คู่กรรม 2013 ฉบับ ณเดชน์ คงต้องบอกคนที่จะไปดูเหมือนกับที่บอกคราวพี่มากพระโขนงว่า จงลืมภาพจำเกี่ยวกับคู่กรรมให้หมด คู่กรรม ฉบับนี้ เน้นการตัดต่อที่ค่อนข้างรวดเร็ว และเป็นไปตามที่คุณเรียวให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะเน้นไปที่ชีวิตหลังแต่งงาน ทั้งหนังเองก็ไม่ได้ขยายความเหตุการณ์ทุกอย่าง ด้วยคาดหมายว่าแฟนหนังคงทราบกันดีว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นคนที่ไม่เคยอ่านนิยาย หรือดูหนังก็อาจจะงงได้ว่าทำไมจึงเกิดสถานการณ์นั้นขึ้น
ในส่วนณเดชน์ บทโกโบริ ถือว่าเอาอยู่ สายตา ท่าทาง น้ำเสียงทำให้เชื่อว่าเขาคือโกโบริจริงๆ
ในขณะที่นางเอกใหม่ริชชี่ ที่ต้องแบกรับบทบาทของอังศุมาลินก็ทำได้ในระดับที่เอาตัวรอดได้จากการทำคะแนนในช่วงท้าย โดยบทอังศุมาลินเวอร์ชั่นนี้ทำออกมาได้เป็นบุคคลิกที่ชวนอึดอัด นิ่งเงียบ ไม่เปิดเผยความรู้สึก
ทั้งนี้ส่วนที่ชอบที่สุดคือตอนท้ายในฉากที่สถานีรถไฟโดนทิ้งระเบิด ภาพทำได้สมจริง และดูรันทดมาก ซึ่งฉากนี้จะเป็นฉากที่อังศุมาลินจะแสดงความรู้สึกมากที่สุดแล้วในหนัง และการแสดงของณเดชน์ในฉากนี้ ถือว่าเอาอยู่และเรียกน้ำตาจากคนดูในรอบสื่อได้
สรุปแล้ว คู่กรรม เรื่องนี้ มีทั้งส่วนที่ชอบมากๆ และส่วนที่ขัดใจไม่น้อย อยู่ด้วยกันในบางจุด แต่ด้วยฟอร์มที่เข้าขั้นเทพของโกแบร์ริแล้ว ก็คงต้องแนะนำให้ไปรับชมกันในวันที่ 4 เมษายนนี้ ครับ
[SR] รีวิวสั้นๆ กับคู่กรรม 2013 ครับ
คู่กรรม 2013 ฉบับ ณเดชน์ คงต้องบอกคนที่จะไปดูเหมือนกับที่บอกคราวพี่มากพระโขนงว่า จงลืมภาพจำเกี่ยวกับคู่กรรมให้หมด คู่กรรม ฉบับนี้ เน้นการตัดต่อที่ค่อนข้างรวดเร็ว และเป็นไปตามที่คุณเรียวให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะเน้นไปที่ชีวิตหลังแต่งงาน ทั้งหนังเองก็ไม่ได้ขยายความเหตุการณ์ทุกอย่าง ด้วยคาดหมายว่าแฟนหนังคงทราบกันดีว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นคนที่ไม่เคยอ่านนิยาย หรือดูหนังก็อาจจะงงได้ว่าทำไมจึงเกิดสถานการณ์นั้นขึ้น
ในส่วนณเดชน์ บทโกโบริ ถือว่าเอาอยู่ สายตา ท่าทาง น้ำเสียงทำให้เชื่อว่าเขาคือโกโบริจริงๆ
ในขณะที่นางเอกใหม่ริชชี่ ที่ต้องแบกรับบทบาทของอังศุมาลินก็ทำได้ในระดับที่เอาตัวรอดได้จากการทำคะแนนในช่วงท้าย โดยบทอังศุมาลินเวอร์ชั่นนี้ทำออกมาได้เป็นบุคคลิกที่ชวนอึดอัด นิ่งเงียบ ไม่เปิดเผยความรู้สึก
ทั้งนี้ส่วนที่ชอบที่สุดคือตอนท้ายในฉากที่สถานีรถไฟโดนทิ้งระเบิด ภาพทำได้สมจริง และดูรันทดมาก ซึ่งฉากนี้จะเป็นฉากที่อังศุมาลินจะแสดงความรู้สึกมากที่สุดแล้วในหนัง และการแสดงของณเดชน์ในฉากนี้ ถือว่าเอาอยู่และเรียกน้ำตาจากคนดูในรอบสื่อได้
สรุปแล้ว คู่กรรม เรื่องนี้ มีทั้งส่วนที่ชอบมากๆ และส่วนที่ขัดใจไม่น้อย อยู่ด้วยกันในบางจุด แต่ด้วยฟอร์มที่เข้าขั้นเทพของโกแบร์ริแล้ว ก็คงต้องแนะนำให้ไปรับชมกันในวันที่ 4 เมษายนนี้ ครับ