เรียนแจ้ง เพื่อนๆสมาชิกห้องศาสนา
จากกระทู้
------------------------------------------------------------------------------
ชื่อกระทู้: ตายแล้วสูญ หรือ มีชาติหน้า ไม่ต้องเถียงกันแล้วยนะครับ ได้ข้อสรุปแล้ว
<edit: ลบลิ้งกระทู้ออกแล้ว>
โดย: คุณเด็กกล่อง
------------------------------------------------------------------------------
ในกระทู้นี้ ถึงแม้จะใช้คำที่สะกดไม่ตรงทีเดียว ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า
เจ้าของกระทู้มีเจตนาจงใจจะล้อเลียนพาดพิงถึงพระตถาคต
ด้วยเหตุว่า เจ้าของกระทู้เชื่อว่าตายแล้วสูญ กฏแห่งกรรมเป็นเพียงเรื่องแต่งหลอกเด็ก
จากนั้นจึงอาศัยเหตุเหล่านี้ เขียนข้อความขึ้นมาด้วยความสนุกคึกคะนอง
เพื่อนๆสมาชิกห้องศาสนาบางท่านอาจจะสงสัยว่า กระทู้ดังกล่าวกลับกลาย
มาเป็นกระทู้แนะนำในห้องศาสนาได้อย่างไร ทั้งๆที่ข้อความนั้น
ดูแล้วไม่ประกอบด้วยสาระประโยชน์ใดๆ และยังมีการลบหลู่ดูหมิ่น
อย่างที่วิญญูชน กัลยาณชนทั่วไปเค้าไม่ทำกัน
------------------------------------------------------------------------
ในเบื้องต้น กระทู้นั้นมี แทกไปยังห้องอื่นๆหลายๆห้อง ภายหลังได้นำแทกออกไปแล้ว
เหลือเพียงแทกห้องศาสนา
แต่ต่อมาก็มีการนำลิ้งไปโพสใน Facebook ในเพจของกลุ่มคนบางกลุ่ม
เช่นในกลุ่มที่เป็นกลุ่มแอนตี้ศาสนาดังภาพและลิ้งนี้
ทำให้มีคนตามเข้ามาอ่านแชร์หรือสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น
<edit: ลบลิ้ง เพจ ออก>
สำหรับเพื่อนๆสมาชิกห้องศาสนาส่วนใหญ่
ผมเชื่อว่า ท่านคงปล่อยวางอุเบกขา และให้อภัยแก่คนบางคนที่เค้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์
ที่ทำไปด้วยความเชื่อผิดๆด้วยความสนุกคึกคะนองเหล่านี้
ผมขอฝากพุทธภาษิตและพุทธศาสนาสุภาษิตประกอบไว้ดังนี้นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
กรรมไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย
ส่วนกรรมใดแลเป็นประโยชน์ด้วย ดีด้วย
กรรมนั้นแลทำได้ยากอย่างยิ่ง
ผู้ใดมีปัญญาทราม อาศัยทิฎฐิอันลามก
ย่อมคัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า
ผู้อรหันต์ เป็นพระอริยเจ้า มีปกติเป็นอยู่ในธรรม
การคัดค้านและทิฎฐิอันลามกของผู้นั้น
ย่อมเผล็ดผลเพื่อฆ่าตน เหมือนขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ฉะนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์ ก็ตาม
เธอทั้งหลายไม่ควรอาฆาต ไม่ควรโทมนัสน้อยใจ ไม่ควรแค้นใจในคนเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์
ถ้าเธอทั้งหลายจักขุ่นเคืองหรือจักโทมนัสน้อยใจในคนเหล่านั้น
อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นเป็นแน่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์
ถ้าเธอทั้งหลายจักขุ่นเคืองหรือจักโทมนัสน้อยใจในคนเหล่านั้น
เธอทั้งหลายจะพึงรู้คำที่เขาพูดถูก หรือคำที่เขาพูดผิดได้ละหรือ?
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้อนั้นเป็นไปไม่ได้ทีเดียว พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์ ในคำที่เขากล่าวตินั้น คำที่ไม่จริง
เธอทั้งหลายควรแก้ให้เห็นโดยความไม่เป็นจริงว่า นั่นไม่จริง แม้เพราะเหตุนี้
นั่นไม่แท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้นั่นก็ไม่มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาไม่ได้ในเราทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์
เธอทั้งหลายไม่ควรเบิกบานใจ ไม่ควรดีใจ ไม่ควรกระเหิมใจในคำชมนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเธอทั้งหลายจักเบิกบานใจ จักดีใจ จักกระเหิมใจในคำชมนั้น
อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลายเพราะเหตุนั้นเป็นแน่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม หรือชมพระสงฆ์ ในคำชมนั้น
คำที่จริง เธอทั้งหลายควรปฏิญาณให้เห็นโดยความเป็นจริงว่า นั่นจริง แม้เพราะเหตุนี้
นั่นแท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้คำนั้นก็มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาได้ในเราทั้งหลาย.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=09&A=0&Z=1071
-------------------------------------------------------------------------------
ส่วน ท่านที่ได้มีความสนุกคึกคะนอง ถึงกลับได้กล่าวลบหลู่ดูหมิ่นในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในกระทู้ดังกล่าวหรือแม้แต่ร่วมกด ขำกลิ้ง ด้วยความสนุกสนาน
ก็อยากฝากให้พิจารณาไว้ด้วยนะครับ ว่าถึงแม้ชาติหน้าจะมีจริงหรือไม่มีจริง
การลบหลู่ล้อเลียนต่อบุคคลผู้ทรงธรรมเป็นปูชนียบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่
ถึงแม้ท่านจะเชื่อว่าตายแล้วสูญด้วยทิฏฐิใดๆก็ตาม ท่านก็สามารถประพฤติดี ทำกรรมดี
ละเว้นจากกระทำอันไม่สมควรต่างๆ อย่างที่กัลยาณชนเค้าทำกันได้มิใช่หรือครับ
เมื่อท่านกระทำดี ละเว้นจากการลบหลู่ต่อบุคคลอันเป็นที่ควรเคารพได้
ประโยชน์และความอุ่นใจนั้นก็ย่อมเกิดขึ้นแก่ตัวท่านเอง
ดังพุทธภาษิตว่า
-------------------------------------------------------------------------------
ท่านทั้งหลาย อริยสาวกนั้นปราศจากความโลภ,ความพยาบาท ไม่หลง มีสติสัมปชัญญะมั่นคง มีใจเมตตา,กรุณา,มุทิตา,อุเบกขา แผ่ไปทุกทิศทุกทาง ตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยใจเมตตา,กรุณา,มุทิตา,อุเบกขา อันไพบูลย์ยิ่ง ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน
ท่านทั้งหลาย อริยสาวกซึ่งมีจิต ไม่มีเวร,ไม่มีความเบียดเบียน,ไม่เศร้าหมอง มีจิตผ่องแผ้ว ย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการ ในปัจจุบัน คือ
๑. ถ้าชาติหน้าและผลของกรรมมีจริง ก็อุ่นใจได้ว่า เมื่อตายแล้วจะได้ไปสวรรค์
๒. ถ้าชาติหน้าและผลของกรรมไม่มี ก็อุ่นใจได้ว่า ในชาตินี้จะไม่มีทุกข์ มีแต่ความสุข
๓. ถ้าทำบาปแล้วต้องได้รับทุกข์ ก็อุ่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับทุกข์ใดๆ
๔. ถ้าทำบาปแล้วไม่ต้องได้รับทุกข์ ก็อุ่นใจได้ว่า จะไม่ได้รับทุกข์ทั้งสองสถาน คือทั้งจากที่ไม่ได้ทำบาป และที่ทำบาป
(ที่มา: เกสปุตตสูตร ๒๐[๕๐๕]๑๘๔)
กรณีกระทู้ตายแล้วสูญและการลบหลู่ล้อเลียนของ login เด็กกล่อง
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะจากกระทู้
------------------------------------------------------------------------------
ชื่อกระทู้: ตายแล้วสูญ หรือ มีชาติหน้า ไม่ต้องเถียงกันแล้วยนะครับ ได้ข้อสรุปแล้ว
<edit: ลบลิ้งกระทู้ออกแล้ว>
โดย: คุณเด็กกล่อง
------------------------------------------------------------------------------
ในกระทู้นี้ ถึงแม้จะใช้คำที่สะกดไม่ตรงทีเดียว ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า
เจ้าของกระทู้มีเจตนาจงใจจะล้อเลียนพาดพิงถึงพระตถาคต
ด้วยเหตุว่า เจ้าของกระทู้เชื่อว่าตายแล้วสูญ กฏแห่งกรรมเป็นเพียงเรื่องแต่งหลอกเด็ก
จากนั้นจึงอาศัยเหตุเหล่านี้ เขียนข้อความขึ้นมาด้วยความสนุกคึกคะนอง
เพื่อนๆสมาชิกห้องศาสนาบางท่านอาจจะสงสัยว่า กระทู้ดังกล่าวกลับกลาย
มาเป็นกระทู้แนะนำในห้องศาสนาได้อย่างไร ทั้งๆที่ข้อความนั้น
ดูแล้วไม่ประกอบด้วยสาระประโยชน์ใดๆ และยังมีการลบหลู่ดูหมิ่น
อย่างที่วิญญูชน กัลยาณชนทั่วไปเค้าไม่ทำกัน
------------------------------------------------------------------------
ในเบื้องต้น กระทู้นั้นมี แทกไปยังห้องอื่นๆหลายๆห้อง ภายหลังได้นำแทกออกไปแล้ว
เหลือเพียงแทกห้องศาสนา
แต่ต่อมาก็มีการนำลิ้งไปโพสใน Facebook ในเพจของกลุ่มคนบางกลุ่ม
เช่นในกลุ่มที่เป็นกลุ่มแอนตี้ศาสนาดังภาพและลิ้งนี้
ทำให้มีคนตามเข้ามาอ่านแชร์หรือสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น
<edit: ลบลิ้ง เพจ ออก>
สำหรับเพื่อนๆสมาชิกห้องศาสนาส่วนใหญ่
ผมเชื่อว่า ท่านคงปล่อยวางอุเบกขา และให้อภัยแก่คนบางคนที่เค้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์
ที่ทำไปด้วยความเชื่อผิดๆด้วยความสนุกคึกคะนองเหล่านี้
ผมขอฝากพุทธภาษิตและพุทธศาสนาสุภาษิตประกอบไว้ดังนี้นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
กรรมไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย
ส่วนกรรมใดแลเป็นประโยชน์ด้วย ดีด้วย
กรรมนั้นแลทำได้ยากอย่างยิ่ง
ผู้ใดมีปัญญาทราม อาศัยทิฎฐิอันลามก
ย่อมคัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า
ผู้อรหันต์ เป็นพระอริยเจ้า มีปกติเป็นอยู่ในธรรม
การคัดค้านและทิฎฐิอันลามกของผู้นั้น
ย่อมเผล็ดผลเพื่อฆ่าตน เหมือนขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ฉะนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์ ก็ตาม
เธอทั้งหลายไม่ควรอาฆาต ไม่ควรโทมนัสน้อยใจ ไม่ควรแค้นใจในคนเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์
ถ้าเธอทั้งหลายจักขุ่นเคืองหรือจักโทมนัสน้อยใจในคนเหล่านั้น
อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นเป็นแน่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์
ถ้าเธอทั้งหลายจักขุ่นเคืองหรือจักโทมนัสน้อยใจในคนเหล่านั้น
เธอทั้งหลายจะพึงรู้คำที่เขาพูดถูก หรือคำที่เขาพูดผิดได้ละหรือ?
