“แล้วเราไม่มีแฟนหรอ?”
!!!!!!!!!! คำถามนี้ !!!!!!!!!!!
จี้สุดๆ!!!!!!!!!!!!!
สมองผมทำงานอย่างรวดเร็วทันที
“ไม่มีครับ”
.
.
.
.
.
.
.
.
!!!!
นี่คือคำที่สมองผมสั่ง
แต่ทำไมไม่รู้
ผมถึงไม่ยอมพูดออกไปซักที
........
ผมได้แต่หัวเราะแหยะๆออกมาเบาๆ แล้วฉีกปากยิ้มส่งไปทางเขา
หวังว่าจะให้เขาเลิกสนใจแล้วเปลี่ยนไปถามคำถามอื่น
แต่สายตาเขานิ่งมาก
ถึงแม้จะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า
แต่ท่าทีและสายตานั้น ทำให้ผมรู้ว่าเขายังคงต้องการคำตอบ
แล้วผมจะทำไงได้หล่ะคร๊าบบบบบบบบบบบบบ
ในเมื่อเขาต้องการคำตอบ
ผมก็ต้องตอบตามความจริงทุกอย่างสิ
!!!!!!!!!!!!!!
ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดเฮือกใหญ่
ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ
“ก็มีคนคุยอยู่อ่ะครับ”
ใช่ครับ
ผมตอบคำนี้ออกไป
ถึงแม้ว่าสมองผมจะสั่งการให้ผมตอบอีกแบบ
แต่ผมก็ไม่อยากจะตอบแบบนั้นออกไป
ผมรู้ว่าคุณชายไม่ใช่แฟน
แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้
ว่าคุณชาย
เป็นคนพิเศษ
>////<
หลังจากที่ฟังผมพูดจบ พี่วิทย์ก็ยิ้มราวกับว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว
พี่เขาพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะพูดบอกผม
“อืม พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ เราก็น่าจะมีคนเข้ามาจีบเยอะอยู่”
!!!!!!!!!!!!!!!
ฟังไม่ผิดหรอกครับ
เพราะผมจำคำพูดนี้ได้!!!!!!!
ยอมรับครับ ว่ามีคนเข้ามาจีบเยอะอยู่
แต่ไอที่ออกมาจากนายแบบเนี่ย
ผมไม่ลืมหรอก
555555555555555
ผมขมวดคิ้วทำหน้าแปลกใจ
คำพูดนั้นควรจะเป็นผมพูดมากกว่าไม่ใช่หรอออออออออออออ!!!!!!!
“พี่มากกว่ามั้งงงงง 55555555555”
ผมย้อนคำพูดพี่เขากลับ
พี่เขาไม่ว่าอะไรกลับ เราสองคนก็เลยหัวเราะประสานเสียงกัน
แล้วเราก็คุยอะไรกันต่อนิดหน่อย
แต่ผมก็ต้องชิงตัดบทจบ เพื่อจะให้พี่เขาไปส่งที่คอนโดเพื่อนผมแบบหลอกๆ
พี่เขาพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะให้ผมเดินนำออกจากห้อง แล้วจัดการล็อคห้อง พาผมเข้าลิฟท์ ลงไปขึ้นรถตามปกติ
ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าพี่เขาจะทำมิดีมิร้ายผมเลย
พอขึ้นมาในรถ ผมก็บอกให้พี่เขาไปส่งผมที่คอนโดในย่านผม
ผมไม่จำเป็นต้องบอกทาง เพราะพี่เขารู้ทางไป
แต่ถึงแม้จะให้ผมบอกทางไป
ผมก็คงบอกไม่ได้อยู่ดี 55555555555555
เราขับรถกลับเส้นทางเดิม….
ทางเดิมแหละนะ ถ้าผมจำไม่ผิด 555555555
แต่ขากลับครั้งนี้ กลับไม่เหมือนเดิม
มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังสาดน้ำเล่นสงกรานต์กันอยู่
พอเราขับไปถึงแบบช้าๆ เพราะกลัวจะไปชนอะไรเข้า
เขาเหล่านั้น ซึ่งกำลังเปิดเพลงเต้นกันอย่างเมามันส์ ค่อยๆเดินมาฝั่งกระจกข้างผม
แล้วก้มลงมาเอามือบังแสง มองเข้ามาในรถ
แล้วพอมองเข้ามาเท่านั้นแหละครับ
!!!!!!!!!!!!!
