ใครที่ฝันอยากทำธุรกิจแล้วไปเปิดสาขาเมืองนอก น่าจะชอบเรื่องนี้ เพราะนี่คือเส้นทางของ
พอลลี่ เฮสันต์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ชา
เจี้ยนชา ที่อายุแค่ 30 ปี แต่เริ่มธุรกิจมาไม่ถึง 2 ปี ก็สามารถทำรายได้
78 ล้านบาท และกำลังจะขยายสาขาไปหลายประเทศทั่วโลก
จุดเริ่มจากความฝันอยาก “เที่ยวรอบโลก”
- พอลลี่เติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ ทำให้ตั้งแต่เด็กก็ซึมซับวิธีคิดเรื่องการทำการค้า ผ่านทั้งธุรกิจเสื้อผ้า อาหารเสริม รถมือสอง สปา จนถึงโรงงานเบเกอรี่ ภายใต้ชื่อ
“วรรณวนัช”
- แต่ความหลงใหลส่วนตัวคือ
การเดินทางไปต่างประเทศ เธอเลยอยากทำธุรกิจที่ “พาไปได้ทั่วโลก” และสิ่งที่คิดออกก็คือ
“ชา”
- เธอเลยเริ่มศึกษาย้อนประวัติศาสตร์การดื่มชามาตลอดพันปี ดูว่าเทรนด์เปลี่ยนยังไง ทำไมชานมไต้หวันถึงดัง ทำไมชาซีลอนถึงเกิดขึ้น จนสรุปได้ว่า
ถ้าจะทำ ต้องเป็นชาเพื่อสุขภาพ ที่ทันสมัย และไปได้ไกล
เจี้ยนชา เปิดทีเดียว 2 สาขา
พอลลี่เลือกเปิด
สยามพารากอน +
The Up พระราม 3 พร้อมกัน เพื่อทดสอบโมเดลขายในห้างและนอกห้าง
- ใช้
ชาใบสดต้มใหม่ ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
- เน้นอุณหภูมิ + เวลาต้มที่พอดี เพื่อคงคุณค่าและรสชาติ
- ดีไซน์ร้านโทน
ขาว-เงิน-เบจ ดูโมเดิร์นหรู
- ราคาประมาณ
80–120 บาท เจาะตลาดพรีเมียมแมส
เมนูที่ทำให้เจี้ยนชาดังคือ
“ชาองุ่นสปาร์คกลิ้ง” หอม สดชื่น ดื่มง่าย ตอบเทรนด์สุขภาพเต็ม ๆ เพียง 2 เดือนหลังเปิดตลาด ก็เริ่มมีลูกค้าต่อคิวยาว ทำไม่ทัน และเริ่มเห็นทางว่าธุรกิจไปต่อได้
ปังตั้งแต่ปีแรก
- ปีแรก
เจี้ยนชา ทำรายได้
78 ล้านบาท กำไร 1.85 ล้านบาท
- ปัจจุบัน (ผ่านมา 1 ปี 7 เดือน) มีแล้ว
40 สาขา และอีก
65 สาขาเซ็นพื้นที่เตรียมเปิด
- เป้าหมายสิ้นปีนี้คือ
100 สาขา โดยเป็นแฟรนไชส์ 80% บริษัทดูแลเอง 20%
พอลลี่มองว่าการแข่งขันในตลาด “ชาพรีเมียมแมส” ที่ร้อนแรงไม่ใช่เรื่องแย่ แต่เป็นการช่วย “ปลุกวัฒนธรรมการดื่มชา” ให้กลับมาเหมือนกาแฟ
ไปต่างประเทศแล้ว!
