คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
พี่สูง 176ซม เคยน้ำหนัก 85กก (อาจจะมากกว่าอีกนิดหน่อย เพราะหลังจากเลขนี้ก็ไม่กล้าชั่งแล้ว)
เริ่มคิดอยากจะลดน้ำหนักเพราะ เริ่มเจ็บหน้าอก หน้ามืด จากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พี่ใช้วิธีกินข้าวเช้า กินข้าวกลางวันปกติ (แต่เลี่ยงของทอด ของมัน แกงกะทิ) งดน้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมถุง
ตอนเย็นเลิกงานพี่เดินจากออฟฟิตไปขึ้นรถ ทุกวันวันละ 30-40นาที ข้าวเย็นงด กินผลไม้ สลัด ลูกชิ้นปิ้ง
เสาร์ - อาทิตย์อยู่บ้านก็กายบริหารก๊องแก๊งไป (ยังไม่กล้าว่ายน้ำ อายหุ่น)
ระหว่างดำเนินชีวิตแบบนั้น พี่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักเลย ไม่อยากกดดันตัวเอง
แต่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ทำไปเรื่อยๆ ผ่านไปราว 3เดือน เริ่มมีคนทัก น้ำหนักลดลงหรือเปล่า
รู้ว่าคงลด เพราะเสื้อผ้าเริ่มหลวมละ
เลยลองชั่งดู เหลือ 75กก ดีใจมาก ทำให้เป็นแรงบันดาลใจลดต่อ อยากแตะเลข 6 กับเค้าดูบ้าง
เริ่มไปว่ายน้ำ (เริ่มมั่นขึ้นนิดนึง) ยังกินเหมือนเดิม แต่เลิกเดินตอนเย็นละ เพราะเข้าหน้าฝน
ช่วงนี้น้ำหนักเริ่มลดช้า ไปถึงแทบจะไม่ลด แต่พี่ก็ไปว่ายน้ำเสาร์ - อาทิตย์ ใช้ชีวิตตามปกติ
กินขนมบ้าง บุฟเฟ่ต์บ้าง แต่ไม่เลิกออกกำลัง ทำไปแบบนี้ มันก็ลดลงเรื่อยๆ จนอยู่ตัวที่ 65-66กก
แล้วก็อยู่แบบนั้นเป็นปีๆ มันไม่ลดอ่ะ มีบางช่วงขึ้นด้วย ตามอัตราการกินเป็นช่วงๆ
แต่ก็ไม่ได้วิตกอะไรมาก มีความสุขกับชีวิต พอใจกับตัวเองดี
จนเมื่อช่วงปลายปีก่อน อยู่ๆ ฮึดอยากลดน้ำหนักต่อ
ผ่านไปหลายเดือน กินปกติ ออกกำลังกายบ้าง
ตอนนี้ 60-61กก.. พี่ว่าโอละนะ
จากประสบการณ์พี่ อย่าฝืนตัวเองมาก
ลดน้ำหนัก มันสำคัญที่ความสม่ำเสมอ อย่าท้อ
เพิ่งเดือนเดียวเอง เรากินมาหลายปีกว่าจะได้ขนาดนี้อ่ะ จะให้มันลดทันใจ ไม่มีหรอก
(อาจมี แต่ไม่ถาวร และไม่ดีที่จะเสี่ยง)
ปรับลักษณะการกิน การใช้ชีวิตของตัวเองดีกว่า
ที่อดนั่นนี่อ่ะ พี่ว่ามันทำได้ไม่ตลอดไปหรอก
ฉะนั้น หาจุดที่พอดีของตัวเอง กินอย่างที่อยากกิน กินที่มันอร่อย (แต่ก็ไม่ใช่ตามใจปากนะ)
ออกกำลังกาย (สำคัญมาก!!!!) ใช้ชีวิตแบบไม่ฝืน ไม่บังคับตัวเองเกินไป
กว่าจะรู้ตัวอีกที ผ่านไปแป๊บๆ (2-3เดือน) น้องจะรู้สึกว่า เฮ้ย.. น้ำหนักลดแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรมากเลย???
