สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 191
เราก็มีปัญหานอนไม่หลับ แรกๆ ก็ พยายยาม ออกกำลังกาย ทานของอุ่นๆ อ่านหนังสือ ปิดมือถือ
แต่ก็ยังไม่ค่อย ช่วยเท่าไหร่ เหมือนว่า เวลานอน ร่างกายยังตื่นตัว บางทีก็รู้สึกนอนไม่สบาย เปลี่ยนหมอน ก็ไม่ได้ช่วย
สุดท้ายจบด้วย melatonin คิดว่าร่างกายเราน่าจะไม่ค่อยผลิตเจ้าตัวนี้เพียงพอ พอกิน มันจะรู้สึก แบบอารมสบายๆ ถ้าใครเคยนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดแล้ว ง่วงจนหลับคาโต๊ะได้ นั่งหลับยังบนเก้าอี้ ยังได้ นอนท่าไหนก็สบาย
เรากินตัว luna เพราะ รีวิวใน pantip ดีสุด ยังไม่เคยลองยี่ห้ออื่น ถ้าใครเคย ลองยี่ห้อ อื่นดีๆ ก็หลังไมค์มาแนะนำด้วย เพราะ luna จะราคาค่อนข้างสูงหน่อย
แต่ก็ยังไม่ค่อย ช่วยเท่าไหร่ เหมือนว่า เวลานอน ร่างกายยังตื่นตัว บางทีก็รู้สึกนอนไม่สบาย เปลี่ยนหมอน ก็ไม่ได้ช่วย
สุดท้ายจบด้วย melatonin คิดว่าร่างกายเราน่าจะไม่ค่อยผลิตเจ้าตัวนี้เพียงพอ พอกิน มันจะรู้สึก แบบอารมสบายๆ ถ้าใครเคยนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดแล้ว ง่วงจนหลับคาโต๊ะได้ นั่งหลับยังบนเก้าอี้ ยังได้ นอนท่าไหนก็สบาย
เรากินตัว luna เพราะ รีวิวใน pantip ดีสุด ยังไม่เคยลองยี่ห้ออื่น ถ้าใครเคย ลองยี่ห้อ อื่นดีๆ ก็หลังไมค์มาแนะนำด้วย เพราะ luna จะราคาค่อนข้างสูงหน่อย
ความคิดเห็นที่ 40
ชีวิตนี้ยังมีหวัง สำหรับคนนอนไม่หลับ...
"นอนไม่หลับรักษาอย่างไร ? ควรกินยาหรือไม่ ? หายได้จริงไหม?"
เราได้ตั้งความปรารถนาไว้ตั้งแต่ตอนป่วยหนัก ว่าเมื่อไรที่เราหายเราจะเขียนเล่าเรื่องราวบางส่วนที่อาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ คนอื่นๆที่ยังดิ้นรนหนทางเยียวยา
โรคที่เราเรียกว่านอนไม่หลับ...
คนที่ไม่เคยเป็นจะไม่รู้ว่ามันเป็นโรคที่ทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ และถ้าเป็นเรื้อรังมากๆ อาจค่อยๆ นำพาอาการซึมเศร้ามาได้
บทความนี้เขียนบนพื้นฐานของความจริงทั้งสิ้น ถ้าแม้มีเพียงไม่กี่คนได้อ่านและมีกำลังใจที่จะฝ่าฟันและลุกขึ้นมายืนหยัด เราเชื่อว่าท่านจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขแน่นอน
...
บทความนี้เขียนบนเครื่องบินในช่วงเดือนธันวาคมปี2560 ด้วยหวังใจว่าจะให้แล้วเสร็จก่อนวันปีใหม่ที่จะมาถึง
"ปฐมเหตุเกิดแห่งการเกิด โรค ..."
เรามีความเครียดสะสมจากชีวิตส่วนตัวที่คลายปมไม่ออกอยู่หลายเดือนในปลายปี 2557 คิดวนไปมาหลายเดือนจนกระทั่งทำให้เริ่มนอนไม่หลับสะสมในปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราคิดว่าการนอนไม่หลับ
เป็นเรื่องเล็กๆ ไปหาหมอไม่กี่ครั้งก็คงจะหายแต่กลับเป็นว่า ยิ่งรักษาก็ยิ่งไปกันใหญ่...
เป็นเรื่องปกติตามมาตรฐานของคนทั่วไปที่นอนไม่หลับนานวันเข้าก็จะเลือกไปใช้บริการจากแพทย์ทางจิตเวช ตอนนั้นเรานอนไม่หลับเกือบอาทิตย์
แล้วก็มึนๆหัว ก็เลยไปหาหมอด้านจิตเวช เดือนแรก ทานยาก็พอจะนอนได้แต่ได้ของแถมมาสองอย่างคือมึนหัวและท้องผูก ...
