อยากตั้งเป็นกระทู้สนทนาแต่ไม่ได้เป็นสมาชิก เลยตั้งเป็นกระทู้คำถามแทนนะคะ
เราอยู่อเมริกาค่ะ แฟนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนเราคลอดลูกได้หนึ่งเดือน ตอนนั้นเราอยู่บ้านเลี้ยงน้องตลอด แฟนขับรถไปซื้อของให้ วันเกิดเหตุรถแฟนเสีย จึงยืมรถเราไปขับ คู่กรณีขับรถข้ามมาสามเลน เพื่อออกจากทางด่วนกระทันหัน ตัดหน้ารถแฟนเราพอดี รถโดนชนด้านข้างคนขับอย่างแรง และลากกันไปไกลหลายเมตร โชดดีที่รถไม่พลิกคว่ำ แฟนไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกและไม่ได้เรียกรถพยาบาล ตำรวจระบุชัดเจนว่า คู่กรณีผิด ด้านข้างรถฝั่งคนขับยุบเป็นทางยาว
หลังจากนั้น แฟนมีอาการปวดหลังและขาขวาชาตลอดเวลา การเคลมประกันและรักษาพยาบาลค่อนข้างซับซ้อนมาก เพราะแฟนใช้รถเรา ประกันเราปฎิเสธไม่รับผิดชอบ ประกันรถของแฟนก็บ่ายเบี่ยงยื้ดเยื้อเป็นเวลานาน ให้ค่าชดเชยมาน้อยมาก แฟนจึงจ้างทนายฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยอยู่
ทุกอย่างต้องผ่านทนาย ทั้งการเข้ารับการรักษาเพื่อให้ฝ่ายคู่กรณีรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล แฟนมีประกันสุขภาพแต่ไม่ได้จ่ายค่ารักษาทั้งหมด ทุกอย่างจึงต้องรอทนาย
ผ่านมาข้ามปี รักษาโดยหมอจัดกระดูกหลายเดือนแล้วไม่หาย ฉีดยาเข้าไขสันหลังไปสองรอบแล้วไม่หาย ผลMRI ระบุว่า หมอนรองกระดูก 3 ข้อเคลื่อนไปทั้งเส้นประสาททำให้มีอาการปวดหลังและขาชา
แฟนต้องการปรึกษาหมอเพื่อรับการผ่าตัด แต่ต้องรอ นัดหมายล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ทั้งการรับรองจากทนาย ให้หมอจัดกระดูกส่งต่อการรักษา
ตอนนี้แฟนแทบทำอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็ปวด ต้องนั่งพัก อุ้มลูกก็ไม่ไหว แต่ก่อนแข็งแรงมาก ออกไปวิ่ง ไปเดินเล่นกับลูกกันเป็นประจำ
มันกระทบไปทั้งครอบครัว แฟนทำธุระกิจส่วนตัว เช่นประมูลของมาขาย ซึ่งต้องมีการยก เคลื่อนย้ายของ ตอนนี้ก็ทำไม่ค่อยได้ รายได้แฟนก็ลดลงเรื่อยๆ บรรยากาศในบ้านก็ตึงๆ แฟนนั่งๆนอนๆตลอดเวลา เราก็ยุ่งทั้งเลี้ยงลูกเองและต้องทำงานไปด้วย
เราเครียดกับปัญหาที่เกิด
เครียดเพราะทำอะไรไม่ได้ เห็นแฟนเจ็บป่วยแต่ไม่สามารถไปรักษาได้เหมือนเมืองไทย แต่รอคอยหมอเป็นเดือนๆ
เครียดเพราะลูกยังเล็ก ต่อไปจะเป็นยังไง เราต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว รับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ลูกก็เลี้ยงเอง แฟนก็ไม่สบาย
อัดอึดกับขั้นตอนการนัดหมายหมอและรักษาอาการ เป็นไปได้ช้ามาก ถ้าอยู่เมืองไทยป่านนี้คงผ่าตัดเรียบร้อยไปแล้ว
เบื่อกับค่าประกับรถ ค่าประกันสุขภาพที่ต้องจ่ายแสนแพง แต่พอถึงเวลาต้องใช้จริงๆ มีเงือนไขมากมาย
เศร้ากับความหวังที่จะได้กลับเมืองไทย พาลูกไปพบญาติพี่น้องครั้งแรก ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กลับ เมื่อแฟนเจ็บป่วยแบบนี้
โกรธ คู่กรณีที่ขับรถโดยประมาท ทนายความที่เชื่องช้ามาก ประกันทุกฝ่ายที่บ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ
ตอนนี้มึนค่ะ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง
เครียดกับปัญหาสุขภาพของแฟน
เราอยู่อเมริกาค่ะ แฟนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนเราคลอดลูกได้หนึ่งเดือน ตอนนั้นเราอยู่บ้านเลี้ยงน้องตลอด แฟนขับรถไปซื้อของให้ วันเกิดเหตุรถแฟนเสีย จึงยืมรถเราไปขับ คู่กรณีขับรถข้ามมาสามเลน เพื่อออกจากทางด่วนกระทันหัน ตัดหน้ารถแฟนเราพอดี รถโดนชนด้านข้างคนขับอย่างแรง และลากกันไปไกลหลายเมตร โชดดีที่รถไม่พลิกคว่ำ แฟนไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกและไม่ได้เรียกรถพยาบาล ตำรวจระบุชัดเจนว่า คู่กรณีผิด ด้านข้างรถฝั่งคนขับยุบเป็นทางยาว
หลังจากนั้น แฟนมีอาการปวดหลังและขาขวาชาตลอดเวลา การเคลมประกันและรักษาพยาบาลค่อนข้างซับซ้อนมาก เพราะแฟนใช้รถเรา ประกันเราปฎิเสธไม่รับผิดชอบ ประกันรถของแฟนก็บ่ายเบี่ยงยื้ดเยื้อเป็นเวลานาน ให้ค่าชดเชยมาน้อยมาก แฟนจึงจ้างทนายฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยอยู่
ทุกอย่างต้องผ่านทนาย ทั้งการเข้ารับการรักษาเพื่อให้ฝ่ายคู่กรณีรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล แฟนมีประกันสุขภาพแต่ไม่ได้จ่ายค่ารักษาทั้งหมด ทุกอย่างจึงต้องรอทนาย
ผ่านมาข้ามปี รักษาโดยหมอจัดกระดูกหลายเดือนแล้วไม่หาย ฉีดยาเข้าไขสันหลังไปสองรอบแล้วไม่หาย ผลMRI ระบุว่า หมอนรองกระดูก 3 ข้อเคลื่อนไปทั้งเส้นประสาททำให้มีอาการปวดหลังและขาชา
แฟนต้องการปรึกษาหมอเพื่อรับการผ่าตัด แต่ต้องรอ นัดหมายล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ทั้งการรับรองจากทนาย ให้หมอจัดกระดูกส่งต่อการรักษา
ตอนนี้แฟนแทบทำอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็ปวด ต้องนั่งพัก อุ้มลูกก็ไม่ไหว แต่ก่อนแข็งแรงมาก ออกไปวิ่ง ไปเดินเล่นกับลูกกันเป็นประจำ
มันกระทบไปทั้งครอบครัว แฟนทำธุระกิจส่วนตัว เช่นประมูลของมาขาย ซึ่งต้องมีการยก เคลื่อนย้ายของ ตอนนี้ก็ทำไม่ค่อยได้ รายได้แฟนก็ลดลงเรื่อยๆ บรรยากาศในบ้านก็ตึงๆ แฟนนั่งๆนอนๆตลอดเวลา เราก็ยุ่งทั้งเลี้ยงลูกเองและต้องทำงานไปด้วย
เราเครียดกับปัญหาที่เกิด
เครียดเพราะทำอะไรไม่ได้ เห็นแฟนเจ็บป่วยแต่ไม่สามารถไปรักษาได้เหมือนเมืองไทย แต่รอคอยหมอเป็นเดือนๆ
เครียดเพราะลูกยังเล็ก ต่อไปจะเป็นยังไง เราต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว รับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ลูกก็เลี้ยงเอง แฟนก็ไม่สบาย
อัดอึดกับขั้นตอนการนัดหมายหมอและรักษาอาการ เป็นไปได้ช้ามาก ถ้าอยู่เมืองไทยป่านนี้คงผ่าตัดเรียบร้อยไปแล้ว
เบื่อกับค่าประกับรถ ค่าประกันสุขภาพที่ต้องจ่ายแสนแพง แต่พอถึงเวลาต้องใช้จริงๆ มีเงือนไขมากมาย
เศร้ากับความหวังที่จะได้กลับเมืองไทย พาลูกไปพบญาติพี่น้องครั้งแรก ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กลับ เมื่อแฟนเจ็บป่วยแบบนี้
โกรธ คู่กรณีที่ขับรถโดยประมาท ทนายความที่เชื่องช้ามาก ประกันทุกฝ่ายที่บ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ
ตอนนี้มึนค่ะ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง