"ตาล"- Based on true story

กระทู้สนทนา
บทที่ 1
วันหนึ่งในฤดูฝนที่อากาศทึบทึม ฉันนั่งบิดขี้เกียจอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่หลังโต๊ะทำงานอันแสนรกรุงรัง กองเอกสารมากมายวางระเกะระกะราวกับขาดความใส่ใจ ใครซักคนเคยพูดว่าโต๊ะทำงานของฉันจะเรียบร้อยที่สุดก็ต่อเมื่อเจ้านายแสนดีของฉันสั่งให้ทำ 5 ส. ซึ่งนั่นก็เพียงปีละครั้งเท่านั้น

ท่ามกางกองเอกสารมากมาย บนกองเอกสารซึ่งต่ำที่สุด (แต่ก็ยังสูงพอๆกับขอบแก้วกาแฟสตาร์บัคขนาดเล็กที่สุด) โทรศัพท์มือถือของฉันวางอยู่อย่างเงียบสงบมันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เช้าจวบจนกระทั่งเข้าสู่ช่วงพักกลางวัน ราวกับรอเวลาอยู่ มันสั่นเสียงดัง "วืดวืด"

ฉันรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที

ชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอ ทำให้ฉันทั้งแปลกใจทั้งดีใจ

"ตาล" เป็นชื่อของเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งฉันรู้จักเมื่อตอนยังเป็นเฟรชชี่ เราเรียนต่างคณะกัน แต่ก็สนิทกันมากในช่วงปี 1 ปี 2 ก่อนที่จะเริ่มแยกห่างกันไปด้วยภารกิจเกี่ยวกับการเรียนในสิ่งที่ตัวเองเลือก

ฉันกับตาลไม่ได้พบกันนานมากแล้ว ไม่ใช่เพียงไม่ได้พบ แม้แต่ข่าวคราวก็ไม่มีให้ได้ยินได้เห็น

ความคิดถึงของฉันสั่งให้มือรีบรับสายให้เร็วที่สุด

"เอ่อออ ฮัลโหล ใช่เบอร์ขวัญ..." เสียงนั้นถามอย่างกล้าๆกลัวๆ ฉันไม่รอให้ปลายสายพูดจบ
"ไอ้ตาลลลลล"ฉันกรอกเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดีลงไปทันที
"ขวัญ ดีจัง นึกว่าเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว"
"โหยยย คิดถึงแกจัง"
"ชั้นก็คิดถึงแกเหมือนกัน"
"แกอยู่ไหนอ่ะ แกมากินข้าวกับชั้นนะ ชั้นพักกลางวันแล้ว"ปลายสายเงียบสนิท เหมือนว่ากำลังใช้ความคิดอยู่
"นะนะนะนะ แกไปกินข้าวกับชั้นหน่อย"
"แกอยู่ไหนล่ะ"
"ชั้นก็อยู่ที่ทำงานชั้นสิ แกมากินข้าวกะชั้นนะ แถวนี้มีร้านอาหารตามสั่งเจ้านึง อร่อยม๊ากกกก แกมากินข้าวกับชั้นนะ" ฉันพยายามชักจูงอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง แต่อีกฝ่ายยังคงเงียบอยู่ดี
"แล้วที่ทำงานแกอยู่ไหน ถ้าแกไม่บอก ชั้นก็ไปกินข้าวกับแกไม่ได้หรอกนะ" ฉันรีบบอกตำแหน่งของที่ทำงานของฉันอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งบอกวิธีการเดินทางให้กับเพื่อนทันทีที่ทราบว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
"เดี๋ยวชั้นนั่งรถไฟฟ้าแล้วต่อพี่วินเข้าไปละกัน คงซัก 20 นาที"
"เออ มาเร็วๆ ร้านนี้เด็ดมาก ถ้าแกช้า อด!!! บายยยยย"
"จุ๊บๆ"เป็นวิธีพูดก่อนวางสายของตาลที่ไม่เปลี่ยนไปเลยนับตั้งแต่รู้จักกันมา ฉันรีบคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กสีน้ำตาลเข้มแล้วยัดโทรศัพท์มือถือลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินตัวลอยออกจากห้องอย่างยินดี
.........................