สารพันความทุกข์กายและใจ ระหว่างป่วยหนัก
ย่างเข้าเดือนที่สองยาที่เคยทานทำให้หลับได้น้อยลงๆ จนเริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญหมอบอกว่ายาพวกนี้ต้องทานไม่ต่ำกว่า 6 เดือนจึงจะค่อยๆหยุดยาได้...ความเครียดยิ่งประดังเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ...แล้วตามประสากระแสแห่งโลก digital อยากรู้อะไรก็แค่ search ยิ่ง search ยิ่งเครียด เค้าบอกว่าทานยาพวกยาคลายเครียดพวกนี้จะทำให้ติดยาและเลิกได้ยากเลยยิ่งเครียดหนักมากๆ คือบางกรณียิ่งกินยิ่งต้องเพิ่ม dose มากขึ้นๆ
โอกาสที่จะหยุดยายิ่งยากมากๆ บางคนต้องทานยาตลอดชีวิต
ตอนนั้นชีวิตดูมืดมนหนทาง ทานยาแต่หลับได้น้อยลงๆ หมอให้เปลี่ยนยาเกือบทุก2สัปดาห์ ยาบางชนิดยิ่งกินยิ่งปวดหัว บางชนิดกินแล้วก็ยังนอนไม่ค่อยหลับ ...
ชีวิตวนเวียนกับเหตุการณ์เช่นนี้ เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 8 เดือน
มันเหมือนคนใกล้จะสิ้นหวัง
ระหว่างนั้นก็วิ่งหาศาสตร์การแพทย์ทางเลือกหลายชนิด ยาสมุนไพรจีนแพงๆ เดือนละ 2 หมื่นก็ลองมาแล้ว อาการก็ไม่ดีขึ้น ลองไปศาสตร์สารพัดชนิดจนเกือบอับจนหนทาง..คืนแล้วคืนเล่าที่ทุกข์กับความพยายามที่ให้ได้หลับบ้าง
และการใช้ชีวิตช่วงกลางวันที่ค่อยๆมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำลงๆ เรื่อยๆ จากความล้าของร่างกายที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนและจากการที่ชีวิตสะสมความเครียดมากขึ้นทุกทีๆ
"จุดพลิกผันของการเยียวยา"
เราดิ้นรนหนทางอยู่วันแล้ววันเล่า อย่างยากลำบาก และแล้ว เส้นทางของการรักษาที่แท้จริง ก็ค่อยๆเผยตัวขึ้นมา เมื่อเราตัดสินใจ เปลี่ยนหมอ ย้ายโรงพยาบาล มาหาหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนโดยเฉพาะ บุคคลผู้นี้เป็นคุณหมอที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงส่งมาก ครอบครัวของเรา เสิร์ชชื่อแพทย์คนนี้ จากวิดีโอคลิป ที่ท่าน ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะว่าด้วยเรื่องการนอนหลับ ขอเอ่ยนาม นายแพทย์ สนทรรศ บุษราทิจ (ชื่อนี้จะไม่มีวันลืม ในฐานะผู้มีอุปการะคุณในชีวิต) คุณหมอจากโรงพยาบาลศิริราช ผู้เชี่ยวชาญทาง sleep medicine คุณหมอให้เราเปลี่ยนยาเดิมทั้งหมด ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือไม่ต้องกินยาแพง จากที่ไม่ค่อยนอน ก็หลับได้เลยและมีการนอนที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ยาก็ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆอีกแล้ว
ใช้เวลารักษาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ แต่การใช้ยาคลายเครียดเพื่อช่วยให้หลับจะมี side effect คือมีอาการปวดหัว มันสะสมขึ้นมาเรื่อยๆ เดิมนอนไม่ค่อยได้
ก็ปวดหัว แต่พอนอนได้ก็ปวดหัวสะสมไปอีกแบบ ก็ต้องหาหนทางการถอย dose ยาลงให้ได้ ค่อยๆใชัเวลาทำงานร่วมกับคุณหมอปรับยาลงมาเรื่อยๆ เราต้องอดทนยอมรับอาการปวดหัวเป็นเหมือนฝาแฝดติดตัว เป็นช่วงชีวิตที่ยากลำบากแต่ก็ค่อยๆ ดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆที่กินยาแล้วก็ยังนอนไม่ค่อยได้
คุณหมอเตือนให้ตื่นนอนเวลาเดียวกันเสมอทุกวัน เช่น 7 โมงเช้า และให้ไปออกกำลังกาย รวมทั้งหาสิ่งที่ชอบทำ เพื่อใช้ battery ให้หมดเพราะคนที่ไม่ทำอะไรพลังงานจะเหลือเยอะก็จะหลับยาก
