อาม่า กับ อาอี๋ 2 ผู้พิทักษ์แมว แผ่นดินใหญ่

"2 ผู้พิทักษ์แมวแห่งแผ่นดินใหญ่" อาม่า อาอี๋



หลังจากจบโอลิมปิค 2008 ที่ปักกิ่ง ไปอย่าง สวยงาม ตระการตาทั้งโชว์ และการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ตราตรึงใจ และสวยงาม
ทว่า ในแสงสว่างก็มีความมืด ที่มืดมนแฝงอยู่เช่นกัน

เรื่องน่าตกใจเรื่องนึง ที่มีการบันทึกเป็นสถิติ ใน โอลิมปิค ของจีน บันทึกไว้ว่า  "มีการกวาดล้าง กำจัดแมว เพื่อความเรียบร้อยก่อนการจัด มหกรรม โอลิมปิค ในปักกิ่ง
เป็นจำนวน 10,000 ตัว "

(ทั้งๆที่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ในรอบ 20 ปีมีการกำจัดแมวไป 15,000 ตัว  หรือเฉลี่ยปีละ 750 ตัวเท่านั้น)




หากคนรักแมวอ่านข่าวนี้ คงรู้สึกแบบเดียวกับ โศกนาฐกรรม ที่นานกิง หรือการสังหารหมู่ชาวยิว
ผู้เขียนไม่ได้ยกตัวอย่างเกินเลยแต่ประการใด เพราะ

"แมวถูกจับอย่างรวดเร็วทันทีที่มีคำสั่งมา จนท. รถยต์ จักรยาน รถเข็น ถูกนำออกมาบรรทุกแมว
ทั้งการจับด้วยไม้ ฟาดด้วยกระบอง หรือกับดัก แม้แต่ใช้หมาไล่ต้อน

ไม่มี คำว่า ปราณี แม้จะเป็นแมวที่น่าเอ็นดูแค่ไหน หรือจะเป็นแมวเล็กขนาดไหนก็ตาม  



การกวาดล้าง แมว ดำเนินไป


ในขณะเดียวกัน


นาง หู หย่วน สาวใหญ่ วัย"อาม่า"  กลับคิดและกระทำ สวนทางกับ เจ้าหน้าที่

เธอรวบรวมแมวทุกตัว เท่าที่ทำได้ โดยทำเป็นช่วยจับแมว และนำไปแอบไว้ที่บ้านของเธอ
เริ่มจาก 10 เป็น 30 เป็น 100  

เธอไม่เคยรู้เลยในตอนแรกว่า "แมวที่บ้านเธอมีอยู่กี่ตัว" เพราะ ถ้าเธอหยุดสักเพียงนิดเพื่อนับจำนวนแมวที่ช่วยมาได้ แมวที่อยู่ข้างนอกก็มีโอกาสตายมากขึ้น



เธอทั้ง ออกไปตามหาแมว ทั้งหาอาหาร หาทางรักษา รวมไปถึงปัญหาใหญ่ที่สุดคือ บ้านเล็กๆ ของเธอจะรองรับแมวไว้ได้อีกสักกี่ตัว

และเมื่อแมวเริ่มเต็มบ้าน
เธอมีปัญหากับคนที่ต่อต้าน และไม่เห็นด้วยที่เธอจเอาแมวทั้งหมดมายัดไว้ในบ้านของตัวเอง

อาม่า ถูกร้องเรียนทั้งเรื่องกลิ่นของแมว แมวรบกวน และอีกมากมาย แต่อาม่าก็สามารถ ยืนหยัด ต่อ
เจ้าหน้าที่รัฐ และ ชาวบ้านมาได้ "จนหมดช่วง การจัดการแข่งขันโอลิมปิค"


--- ไม่มีเจ้าหน้าที่กวดขันจับแมวแล้ว ---


แต่ปัญหายังไม่จบ

เธอยังคงเจอการกลั่นแกล้งและร้องเรียนอยู่ตลอด


อาม่า เคยให้สัมภาษ์ณไว้ 2-3 ครั้ง มีคำถามน่าสนใจ  ไว้ดังนี้



อาม่าใช้จ่ายเยอะไหม ?กับแมว

อาม่า บอกว่า การเลี้ยงแมว ที่ฉันเก็บมาทั้งหมด (ราว 300 ตัว) ใช้เงินเท่าไหร่ ฉันไม่รู้หรอก ไม่เคยนับ แต่มันก็มากอยู่ละนะ



อาม่าตั้งใจรับแมวพวกนี้มาเลี้ยง อาม่าตัดสินใจตอนไหน ?