ฉันออกมายืนรออยู่หน้าตึกได้ประมาณ 30 นาที รถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอดเพียงครู่เดียวก่อนจะขับออกไปโดยเหลือไว้เพียงหญิงสาวคนหนึ่ง

เธออายุประมาณ 25-26 ปี ไว้ผมยาวถึงเอว ผิวขาว ใบหน้าเล็กรูปไข่ ดวงตาเรียวยาวและหางตาชี้ขึ้น จมูกโด่ง ริมฝีปากหนา เธอสวมชุดกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวพิมพ์ลายดอกไม้เล็กๆ และสวมรองเท้าสีน้ำตาล บ่าซ้ายสะพายกระเป๋าสีเดียวกับรองเท้าและในมือขวาถือกระเป็าเดินทางสีกรมท่า เธอส่งยิ้มตาหยีที่คุ้นตา ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน

"ขวัญจ๋าาาาา"เธอวางกระเป๋าเดินทางลง ก่อนจะสวมกอดฉันและฉันก็กอดเธอกลับด้วยความคิดถึง
"ไอ้ตาลลลล"กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยอวนอยู่ที่จมูก กลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาดคล้ายแป้งเด็ก คือกลิ่นของเพื่อนคนนี้
"ไหนบอก 20 นาที"ฉันหรี่ตามอง อีกฝ่ายหัวเราะอย่างเคอะเขิน แล้วใช้มือที่ว่างเกาศีรษะ สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อเสียของเพื่อนคนนี้คือ เธอสามารถ
หลงทางได้ตลอดเวลาแม้ว่าคุณจะบอกทางเธอละเอียดซักแค่ไหน แม้แต่ทางที่เธอเดินผ่านทุกวันบางครั้งเธอก็ยังหลงได้
"แกนี่นะ" ฉันส่ายหน้าไปหัวเราะไป
"เออ ขอโทษ"
"เออเออ ไปไป ชั้นหิวแล้ว" ฉันลูบท้อง ก่อนจะเดินคล้องแขนเพื่อนออกไปทานข้าว
..........................

ดูเหมือนว่าฟ้าจะไม่เป็นใจเท่าไหร่นัก

นอกจากฝนจะตกแล้ว ร้านอาหารตามสั่งที่ฉันหมายมั่นปั้นมือว่าจะพาตาลมาฝากท้องยังมีคนไปใช้บริการจนแทบขี่คอกันทานข้าว สุดท้ายเราสองคนก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวรถเข็นข้างทาง

ตาลนั้นแทบไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด เธอยังไว้ผมยาวถึงเอวแบบตอนปี 1 ใบหน้าที่แทบจะเรียกได้ว่าไร้การแต่งเติมใดๆนอกจากการทาแป้งบางๆ และทาเพียงลิปมันไร้สีบนริมฝีปาก

"บะหมี่เกี๊ยวต้มยำไม่เผ็ดมากไม่ผัก" ตาลยังคงไม่ทานผัก และไม่ทานเผ็ดเหมือนเดิม ป้าร้านส้มตาที่เราเคยไปกินด้วยกันเมื่อครั้งยังเป็นเพียงเฟรชชี่มักจะเรียกส้มตำแบบที่ตาลสั่งว่า "ตำอนุบาล"
"โต ป่านนี้ยังไม่กินผักอีกนะแก แกมีชีวิตอยู่มาได้ไงตั้ง 25 ปีฮะ"
"26 ย่ะ"เธอแก้ โดนที่ยังก้มหน้าก้มตาปรุงน้ำตาล น้ำส้มสายชู

ผู้หญิงตรงหน้าฉันนั้นยังคงเป็นพวกเสพติดรสหวานและเปรี้ยวอยู่เหมือนเดิม อะไรๆที่เกี่ยวกับตาลซึ่งจำได้นั้นไม่เปลี่ยนไปเลย เว้นแต่เธอผอมลงจนเห็นโหนกแก้ม ขอบตาคล้ำและดวงตาลึก แบบที่เราจะเห็นบนใบหน้าของคนนอนดึก

ระหว่างที่เราทานอาหารกลางวัน ฉันกับตาลก็ผลัดกันถามถึงความเป็นไปของอีกฝ่ายหนึ่ง โดนส่วนใหญ่จะเป็นฉันที่เป็นฝ่ายถาม และเมื่อทานอาหารเสร็จฉันก็ได้รู้ว่าตาลกำลังเรียนจะเรียนจบปริญญาโท และดูเหมือนว่าเพื่อนของฉันกำลังเตรียมตัวเดินทางอยู่ ตาลไม่ได้บอกว่าเธอจะเดินทางไปที่ไหน บอกแต่เพียงว่าเธอกำลังจะออกเดินทางเพียงเท่านั้น

"แล้วคืนนี้แกจะพักที่ไหน"ฉันถามหลังจากที่เรากำลังแวะร้านสะดวกซื้อก่อนจะเดินกลับไปยังที่ทำงานของฉัน
"แกมีโรงแรมจะแนะนำมั้ย ที่สะอาด ไว้ใจได้ ราคาไม่แพง"
"แกจะอยู่นานมั้ย"
"คิดว่าไม่นาน แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ชั้นเลี้ยงแกนะ"ตาลตอบขณะที่หยิบกระเป๋าออกมาจ่ายค่านมเปรี้ยวกับน้ำเปล่าของตัวเองและชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาวของฉัน
"ขอบใจ"ฉันตอบขณะที่ใช้ความคิด ฉันอยากให้ตาลได้พักโรงแรมที่ใกล้กับที่พักของฉันและเมื่อตาลได้รับเงินทอน ฉันก็คิดบางอย่างดีๆได้ขึ้นมา ฉันคล้องแขนเพื่อนอีกครั้ง
"ชั้นรู้แล้วว่าแกพักที่ไหนดี"
"ที่ไหน"เธอถามอย่างตื่นเต้น
"ก็หอชั้นไง"ตาลกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะส่ายศีรษะแบบเร็วๆ
"โหยยย แกก็ นี่ไงแบบที่ต้องการเลย สะอาด ปลอดภัย ไว้ใจได้ แล้วไม่ใช่แค่ถูกนะจ๊ะ ฟรีอีกด้วย"ตาลเบะปากเป็นรูปสามเหลี่ยม
"ไม่เอา"
"เอ๊าาาาา ทำไมยะ"
"ชั้นไม่อยากไปกวนแก"
"ไม่กวนเล๊ยยยย แกไปค้างกะชั้นนะ ชั้นยังคุยกะแกไม่หนำใจเลย" อีกฝ่ายนิ่งเงียบ
"เอาน่าาาา ถือว่าแกไปนอนเป็นเพื่อนชั้นหน่อยนะ ชั้นเหง๊าเหงา"
"แต่..."
"ไอ้ตาล"ฉันเสียงแข็ง ยังไงคืนนี้ฉันต้องลากแม่เพื่อนตัวดีไปค้างที่หอให้ได้ ตาลระบายลมหายใจออกมาก่อนจะส่งยิ้มสดใสให้
"ก็ได้"
"ดีมาก งั้นแกกลับไปรอที่หอชั้นเลย เดี๋ยวเอากุญแจให้"ฉันพูด มือก็ควานหากุญแจในกระเป๋า
"ไม่ต้องๆ"ฉันเงยหน้าขึ้นมาถลึงตาใส่
"เดี๋ยวชั้นรอไปพร้อมแกนั่นแหละ"
"แกจะรอชั้นทำงานเหรอ"ตาลผลกศีรษะขึ้นลง
"แกแน่ใจนะ"ฉันถามซ้ำ
"เออ"พูดพร้อมกับส่งกระเป๋าเดินทางในมือให้
"เอาตัวประกันไปเลย"เธอยิ้มร่า
"แหมมม ไอ้นี่เนียนฝากกระเป๋าเลยนะ"
"หรือแกไม่กลัวชั้นหนีไปนอนที่อื่น"เธอหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ฉันรับกระเป๋ามาถือในมือกระเป๋าค่อนข้างหนักทีเดียว
"ยัดอะไรมาไม่เห็นใจคนรับฝากเล๊ยยย ชั้นยิ่งเตี้ยๆอยู่" อีกฝ่ายหัวเราะ ก่อนจะดึงกระเป๋ากลับไปถือเอง ฉันรีบดึงกลับมาหาตัว เราเดินจากร้านสะดวกซื้อเพียงไม่นานก็กลับมาถึงที่ทำงานของฉัน เลือกที่นั่งใกล้ๆกับเสาต้นหนึ่งเพื่อนั่งรอฉัน เธอสัญญาว่าจะนั่งรอตรงนี้จนกว่าฉันจะเลิกงาน แล้วเราจะกลับไปที่หอของฉันด้วยกัน

ฉันแยกจากตาลเพื่อขึ้นไปทำงานด้วยหัวใจพองโต อยากให้เวลาเลิกงานมาถึงเร็วๆ ฉันแทบอดใจรอไม่ไหวเมื่อคิดว่าคืนนี้เราจะได้นอนคุยกันแบบฉ่ำปอด

..........................

ปล.ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่