คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
มันมาจากความขัดแย้งครับ ลิมิตความเร็วแสงเป็นข้อสรุปที่สมเหตุสมผลที่สุดเพื่อแก้ความขัดแย้งนั้น
ก่อนหน้าสัมพัทธภาพ มีทฤษฎีใหญ่สองศาสตร์ที่ัมีปัญหากันเองคือ
- กลศาสตร์นิวตัน ไม่มีขีดจำกัดความเร็ว
- ทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าแมกซ์เวลล์ มีสมการพิสูจน์ความเร็วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในสุญญากาศชัดเจน ซึ่งคือความเร็วแสงในสุญญากาศที่เราใช้ๆกันอยู่นี่
อีกทั้งหากเกิดการเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงได้ จะก่อให้เกิดความขัดแย้งกับหลักทางกรอบอ้างอิง (นั้นคือสามารถทำให้ผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ในกรอบอ้างอิงเฉื่อยไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงมาก)
ไอส์สไตน์เ้ข้ามาแก้ปัญหาโดยมองลงไปที่ 'การสังเกต' เป็นหลัก ด้วยสัจพจน์ข้อแรก
- กฎฟิสิกส์ในกรอบอ้างอิงเฉื่อยต้องเหมือนกัน นั่นเพื่อรักษาให้ไม่ว่าใครก็ตามต้องยังคงใช้กฎฟิสิกส์ได้เหมือนๆกัน
และการที่สัจพจน์ข้อแรกจะเป็นจริงนั้น สัจพจน์ข้อสองจะถูกบังคับโดยอัตโนมัติ มิฉะนั้น paradox จะเกิด
- ความเร็วแสงในสุญญากาศมีค่าเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกตในกรอบอ้างอิงเฉื่อย
สิ่งที่ว่ามาเป็น "ทฤษฎี" ครับ มันมีบทพิสูจน์ของมัน จะจริงหรือไม่จริงขึ้นกับตัวธรรมชาติเอง แต่ทฤษฎีดูสอดคล้องและแก้ความขัดแย้งของศาสตร์ใหญ่สองศาสตร์ที่ว่ามาได้
ปัจจุบันสัมพัทธภาพถูกทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกมานับครั้งไม่ถ้วน เรายังไม่เจออะไรที่เร็วกว่าแสง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี
วันใดก็ตามที่เราเจอมัน กฎทางฟิสิกส์ก็คงได้รับการพัฒนาต่อไปอีก
ECOS
ก่อนหน้าสัมพัทธภาพ มีทฤษฎีใหญ่สองศาสตร์ที่ัมีปัญหากันเองคือ
- กลศาสตร์นิวตัน ไม่มีขีดจำกัดความเร็ว
- ทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าแมกซ์เวลล์ มีสมการพิสูจน์ความเร็วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในสุญญากาศชัดเจน ซึ่งคือความเร็วแสงในสุญญากาศที่เราใช้ๆกันอยู่นี่
อีกทั้งหากเกิดการเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงได้ จะก่อให้เกิดความขัดแย้งกับหลักทางกรอบอ้างอิง (นั้นคือสามารถทำให้ผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ในกรอบอ้างอิงเฉื่อยไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงมาก)
ไอส์สไตน์เ้ข้ามาแก้ปัญหาโดยมองลงไปที่ 'การสังเกต' เป็นหลัก ด้วยสัจพจน์ข้อแรก
- กฎฟิสิกส์ในกรอบอ้างอิงเฉื่อยต้องเหมือนกัน นั่นเพื่อรักษาให้ไม่ว่าใครก็ตามต้องยังคงใช้กฎฟิสิกส์ได้เหมือนๆกัน
และการที่สัจพจน์ข้อแรกจะเป็นจริงนั้น สัจพจน์ข้อสองจะถูกบังคับโดยอัตโนมัติ มิฉะนั้น paradox จะเกิด
- ความเร็วแสงในสุญญากาศมีค่าเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกตในกรอบอ้างอิงเฉื่อย
สิ่งที่ว่ามาเป็น "ทฤษฎี" ครับ มันมีบทพิสูจน์ของมัน จะจริงหรือไม่จริงขึ้นกับตัวธรรมชาติเอง แต่ทฤษฎีดูสอดคล้องและแก้ความขัดแย้งของศาสตร์ใหญ่สองศาสตร์ที่ว่ามาได้
ปัจจุบันสัมพัทธภาพถูกทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกมานับครั้งไม่ถ้วน เรายังไม่เจออะไรที่เร็วกว่าแสง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี
วันใดก็ตามที่เราเจอมัน กฎทางฟิสิกส์ก็คงได้รับการพัฒนาต่อไปอีก
ECOS
แสดงความคิดเห็น
"ไม่มีอะไรเร็วกว่าแสง" นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีไหนพิสูจน์หรอครับ
หรือว่าหลักการมันซับซ้อนเข้าใจยากอ่ะครับ