เพราะนั่น เราไม่ได้ฝืนตัวเองไง ใช้ชีวิตตามปกติ แถมได้น้ำหนักลดด้วย ^^
สู้ๆ นะคะ
เริ่มคิดอยากจะลดน้ำหนักเพราะ เริ่มเจ็บหน้าอก หน้ามืด จากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พี่ใช้วิธีกินข้าวเช้า กินข้าวกลางวันปกติ (แต่เลี่ยงของทอด ของมัน แกงกะทิ) งดน้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมถุง
ตอนเย็นเลิกงานพี่เดินจากออฟฟิตไปขึ้นรถ ทุกวันวันละ 30-40นาที ข้าวเย็นงด กินผลไม้ สลัด ลูกชิ้นปิ้ง
เสาร์ - อาทิตย์อยู่บ้านก็กายบริหารก๊องแก๊งไป (ยังไม่กล้าว่ายน้ำ อายหุ่น)
ระหว่างดำเนินชีวิตแบบนั้น พี่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักเลย ไม่อยากกดดันตัวเอง
แต่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ทำไปเรื่อยๆ ผ่านไปราว 3เดือน เริ่มมีคนทัก น้ำหนักลดลงหรือเปล่า
รู้ว่าคงลด เพราะเสื้อผ้าเริ่มหลวมละ
เลยลองชั่งดู เหลือ 75กก ดีใจมาก ทำให้เป็นแรงบันดาลใจลดต่อ อยากแตะเลข 6 กับเค้าดูบ้าง
เริ่มไปว่ายน้ำ (เริ่มมั่นขึ้นนิดนึง) ยังกินเหมือนเดิม แต่เลิกเดินตอนเย็นละ เพราะเข้าหน้าฝน
ช่วงนี้น้ำหนักเริ่มลดช้า ไปถึงแทบจะไม่ลด แต่พี่ก็ไปว่ายน้ำเสาร์ - อาทิตย์ ใช้ชีวิตตามปกติ
กินขนมบ้าง บุฟเฟ่ต์บ้าง แต่ไม่เลิกออกกำลัง ทำไปแบบนี้ มันก็ลดลงเรื่อยๆ จนอยู่ตัวที่ 65-66กก
แล้วก็อยู่แบบนั้นเป็นปีๆ มันไม่ลดอ่ะ มีบางช่วงขึ้นด้วย ตามอัตราการกินเป็นช่วงๆ
แต่ก็ไม่ได้วิตกอะไรมาก มีความสุขกับชีวิต พอใจกับตัวเองดี
จนเมื่อช่วงปลายปีก่อน อยู่ๆ ฮึดอยากลดน้ำหนักต่อ
ผ่านไปหลายเดือน กินปกติ ออกกำลังกายบ้าง
ตอนนี้ 60-61กก.. พี่ว่าโอละนะ
จากประสบการณ์พี่ อย่าฝืนตัวเองมาก
ลดน้ำหนัก มันสำคัญที่ความสม่ำเสมอ อย่าท้อ
เพิ่งเดือนเดียวเอง เรากินมาหลายปีกว่าจะได้ขนาดนี้อ่ะ จะให้มันลดทันใจ ไม่มีหรอก
(อาจมี แต่ไม่ถาวร และไม่ดีที่จะเสี่ยง)
ปรับลักษณะการกิน การใช้ชีวิตของตัวเองดีกว่า
ที่อดนั่นนี่อ่ะ พี่ว่ามันทำได้ไม่ตลอดไปหรอก
ฉะนั้น หาจุดที่พอดีของตัวเอง กินอย่างที่อยากกิน กินที่มันอร่อย (แต่ก็ไม่ใช่ตามใจปากนะ)
ออกกำลังกาย (สำคัญมาก!!!!) ใช้ชีวิตแบบไม่ฝืน ไม่บังคับตัวเองเกินไป
กว่าจะรู้ตัวอีกที ผ่านไปแป๊บๆ (2-3เดือน) น้องจะรู้สึกว่า เฮ้ย.. น้ำหนักลดแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรมากเลย???
