต่ทำหน้ายิ้มระรื่นชื่นบาน ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย นายนี่น่ะหรอ จะมาเป็นพี่ชายของฉัน บ้าน่า ! แม่นะแม่.. จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาฉันสักคำบ้างเลยยยย ฉันไม่ได้อยากจะมีพี่ชายสักหน่อยนะ ฮือออ T_T
'อ่านจบแล้วสินะ นับตั้งแต่นี้ฉันก็คือพี่ชายของเธอ ว่าแต่.. เธอชื่อไอติมสินะ งั้นจากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกันนะ น้องสาว ^-^'
ว่าที่พี่ชายคนใหม่ชะโงกหน้าผ่านรั้วมาจุ้บแก้มฉันเบาๆ ตามธรรมเนียมการทักทายของฝรั่ง แน่นอนว่าคนไทยอย่างฉันไม่คุ้นชินกับการกระทำแบบนี้เอาซะเลย และด้วยความเขินอาย จึงส่งผลให้แก้มทั้งสองข้างนั้นแดงก่ำราวกับลูกตำลึงทันที
พระเจ้าต้องกำลังเล่นตลกกับฉันอยู่แน่ๆ !!
จบแค่นี้ เพราะดันตื่นซะก่อน จริงๆอยากฝันต่อนะ รู้สึกค้างคา
ไม่รู้คืนนี้จะได้เจอคุณพี่ชายอีกรึเปล่า ขอให้ชีวิตจริงเจอแบบนี้สักคน 55