คุ้มสีทอง (บทที่ 5)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ PuPaKae, จารย์จี GTW, น้องดาว Lady Star 919, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ เป่าชาง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ อุรุเวลา, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณสำหรับทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทก่อนหน้าค่ะ

บทนำ - บทที่ 1  http://pantip.com/topic/35939682
บทที่ 2   http://pantip.com/topic/35949094
บทที่ 3   http://pantip.com/topic/35952735
บทที่ 4   http://pantip.com/topic/35959348


บทที่ 5



“ผมไปดูคุณยายของคุณให้แล้ว ได้คุยกับหมอคนที่รู้จักแล้วด้วย คุณไม่ต้องห่วงนะ ค่ารักษาพยาบาลคุณยายคุณ ผมบอกให้ทางโรงพยาบาลเก็บที่ผม วันนี้คุณไปเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารในตัวอำเภอ เงินเดือนของคุณ ผมจะโอนเข้าบัญชีนั่นให้”

นายจ้างหนุ่มใหญ่ทั้งบอกทั้งสั่งยืดยาวตามแบบของเขา และปณิตาก็ได้แต่ เออๆ ค่ะๆ ไปตามเรื่องตามราว แต่พอถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาลยาย เธอขัดขึ้นทันควัน

“ค่ารักษายาย คุณเขตหักจากเงินเดือนของต้าเถอะค่ะ เพราะว่า…”

อีกฝ่ายโต้กลับก่อนเธอจะจบประโยคเช่นกัน กังวานเสียงนั้นเคร่งเครียดขึ้น

“ไม่จำเป็นต้องหักจากเงินเดือนของคุณ เงินเดือนของคุณก็คือเงินเดือนของคุณ ค่ารักษาพยาบาลยายของคุณเป็นอีกเรื่อง”

เพียงแค่นั้นเองแล้วเขาก็ตัดบทจบฉากก่อนครูคนใหม่ของหลานจะมีโอกาสขัดอะไรได้อีก

“เอาล่ะ ตกลงว่าอย่างนั้น ผมต้องไปสนามบินแล้ว วันพฤหัสกลับ ถ้ามีอะไร โทร.ไปบอกที่ทำงานหรือที่บ้านก็ได้”

    ยังไม่ทันจะตอบรับหรือปฏิเสธ คำสั่งก็มาอีกเรื่อง

    “ถ้ามีอะไรผิดปกติ คุณบอกให้ผมรู้เมื่อผมกลับมาแล้ว ตกลงไหม” สุ้มเสียงนั้นเบาลง ฟังดูลังเล เหมือนคนพูดไม่แน่ใจว่าควรออกคำสั่งนั้นดีหรือไม่

    “ค่ะ”

    สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปโดยไม่มีการบอกลา ปณิตาถอนใจยาว ยังคงไม่เข้าใจความหมายประโยคสุดท้ายของเขาอยู่ดี มีอะไรที่เขารู้ว่าจะเกิดขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจอย่างนั้นหรือ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนถือว่าเป็นความ 'ผิดปกติ' ที่พูดถึงหรือเปล่า

แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องนั้นผ่านไปแล้ว วันนี้เป็นวันใหม่แล้ว เป็นวันเริ่มต้นงานใหม่อย่างแท้จริงก็ว่าได้

    วางหูโทรศัพท์กลับลงเครื่อง แล้วหันมองเด็กสาวผู้ทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็ก หล่อนยังคงรีๆ รอๆ อยู่ข้างเก้าอี้รับแขก ที่สำคัญทางด้านหลังมีศีรษะเล็กๆ โผล่ออกมาให้เห็น ใบหน้านั้นหมดจด น่ารักน่าชังไม่ผิดตุ๊กตาสวยๆ ผมเส้นละเอียดสีน้ำตาลไหม้ขอดเป็นลอนตามธรรมชาติ นัยน์ตากลมโตแป๋วแหววกำลังจ้องดูคุณครูคนใหม่ตื่นๆ ปากนิดจมูกหน่อยน่าเอ็นดู รับกันไปหมดทั้งใบหน้า มือซ้ายของแกเกาะอยู่ที่เอวของพี่เลี้ยงเหมือนเอาเป็นที่ยึด

    เห็นอย่างนั้นปณิตายิ้มกว้างขวาง ขยับเข้าใกล้ แล้วก้มตัวลงหา ใบหน้าเล็กๆ นั้นผลุบหายไปข้างหลังของพี่เลี้ยงในทันที

    ครูสาวหัวเราะชอบอกชอบใจ จนใบหน้าน่าเอ็นดูโผล่ออกมาให้เห็นอีกครั้ง คราวนี้ชัดเจน ชัดจนปณิตาถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ ดวงตากลมโตของเด็กน้อยเป็นสีน้ำตาลเข้ม สีเดียวกับตาของผู้เป็นลุงไม่มีผิดเพี้ยน ไม่เพียงเท่านั้น จมูกโด่งเล็กๆ เรื่อยไปจนถึงเรียวปากบางก็เหมือนลุงอีกเช่นกัน

เด็กหญิงคนนี้มีเค้าหน้าเหมือนคุณเขตได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้ามีใครบอกว่านี่เป็นลูกสาวของเขา เธอจะเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย

    “นิพใช่มั้ยคะ” เธอเป็นฝ่ายเอ่ยทักขึ้นก่อน

    ใบหน้าน่ารักน่าชังนั้นผลุบหายไปอีกครั้ง จนผู้เป็นพี่เลี้ยงต้องบอกเตือน

    “คุณนิพเอาดอกไม้ให้คุณครูสิคะ ไหนเตือนแล้วเตือนอีกให้พี่น้อยปลุกแต่เช้า จะได้ลงมาเก็บดอกไม้ให้คุณครู นี่พอเห็นคุณครูเข้าจริงๆ อ้าว…อายซะแล้ว”

    เด็กน้อยโผล่หน้าออกมาให้เห็นอีก ดวงตาสีน้ำตาลยังคงเบิกกว้างตื่นๆ เหมือนเดิม แต่คราวนี้มือที่กำช่อดอกไม้สารพัดสีสารพัดชนิดยื่นตามออกมาด้วย

    “ให้ครูหรือคะ”

    ครูสาวถามพร้อมกับรับช่อดอกไม้มา

“ขอบคุณค่ะ แล้วนนท์ล่ะคะ” ประโยคหลังถามเด็กสาวผู้เป็นพี่เลี้ยง

    “คุณนนท์อยู่ในห้องอาหารกับป้าแกค่ะคุณครู”

     “น้อยใช่ไหมจ๊ะ”

    เธอคิดว่าควรเป็นฝ่ายทำความรู้จักก่อนในฐานะที่มีอาวุโสกว่า ประกอบกับเห็นท่าทีที่เป็นกันเองของเด็กสาว ที่จริงอยากถามถึงผู้หญิงชุดขาวที่เห็นเมื่อคืนด้วย ถ้าที่เห็นไม่ใช่พี่เลี้ยงของเด็ก แล้วเป็นใคร มีใครคนอื่นในบ้านหลังนี้ที่ยังไม่รู้จักอีกอย่างนั้นหรือ

    “ค่ะคุณครู” เด็กสาวยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร

    “นอกจากเด็กๆ ป้าคำแปง ลุงผัน ลุงคำผา แล้วก็น้อยแล้ว ที่นี่มีใครคนอื่นอีกหรือเปล่าจ๊ะ” ในที่สุดก็ตัดสินใจเลียบๆ เคียงๆ ถาม

    “มีกันแค่นี้แหละค่ะ”

    ปณิตาจำต้องผงกศีรษะรับรู้แต่โดยดี ไม่คิดจะถามอะไรต่อเพราะที่เห็นเมื่อคืนอาจเป็นเพียงภาพหลอน อาจเป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง เหนื่อยกับการวิ่งไล่เด็กที่วิ่งในความมืดได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเกือบจะจมน้ำอีกต่างหาก ก็เลยเที่ยวเห็นอะไรต่ออะไรไม่เข้าเรื่องไปเอง บรรยากาศยามดึกของบ้านหลังนี้ดูเป็นใจให้เที่ยวเห็นอะไรแปลกๆ อยู่หรอก

อดไม่ได้ที่จะลูบแก้มเด็กหญิงตัวน้อยซึ่งยังคงยืนจ้องเธอตาแทบไม่กระพริบ

    “ครูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะคะ แล้วเราทานข้าวเช้ากัน เสร็จแล้วนิพเอาหนังสือเรียนที่มีให้ครูดูนะคะ เราจะได้รู้ว่าต้องซื้อหนังสืออะไรใหม่อีกหรือเปล่า แล้วสายๆ เราเข้าไปในตัวอำเภอกัน”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่