เพราะนั่น เราไม่ได้ฝืนตัวเองไง ใช้ชีวิตตามปกติ แถมได้น้ำหนักลดด้วย ^^
สู้ๆ นะคะ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำเรื่องลดน้ำหนักค่ะ รบกวนด้วยนะคะ
ช่วงนี้เครียดๆ ปกติเข้ามาอ่าน ไม่เคยสมัครสมาชิก แต่สมัครเพราะอยากให้พี่ๆทุกคนที่ลดน้ำหนักช่วยชี้ทางสว่างค่า
เราเริ่มลดน้ำหนักวันที่ 22 มกราคม โดยการงดข้าวเย็นและนับแคลทุกวันค่ะ 1เดือนผ่านไปเราลดได้จาก 81 เหลือ 78 ค่ะ ช่วงนี้ยังเปิดเทอมอยู่เราแทบจะไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ
หลังจาก1เดือนผ่านมา เข้าสู่ช่วงปิดเทอม เราก้ยังนับแคล และออกกำลังกายวันละ1ชั่วโมง โดยการว่ายน้ำและปั่นจักรยานค่ะ แบบปั่นตามถนนไรงี้ค่ะ แต่ช่วงนี้จะปั่นจักรยาน นี้ก็จะผ่านมาอีก1เดือนแล้ว น้ำหนักเราลงไปยังไม่ถึงกิโลเลยค่ะ เริ่มท้อแล้ว แต่เราก็เข้ามาอ่านกระทู้ของพี่ๆที่เค้าลดได้แล้ว และคุยกับแม่เรื่องลดน้ำหนักเพื่อเอามาเป็นแรงผลักดันให้ลดน้ำหนักต่อไปค่ะ
จากที่เราอ่านเราคิดได้ว่า เราคงไม่สามารถงดมื้อเย็นได้ตลอดชีวิต และถ้ากินมื้อเย็นน้ำหนักก็คงจะพุ่งพรวด ทำให้ที่ผ่านมาเสียเปล่า วันนี้เราก็ทานมื้อเย็นแล้วค่ะ ทานเป็นซุปกระดูกหมู น้ำขิง แก้วมังกร << ที่ทานเย็นวันนี้นะคะ เรากลัวว่าร่างกายของเราที่อดมื้อเย็นมาเกือบ2เดือน พอทานมื้อเย็นแล้วน้ำหนักจะพุ่งพรวดอะค่ะ "คือไม่อยากนับแคลแล้ว ใครที่มีวิธีแก้ไขรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ อยากกลับมาทานได้3มื้อเหมือนเดิม"
เราท้อเรื่องออกกำลังกายเหมือนกันค่ะ คือออกกำลังกายมาเกือบเดือน น้ำหนักไม่ลด แต่ก็คิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยเราก็เริ่มใส่เสื้อที่มันเคยคับในตู้ได้แล้ว และเสื้อบางตัวก็เริ่มหลวมแล้ว "อยากทราบว่าพี่ๆที่ออกกำลังกายกันใช้เวลานานมั้ยคะกว่าน้ำหนักจะลด"
อีกเรื่อง เราเคยทานยาลดน้ำหนักด้วยค่ะ แต่กินแล้วไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น ก็ทิ้งไปหมดเลยค่ะ หลังจากทานได้3วัน อีกอย่างไปอ่านโทษของมันแล้วกลัวตายค่ะ เราคิดว่ายาลดน้ำหนักทำให้การเผาผลาญเราแย่ลง
อยากทราบว่า "คาร์ดิโอ" คืออะไรหรอคะ เห็นคลับลดความอ้วนพูดกันบ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร
ตอนนี้กินผลไม้ทุกวันกล้วยเล็บมือนาง แก้วมังกร เราอยากลดน้ำหนักให้เหลือสัก 60 kg ค่ะ แต่ขอหุ่นเฟิร์มๆด้วยนะ ลดน้ำหนักครั้งนี้ตั้งใจมากๆ อยากเป็นคนใหม่ค่ะ เดือนเมษาก็จะได้เข้าฟิตเนสแล้วค่ะ ><
พี่ๆทุกคนที่เข้ามาอ่านรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ เนื้อหาอาจจะวนๆงงๆหน่อย แหะๆ
***ถ้าพี่ๆว่างคุยเฟสหรือคุยไลน์เพื่อแนะนำเรื่องต่างๆมากขึ้นเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก รบกวนขอชื่อเฟสหรือไลน์ทางอีเมลล์ได้มั้ยคะ อยากมีคนช่วยให้คำปรึกษาค่า -/\-
E-mail : pan_sone@hotmail.com
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