คนที่เป็นโรค Bipolar Disoder นั้นจะต้องกินยาไปนานเท่าไหร่คะ ตอนนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว

กระทู้คำถาม
ที่จริงเป้นโรคซึมเศร้ามานานตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เพราะตอนนั้นโดนย่ำยีจิตใจมากไปจากสามีคนก่อน เลิกกันมานานมากกว่าสิบปี ก้เลยเข้ารับการรักษาจากนักจิตวิทยา และจิตแพทย์ ต้องกินยาเช้า ก่อนนอน ไม่เคยรับรู้เรื่องโลกในยามค่ำคืนว่าเป็นยังไงมา 5 ปีแล้ว อยากทราบว่ายาที่หมอให้ ซึ่งก้มี  Zoloft Tab 50 Mg 1 เม็ด หลังอาหารเช้า.... และก่อนนอนประมาณ 2 ทุ่ม ต้องกิน  Seroquel Tab 25 Mg. 2 เม็ด - Anta 2 Mg. ( Antivan) ( Yellow) 1 เม็ด และ Povanil 0.5 Mg. 2 เม็ด เมื่อก่อนกินแล้วจะง่วงเร็วมาก จากนั้นก้ไม่ค่อยหลับอีกหมอเลยเปลี่ยนยาให้ก็ยังง่วงช้าอยู่ดีค่ะ บางทีกิน 2 ทุ่ม หลับจริงๆ 3- 4 ทุ่ม อะไรแบบนั้น

เคยทดสอบตัวเองโดยการเลิกกินยาที่บอกมานั้นเอง.... วันแรกอยู่ยังได้ วันที่สองเริ่มเครียดๆละ พอวันที่สามเริ่มคุ้มคลั่ง เหมือนคนพาลไปหมด อยากหาเรื่องคนไปทั่ว และจิตใจวู่วาม ขับรถเหยียบมิดเลย โมโหง่าย แต่หายยาก ใจสั่นๆ และเข้าคิวรออะไรไม่ได้เลย เครียด จึงต้องกลับมากินอีก พอไปบอกหมอ หมอก็ต่อว่าเราว่าหยุดกินยาเองแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะมันจะทำให้สารเคมีในสมองไม่บาล้านซ์เหมือนเดิม เดี๋ยวต้องมาเริ่มใหม่นะ ....คือเราอยากทราบว่า เพราะอะไร ? เพราะร่างกาย สมองเราติดยาไปแล้วใช่ไหม ? หรือเพราะสารเคมีในสมองเราแปรปรวนเมื่อร่างกายขาดยาเลยออกอาการแบบ ลงแดง แล้วอย่างนี้ เราจะต้องกินยา และพบแพทย์ กับนักจิตวิทยาไปอีกกี่ปี ?

เราเบื่อมากๆ เราเหนื่อย....เราไม่อยากกินยาแล้ว เพราะไปไหนก็ลำบาก กลางคืนนี่หมดสิทธิ์ออกไปไหนกับเค้าเลย ทุกวันนี้ชีวิตมีแต่ กินยา พบหมอ พบนักจิตวิทยา และทำงานบ้านเล็กน้อย ไม่สามารถออกไปทำงานได้เหมือนเดิม เข้าสังคมไม่ได้ อยากทราบว่า โรคนี้ทำยังไงจึงจะกลับมาใช้ชีวิตได้ปรกติเหมือนคนอื่นคะ ? อย่าบอกว่าต้องทำใจ และนั่งวิปัสนานะคะ เพราะเราทำมาหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ไม่เอาเรื่องจิตละ เอาเรื่องร่างกายละ เพราะปัญหามันอยู่ที่เราหลับเองไม่ได้ นี่แหละค่ะมันทรมานมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เป็นกำลังใจให้ป้าบ้านนอกครับ   ผมเป็นโรคซึมเศร้า  อยากให้ถึง กลางคืนไวๆ กินยา จะได้หลับๆ ไป ไม่ต้องคิด หลับแบบไม่ตื่นยิ่งดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มป่วย  เราคงมุ่งประเด็นไปที่ผู้รักษาว่าอาจให้ความรู้คุณไม่ดีพอ  แต่นี่คุณเป็นโรคซึมเศร้ามากว่ายี่สิบปี  แต่กลับมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้น้อยมาก แถมมีการดูแลตัวเองที่ไม่ถูกต้องอีกด้วย

เราเชื่อว่า  คุณได้รับรู้ข้อมูลความรู้ในเรื่องนี้มาอย่างดีจากแพทย์+นักจิตวิทยา  อีกทั้งทุกวันนี้  ข้อมูล/ความรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า (และโรคทางจิตเวชอื่นๆ)  มีเผยแพร่อยู่มากมายและหาอ่านได้ทั่วไป  ดังนั้น...คุณไม่ขาดแคลนข้อมูลแน่ๆ  

แล้วทำไม....คุณจึงดูเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโรคที่ตัวเองเป็นเลย ?? ทำไมยังถามเหมือนคนเริ่มป่วยใหม่ๆว่า ..เราจะทานยาไปอีกกี่ปี? สมองเราติดยาไปแล้วใช่ไหม? ใช่เพราะเราขาดยาแล้วมีอาการลงแดงหรือเปล่า? ฯลฯ

ทั้งหมดนี้เราคิดว่า.... เป็นเพราะความสามารถในการจำ-การคิด-การวิเคราะห์ (cognitive function) ของคุณเสื่อมถอยลง ค่ะ

โรคทางจิตเวชส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้  ถ้าคุณไม่ตั้งใจรักษาให้ดี  มีอาการเบื่อๆอยากๆ  หยุดยาเอง  เดี๋ยวกินเดี๋ยวหยุด   ผลที่ตามมาคือ อาการคุณจะกลับมาอีก (relapse) และยิ่ง relapse บ่อยครั้งเท่าไหร่  cognitive function ของคุณก็เสื่อมถอยเร็วขึ้น  ตรงนี้เราไม่ได้อ้างอิงจากตำราอย่างเดียว  แต่อ้างอิงจากประสบการณ์ของเราที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชมานาน

สิ่งที่เราเห็นตลอด 25 ปีที่ผ่านมาคือ ผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง ที่กำเริบซ้ำบ่อยๆ มักมีความสามารถทางสมองเสื่อมลงเรื่อยๆ  และผู้ที่ป่วยยาวนานกว่าที่ควรจะเป็นนั้น  99% เกิดจากปัญหา non-compliance คือ ไม่ร่วมมือในการรักษาอย่างต่อเนื่อง   จึงจะเห็นว่า  ทีมผู้รักษาเน้นย้ำนักหนาว่า "อย่าหยุดยาเอง"

การที่คุณป่วยแล้วต้องทานยาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพราะสมองคุณติดยา  แต่ด้วยธรรมชาติของโรคมันไม่หายขาด คุณจึงต้องทานยาควบคุมอาการไว้  ถึงคุณไม่ทานยา..โรคมันก็ยังอยู่กับคุณ  มันแค่รอโอกาสกำเริบเมื่อมีสิ่งกระตุ้นที่พอเหมาะ ..ก็แค่นั้น  

โรคซึมเศร้ามันก็ไม่ได้ต่างจากโรคเรื้อรังหลายๆโรค อย่างโรคเบาหวาน  ความดัน หัวใจ  ลมชัก  ฯลฯ  คนไข้พวกนี้เขาก็ต้องทานยาตลอดชีวิตไม่ต่างจากคุณ  นอกจากนั้นยังต้องดูแลตัวเองต่างจากแบบแผนการใช้ชีวิตเดิมๆ ไม่งั้นโรคก็กำเริบอีก  อย่างคนไข้เบาหวาน เขาเคยชอบทานหวานเมื่อเจ็บป่วย...ก็ต้องลดน้ำตาลลง   เขาต้องกินในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ  ไหนจะต้องฝืนตัวเองไปออกกำลังกาย  ต้องไม่เครียด   และอื่นๆอีกมากมาย

เมื่อเจ็บป่วย...คนเราก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพทั้งนั้น  เพื่อให้อยู่กับโรคได้  แต่นี่คุณยังไม่อยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลย  คุณยังอยากออกไปข้างนอกตอนกลางคืน?? คุณจะไปไหน..งง  คุณไม่รู้หรือว่า คุณภาพการนอนหลับมีความสำคัญกับโรคซึมเศร้ามากแค่ไหน?  คุณอยากจะใช้ชีวิตปกติ  อยากทำงานทำการได้ คุณก็ต้องปรับเปลียนพฤติกรรม  ตั้งใจรักษา  อย่าปล่อยให้กำเริบซ้ำๆ แค่นี้สมองก็ไปเยอะแล้ว  อย่าให้มันไปมากกว่านี้เลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่