- ตอนนี้เจี้ยนชาไปเปิดที่
ออสเตรเลีย 2 สาขา และกำลังจะบุก
สิงคโปร์ สเปน สหรัฐฯ
- เธอบอกว่าไม่รอให้ไทยเต็มที่ก่อนแล้วค่อยไป เพราะ “การบุกต่างประเทศแต่แรก” จะทำให้ได้เรียนรู้ระบบ กฎหมาย เทคโนโลยี และโมเดลธุรกิจที่เอากลับมาปรับใช้ในไทยได้ทันที
ที่มา
Brand Inside
เจี้ยนชา ร้านชา ที่ตั้งใจพาธุรกิจไทยไปทั่วโลก ปีแรกทำรายได้เกือบ 80 ล้านบาท
จุดเริ่มจากความฝันอยาก “เที่ยวรอบโลก”
- พอลลี่เติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ ทำให้ตั้งแต่เด็กก็ซึมซับวิธีคิดเรื่องการทำการค้า ผ่านทั้งธุรกิจเสื้อผ้า อาหารเสริม รถมือสอง สปา จนถึงโรงงานเบเกอรี่ ภายใต้ชื่อ “วรรณวนัช”
- แต่ความหลงใหลส่วนตัวคือ การเดินทางไปต่างประเทศ เธอเลยอยากทำธุรกิจที่ “พาไปได้ทั่วโลก” และสิ่งที่คิดออกก็คือ “ชา”
- เธอเลยเริ่มศึกษาย้อนประวัติศาสตร์การดื่มชามาตลอดพันปี ดูว่าเทรนด์เปลี่ยนยังไง ทำไมชานมไต้หวันถึงดัง ทำไมชาซีลอนถึงเกิดขึ้น จนสรุปได้ว่า ถ้าจะทำ ต้องเป็นชาเพื่อสุขภาพ ที่ทันสมัย และไปได้ไกล
เจี้ยนชา เปิดทีเดียว 2 สาขา
พอลลี่เลือกเปิด สยามพารากอน + The Up พระราม 3 พร้อมกัน เพื่อทดสอบโมเดลขายในห้างและนอกห้าง
- ใช้ ชาใบสดต้มใหม่ ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
- เน้นอุณหภูมิ + เวลาต้มที่พอดี เพื่อคงคุณค่าและรสชาติ
- ดีไซน์ร้านโทน ขาว-เงิน-เบจ ดูโมเดิร์นหรู
- ราคาประมาณ 80–120 บาท เจาะตลาดพรีเมียมแมส
เมนูที่ทำให้เจี้ยนชาดังคือ “ชาองุ่นสปาร์คกลิ้ง” หอม สดชื่น ดื่มง่าย ตอบเทรนด์สุขภาพเต็ม ๆ เพียง 2 เดือนหลังเปิดตลาด ก็เริ่มมีลูกค้าต่อคิวยาว ทำไม่ทัน และเริ่มเห็นทางว่าธุรกิจไปต่อได้
ปังตั้งแต่ปีแรก
- ปีแรก เจี้ยนชา ทำรายได้ 78 ล้านบาท กำไร 1.85 ล้านบาท
- ปัจจุบัน (ผ่านมา 1 ปี 7 เดือน) มีแล้ว 40 สาขา และอีก 65 สาขาเซ็นพื้นที่เตรียมเปิด
- เป้าหมายสิ้นปีนี้คือ 100 สาขา โดยเป็นแฟรนไชส์ 80% บริษัทดูแลเอง 20%
พอลลี่มองว่าการแข่งขันในตลาด “ชาพรีเมียมแมส” ที่ร้อนแรงไม่ใช่เรื่องแย่ แต่เป็นการช่วย “ปลุกวัฒนธรรมการดื่มชา” ให้กลับมาเหมือนกาแฟ
ไปต่างประเทศแล้ว!
- ตอนนี้เจี้ยนชาไปเปิดที่ ออสเตรเลีย 2 สาขา และกำลังจะบุก สิงคโปร์ สเปน สหรัฐฯ
- เธอบอกว่าไม่รอให้ไทยเต็มที่ก่อนแล้วค่อยไป เพราะ “การบุกต่างประเทศแต่แรก” จะทำให้ได้เรียนรู้ระบบ กฎหมาย เทคโนโลยี และโมเดลธุรกิจที่เอากลับมาปรับใช้ในไทยได้ทันที
ที่มา Brand Inside