ผมเห็นเข้าทำหน้าตกใจ แล้วหันไปตะโกนเรียกเพื่อนๆให้ไปกันหน้ารถ ไม่ให้รถเคลื่อนไปไหน
ผมเห็นดังนั้นก็ตกใจ แต่ก็ยังคงยิ้มและหัวเราะไปพร้อมๆกับพี่เขา
ตอนนี้ รถของพี่วิทย์กำลังโดนสาวๆวัยกลางคนดักอยู่ข้างหน้า และข้างหน้าต่างฝั่งผม
แล้วเขาก็กวักมือ ตะโกนเรียกให้เปิดหน้าต่าง
ผมทำได้แค่โบกมือ ให้เขาเห็นว่าไม่เล่นด้วย
แต่หน้าผมยังยิ้มอยู่ 555
เขาเหล่านั้นก็ยังคงไม่ยอม ทำท่าให้พี่วิทย์ลดกระจกลง
ผมหันไปมองพี่วิทย์พร้อมๆกับที่ที่วิทย์หันมามองผม
“เอาไงดี?”
พี่วิทย์ชิงพูดก่อน
กำ!!!!
งี้กูก็ต้องตอบสิ!!!!!!!!!!
ผมอึกอัก ตอบไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
จะให้ลดกระจกลง แน่นอนว่าผมต้องเลอะแน่ๆ
จะไม่ให้ลดกระจกลง ก็มีทีท่าว่าจะไม่ได้ขยับไปไหน
เอ่อ เอาไงดีวะ!!!!
ผมนั่งคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก็จำใจตอบพี่วิทย์กลับไป
“ลดกระจกลงก็ได้พี่ แต่ถ้ารถพี่เลอะ อย่ามาว่ากันนา”
ผมพูดติดตลกตอบเขากลับไป
พี่เขาพยักหน้านิดนึง ก่อนจะค่อยๆเลื่อนกระจกรถลง
พอเลื่อนลงมาครึ่งนึงเท่านั้นแหละ
มือของเหล่าสาวน้อยสาวแก่ทั้งหลายก็บุกทะลวงเข้ามาในรถทันที
แต่ละคนละเลงแป้งและดินสอพองลงบนหน้าผมเละเทะไปหมด
ในขณะเดียวกันก็ละเลงใส่แขนพี่วิทย์ ซึ่งเขาเอื้อมมือมาดึงหัวผมให้ออกจากมือเหล่านั้น
!!!!!!!!!!!
กูกำลังโดนปกป้อง!!!!!!!!!!
ผมจำได้ว่า พี่วิทย์เอื้อมแขนมาบังหน้าผม พร้อมๆกับใช้มือโยกหัวผมไปทางฝั่งพี่เขา
ประหนึ่งจะให้นอนบนไหล่ยังไงยังงั้น
ผมไม่ฝืนตัว ปล่อยตัวไปตามแรงกระทำ
อย่างน้อยเอาหน้าซุกไหล่นายแบบ ยังดีกว่าโดนแป้งละเลงเต็มหน้าแหละครับ
55555555555
เหล่าบรรดาคนข้างนอกเปลี่ยนเป้าหมายมาที่แขนพี่วิทย์ทันที
แต่ละคนละเลงใส่ไม่ยั้ง ผมว่านะ ใส่แรงมากกว่าละเลงหน้าผมอีก
555555555555
เพราะด้วยความที่พี่เขาหล่อด้วยแหละครับ ก็เลยโดนหนักหน่อย
พอละเลงจนสะใจแล้ว
เขาก็ปล่อยแขนพี่วิทย์ออก แต่ยังไม่หดมือกลับออกไป
“เอาหน้าเข้ามาหน่อยพ่อหนุ่ม”
มีสาววัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นมา
พี่วิทย์ ถอดแว่นกันแดดออก แล้วค่อยๆยื่นแก้มไปให้เขา
จากนั้นก็ลุย !!!!!!!!!!!!
55555555555555
ผมหล่ะอยากให้เห็นจริงๆ
เหมือนเสือรุมทึ้งเศษอาหารอ่ะ 555555555555
เวลาผ่านไปเพียงแค่เสี้ยววินาที หน้าพี่วิทย์ก็เต็มไปด้วยแป้งและดินสอพองคล้ายๆกับผม
แต่ผมว่ามากกว่าผมอีก
พอทุกคนพอใจ ทุกคนก็ค่อยๆถอยออกห่างจากรำ แล้วปล่อยให้เราขับรถตรงผ่านไป
เหมือนประตูเงินประตูทองเลย
เอ้ย ไม่ใช่!!!!!!!!!!!!!!!!!
พอพี่เขาขับมาได้ระยะหนึ่ง พี่เขาก็จอดข้างทาง
แล้วหันไปหยิบทิชชู่เบาะหลังมาให้ผม
เราสองคนเช็ดหน้าของตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
และพอเช็ดออกไปบ้างแล้ว
มันก็ต้องมีบางจุดที่เราคาดไม่ถึงว่ามันจะติดอยู่ใช่มั้ยครับ
แน่นอนครับ
ฉากต่อจากนี้เหมือนในหนังเด๊ะ!!!!!
ผมทิ้งทิชชู่บนที่วางเท้าตามที่พี่เขาสั่ง ก่อนจะหันไปบอกพี่เขาว่าเสร็จแล้ว
พี่เขาหันมามองผม แล้วก็หัวเราะออกมา พลางดึงทิชชู่แผ่นใหม่ออกมาจากกล่อง
แล้วพี่เขาก็เอื้อมมือมาช้าๆ ตรงมาที่หน้าผม
ผมถอยหน้ากลับนิดนึงเพราะตกใจกับการกระทำเขา
พี่เขายังคงค่อยๆขยับมือมาข้างหน้า
จนกระดาษทิชชู่สัมผัสแถวๆหูผม
จุดเสียวด้วยนะนั่น ><
!!!!!!!!!!!
เราสองคนบังเอิญสบตากัน
ผมมองเข้าไปในดวงตาเขา
แม้มันจะน่าหลงไหล
แต่มันกลับต่างจากของคุณชาย
ไร้ความเจ้าเล่ห์
มีแต่ความจริงจัง
และจริงใจ
...............
สายตาที่พี่เขาส่งมาให้ผม
ผมว่ามันต้องมีความหมายอะไรแฝงอยู่
ผมดูออกครับ
มันต้องมีความหมายแฝงอยู่แน่ๆ
แต่ผมกลับ......
แต่ผมกลับไม่พยายามที่จะค้นหาความหมายของมัน
ไม่คิดจะพยายามเลย
และช๊อตนั้นเอง...
.
.
.
.
.
.
.
.
มันก็ทำให้ผมก็รู้ใจตัวเอง
[Y]โคอาล่ามาร์ชปั่น#14 (แนวนิ้ว&คุณชายตรรกะ)
!!!!!!!!!! คำถามนี้ !!!!!!!!!!!
จี้สุดๆ!!!!!!!!!!!!!
สมองผมทำงานอย่างรวดเร็วทันที
“ไม่มีครับ”
.
.
.
.
.
.
.
.
!!!!
นี่คือคำที่สมองผมสั่ง
แต่ทำไมไม่รู้
ผมถึงไม่ยอมพูดออกไปซักที
........
ผมได้แต่หัวเราะแหยะๆออกมาเบาๆ แล้วฉีกปากยิ้มส่งไปทางเขา
หวังว่าจะให้เขาเลิกสนใจแล้วเปลี่ยนไปถามคำถามอื่น
แต่สายตาเขานิ่งมาก
ถึงแม้จะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า
แต่ท่าทีและสายตานั้น ทำให้ผมรู้ว่าเขายังคงต้องการคำตอบ
แล้วผมจะทำไงได้หล่ะคร๊าบบบบบบบบบบบบบ
ในเมื่อเขาต้องการคำตอบ
ผมก็ต้องตอบตามความจริงทุกอย่างสิ
!!!!!!!!!!!!!!
ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดเฮือกใหญ่
ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ
“ก็มีคนคุยอยู่อ่ะครับ”
ใช่ครับ
ผมตอบคำนี้ออกไป
ถึงแม้ว่าสมองผมจะสั่งการให้ผมตอบอีกแบบ
แต่ผมก็ไม่อยากจะตอบแบบนั้นออกไป
ผมรู้ว่าคุณชายไม่ใช่แฟน
แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้
ว่าคุณชาย
เป็นคนพิเศษ
>////<
หลังจากที่ฟังผมพูดจบ พี่วิทย์ก็ยิ้มราวกับว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว
พี่เขาพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะพูดบอกผม
“อืม พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ เราก็น่าจะมีคนเข้ามาจีบเยอะอยู่”
!!!!!!!!!!!!!!!
ฟังไม่ผิดหรอกครับ
เพราะผมจำคำพูดนี้ได้!!!!!!!
ยอมรับครับ ว่ามีคนเข้ามาจีบเยอะอยู่
แต่ไอที่ออกมาจากนายแบบเนี่ย
ผมไม่ลืมหรอก
555555555555555
ผมขมวดคิ้วทำหน้าแปลกใจ
คำพูดนั้นควรจะเป็นผมพูดมากกว่าไม่ใช่หรอออออออออออออ!!!!!!!
“พี่มากกว่ามั้งงงงง 55555555555”
ผมย้อนคำพูดพี่เขากลับ
พี่เขาไม่ว่าอะไรกลับ เราสองคนก็เลยหัวเราะประสานเสียงกัน
แล้วเราก็คุยอะไรกันต่อนิดหน่อย
แต่ผมก็ต้องชิงตัดบทจบ เพื่อจะให้พี่เขาไปส่งที่คอนโดเพื่อนผมแบบหลอกๆ
พี่เขาพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะให้ผมเดินนำออกจากห้อง แล้วจัดการล็อคห้อง พาผมเข้าลิฟท์ ลงไปขึ้นรถตามปกติ
ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าพี่เขาจะทำมิดีมิร้ายผมเลย
พอขึ้นมาในรถ ผมก็บอกให้พี่เขาไปส่งผมที่คอนโดในย่านผม
ผมไม่จำเป็นต้องบอกทาง เพราะพี่เขารู้ทางไป
แต่ถึงแม้จะให้ผมบอกทางไป
ผมก็คงบอกไม่ได้อยู่ดี 55555555555555
เราขับรถกลับเส้นทางเดิม….
ทางเดิมแหละนะ ถ้าผมจำไม่ผิด 555555555
แต่ขากลับครั้งนี้ กลับไม่เหมือนเดิม
มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังสาดน้ำเล่นสงกรานต์กันอยู่
พอเราขับไปถึงแบบช้าๆ เพราะกลัวจะไปชนอะไรเข้า
เขาเหล่านั้น ซึ่งกำลังเปิดเพลงเต้นกันอย่างเมามันส์ ค่อยๆเดินมาฝั่งกระจกข้างผม
แล้วก้มลงมาเอามือบังแสง มองเข้ามาในรถ
แล้วพอมองเข้ามาเท่านั้นแหละครับ
!!!!!!!!!!!!!
ผมเห็นเข้าทำหน้าตกใจ แล้วหันไปตะโกนเรียกเพื่อนๆให้ไปกันหน้ารถ ไม่ให้รถเคลื่อนไปไหน
ผมเห็นดังนั้นก็ตกใจ แต่ก็ยังคงยิ้มและหัวเราะไปพร้อมๆกับพี่เขา
ตอนนี้ รถของพี่วิทย์กำลังโดนสาวๆวัยกลางคนดักอยู่ข้างหน้า และข้างหน้าต่างฝั่งผม
แล้วเขาก็กวักมือ ตะโกนเรียกให้เปิดหน้าต่าง
ผมทำได้แค่โบกมือ ให้เขาเห็นว่าไม่เล่นด้วย
แต่หน้าผมยังยิ้มอยู่ 555
เขาเหล่านั้นก็ยังคงไม่ยอม ทำท่าให้พี่วิทย์ลดกระจกลง
ผมหันไปมองพี่วิทย์พร้อมๆกับที่ที่วิทย์หันมามองผม
“เอาไงดี?”
พี่วิทย์ชิงพูดก่อน
กำ!!!!
งี้กูก็ต้องตอบสิ!!!!!!!!!!
ผมอึกอัก ตอบไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
จะให้ลดกระจกลง แน่นอนว่าผมต้องเลอะแน่ๆ
จะไม่ให้ลดกระจกลง ก็มีทีท่าว่าจะไม่ได้ขยับไปไหน
เอ่อ เอาไงดีวะ!!!!
ผมนั่งคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก็จำใจตอบพี่วิทย์กลับไป
“ลดกระจกลงก็ได้พี่ แต่ถ้ารถพี่เลอะ อย่ามาว่ากันนา”
ผมพูดติดตลกตอบเขากลับไป
พี่เขาพยักหน้านิดนึง ก่อนจะค่อยๆเลื่อนกระจกรถลง
พอเลื่อนลงมาครึ่งนึงเท่านั้นแหละ
มือของเหล่าสาวน้อยสาวแก่ทั้งหลายก็บุกทะลวงเข้ามาในรถทันที
แต่ละคนละเลงแป้งและดินสอพองลงบนหน้าผมเละเทะไปหมด
ในขณะเดียวกันก็ละเลงใส่แขนพี่วิทย์ ซึ่งเขาเอื้อมมือมาดึงหัวผมให้ออกจากมือเหล่านั้น
!!!!!!!!!!!
กูกำลังโดนปกป้อง!!!!!!!!!!
ผมจำได้ว่า พี่วิทย์เอื้อมแขนมาบังหน้าผม พร้อมๆกับใช้มือโยกหัวผมไปทางฝั่งพี่เขา
ประหนึ่งจะให้นอนบนไหล่ยังไงยังงั้น
ผมไม่ฝืนตัว ปล่อยตัวไปตามแรงกระทำ
อย่างน้อยเอาหน้าซุกไหล่นายแบบ ยังดีกว่าโดนแป้งละเลงเต็มหน้าแหละครับ
55555555555
เหล่าบรรดาคนข้างนอกเปลี่ยนเป้าหมายมาที่แขนพี่วิทย์ทันที
แต่ละคนละเลงใส่ไม่ยั้ง ผมว่านะ ใส่แรงมากกว่าละเลงหน้าผมอีก
555555555555
เพราะด้วยความที่พี่เขาหล่อด้วยแหละครับ ก็เลยโดนหนักหน่อย
พอละเลงจนสะใจแล้ว
เขาก็ปล่อยแขนพี่วิทย์ออก แต่ยังไม่หดมือกลับออกไป
“เอาหน้าเข้ามาหน่อยพ่อหนุ่ม”
มีสาววัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นมา
พี่วิทย์ ถอดแว่นกันแดดออก แล้วค่อยๆยื่นแก้มไปให้เขา
จากนั้นก็ลุย !!!!!!!!!!!!
55555555555555
ผมหล่ะอยากให้เห็นจริงๆ
เหมือนเสือรุมทึ้งเศษอาหารอ่ะ 555555555555
เวลาผ่านไปเพียงแค่เสี้ยววินาที หน้าพี่วิทย์ก็เต็มไปด้วยแป้งและดินสอพองคล้ายๆกับผม
แต่ผมว่ามากกว่าผมอีก
พอทุกคนพอใจ ทุกคนก็ค่อยๆถอยออกห่างจากรำ แล้วปล่อยให้เราขับรถตรงผ่านไป
เหมือนประตูเงินประตูทองเลย
เอ้ย ไม่ใช่!!!!!!!!!!!!!!!!!
พอพี่เขาขับมาได้ระยะหนึ่ง พี่เขาก็จอดข้างทาง
แล้วหันไปหยิบทิชชู่เบาะหลังมาให้ผม
เราสองคนเช็ดหน้าของตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
และพอเช็ดออกไปบ้างแล้ว
มันก็ต้องมีบางจุดที่เราคาดไม่ถึงว่ามันจะติดอยู่ใช่มั้ยครับ
แน่นอนครับ
ฉากต่อจากนี้เหมือนในหนังเด๊ะ!!!!!
ผมทิ้งทิชชู่บนที่วางเท้าตามที่พี่เขาสั่ง ก่อนจะหันไปบอกพี่เขาว่าเสร็จแล้ว
พี่เขาหันมามองผม แล้วก็หัวเราะออกมา พลางดึงทิชชู่แผ่นใหม่ออกมาจากกล่อง
แล้วพี่เขาก็เอื้อมมือมาช้าๆ ตรงมาที่หน้าผม
ผมถอยหน้ากลับนิดนึงเพราะตกใจกับการกระทำเขา
พี่เขายังคงค่อยๆขยับมือมาข้างหน้า
จนกระดาษทิชชู่สัมผัสแถวๆหูผม
จุดเสียวด้วยนะนั่น ><
!!!!!!!!!!!
เราสองคนบังเอิญสบตากัน
ผมมองเข้าไปในดวงตาเขา
แม้มันจะน่าหลงไหล
แต่มันกลับต่างจากของคุณชาย
ไร้ความเจ้าเล่ห์
มีแต่ความจริงจัง
และจริงใจ
...............
สายตาที่พี่เขาส่งมาให้ผม
ผมว่ามันต้องมีความหมายอะไรแฝงอยู่
ผมดูออกครับ
มันต้องมีความหมายแฝงอยู่แน่ๆ
แต่ผมกลับ......
แต่ผมกลับไม่พยายามที่จะค้นหาความหมายของมัน
ไม่คิดจะพยายามเลย
และช๊อตนั้นเอง...
.
.
.
.
.
.
.
.
มันก็ทำให้ผมก็รู้ใจตัวเอง