เข้ากันได้โดยธาตุ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมเข้ากันได้ ย่อมลงกันได้โดยธาตุ.
คนมีศรัทธา ย่อมเข้ากันได้ย่อมลงกันได้กับคนมีศรัทธา.
คนมีใจละอายต่อบาป ก็เข้ากันได้ ลงกันได้กับคนที่มีใจละอายต่อบาป.
คนมีความเกรงกลัวต่อบาป ก็เข้ากันได้ ลงกันได้กับคนที่มีความเกรงกลัวต่อบาป.
คนที่สดับตรับฟังมากก็เข้ากันได้ ลงกันได้กับคนที่สดับตรับฟังมาก.
คนที่ปรารภความเพียร ก็เข้ากันได้ ลงกันได้กับคนที่ปรารภความเพียร.
คนที่มีสติตั้งมั่น ก็เข้ากันได้ ลงกันได้กับคนที่มีสติตั้งมั่น.
คนที่มีปัญญา ก็เข้ากันได้ ลงกันได้ กับคนที่มีปัญญา.
แม้ในอดีตกาลนานไกล ในอนาคตกาลนานไกล ในปัจจุบันกาลนานไกล ก็เป็นอย่างนี้."

๑๖/๑๙๑

๑๗๕. ตัวอย่างของผู้เข้ากันได้โดยธาตุ    
          สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์. สมัยนั้น ท่านพระสาริบุตร
เดินจงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายในที่ไม่ไกลจากพระผู้มีพระภาค. แม้ท่านพระมหาโมคคัลลานะ,
ท่านพระมหากัสสปะ, ท่านพระอนุรุทธ์, ท่านพระปุณณะ, ท่านพระอุบาลี, ท่านพระอานนท์ และพระเทวทัต
(แต่ละท่าน) ต่างก็เดินจงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายในที่ไม่ไกลจากพระผู้มีพระภาค.

              ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเห็นสาริบุตร
กำลังเดินจงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้มีปัญญามาก. ท่านทั้งหลายเห็นมหาโมคคัลลานะกำลัง
เดินจงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้มีฤทธิ์มาก. ท่านทั้งหลายเห็นมหากัสสปกำลังเดินจงกรม
ร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
             "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นธุตวาทะ (ผู้กล่าวในทางขัดเกลากิเลส คือ สรรเสริญการ
ประพฤติธุดงค์). ท่านทั้งหลายเห็นอนุรุทธ์กำลังเดินจงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้น เป็นผู้มีทิพยจักษุ. ท่านทั้งหลายเห็นปุณณะ มันตานีบุตรกำลังเดินจงกรม
ร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นธรรมกถึก (ผู้แสดงธรรม). ท่านทั้งหลายเห็นอุบาลีกำลังเดิน
จงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นวินัยธร (ผู้ทรงวินัย). ท่านทั้งหลาย เห็นอานนท์กำลังเดิน
จงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "เห็น พระเจ้าข้า"
              "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้สดับตรับฟังมาก. ท่านทั้งหลายเห็นเทวทัตกำลังเดิน
จงกรมร่วมกับภิกษุมากหลายหรือไม่ ?"
              "เห็น พระเจ้าข้า"
      "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้มีความปรารถนาลามก."
      "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมเข้ากันได้ ย่อมลงกันได้โดยธาตุ. ผู้มีอัธยาศัยเลว ย่อมเข้ากันได้
ย่อมลงกันได้กับผู้มีอัธยาศัยเลว ผู้มีอัธยาศัยดีงาม ย่อมเข้ากันได้ ลงกันได้กับผู้มีอัธยาศัยดีงาม."
      "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ในอดีตกาลนานไกล สัตว์ทั้งหลายเข้ากันได้แล้ว ลงกันได้แล้วโดยธาตุ ทั้งผู้มี
อัธยาศัยเลว อัธยาศัยดีงาม."
      "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ในอนาคตกาลนานไกล สัตว์ทั้งหลายจักเข้ากันได้ ลงกันได้โดยธาตุ ทั้งผู้มีอัธยาศัยเลว อัธยาศัยดีงาม."
      "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ในปัจจุบันกาลนานไกล สัตว์ทั้งหลายย่อมเข้ากันได้ ลงกันได้โดยธาตุ ทั้งผู้มีอัธยาศัยเลว อัธยาศัยดีงาม."

๑๖/๑๘๖
------------------------------------------
ที่มา  http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/interest/part6.5.html

ผิดพลาดประการใดขอโทษ (พึ่งตั้งกระทู้)

พิจารณาเป็นกลางๆ (ไตรลักษณ์)[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่