ทุกอย่างเริ่มต้น จาก ฉันเปิด นสพ. Shanghai Daily วันที่ 11, กรกฎาคม 2007. และเห็นพาดหัว ("Cat City - Cat Woman - Cat Crisis.")
พอฉันหยิบมาอ่าน ฉันถึงกับร้องว่า "หัวใจฉันจะสลาย"

อาม่ารู้สึกยังไง ตอนนั้น
  "ถ้าฉันไม่รับพวกมันไว้ จนท. เขาจะฆ่ามันทั้งหมด  วันนึงฉันอุ้มพวกมัน กลับบ้าน น่าจะ 5 ตัว เมื่อเปิดประตูบ้าน ฉันเห็นพวกมันประมาณ 100 ตัว หลับอยู่รวมกันในห้องนอนของฉัน
ฉันรู้ว่ามันคับแคบเกินไป แต่ถ้าฉันให้มันออกไปบ้าง มันก็จะตาย  

อาม่าตั้งใจ จะทำยังไงต่อไป อายุอาม่าเท่าไหร่แล้ว
ปีนี้อาม่า 83 แล้ว มีคนที่รักแมวก็มาช่วยหลายกลุ่มนะ มีเอาอาหารมาให้บ้าง มีเป็นเงินสนับสนุนบ้าง อย่าถามตอนจบของเรื่องนี้จากอาม่าเลย นี่เพิ่งจะต้นเรื่องเอง




ข้ามฝั่งไปยัง กว่างโจว

ที่นี่ก็มีผู้พิทักษ์แมวเช่นกัน แต่เป็น อาอี๋ ชื่อ อาหลี่


เธอมีแมวในครอบครองถึง 400 ตัวเลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นของเธอ ช้าและแน่นอนกว่ากรณ๊อาม่า

เธอเริ่มเก็บแมวจรจัด มาเลี้ยงที่บ้าน
เพราะไม่ต้องการเห็น คนทารุณกรรมแมว



จากที่ผู้เขียนค้นเจอคำถาม นักข่าวถามไว้น่าสนใจ ดังนี้

มีปัญหาในการเลี้ยงแค่ไหน ? หนักไหม คุณต้องดูแลแมวตั้ง 400 ตัว
ปัญหาเยอะมาก ฉันต้องย้ายบ้านมาแล้วหลายครั้ง  บ้านปัจจุบัน ก็เป็นบ้านเช่า

เจอเรื่องหนักๆบ้างไหม ?  
อาอี๋  ตอบว่า "บางวัน ก็มีคนตัดหางแมวมาวางหน้าบ้านฉัน บางครั้งก็เป็นลูกกะตาแมว แรงที่สุดคือ ศพของแมว"  พวกเขาพยายามแสดงออกเงียบแต่โหดร้ายว่า เขาเกลียดแมวของฉัน



คนจีนไม่ค่อยรักแมว เท่าไหร่  คุณคิดว่าไง  ?
ฉันไม่มีวันลืม ข่าว ใน นสพ. เซียงไฮ้ เดลี่ย์  มีข่าวเด็กร่วมกัน แขวนคอแมวสีขาว ใต้ต้นไม้ใหญ่   ฉันจำได้ว่า ใต้ต้นไม้มี ลูกตาของแมวที่หล่นออกมาจากเบ้า และเลือด เลือดเต็มไปหมด
เท่านี้ คงจะตอบคำถามของคุณได้


แมวตัวแรกของคุณมายังไง ?
ฉันช่วยมันจากต้นไม้ มันร้องตลอดเวลา ฉันอุ้มมัน พาดกับบ่า และพามันกลับบ้าน นั่นคือแมวตัวแรกของฉัน


มีปัญหาการเงินไหม ?
อาหลี่ บอกว่า การเลี้ยงแมว ที่ฉันเก็บมาทั้งหมด (ราว 400 ตัว) ใช้เงินราว $4,277 usd ต่อเดือน(130,000 บาท)  ซึ่ง
ที่ผ่านมาจนวันนี้ (2012) ฉันหมดไปแล้ว 285,164 USD หรือ 8,800,000 บาท  
ในขณะเดียวกัน สามีฉันหาเงินได้ เดือนละ 989 USD ไม่รวมค่าเช้าบ้าน ด้วยนะ


สิ่งที่ไม่อยากเห็นหรือได้ยินมากที่สุด ในนสพ.
คุณทายไม่ถูกหรอก แต่ฉันคิดไว้นานแล้ว ถ้ารัฐบาลประกาศเตือนโรคระบาด แบบปี 2003(โรคซาร์)
เพราะถ้าประกาศเมือ่ไหร่ ฉันจะไม่สามารถใช้สิทธิ ขององค์กรณ์อิสระต่างๆ ในการยับยั้งจนท. จากรัฐที่จะมาจับแมวไปกำจัดได้
(ในกรณีเกิดการแพร่เชื้อโรคระบาด ขั้นตอนแรกๆ มักเริ่มที่กำจัดสัตว์พาหะ ที่อาจนำเชื้อมาสู่คนได้) ถ้าวันนั้นมาถึง

สำหรับฉัน มันไม่ต่างอะไรกับ เสียงเตือนระเบิดในช่วงสงครามโลกเลยละ



เรียบเรียงโดย
จ ญ น ห อ ด ม

ข้อมูลเรียบเรียง จาก
Daily Mail (Hu), Shanghai Daily (Duo), and The China Post (Chu).

"Olympics Clean-Up Chinese Style: Inside Beijing's Shocking Death Camp for Cats.")

http://catdefender.blogspot.com/