"นางฟ้าน้อยๆ มาช่วย"
เรามี ความคิดของการแสวงหา non medical treatment มาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ได้คำตอบสักที เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อได้เข้า workshop ฟรี ที่โรงพยาบาลรามาจัดให้สำหรับคนที่มีปัญหากับการนอน ต้องขอกราบขอบพระคุณ แพทย์หญิง ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการนอนไม่หลับ ซึ่งได้ให้ความรู้พื้นฐานที่เป็นประโยชน์มากๆของการรักษาการนอนไม่หลับโดยไม่ใช้ยา มีหลักการพื้นฐาน15 ข้อ ท่านที่สนใจลองอ่านดูตามlink..https://m.facebook.com/ramapsychiatry/photos/a.256554037704982.81404.199438763416510/877610265599353/?type=3 และเอาไปทำจะเป็นประโยชน์มากๆคะ
ที่จำได้แม่น และเป็นเรื่องสำคัญคือ
1.ให้ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3ครั้ง แต่ห้ามออกกำลังกายใกล้เวลานอนร่างกายจะ alert (ควรเว้น อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน )
2. ต้องปรับนาฬิกาชีวิตให้ดี อย่านอนดึกๆดื่นๆ ผิดเวลา
3. อย่าใช้เครื่องมือสื่อสารและ computer ใกล้เวลาที่นอนมาก(ควรเว้นสัก 1ถึง2ชั่วโมง)
4. ต้องตื่นนอนเวลาเดียวกันเสมอ เพื่อ reset นาฬิกาชีวิต ให้สมองจดจำเวลาได้
5. เตียงนอนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์เอาไว้นอน อย่าไปทำงาน เล่น comp บนเตียง
6. ห้ามหลับหรืองีบกลางวัน เพราะร่างกายจะหลับยากในตอนกลางคืน
7. งด ชา กาแฟ โกโก้ และแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะ นิโคตินและคาเฟอีนมีผลโดยตรงต่อการนอนไม่หลับ
8. อย่ากินอาหารเย็นหนักๆใกล้ช่วงที่จะเข้านอนเพราะร่างกายจะย่อยอาหาร ทำให้นอนยากขึ้น
จะต้องมีวินัยนำสิ่งเหล่านี้ไปแก้ไข
จากข้อแนะนำของแพทย์สองคนทำให้เราได้ปรับ dose ยาลงมาบ้าง
อย่างไรก็ตามความเครียด อาการปวดหัวที่สะสมมาอย่างยาวนานก็บั่นทอนสุขภาพกายและใจมากพอสมควร การป่วยทำให้เราไม่ได้ออกไปทำสิ่งที่ชอบเลยกลายเป็นคนที่หมกหมุ่นกับตัวเอง อาการปวดหัวก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและมีงอกโรคคือปวดเข่า มาเพิ่มอีก ทำให้ดิ้นรนหนทางว่าจะออกจากกับดักสุขภาพและกับดักชีวิตได้อย่างไร
"ดุลยภาพบำบัด แพทย์ทางเลือกหรือแพทย์ทางรอด ?"
ญาติที่มีปัญหาโรคปวดถึงขั้นเตรียมผ่าตัดมาเล่าให้ฟังพอดีถึง คุณหมอ ลดาวัลย์ สุวรรณกิตติ (คุณหมอในดวงใจของเรา) แพทย์ที่คิดค้นศาสตร์ดุลยภาพบำบัด ว่าช่วยให้หายโดยไม่ต้องผ่าตัด เราก็เลยไปทดลองดูเพราะช่วงนั้นนอนได้จริงแต่ปวดหัวมากและมีอาการปวดอื่นๆสะสม หลังจากรักษาอาการปวดหัวทุเลาลงมากและก็เริ่มปรับลดโดสยาที่ทานลงมาเรื่อยๆ ...ใช้เวลารักษาเกือบ 6 เดือน ก็เริ่มกลับไปทำงานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก ... จากการไปทำงานร่างกายก็เหน็ดเหนื่อยมาก หลับง่ายขึ้น ก็ทะยอยปรับ dose ยาลงเรื่อยๆ และได้มีโอกาสศึกษาความรู้ที่หลากหลายเพื่อปรับ mindset ของทีมงาน ที่เกี่ยวข้อง ก็ส่งผลให้เรากลายเป็นคนที่มี inner power มีพลังของจิตวิญญาณ มี positive thinking มาก enjoy life ใช้ชีวิตทุกๆวันอย่างมีคุณค่ามีความหมาย และ มีเป้าหมายในชีวิตที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า และมีพลังที่จะทำประโยชน์เพื่อคนอื่นให้มากขึ้น
"กุศลหนุนนำ ...กรรมเริ่มลด..."
