.
พระพุทธเจ้า ท่านถือว่า เรื่องของ ความ
ว่างนี้เป็นเนื้อหนัง เป็น เนื้อ ตัว ของพระพุทธ
ศาสนา เรื่องของความว่าง นี้ มี แน่ไม่ผิด
เพราะ มีคำกล่าว อยู่ว่า ตถาคตภาสิตาแปล
ว่า ที่ ตถาคตได้ ประกาศไว้ นี้ก็แสดงว่า
เรื่อง ว่าง หรือ เรื่องสุญญตาที่ พวกอื่น
ประกาศ ก็มีเหมือนกัน เช่นพวกอุจเฉททิฏฐิ
ก็ พูดเรื่องไม่มีอะไรเรื่องสูญเปล่านี้ คือว่าง
ของ พวกอื่นที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ พูด
ส่วนว่าง ที่ ไม่ใช่ สูญเปล่า คือเพียง แต่
ว่างจาก ความรู้สึกว่า " เรา "ว่า "ของเรา "
เท่านั้น นี้ คือว่าง ของพระพุทธเจ้า
ที่ใน เมืองไทย เรานี้ มีการสอนกันผิด ๆ
เพราะแปลคำนี้ผิด ขนาด นักศึกษา ยัง หลงผิด
ยัง ฟังมาผิด ตั้งแต่ กาลก่อนมา เขา แปลคำว่า
" ว่าง "นี้ว่า สูญเปล่า ไม่ได้ อะไร ไม่มี อะไร
ถ้าแปล " ว่าง "ว่า สูญเปล่า ล่ะก็ ผิดแน่ พระ
พุทธเจ้า ท่านไม่ได้มีความหมายว่า สูญเปล่า
แต่ มีความหมาย ว่า " ว่าง " อย่างที่ ใน
บาลี มี คำอธิบาย เป็น คำนิยาม อยู่ชัดแล้ว
เช่นว่า ที่ว่าโลกว่าง โลกนี้ว่าง ก็เพราะว่าง
จากส่วนที่ควรถือ ว่าของเรา ว่า ตัวเรา
เรื่องว่างนี้ เราพูด เสียใหม่ เรา พูด ไม่
ให้กำกวมก็ได้ คือ พูดว่า " ทุกสิ่ง ไม่มีอะไร
ที่ควรถือว่า เป็นตัวเรา หรือเป็น ของเรา ใช้
ประโยค นี้ แหล่ะทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหมดนี้
ไม่มีอะไร ที่ควร ถือว่าเป็น ตัวเราเป็น ของเรา
เมื่อ มันว่าง ก็ไม่มี ส่วนที่ควร ถือว่าเป็น ตัวเรา
ของเรา แต่ ท่าน ใช้ คำสั้นที่สุด ว่า โลก
ว่าง เพราะ ไม่ใช่ อัตตาเพราะ ไม่ใช่อัตตนียา
ว่างเพราะ ไม่มี อะไรเป็น อัตตา คือ เป็น ตัว
เราโลกว่างเพราะ ไม่มี อะไร เป็น อัตตนียา
คือ เป็นของเรา และที่พูดว่า ไม่มีอะไร นั่น
หมายความว่า มี หมดครบหมดแต่ ไม่มี
ส่วน ไหน จะมา เป็น ตัวเรา หรือของเรา ได้
( จากหนังสือ " ความว่าง ที่พระพุทธเจ้าตรัส "
ของท่าน พระพุทธทาส ภิกขุ )
The Matrix Really . Pt 2 . ความว่าง ที่พระพุทธเจ้าตรัส
พระพุทธเจ้า ท่านถือว่า เรื่องของ ความ
ว่างนี้เป็นเนื้อหนัง เป็น เนื้อ ตัว ของพระพุทธ
ศาสนา เรื่องของความว่าง นี้ มี แน่ไม่ผิด
เพราะ มีคำกล่าว อยู่ว่า ตถาคตภาสิตาแปล
ว่า ที่ ตถาคตได้ ประกาศไว้ นี้ก็แสดงว่า
เรื่อง ว่าง หรือ เรื่องสุญญตาที่ พวกอื่น
ประกาศ ก็มีเหมือนกัน เช่นพวกอุจเฉททิฏฐิ
ก็ พูดเรื่องไม่มีอะไรเรื่องสูญเปล่านี้ คือว่าง
ของ พวกอื่นที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ พูด
ส่วนว่าง ที่ ไม่ใช่ สูญเปล่า คือเพียง แต่
ว่างจาก ความรู้สึกว่า " เรา "ว่า "ของเรา "
เท่านั้น นี้ คือว่าง ของพระพุทธเจ้า
ที่ใน เมืองไทย เรานี้ มีการสอนกันผิด ๆ
เพราะแปลคำนี้ผิด ขนาด นักศึกษา ยัง หลงผิด
ยัง ฟังมาผิด ตั้งแต่ กาลก่อนมา เขา แปลคำว่า
" ว่าง "นี้ว่า สูญเปล่า ไม่ได้ อะไร ไม่มี อะไร
ถ้าแปล " ว่าง "ว่า สูญเปล่า ล่ะก็ ผิดแน่ พระ
พุทธเจ้า ท่านไม่ได้มีความหมายว่า สูญเปล่า
แต่ มีความหมาย ว่า " ว่าง " อย่างที่ ใน
บาลี มี คำอธิบาย เป็น คำนิยาม อยู่ชัดแล้ว
เช่นว่า ที่ว่าโลกว่าง โลกนี้ว่าง ก็เพราะว่าง
จากส่วนที่ควรถือ ว่าของเรา ว่า ตัวเรา
เรื่องว่างนี้ เราพูด เสียใหม่ เรา พูด ไม่
ให้กำกวมก็ได้ คือ พูดว่า " ทุกสิ่ง ไม่มีอะไร
ที่ควรถือว่า เป็นตัวเรา หรือเป็น ของเรา ใช้
ประโยค นี้ แหล่ะทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหมดนี้
ไม่มีอะไร ที่ควร ถือว่าเป็น ตัวเราเป็น ของเรา
เมื่อ มันว่าง ก็ไม่มี ส่วนที่ควร ถือว่าเป็น ตัวเรา
ของเรา แต่ ท่าน ใช้ คำสั้นที่สุด ว่า โลก
ว่าง เพราะ ไม่ใช่ อัตตาเพราะ ไม่ใช่อัตตนียา
ว่างเพราะ ไม่มี อะไรเป็น อัตตา คือ เป็น ตัว
เราโลกว่างเพราะ ไม่มี อะไร เป็น อัตตนียา
คือ เป็นของเรา และที่พูดว่า ไม่มีอะไร นั่น
หมายความว่า มี หมดครบหมดแต่ ไม่มี
ส่วน ไหน จะมา เป็น ตัวเรา หรือของเรา ได้
( จากหนังสือ " ความว่าง ที่พระพุทธเจ้าตรัส "
ของท่าน พระพุทธทาส ภิกขุ )