Beautiful Inspiration #1 จังหวะชีวิต

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกที่ผมตั้งในห้องถนนนักเขียนแห่งนี้
เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่ก็ได้ครับ (ก่อนหน้านี้ก็เขียนอยู่ใน Bloggang มาหลายปีแล้วครับ)

สำหรับเรื่องนี้เป็นบทความที่อยู่ในคอลัมน์ของนิตยสารออนไลน์ฉบับหนึ่ง
ที่ผมตั้งใจทำกับเพื่อนๆ  แต่...ก็มีเหตุที่ทำให้โปรเจคนี้ล่มไปก่อน

แนวคิดสำหรับบทความนี้มีอยู่ว่าทุกที่ทุกแห่งล้วนมีบางสิ่งบางอย่างให้เราสังเกตุ
และนำมาขบคิดต่อได้ ผมแค่อยากแสดงให้รู้ว่าแรงบันดาลใจที่สวยงามนั้นมีอยู่ทุกที่
หากเราสังเกตุ นั่นจึงทำให้ผมได้ถ่ายภาพแรงบันดาลใจต่างๆ เหล่านั้น นำมาขยาย
ความคิดออกมาในรูปแบบของบทความ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ห้องถนนนักเขียนแห่งนี้
มีความเห็นเป็นอย่างไร ติ-ชม ได้อย่างเต็มที่เลยนะครับ

ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะครับผม ^__^


ขอบคุณมากครับผม



บทนำ



"ทุกที่ล้วนมีแรงบันดาลใจ"

นั่นคือคำพูดหนึ่งของนักเขียนที่ผมเคารพนับถือเมื่อครั้งที่ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเขา และถามถึงแรงบันดาลใจในการเขียนงานขึ้นมาซักชิ้นหนึ่งว่าเอาแรงบันดาลใจจากไหนมากมายมาเขียนงานได้เยอะขนาดนี้

คำตอบของเค้าก็คือ“หากเราจมปลักอยู่กับความคิดที่จะหาแรงบันดาลใจเราก็จะคิดไปเสมอว่าเราขาดแคลนแรงบันดาลใจ แน่นอนว่าการออกไปข้างนอกไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนนั้นเป็นทางออกที่ง่ายที่สุดในการค้นหาแรงบันดาลใจ แต่อย่างลืมว่า สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา สิ่งที่มีให้เห็นอยู่ในชีวิตประจำวันล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้แก่เราได้ทั้งสิ้น ตั้งแต่ข่าวในหนังสือพิมพ์เสาไฟฟ้า สากกระเบือ ครก สาก หรืออะไรก็ตามแต่ ล้วนสามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจนำมาใช้ในงานเขียนได้ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตั้งใจมองหาหรือช่างสังเกตพอหรือเปล่าที่จะนำสิ่งเล็กๆเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่



นั่นจึงเป็นที่มาและแรงบันดาลใจของคอลัมน์นี้ที่แสดงให้เห็นว่าทุกที่ที่เราเดินผ่านนั้นสามารถเป็นแรงบันดาลใจที่สวยงามทุกสิ่งที่เรามองเห็นในชีวิตประจำวันล้วนนำมาเป็นแรงบัลดาลใจได้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานต่างๆหรือแม้กระทั่งเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตก็ตาม



ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า...คุณจะได้แรงบันดาลใจอะไรซักอย่างกลับออกไปบ้างจากคอลัมน์นี้...

เพียงแค่นี้ผมจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยครับ


ยางมะตอยสีชมพู

25 - 02 - 56




BeautifulInspiration

Chapter1 : จังหวะชีวิต





สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนมีจังหวะ...



ทั้งการดำเนินชีวิตที่จะต้องก้าวไปในจังหวะและทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไหนควรรีบเร่งที่จะก้าวเดินเพื่อไปให้ทันกับช่วงเวลาอายุที่ไม่เคยรีรอหรืออย่างไหนที่เราควรก้าวช้าเพื่อมองทิวทัศน์ข้างทางหรือเพื่อให้เกิดความมั่นคง



การเล่นดนตรีซึ่งรู้กันอยู่ว่าจังหวะสำคัญมากจังหวะถือว่าเป็นพื้นฐานของการสร้างสรรค์งานดนตรีมีคุณภาพความลงตัวความไพเราะของบทเพลงโดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกว่าเป็นงานดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่าน



แม้กระทั่งการเล่นกีฬาเราก็ควรจะต้องรู้จังหวะของเกมรู้ว่าจังหวะไหนถ้าฝืนเราจะบาดเจ็บจังหวะไหนควรเสี่ยงเพื่อชิงความได้เปรียบจากคู่แข่ง



ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องการจังหวะ...



แต่ว่าจังหวะที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเราปราศจากผู้ควบคุมวงดนตรีอาจมีคอนดักเตอร์เป็นผู้ควบคุม

จังหวะการเล่นกีฬาอาจจะมีกรรมการคอยควบคุมจังหวะของเกมหรืออาจเป็นผู้ฝึกสอนที่คอยอ่านเกม

แล้วสื่อสารกับนักกีฬาว่าจังหวะไหนควรผ่อนจังหวะไหนควรเร่ง






แล้วถ้าเป็นจังหวะชีวิตล่ะ...



