โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน)
เขียนโดย นางสาวณัฐธิดา พิกุลรัตน์
วันพุธที่ 16 มกราคม 2013 เวลา 16:39 น.

เรื่อง โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน)

จำนวน ๓๙๖ หลัง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนถึงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน)จำนวน ๓๙๖ หลัง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เข้าไปตรวจสอบในโครงการดังกล่าว เนื่องจาก นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและรองประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (นายธาริต เพ็งดิษฐ์) กล่าวว่าได้ มอบหมายให้ นายธานินทร์
เปรมปรีดิ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ ๒ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการทุจริต สืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งจากการสืบสวน ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้

๑. คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติหลักการโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน ๓๙๖ หลัง วงเงิน ๖,๖๗๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ดังนี้

- อาคารที่ทำการสถานีตำรวจขนาดใหญ่ จำนวน ๘๘ หลัง

- อาคารที่ทำการสถานีตำรวจขนาดกลาง จำนวน ๑๓๖ หลัง

- อาคารที่ทำการสถานีตำรวจขนาดเล็ก จำนวน ๑๗๒ หลัง

๒. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ว่าจ้างบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ ดอนสตรัคชั่น จำกัด ทำการก่อสร้าง วงเงินทั้งสิ้น ๕,๘๔๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท

๓. สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน ๓๙๖ หลัง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วงเงินทั้งสิ้น ๕,๘๔๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยเป็นงบผูกพัน ดังนี้

- งบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๓๑๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท

- งบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๑,๑๗๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท

- งบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๒,๑๙๙,๘๕๒,๘๐๐ บาท

- งบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๒,๑๖๒,๖๔๗,๒๐๐ บาท

๔. สัญญาเริ่มวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๔ สิ้นสุดวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลาการก่อสร้างรวม ๔๕๐ วัน ขยายสัญญา ๓ ครั้ง ครั้งแรก ขยาย ๓๐ วัน ครั้งที่ ๒ ขยาย ๑๘๐ วัน และครั้งที่ ๓ ขยาย ๖๐ วัน ครบกำหนดเวลาก่อสร้าง ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖

๕. สัญญากำหนดให้จ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับจ้างร้อยละ ๑๕ ของราคาค่าจ้าง เป็นเงิน ๘๗๗,๒๐๐,๐๐๐ บาท

๖. ปัจจุบันการก่อสร้างอาคารที่ทำการ จำนวน ๓๙๖ แห่ง บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ ดอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าดำเนินการก่อสร้าง จำนวน ๒๘๐ แห่ง และอีก ๑๑๖ แห่ง ยังไม่มีการดำเนินงาน และยังไม่มีอาคารที่ทำการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยบริษัทฯ ได้เบิกเงินค่างวดงานไปแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น ๖๕๖,๒๕๑,๐๐๐ บาท รวมที่รัฐได้จ่ายไปให้กับผู้รับจ้างไปแล้ว เป็นเงินประมาณ ๑,๕๓๓,๔๕๑,๐๐๐

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (นายธาริต เพ็งดิษฐ์) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นการสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการประสานงานข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการบริหารสัญญา โดยเฉพาะประเด็นการเร่งรัดสัญญา การบอกเลิกสัญญา เนื่องจากบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด มีการทำงานล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนด และประเด็นการที่บริษัทฯ ได้มีการนำงานไปจ้างช่วง

นอกจากนี้ ในวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ จะได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบงานก่อสร้างของ สภ.ดอนพุด อ.ดอนพุด จ. สระบุรี และ

สภ.โรงช้าง อ.มหาราช จ. อยุธยา และยังได้สั่งการให้คณะทำงานสืบสวนเร่งลงพื้นที่สถานที่ก่อสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้ง ๙ ภาค และ ศชต. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการสั่งให้ทุบอาคารสถานีตำรวจเพื่อจะก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจทดแทนในที่เดิม เป็นเหตุให้ไม่มีสถานที่ทำการและต้องไปเสียค่าเช่าสถานที่เป็นที่ทำการชั่วคราว หรือมีการก่อสร้างไปบางส่วนแล้วมีการทิ้งงานไป หรือมีการนำงานไปจ้างช่วงงาน เป็นต้น
ลองอ่านดู

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวว่า งบประมาณสร้างโรงพักทั่วประเทศทั้งหมด 396 แห่งนั้นมาจากรัฐบาลที่แล้ว และจากการตรวจสอบเอกสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ในหนังสือได้มีการพิจารณาให้กระจายไปแต่ละกองบัญชาการ ซึ่งสามารถเปิดประมูลได้เป็นภูมิภาคไปก็จะสามารถทำได้ แต่ในเมื่อสมัยรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ทำตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ให้รวบทั้ง 9 ภูมิภาค โดยประมูลเพียงบริษัทเดียว ซึ่งความจริงแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทเดียวจะสามารถสร้างโรงพักตามโครงการทั้งหมด 396 แห่งได้ทัน เพราะไม่มีบริษัทที่เป็นซับคอนแทกต์ เข้ามารับช่วงต่อ ทำให้การก่อสร้างนั้นล่าช้า และไม่สามารถเสร็จทันกำหนด