หลังจากที่อาการปวดหัวทุเลาเราเริ่มคิดถึงคนอื่นมากขึ้นก็เลยลุกขึ้นมาทำ งานการกุศลในหลากหลายรูปแบบ เช่นบริจาคหนังสือธรรมะ เข้าห้องสมุดประจำจังหวัดทั่วประเทศ บริจาคยาให้วัด เริ่มกลับมาทำสมาธิปฎิบัติธรรม
ในที่สุดเราก็เลิกทานยาทุกชนิดและนอนหลับได้อย่างปกติ
บทเรียนสำคัญที่จะฝากให้ คนที่นอนไม่หลับ
1. จงมีความหวังและมีพลังใจโดยเชื่อว่า เราจะหายได้ในที่สุด
อยู่ใกล้ๆคนที่มีพลังบวก มากๆเพื่อดึงเราขึ้นมาให้ได้
2. ถ้าพึ่งเป็นไม่มาก รีบใช้หลักการ non medical treatmentของหมอทานตะวัน เป็น preventive คือกันไว้ก่อนเป็นหนัก รีบออกกำลังกาย ทำงานให้เยอะขึ้น
จะได้ใช้แบตเตอรี่ให้หมด
3. ใครเป็นโรคซึมเศร้าและนอนไม่หลับลองศึกษาเรื่องดุลยภาพบำบัดดูเป็นทางเลือกในการรักษาในลักษณะ non medical treatment
4 กรณีที่มีอาการหนักมากจะเลือกไปพบแพทย์ด้านจิตเวชให้เลือกผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ด้านการนอนไม่หลับ อันนี้สำคัญมากๆ ไม่ใช่แพทย์จิตเวชทุกคนจะสามารถรักษาโรคนอนไม่หลับได้
5. คนที่มีความเครียดเยอะๆ อย่าสะสมไว้นานๆ เราควรล้างขยะและสารพิษออกจากใจและสมองให้ได้เร็วและมากที่สุด การทำสมาธิและการเข้า course ปฏิบัติธรรมช่วยได้ อย่าปล่อยความเครียดสะสมจนกระทั่งกลายเป็นโรคนอนไม่หลับ
ชีวิตท่านจะทุกข์ยากมากๆอย่างที่ไม่สามารถจินตนาการได้เลย
6. หมั่นสร้างกุศลในชีวิตเสมอๆ สวดมนต์ ทำสมาธิ สะสมกุศลในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้กุศลหนุนนำพาชีวิตพ้นผ่านวันเวลาแห่งความยากลำบากไปให้ได้
พระรัตนตรัยเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตของชาวพุทธอย่างเราคะ
ท้ายนี้ เราขอให้กำลังใจเพื่อนๆทุกๆคนที่กำลังเผชิญความยากลำบากนี้ ขอให้เพื่อนๆเชื่อมั่นว่าท่านจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน อย่าสิ้นหวัง เพราะเราก็ได้ผ่านมันมาแล้ว เพื่อนๆทุกๆคนก็จะผ่านมันไปได้เช่นเดียวกันคะ ขอคุณพระรัตนตรัยอำนวยพรให้เพื่อนๆทุกๆคนที่ยังป่วยอยู่ให้ดีวันดีคืนและหายในที่สุด อย่าลืมสะสมกุศลกันนะคะ
"นอนไม่หลับรักษาอย่างไร ? ควรกินยาหรือไม่ ? หายได้จริงไหม?"
เราได้ตั้งความปรารถนาไว้ตั้งแต่ตอนป่วยหนัก ว่าเมื่อไรที่เราหายเราจะเขียนเล่าเรื่องราวบางส่วนที่อาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ คนอื่นๆที่ยังดิ้นรนหนทางเยียวยา
โรคที่เราเรียกว่านอนไม่หลับ...
คนที่ไม่เคยเป็นจะไม่รู้ว่ามันเป็นโรคที่ทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ และถ้าเป็นเรื้อรังมากๆ อาจค่อยๆ นำพาอาการซึมเศร้ามาได้
บทความนี้เขียนบนพื้นฐานของความจริงทั้งสิ้น ถ้าแม้มีเพียงไม่กี่คนได้อ่านและมีกำลังใจที่จะฝ่าฟันและลุกขึ้นมายืนหยัด เราเชื่อว่าท่านจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขแน่นอน
...
บทความนี้เขียนบนเครื่องบินในช่วงเดือนธันวาคมปี2560 ด้วยหวังใจว่าจะให้แล้วเสร็จก่อนวันปีใหม่ที่จะมาถึง
"ปฐมเหตุเกิดแห่งการเกิด โรค ..."
เรามีความเครียดสะสมจากชีวิตส่วนตัวที่คลายปมไม่ออกอยู่หลายเดือนในปลายปี 2557 คิดวนไปมาหลายเดือนจนกระทั่งทำให้เริ่มนอนไม่หลับสะสมในปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราคิดว่าการนอนไม่หลับ
เป็นเรื่องเล็กๆ ไปหาหมอไม่กี่ครั้งก็คงจะหายแต่กลับเป็นว่า ยิ่งรักษาก็ยิ่งไปกันใหญ่...
