"โกโบริ"ฉบับ"ณเดชน์" "คู่กรรม"สไตล์หนังรักวัยรุ่น


พิฐชญาณ์ เพชรธีระโรจน์/เรื่อง


นําเสนอเป็นภาพยนตร์แล้วถึง 3 ครั้ง ละครอีก 6 ครั้ง สำหรับ "คู่กรรม" บทประพันธ์สุดอมตะของ "ทมยันตี"

ล่าสุดผู้กำกับฯ "เรียว"กิตติกร เลียวศิริกุล แห่งค่ายเอ็ม 39 นำบทประพันธ์ดังกล่าวมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในเวอร์ชั่น 2013

คว้าพระเอกฮอต "ณเดชน์ คูกิมิยะ" รับบท "โกโบริ" เป็นป๋าดันให้นางเอกใหม่ถอดด้าม "ริชชี่"อรเณศ ดีคาบาเลส รับบท "อังศุมาลิน"

ร่วมด้วย "โบ๊ท"นิธิศ วารายานนท์ (วนัส), "เบิร์ด"กุลพงศ์ บุนนาค (เรือโทหลวงชลาสินธุราช), เมรีนา มุ่งศิริ (แม่อร), "หงา" สุรชัย จันทิมาธร (ตาผล), "หว่อง"มงคล อุทก (ตาบัว) ฯลฯ

"เรียว" เผยถึงการหยิบบทประพันธ์ดังกล่าวมาถ่ายทอดว่า "ผมว่าโครงสร้างของคู่กรรมนั้นดี เป็นเรื่องราวที่มีมุมหลายมุมให้มาทำอยู่เยอะมาก อีกเหตุผลคือผมคงไม่สามารถคิดหรือเขียนพล็อตเรื่องอะไรดีเท่านี้ได้อีกแล้ว"

ถามว่า "คู่กรรม" เวอร์ชั่นนี้จะต่างจากที่เคยดูอย่างไร ผู้กำกับฯ อธิบาย "มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เพราะทุกคนทำตามสิ่งที่ตัวเองคิด"

ส่วนสาเหตุที่เลือก "ณเดชน์" มารับบท "โกโบริ" เรียวกล่าวว่า "ข้อแรกเป็นเรื่องการยอมรับของมหาชน ไม่ใช่แค่ทักษะหรือการมีเวลามาทำงาน สองคือมีเวลาไหม ใช่เขาไม่มีเวลา แต่เราก็รอคิวไป 8 เดือน ทยอยทำงานกันมาเรื่อยๆ เพราะหนังเป็นสิ่งที่คนต้องซื้อตั๋วเข้าไปดู ถ้าไม่เป็นที่ยอมรับแล้วมันลำบาก"

พอทำงานด้วยกัน สิ่งที่ณเดชน์ต้องปรับ เรียวบอก หลักๆ เป็นเรื่องของมูฟเมนต์ ซึ่งวิธีแสดงภาพยนตร์จะแตกต่างจากละครที่ณเดชน์เล่น

"ปัญหาคือความเป็นญี่ปุ่น ความเป็นทหารจะมีระบบระเบียบ วิธีคิดอีกแบบ เราติดต่อนายร้อยญี่ปุ่นที่เป็นคนไทยเทรนตรงนี้"


ด้านตัว "อังศุมาลิน" ที่เลือก "ริชชี่" นางเอกใหม่มาเล่น ผู้กำกับฯ แจง "น้องคนนี้ออปชั่นแรก เอามายืนข้างๆ ดูเลยว่าเหมาะสมกันไหม เชื่อไหมว่าเขาจะชอบกัน เฟิร์สต์อิมเพรสชั่น อย่างที่ 2 เรื่องอายุ ที่คิดไว้อังศุมาลินต้องอายุ 18 ซึ่งเขาได้ แต่น้องเขาเด็กมากและเป็นนักแบดมินตัน มีโค้ชเป็นคนจีนที่มีลักษณะการฝึกซ้ำๆ เราต้องใช้ลักษณะการฝึกซ้ำๆ เหมือนกัน ฝึกร้องไห้ก็ฝึกซ้ำๆ เป็นการบังคับร่างกายตัวเอง แต่การร้องไห้เพราะเศร้าเสียใจ กับร้องไห้เพราะความรักไม่เหมือนกัน ฉะนั้นคาแร็กเตอร์ของการร้องไห้สำคัญ"

ในเรื่องต้องพูดภาษาญี่ปุ่นกันด้วย ฝึกเยอะไหม "ก็ฝึกมาสักพักทั้งณเดชน์-ริชชี่ แต่ณเดชน์ต้องพูดญี่ปุ่นเป็นสำเนียง ญี่ปุ่นและเป็นสำเนียงทหาร แล้วก็พูดญี่ปุ่นสำเนียงโตเกียว ทำยังไงให้พูดสำเนียงชัดแต่ไม่ต้องชัดทุกคำ รายละเอียดเยอะ"

ต่อข้อถามถึงฉากสงคราม ฉากจบที่เคยสร้างความประทับใจยังมีอยู่หรือไม่ เรียวตอบ "เรื่องนี้จะไม่เห็นสงคราม เอาเวลาไปให้ ณเดชน์ -ริชชี่ จีบกันดีกว่า เน้นโรแมนติก ถามว่าจะโรแมนติกขนาดไหน ตอนดูให้เอาผ้าเช็ดหน้าไปด้วย โกโบริตายเหมือนเดิมยืนยัน"

"ผมมองว่าญี่ปุ่นในสมัยนั้นเป็นเพื่อนบ้านที่กำลังมีเรื่องเท่านั้น ไม่ได้เป็นศัตรูกับเรา ผมไม่อยากไปรื้อประเด็นประวัติศาสตร์"

ดังนั้นภาพที่นำเสนอจึงไม่เน้นสงครามหรือความขัดแย้ง แต่เป็นรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางสงคราม โดยมีอุปสรรคจากเชื้อชาติและการเมือง

"คู่กรรมของผมเป็นหนังรักวัยรุ่น ดังนั้นจะไม่มีอะไรเยิ่นเย้อ โกโบริเจออังศุมาลินก็จีบกันเลย อยากให้คนดูได้เห็นถึงสังคมวัยรุ่นสมัยก่อน ผมจะให้โกโบริและอังศุมาลินเป็นตัวบอกว่าวัยรุ่นในอดีตเขารักอย่างไร"

นอกจากความโรแมนติก "คู่กรรม" เวอร์ชั่นนี้ต้องการสื่ออะไร "จริงๆ เป็นหนังการเมืองระหว่างไทย-ญี่ปุ่น คนไทยคนญี่ปุ่นยุคนั้นเหมือนคู่กรรมนะ คนไทยใช้คำว่า แก้วที่มันร้าวไม่นานก็คงจะแตก แต่ญี่ปุ่นมีสำนวนนี้เหมือนกัน อย่างในหนังจะมีอยู่ด้วยว่า การพยายามจะต่อถ้วยแก้วที่มันแตกแล้ว เป็นการพยายามที่ไร้ค่าและโง่เง่า"

สุดท้ายคนดูจะได้อะไรกลับไป "ได้น้ำตาเลย คนที่ซื้อตั๋วมาดูให้เอาผ้าเช็ดหน้ามาด้วย"

"30 นาทีแรกเตรียมใจหน่อย เพราะมันไม่เหมือนเดิมมากนัก อย่ายึดติด เดี๋ยวจะดูหนังไม่สนุกครับ" ผู้กำกับฯ ทิ้งท้าย


"โกโบริ-อังศุมาลิน"เวอร์ชั่น 2013

ประเดิมงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก พระเอกหนุ่ม "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ก็รับบทหนักกับบท "โกโบริ" ในภาพยนตร์ "คู่กรรม" ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า

"ผมรู้สึกไม่กล้า ตื่นเต้น หวั่นๆ กลัวๆ เพราะด้วยคำว่า คู่กรรม และความเป็นหนังเรื่องแรกของผมด้วย ทำให้รู้สึกว่าเราจะทำได้ดีถูกใจคนดูหรือเปล่า ส่วนการร่วมงานกับพี่เรียว พี่เขาใจเย็นมาก จะกี่เทกก็ช่างขอเอาดีๆ ไว้ก่อน แต่ไม่ให้นักแสดงช้ำ"

"ตามคาแร็กเตอร์ โกโบริเป็นวัยรุ่น เป็นหลานนายพล ผมรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีความเป็นทหารเมื่อเจออังศุมาลินเลย เป็นคนไม่ท้อถอยต่อเรื่องใดทั้งปวง แต่ก็เป็นคนที่น่าสงสาร ขี้น้อยใจ ดื้อด้าน ตลก และมีความมั่นคงในความรักมาก"

ณเดชน์กล่าวต่อว่า "โกโบริเป็นแบบวัยรุ่นที่ห่างบ้านมาไกลมาก ทำให้ไม่ได้เจอผู้หญิงญี่ปุ่นเลย พอเจอผู้หญิงไทยและเป็นผู้หญิงคนเดียวที่บ้ากล้าเข้ามาอู่ต่อเรือคนเดียว และยังกล้าต่อปากต่อคำกับทหารญี่ปุ่นอีก เลยทำให้เขาหลงรัก"

ด้านนางเอกใหม่ "ริชชี่-อรเณศ" เผยถึงการรับบท "อังศุมาลิน" ว่า "อังศุมาลินมีหลายบุคลิก มุมหนึ่งเป็นคนแข็งๆ ที่เจอโกโบริเมื่อไรต้องวางมาด อาจเพราะมีปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องครอบครัวและการเมือง พออยู่กับวนัสก็เป็นอีกอย่าง เป็นคนสับสน รักโกโบริแต่ต้องทำเป็นไม่รักเพราะเขาเป็นคนญี่ปุ่น"

"ตอนเด็กๆ ได้ดูละครคู่กรรมกับพี่สาว แย่งกันเป็นอังศุมาลิน แต่พอดูต่อไปก็พากันร้องไห้สงสารโกโบริ ไม่อยากเป็นอังศุมาลินแล้ว นิสัยไม่ดี โกโบริพูดดีด้วยก็ไม่พูด พอรู้ตัวว่าต้องมาเล่นเป็นอังศุมาลิน ยังบอกคุณแม่เลยว่า แย่แล้ว ต้องมีคนเกลียดเราแน่ๆ เลย" ริชชี่กล่าวพร้อมหัวเราะ

ข่าวจาก  :  ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObGJuUXdNVE13TURNMU5nPT0=&sectionid=TURNeE1nPT0=&day=TWpBeE15MHdNeTB6TUE9PQ==
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่