คงเป็นไปไม่ได้หากเราจะให้คนอื่นมาควบคุมจังหวะชีวิตของเราแน่นอนว่าจังหวะชีวิตของตัวเรานั้นผู้ควบคุมเห็นจะหนีไม่พ้นตัวเราเองแต่เราจะควบคุมจังหวะชีวิตของตัวเราเองได้ดีหรือเปล่านั้นมันขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่างเป็นองค์ประกอบซึ่งผมมองว่า ...จิตใจเรานั้นมีส่วนสำคัญที่สุดที่จะควบคุมจังหวะชีวิตของเราให้ดี



หากใจร้อนเกินไปจังหวะชีวิตของเราก็จะถูกเร่งรีบให้เดินหน้าไม่หยุดยั้งโดยไม่สนคนรอบข้างที่ถูกเราทิ้งไว้หรือไม่สนใจในความพร้อมของตัวเองว่าถึงเวลาหรือยัง



หากใจเย็นเกินไปจังหวะชีวิตของเราก็อาจจะเนิบช้าบางทีเราก็อาจจะเสียโอกาสดีๆไปให้กับคนที่เร็วกว่าก็เป็นได้นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าก่อนที่เราจะควบคุมจังหวะชีวิตของเราเราก็ต้องควบคุมจิตใจของตนเองให้ดีด้วย



จริงๆแล้วเรื่องการควบคุมจังหวะชีวิตนี่ไม่เคยมีอยู่ในความคิดของผมเลยแม้แต่น้อยจนเมื่อผมได้มีโอกาสขับรถเพื่อเดินทางไปในที่แห่งหนึ่งก่อนหน้านั้นจังหวะในการขับรถของผมค่อนข้างเร่งรีบเพื่อที่จะได้ไปให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่สุดโดยไม่ฟังคำทัดทานจากคนข้างกายเลยแต่แล้วกลับมาถูกขัดจังหวะด้วยสัญญาณไฟแดงผมหยุดรถหยิบน้ำขึ้นมาดื่มพร้อมกับมองขึ้นบนท้องฟ้าทันใดนั้นผมเห็นภาพภาพหนึ่งภาพนั้นคือสัญญาณไฟสัญญาณที่มีผลต่อการขับรถของผมสัญญาณที่เป็นสิ่งที่ควบคุมจังหวะการวิ่งของรถและการจราจร



ฉับพลันความคิดวาบปรากฏขึ้นในสมอง...

ครับผมคิดโยงไประหว่างสัญญาณไฟกับจังหวะของชีวิต



สัญญาณไฟเป็นเหมือนสัญญะที่ควบคุมจังหวะชีวิตของเราว่าเวลาไหนสมควรหยุดและเวลาไหนควรที่จะไปต่อและชีวิตก็ไม่ต่างอะไรไปกับการขับรถ



บางทีการขับรถด้วยความเร็วประมาณ120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอาจจะทำให้ถึงที่หมายอย่างรวดเร็วกว่าคน

ที่ขับรถ80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ขับรถช้ากว่าจะไม่ถึงที่หมายเลย



ในทางกลับกันหากเราขับรถช้าเกินไปก็ไม่ได้การันตีว่าจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยกว่าคนที่ขับรถเร็วกว่าหรือการที่เราขับรถช้าจนเกินไปก็อาจจะทำให้เราถึงที่หมายช้ากว่ากำหนดจนพลาดอะไรบางสิ่งบางอย่าง



สิ่งที่ควบคุมให้เราถึงที่หมายตรงตามเวลาโดยปลอดภัยนั่นก็คือคันเร่งและเบรก เราควรรู้ว่าจังหวะไหนควรผ่อนและจังหวะไหนควรเร่งหากเส้นทางไหนอันตรายการขับรถเร็วอาจทำให้ไม่ปลอดภัยนั่นคือมูลเหตุที่ทำให้เกิดไฟจราจรขึ้นมาเพื่อควบคุมจังหวะของรถ...รวมทั้งจังหวะของชีวิตด้วย



คาดว่าหลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า“การเดินทางอย่างเร่งรีบโดยคิดถึงแต่เพียงจุดหมายปลายทางก็อาจจะทำให้เราพลาดความสวยงามระหว่างทางก็เป็นได้”



และนั่นก็เฉกเช่นเดียวกันกับชีวิตการที่รีบเร่งไปให้ถึงจุดหมายปลายทางอาจทำความเดือดร้อนให้กับใครหลายคนบนถนนหรือหากช้าเกินไปก็อาจทำให้เกิดการจราจรติดขัด



เส้นทางแห่งชีวิตก็เหมือนดั่งท้องถนนการขับรถยังต้องมีจอดหยุดพักเครื่องยนต์ชีวิตเราก็ไม่ใช่เครื่องจักรปลายเท้าที่เหยียบคันเร่งก็อาจจะแข็งเกร็งจนตะคริวขึ้นฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะต้องผ่อนคันเร่งชีวิตพักสายตา และพักหัวใจให้ผ่อนคลายจอดรถชมวิวดอกไม้ข้างทางพักกินอาหารอร่อยๆกับเพื่อนที่รู้ใจชาร์ตแบตฯ ให้เต็มที่เครื่องยนต์หายร้อนแล้วก็ค่อยเดินทางต่อก็ยังไม่สาย



หากวันไหนที่คุณรู้ตัวว่าจังหวะของชีวิตเร่งรีบแค่ไหน...ลองหันไปถามคนข้างกายของคุณก็ได้ครับว่าเขาเหนื่อยหรือยังหรือหิวอะไรบ้างหรือเปล่า



ไม่ต้องรอคำตอบจากคนข้างกายณ ตอนนี้ผมได้เลี้ยวรถเข้าข้างทาง

เพื่อหาอะไรอร่อยๆทานแล้วล่ะครับ

ยางมะตอยสีชมพู



**รูปภาพในบทความนี้เกิดขึ้นจากการถ่ายภาพของผมเอง และบวกกับการตกแต่งภาพเพิ่มเติมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่