เป็นเรื่องปกติตามมาตรฐานของคนทั่วไปที่นอนไม่หลับนานวันเข้าก็จะเลือกไปใช้บริการจากแพทย์ทางจิตเวช ตอนนั้นเรานอนไม่หลับเกือบอาทิตย์
แล้วก็มึนๆหัว ก็เลยไปหาหมอด้านจิตเวช เดือนแรก ทานยาก็พอจะนอนได้แต่ได้ของแถมมาสองอย่างคือมึนหัวและท้องผูก ...
สารพันความทุกข์กายและใจ ระหว่างป่วยหนัก
ย่างเข้าเดือนที่สองยาที่เคยทานทำให้หลับได้น้อยลงๆ จนเริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญหมอบอกว่ายาพวกนี้ต้องทานไม่ต่ำกว่า 6 เดือนจึงจะค่อยๆหยุดยาได้...ความเครียดยิ่งประดังเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ...แล้วตามประสากระแสแห่งโลก digital อยากรู้อะไรก็แค่ search ยิ่ง search ยิ่งเครียด เค้าบอกว่าทานยาพวกยาคลายเครียดพวกนี้จะทำให้ติดยาและเลิกได้ยากเลยยิ่งเครียดหนักมากๆ คือบางกรณียิ่งกินยิ่งต้องเพิ่ม dose มากขึ้นๆ
โอกาสที่จะหยุดยายิ่งยากมากๆ บางคนต้องทานยาตลอดชีวิต
ตอนนั้นชีวิตดูมืดมนหนทาง ทานยาแต่หลับได้น้อยลงๆ หมอให้เปลี่ยนยาเกือบทุก2สัปดาห์ ยาบางชนิดยิ่งกินยิ่งปวดหัว บางชนิดกินแล้วก็ยังนอนไม่ค่อยหลับ ...
ชีวิตวนเวียนกับเหตุการณ์เช่นนี้ เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 8 เดือน
มันเหมือนคนใกล้จะสิ้นหวัง
ระหว่างนั้นก็วิ่งหาศาสตร์การแพทย์ทางเลือกหลายชนิด ยาสมุนไพรจีนแพงๆ เดือนละ 2 หมื่นก็ลองมาแล้ว อาการก็ไม่ดีขึ้น ลองไปศาสตร์สารพัดชนิดจนเกือบอับจนหนทาง..คืนแล้วคืนเล่าที่ทุกข์กับความพยายามที่ให้ได้หลับบ้าง
และการใช้ชีวิตช่วงกลางวันที่ค่อยๆมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำลงๆ เรื่อยๆ จากความล้าของร่างกายที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนและจากการที่ชีวิตสะสมความเครียดมากขึ้นทุกทีๆ
"จุดพลิกผันของการเยียวยา"
เราดิ้นรนหนทางอยู่วันแล้ววันเล่า อย่างยากลำบาก และแล้ว เส้นทางของการรักษาที่แท้จริง ก็ค่อยๆเผยตัวขึ้นมา เมื่อเราตัดสินใจ เปลี่ยนหมอ ย้ายโรงพยาบาล มาหาหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนโดยเฉพาะ บุคคลผู้นี้เป็นคุณหมอที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงส่งมาก ครอบครัวของเรา เสิร์ชชื่อแพทย์คนนี้ จากวิดีโอคลิป ที่ท่าน ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะว่าด้วยเรื่องการนอนหลับ ขอเอ่ยนาม นายแพทย์ สนทรรศ บุษราทิจ (ชื่อนี้จะไม่มีวันลืม ในฐานะผู้มีอุปการะคุณในชีวิต) คุณหมอจากโรงพยาบาลศิริราช ผู้เชี่ยวชาญทาง sleep medicine คุณหมอให้เราเปลี่ยนยาเดิมทั้งหมด ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือไม่ต้องกินยาแพง จากที่ไม่ค่อยนอน ก็หลับได้เลยและมีการนอนที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ยาก็ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆอีกแล้ว
ใช้เวลารักษาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ แต่การใช้ยาคลายเครียดเพื่อช่วยให้หลับจะมี side effect คือมีอาการปวดหัว มันสะสมขึ้นมาเรื่อยๆ เดิมนอนไม่ค่อยได้
ก็ปวดหัว แต่พอนอนได้ก็ปวดหัวสะสมไปอีกแบบ ก็ต้องหาหนทางการถอย dose ยาลงให้ได้ ค่อยๆใชัเวลาทำงานร่วมกับคุณหมอปรับยาลงมาเรื่อยๆ เราต้องอดทนยอมรับอาการปวดหัวเป็นเหมือนฝาแฝดติดตัว เป็นช่วงชีวิตที่ยากลำบากแต่ก็ค่อยๆ ดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆที่กินยาแล้วก็ยังนอนไม่ค่อยได้
