"ตำรวจได้เฮ" คสช. เห็นชอบเปลี่ยนแปลงชื่อโครงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
วันที่ 24 มิถุนายน 2557 18:03 น.
"ตำรวจได้เฮ" คสช.เห็นชอบเปลี่ยนแปลงชื่อโครงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ ตามข้อเสนอของ สตช. เบื้องต้นใช้เงินเบิกจ่ายเหลื่อมปี 2552-2557 จำนวน 2,459 ล้านบาท สร้างก่อน 181 แห่ง ที่เหลือเตรียมของบปี 2558 สั่ง สตช.-ดีเอสไอ เดินหน้าคดีทุจริตที่ยังคั่งค้างต่อ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง
วันนี้ (24 มิ.ย.57) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่า ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.57 ที่ประชุม คสช.ได้เห็นชอบและอนุมติตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเป็นการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 แห่ง ซึ่งเป็นการขออนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.เปลี่ยนแปลงรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันจากเดิมในโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่ง ภายในวงเงิน 6,672 ล้านบาท โดยเป็นการผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552-2557 ซึ่งเปลี่ยนเป็นการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 โครงการ วงเงิน 8,357 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าววงเงินที่ได้รวมวงเงินที่ได้ใช้จ่ายไปแล้ว จำนวน 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการเก่าที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับโครงการใหม่ครั้งนี้ จะใช้งบประมาณจากเงินที่กันเบิกไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี งบประมาณตั้งแต่ปี 2552-2557 ซึ่งสะสมมา จำนวน 2,459 ล้านบาท จากเงินจำนวนดังกล่าวทำให้สามารถจะขออนุมัติก่อสร้างอาคารบางส่วนที่จำเป็นได้ก่อน จำนวน 181 หลัง สำหรับอาคารอีก 215 หลังนั้น ต้องใช้วงเงินประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท จะต้องตั้งคำของบประมาณในปี 2558 ต่อไป ซึ่งที่ประชุม คสช.ได้อนุมัติตามที่ สตช.เสนอขอมา ส่วนเหตุผลการเพิ่มจำนวนงบประมาณในโครงการดังกล่าวนั้น ทางสตช.แจ้งว่าค่าวัสดุอุปกรณ์ และค่าแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด ซึ่งมีหลักเกณฑ์การคำนวนค่าใช้จ่ายโครงการที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มีบางสิ่งที่อาจไม่ได้ประเมินอยู่ในกรอบระยะแรกของโครงการ เช่น ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อปรับให้สอดรับกับโครงการ พ.อ.วินธัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนความคืบหน้าและการดำเนินการของคดีที่ยังคั่งค้างและมีการฟ้องร้องทาง คสช.มีการหารือหรือไม่ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมแล้วว่าจะมีการดำเนินการต่อเนื่องในส่วนของคดีที่ยังคั่งค้าง ซึ่งเป็นคนละส่วนของ คสช.ซึ่งการประชุมวันเดียวกันนี้เป็นเรื่องที่ สตช.ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงชื่อของโครงการ ในส่วนของคดีก็ยังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งรวมทั้งในส่วนของกรมสอบสวนคดี
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ยินดีกับตำรวจด้วยนะครับ ถ้ายังเป็นรัฐบาลพลเรือนอยู่ล่ะก้อ คงต้องเป็นเสาโด่เด่ อยู่อย่างนี้ ตลอดปีตลอดชาติ
"ตำรวจได้เฮ" คสช. เห็นชอบเปลี่ยนแปลงชื่อโครงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ ???
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
วันที่ 24 มิถุนายน 2557 18:03 น.
"ตำรวจได้เฮ" คสช.เห็นชอบเปลี่ยนแปลงชื่อโครงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ ตามข้อเสนอของ สตช. เบื้องต้นใช้เงินเบิกจ่ายเหลื่อมปี 2552-2557 จำนวน 2,459 ล้านบาท สร้างก่อน 181 แห่ง ที่เหลือเตรียมของบปี 2558 สั่ง สตช.-ดีเอสไอ เดินหน้าคดีทุจริตที่ยังคั่งค้างต่อ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง
วันนี้ (24 มิ.ย.57) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่า ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.57 ที่ประชุม คสช.ได้เห็นชอบและอนุมติตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเป็นการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 แห่ง ซึ่งเป็นการขออนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.เปลี่ยนแปลงรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันจากเดิมในโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่ง ภายในวงเงิน 6,672 ล้านบาท โดยเป็นการผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552-2557 ซึ่งเปลี่ยนเป็นการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 โครงการ วงเงิน 8,357 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าววงเงินที่ได้รวมวงเงินที่ได้ใช้จ่ายไปแล้ว จำนวน 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการเก่าที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับโครงการใหม่ครั้งนี้ จะใช้งบประมาณจากเงินที่กันเบิกไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี งบประมาณตั้งแต่ปี 2552-2557 ซึ่งสะสมมา จำนวน 2,459 ล้านบาท จากเงินจำนวนดังกล่าวทำให้สามารถจะขออนุมัติก่อสร้างอาคารบางส่วนที่จำเป็นได้ก่อน จำนวน 181 หลัง สำหรับอาคารอีก 215 หลังนั้น ต้องใช้วงเงินประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท จะต้องตั้งคำของบประมาณในปี 2558 ต่อไป ซึ่งที่ประชุม คสช.ได้อนุมัติตามที่ สตช.เสนอขอมา ส่วนเหตุผลการเพิ่มจำนวนงบประมาณในโครงการดังกล่าวนั้น ทางสตช.แจ้งว่าค่าวัสดุอุปกรณ์ และค่าแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด ซึ่งมีหลักเกณฑ์การคำนวนค่าใช้จ่ายโครงการที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มีบางสิ่งที่อาจไม่ได้ประเมินอยู่ในกรอบระยะแรกของโครงการ เช่น ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อปรับให้สอดรับกับโครงการ พ.อ.วินธัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนความคืบหน้าและการดำเนินการของคดีที่ยังคั่งค้างและมีการฟ้องร้องทาง คสช.มีการหารือหรือไม่ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมแล้วว่าจะมีการดำเนินการต่อเนื่องในส่วนของคดีที่ยังคั่งค้าง ซึ่งเป็นคนละส่วนของ คสช.ซึ่งการประชุมวันเดียวกันนี้เป็นเรื่องที่ สตช.ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงชื่อของโครงการ ในส่วนของคดีก็ยังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งรวมทั้งในส่วนของกรมสอบสวนคดี
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ยินดีกับตำรวจด้วยนะครับ ถ้ายังเป็นรัฐบาลพลเรือนอยู่ล่ะก้อ คงต้องเป็นเสาโด่เด่ อยู่อย่างนี้ ตลอดปีตลอดชาติ