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้อนั้นเป็นไปไม่ได้ทีเดียว พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรม ติพระสงฆ์ ในคำที่เขากล่าวตินั้น คำที่ไม่จริง
เธอทั้งหลายควรแก้ให้เห็นโดยความไม่เป็นจริงว่า นั่นไม่จริง แม้เพราะเหตุนี้
นั่นไม่แท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้นั่นก็ไม่มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาไม่ได้ในเราทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์
เธอทั้งหลายไม่ควรเบิกบานใจ ไม่ควรดีใจ ไม่ควรกระเหิมใจในคำชมนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเธอทั้งหลายจักเบิกบานใจ จักดีใจ จักกระเหิมใจในคำชมนั้น
อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลายเพราะเหตุนั้นเป็นแน่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม หรือชมพระสงฆ์ ในคำชมนั้น
คำที่จริง เธอทั้งหลายควรปฏิญาณให้เห็นโดยความเป็นจริงว่า นั่นจริง แม้เพราะเหตุนี้
นั่นแท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้คำนั้นก็มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาได้ในเราทั้งหลาย.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=09&A=0&Z=1071
-------------------------------------------------------------------------------
ส่วน ท่านที่ได้มีความสนุกคึกคะนอง ถึงกลับได้กล่าวลบหลู่ดูหมิ่นในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในกระทู้ดังกล่าวหรือแม้แต่ร่วมกด ขำกลิ้ง ด้วยความสนุกสนาน
ก็อยากฝากให้พิจารณาไว้ด้วยนะครับ ว่าถึงแม้ชาติหน้าจะมีจริงหรือไม่มีจริง
การลบหลู่ล้อเลียนต่อบุคคลผู้ทรงธรรมเป็นปูชนียบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่
ถึงแม้ท่านจะเชื่อว่าตายแล้วสูญด้วยทิฏฐิใดๆก็ตาม ท่านก็สามารถประพฤติดี ทำกรรมดี
ละเว้นจากกระทำอันไม่สมควรต่างๆ อย่างที่กัลยาณชนเค้าทำกันได้มิใช่หรือครับ
เมื่อท่านกระทำดี ละเว้นจากการลบหลู่ต่อบุคคลอันเป็นที่ควรเคารพได้
ประโยชน์และความอุ่นใจนั้นก็ย่อมเกิดขึ้นแก่ตัวท่านเอง
ดังพุทธภาษิตว่า
-------------------------------------------------------------------------------
ท่านทั้งหลาย อริยสาวกนั้นปราศจากความโลภ,ความพยาบาท ไม่หลง มีสติสัมปชัญญะมั่นคง มีใจเมตตา,กรุณา,มุทิตา,อุเบกขา แผ่ไปทุกทิศทุกทาง ตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยใจเมตตา,กรุณา,มุทิตา,อุเบกขา อันไพบูลย์ยิ่ง ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน
ท่านทั้งหลาย อริยสาวกซึ่งมีจิต ไม่มีเวร,ไม่มีความเบียดเบียน,ไม่เศร้าหมอง มีจิตผ่องแผ้ว ย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการ ในปัจจุบัน คือ
๑. ถ้าชาติหน้าและผลของกรรมมีจริง ก็อุ่นใจได้ว่า เมื่อตายแล้วจะได้ไปสวรรค์
๒. ถ้าชาติหน้าและผลของกรรมไม่มี ก็อุ่นใจได้ว่า ในชาตินี้จะไม่มีทุกข์ มีแต่ความสุข
๓. ถ้าทำบาปแล้วต้องได้รับทุกข์ ก็อุ่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับทุกข์ใดๆ
๔. ถ้าทำบาปแล้วไม่ต้องได้รับทุกข์ ก็อุ่นใจได้ว่า จะไม่ได้รับทุกข์ทั้งสองสถาน คือทั้งจากที่ไม่ได้ทำบาป และที่ทำบาป
(ที่มา: เกสปุตตสูตร ๒๐[๕๐๕]๑๘๔)