คุณหมอเตือนให้ตื่นนอนเวลาเดียวกันเสมอทุกวัน เช่น 7 โมงเช้า และให้ไปออกกำลังกาย รวมทั้งหาสิ่งที่ชอบทำ เพื่อใช้ battery ให้หมดเพราะคนที่ไม่ทำอะไรพลังงานจะเหลือเยอะก็จะหลับยาก
"นางฟ้าน้อยๆ มาช่วย"
เรามี ความคิดของการแสวงหา non medical treatment มาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ได้คำตอบสักที เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อได้เข้า workshop ฟรี ที่โรงพยาบาลรามาจัดให้สำหรับคนที่มีปัญหากับการนอน ต้องขอกราบขอบพระคุณ แพทย์หญิง ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการนอนไม่หลับ ซึ่งได้ให้ความรู้พื้นฐานที่เป็นประโยชน์มากๆของการรักษาการนอนไม่หลับโดยไม่ใช้ยา มีหลักการพื้นฐาน15 ข้อ ท่านที่สนใจลองอ่านดูตามlink..https://m.facebook.com/ramapsychiatry/photos/a.256554037704982.81404.199438763416510/877610265599353/?type=3 และเอาไปทำจะเป็นประโยชน์มากๆคะ
ที่จำได้แม่น และเป็นเรื่องสำคัญคือ
1.ให้ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3ครั้ง แต่ห้ามออกกำลังกายใกล้เวลานอนร่างกายจะ alert (ควรเว้น อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน )
2. ต้องปรับนาฬิกาชีวิตให้ดี อย่านอนดึกๆดื่นๆ ผิดเวลา
3. อย่าใช้เครื่องมือสื่อสารและ computer ใกล้เวลาที่นอนมาก(ควรเว้นสัก 1ถึง2ชั่วโมง)
4. ต้องตื่นนอนเวลาเดียวกันเสมอ เพื่อ reset นาฬิกาชีวิต ให้สมองจดจำเวลาได้
5. เตียงนอนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์เอาไว้นอน อย่าไปทำงาน เล่น comp บนเตียง
6. ห้ามหลับหรืองีบกลางวัน เพราะร่างกายจะหลับยากในตอนกลางคืน
7. งด ชา กาแฟ โกโก้ และแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะ นิโคตินและคาเฟอีนมีผลโดยตรงต่อการนอนไม่หลับ
8. อย่ากินอาหารเย็นหนักๆใกล้ช่วงที่จะเข้านอนเพราะร่างกายจะย่อยอาหาร ทำให้นอนยากขึ้น
จะต้องมีวินัยนำสิ่งเหล่านี้ไปแก้ไข
จากข้อแนะนำของแพทย์สองคนทำให้เราได้ปรับ dose ยาลงมาบ้าง
อย่างไรก็ตามความเครียด อาการปวดหัวที่สะสมมาอย่างยาวนานก็บั่นทอนสุขภาพกายและใจมากพอสมควร การป่วยทำให้เราไม่ได้ออกไปทำสิ่งที่ชอบเลยกลายเป็นคนที่หมกหมุ่นกับตัวเอง อาการปวดหัวก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและมีงอกโรคคือปวดเข่า มาเพิ่มอีก ทำให้ดิ้นรนหนทางว่าจะออกจากกับดักสุขภาพและกับดักชีวิตได้อย่างไร
"ดุลยภาพบำบัด แพทย์ทางเลือกหรือแพทย์ทางรอด ?"
ญาติที่มีปัญหาโรคปวดถึงขั้นเตรียมผ่าตัดมาเล่าให้ฟังพอดีถึง คุณหมอ ลดาวัลย์ สุวรรณกิตติ (คุณหมอในดวงใจของเรา) แพทย์ที่คิดค้นศาสตร์ดุลยภาพบำบัด ว่าช่วยให้หายโดยไม่ต้องผ่าตัด เราก็เลยไปทดลองดูเพราะช่วงนั้นนอนได้จริงแต่ปวดหัวมากและมีอาการปวดอื่นๆสะสม หลังจากรักษาอาการปวดหัวทุเลาลงมากและก็เริ่มปรับลดโดสยาที่ทานลงมาเรื่อยๆ ...ใช้เวลารักษาเกือบ 6 เดือน ก็เริ่มกลับไปทำงานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก ... จากการไปทำงานร่างกายก็เหน็ดเหนื่อยมาก หลับง่ายขึ้น ก็ทะยอยปรับ dose ยาลงเรื่อยๆ และได้มีโอกาสศึกษาความรู้ที่หลากหลายเพื่อปรับ mindset ของทีมงาน ที่เกี่ยวข้อง ก็ส่งผลให้เรากลายเป็นคนที่มี inner power มีพลังของจิตวิญญาณ มี positive thinking มาก enjoy life ใช้ชีวิตทุกๆวันอย่างมีคุณค่ามีความหมาย และ มีเป้าหมายในชีวิตที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า และมีพลังที่จะทำประโยชน์เพื่อคนอื่นให้มากขึ้น
"กุศลหนุนนำ ...กรรมเริ่มลด..."
หลังจากที่อาการปวดหัวทุเลาเราเริ่มคิดถึงคนอื่นมากขึ้นก็เลยลุกขึ้นมาทำ งานการกุศลในหลากหลายรูปแบบ เช่นบริจาคหนังสือธรรมะ เข้าห้องสมุดประจำจังหวัดทั่วประเทศ บริจาคยาให้วัด เริ่มกลับมาทำสมาธิปฎิบัติธรรม
ในที่สุดเราก็เลิกทานยาทุกชนิดและนอนหลับได้อย่างปกติ
บทเรียนสำคัญที่จะฝากให้ คนที่นอนไม่หลับ
1. จงมีความหวังและมีพลังใจโดยเชื่อว่า เราจะหายได้ในที่สุด
อยู่ใกล้ๆคนที่มีพลังบวก มากๆเพื่อดึงเราขึ้นมาให้ได้
2. ถ้าพึ่งเป็นไม่มาก รีบใช้หลักการ non medical treatmentของหมอทานตะวัน เป็น preventive คือกันไว้ก่อนเป็นหนัก รีบออกกำลังกาย ทำงานให้เยอะขึ้น
จะได้ใช้แบตเตอรี่ให้หมด
3. ใครเป็นโรคซึมเศร้าและนอนไม่หลับลองศึกษาเรื่องดุลยภาพบำบัดดูเป็นทางเลือกในการรักษาในลักษณะ non medical treatment
4 กรณีที่มีอาการหนักมากจะเลือกไปพบแพทย์ด้านจิตเวชให้เลือกผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ด้านการนอนไม่หลับ อันนี้สำคัญมากๆ ไม่ใช่แพทย์จิตเวชทุกคนจะสามารถรักษาโรคนอนไม่หลับได้
5. คนที่มีความเครียดเยอะๆ อย่าสะสมไว้นานๆ เราควรล้างขยะและสารพิษออกจากใจและสมองให้ได้เร็วและมากที่สุด การทำสมาธิและการเข้า course ปฏิบัติธรรมช่วยได้ อย่าปล่อยความเครียดสะสมจนกระทั่งกลายเป็นโรคนอนไม่หลับ
ชีวิตท่านจะทุกข์ยากมากๆอย่างที่ไม่สามารถจินตนาการได้เลย
6. หมั่นสร้างกุศลในชีวิตเสมอๆ สวดมนต์ ทำสมาธิ สะสมกุศลในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้กุศลหนุนนำพาชีวิตพ้นผ่านวันเวลาแห่งความยากลำบากไปให้ได้
พระรัตนตรัยเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตของชาวพุทธอย่างเราคะ
ท้ายนี้ เราขอให้กำลังใจเพื่อนๆทุกๆคนที่กำลังเผชิญความยากลำบากนี้ ขอให้เพื่อนๆเชื่อมั่นว่าท่านจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน อย่าสิ้นหวัง เพราะเราก็ได้ผ่านมันมาแล้ว เพื่อนๆทุกๆคนก็จะผ่านมันไปได้เช่นเดียวกันคะ ขอคุณพระรัตนตรัยอำนวยพรให้เพื่อนๆทุกๆคนที่ยังป่วยอยู่ให้ดีวันดีคืนและหายในที่สุด อย่าลืมสะสมกุศลกันนะคะ
ความคิดเห็นที่ 213
พวกเดียวกันค่ะ แต่ก่อนก็ปิดสวิตช์ตัวเองด้วยยาแก้แพ้เหมือนกัน แต่เหมือนยามันทำให้เบลอ ตื่นมาตอนเช้าไม่สดชื่น งัวเงียมากกก หลังๆเลยเลิกใช้วิธีนี้ละ พยายามออกกำลังกายให้เหนื่อยแทน แต่มันก็ช่วยไม่ได้ทั้งหมด อย่างว่าแหละร่างกายมันชินกับการนอนไม่หลับไปแล้ว5555
เราเลยใช้วิธีกินอาหารเสริมชื่อ SleepNow ที่ช่วยให้หลับง่ายเอา เรารู้จักอาหารเสริมนี้เพราะเพื่อนคุณแม่ เค้าซื้อมาฝากคุณแม่ เราเลยแอบเอามาลอง กินต่อเนื่องไปได้เกือบแผงนึง เห็นผลละ รู้สึกว่าหลับง่ายขึ้น แล้วตื่นมาไม่งัวเงีย สุดท้ายเลยซื้อมากินเองละ เรากินต่อเนื่องมาตลอดจนจะหกเดือนแล้ว หลักๆเลยคือชอบที่มันหลับง่ายขึ้น
พอหลังๆมานี้ ลูกน้องทักว่าหัวหน้าดูอารมณ์ดีขึ้น5555 ไม่ปรื๊ดง่ายเหมือนแต่ก่อน สงสัยเมื่อก่อนเราขี้หงุดหงิดเพราะนอนไม่พอแน่ๆเลย พอหลับเพียงพอแล้ว รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น สมองปลอดโปร่งมาก อารมณ์ดีขึ้น ไม่อารมณ์สวิงอย่างกับวัยทองแล้ว รู้งี้น่าจะหลุดการวงจรคนนอนไม่พอได้ตั้งนานแล้ว555
เราเลยใช้วิธีกินอาหารเสริมชื่อ SleepNow ที่ช่วยให้หลับง่ายเอา เรารู้จักอาหารเสริมนี้เพราะเพื่อนคุณแม่ เค้าซื้อมาฝากคุณแม่ เราเลยแอบเอามาลอง กินต่อเนื่องไปได้เกือบแผงนึง เห็นผลละ รู้สึกว่าหลับง่ายขึ้น แล้วตื่นมาไม่งัวเงีย สุดท้ายเลยซื้อมากินเองละ เรากินต่อเนื่องมาตลอดจนจะหกเดือนแล้ว หลักๆเลยคือชอบที่มันหลับง่ายขึ้น
พอหลังๆมานี้ ลูกน้องทักว่าหัวหน้าดูอารมณ์ดีขึ้น5555 ไม่ปรื๊ดง่ายเหมือนแต่ก่อน สงสัยเมื่อก่อนเราขี้หงุดหงิดเพราะนอนไม่พอแน่ๆเลย พอหลับเพียงพอแล้ว รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น สมองปลอดโปร่งมาก อารมณ์ดีขึ้น ไม่อารมณ์สวิงอย่างกับวัยทองแล้ว รู้งี้น่าจะหลุดการวงจรคนนอนไม่พอได้ตั้งนานแล้ว555
ความคิดเห็นที่ 179
เพิ่งไปปรึกษามา แพทย์แนะนำให้หาอะไรมาหลอกสมองให้รู้สึกผ่อนคลาย จะทำให้หลับเร็วมาก แบบบรรยากาศที่สปา แต่เราไม่อยากจุดกำยานตอนนอนเพราะกลัวมีผลเสียมากกว่าผลดี เลยใช้พวกอโรม่าโลชั่นกลิ่น Lavender ของที่ใช้ตอนนี้คือสมูทอีทาตัว เป็นครีมบำรุงผิวมีกลิ่นหอมด้วย ทำให้ผ่อนคลายได้ แพทย์บอกว่าใช้แบบนี้แทนได้ เราเตือนอย่างหนึ่งอย่าหักดิบด้วยการไม่นอนค่ะ ระบบร่างกายรวนแล้วทำให้เกิดผลเสียมหาศาลมากๆ และไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 206
ออกกำลังช่วยได้ค่ะ เราก็เจอปัญหานี้เหมือนกันค่ะ นอนไม่หลับ กลายเป็นเครียดสะสมมีผลตามมาเยอะมาก โดยเฉพาะคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ แต่ตอนนี้สามารถหลับได้เป็นเวลาแล้วค่ะเริ่มต้นจากปรับเวลาค่ะ ช่วงเย็นออกกำลังกายสามสิบถึงหนึ่งชั่วโมง แรกๆเน้นวิ่งจนปวดเนื้อปวดตัว เหนื่อยจนหลับไปเอง แต่ก็ทำไม่ได้ตลอด เราจะมีตัวช่วยเสริมอีกเป็น อาหารเสริม ยันฮี ฟอร์ซินเนีย เพื่อนแม่ที่เป็นเภสัชแนะนำมา ทำควบคู่ไปช่วยได้มากเลยค่ะหลับสนิทมากขึ้น ตื่นเช้ามาไม่มึนหัว พอนอนเต็มอิ่ม รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย
แสดงความคิดเห็น
นอนไม่หลับทำไงดีครับ ทรมารมากเข้านอนตั้งเเต่4ทุ่ม ถึงตี5ก็ยังไม่หลับ
ทำไงดีครับเป็นประจำเลยเเต่ไม่ได้เป็นทุกวัน เป็นตั้งเเต่ม.6 สมัยนั้นเริ่มจากนอนดึกเเล้วตื่นสาย ทำจนเคยชิน ตื่นสายไม่ค่อยได้เข้าเรียนเลย ถึงตอนนี้จะจบเเล้วครับ ยังเเก้ไม่ได้จะเริ่มทำงานเเล้ว จะปรับตัวยังไงดีครับ ให้กลับมาสู่วงจรปกติ
เคยพยายามหักดิบไม่นอนวันนึงให้อีกวันง่วง พออีกวันนอนหลับก็ดันหลับยาวเเล้วตื่นสายอีก(เป็นคนตื่นยากมากๆ) วันต่อมาก็เลยนอนไม่หลับ เป็นวงจรอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทรมารมากๆครับ