คุ้มสีทอง (บทที่ 28)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณซูซี่ Susisiri, จารย์จี GTW, คุณ เจ้าหญิงงัวเงีย, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ  jazzzero, คุณ เป่าชาง, คุณ เพ็ญพิชญา, คณ ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทที่ 20 https://pantip.com/topic/36052025
บทที่ 21 https://pantip.com/topic/36057918
บทที่ 22 https://pantip.com/topic/36064433
บทที่ 23 https://pantip.com/topic/36071189
บทที่ 24 https://pantip.com/topic/36080925
บทที่ 25 https://pantip.com/topic/36084107
บทที่ 26 https://pantip.com/topic/36091378
บทที่ 27 https://pantip.com/topic/36097779

ถึงตอนนี้อะไรๆ คลี่คลายเกือบหมดแล้วค่ะ นอกจากเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่จะแสดงให้เห็นว่าทำไมน่านถึงได้โกรธแค้นถึงขนาดนั้น หลังจากนั้นเหลือก็แต่ว่าเขตจะแก้ปัญหาที่ตัวเองกับปณิตาในชาติก่อนร่วมกันสร้างขึ้นยังไง ใกล้จบแล้วค่ะ


บทที่ 28



    เขตพิจารณาร่างผอมซีดเซียวที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงด้วยจิตใจที่หดหู่อย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าซึ่งเคยร่าเริงสดใส ในเวลานี้ซูบและเผือดสีจนดูน่ากลัว แก้มตอบ เห็นโหนกแก้มโดดเด่นขึ้นมาชัดเจน ตาโหลลึก รอบขอบตาดำคล้ำ เส้นผมบนศีรษะบางจนน่าใจหาย ยิ่งปกติหญิงสาวซอยผมไว้เสียสั้นอยู่เป็นนิจด้วยแล้ว พอผมร่วงเพราะขาดสารอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายอย่างเพียงพอ ที่ยังคงมีหลงเหลืออยู่บ้างก็แทบจะเรียกได้ว่านับเส้นได้เลยทีเดียว แขนเรียวซึ่งแนบอยู่ข้างลำตัวนั้นก็บางใสเสียจนเห็นริ้วเส้นเลือดยาวเป็นทาง หลังมือเหี่ยวแห้งวางราบอยู่กับที่นอน

    ค่อยๆ โอบประคองให้ร่างนั้นพลิกนอนตะแคง ระมัดระวังไม่ให้ทับแขนซ้ายซึ่งมีเข็มน้ำเกลือแทงอยู่ มีสายระโยงระยางต่อไปยังขวดแก้วซึ่งแขวนอยู่กับเสาโลหะข้างเตียง หมอวิกรมสั่งไว้ว่าอย่าปล่อยให้หญิงสาวนอนอยู่ท่าเดียวเป็นเวลานานเพราะจะทำให้เกิดแผลกดทับ

แขนข้างหนึ่งประคองเรือนร่างซึ่งพอสัมผัสก็รู้สึกได้ไม่ยากว่ามีแต่หนังหุ้มกระดูก อีกมือเลื่อนหมอนข้างใบยาวมาหนุนรองหลังให้ ดึงผ้าห่มกลับขึ้นมาคลุม เมื่อเห็นว่าคนป่วยคงอยู่ในท่าสบายแล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ซึ่งยกมาวางไว้ข้างเตียงตามเดิม

ปณิตาแทบไม่อยากเชื่อว่านั่นคือตัวเธอเอง จำแทบไม่ได้เอาเลยทีเดียว เมื่อคราวที่ร่างนี้นอนอยู่ในโรงพยาบาลก็ไม่เคยเห็นได้ชัดเจนอย่างนี้ แสงที่นั่นสว่างจัดจ้าจนเกินไป ไม่รู้หรอกว่าตัวเองอยู่ในสภาพนี้มานานแค่ไหนแล้ว

มีเสียงกรุ๋งกริ๋งของอะไรบางอย่างดังมาให้ได้ยิน ตามด้วยเสียงพูดเนิบนาบเป็นภาษากลาง แต่สำเนียงแปลกหู

“นานทีเดียวแหละ”

ผู้หญิงในความฝันของคุณเขตยืนสงบอยู่ปลายเตียง ปณิตาจำหล่อนได้ดี แม้แต่เสื้อผ้าการแต่งกายก็คล้ายคลึงกับที่เคยเห็น หล่อนนุ่งซิ่นลายขวาง ยาวเกือบกรอมเท้า ห่มผ้าเฉียงสีฝาด ดูไปก็คล้ายสะไบ ผมเกล้าไว้สูง มีดอกไม้อะไรบางอย่างร้อยอย่างประณีตพันไว้โดยรอบมวยผม ดอกไม้สีขาวนั้นส่งกลิ่นกรุ่นอบอวลอยู่รอบตัวหล่อน

“คุณว่าอะไรนะคะ”

กระพรวนเล็กๆ ร้อยเรียงเป็นกำไลข้อมือส่งเสียงไพเราะราวเสียงกระดิ่งแก้วเมื่อมือขาวสะอาดขยับขึ้นวางลงบนพนักปลายเตียง นิ้วเรียวยาวราวลำเทียนดูกระจ่างตา…ราวเรืองแสงได้เอง

“ฉันบอกว่าเธอเป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว”

นัยน์ตาอ่อนเชื่อมกำลังทอดดูอะไรบางอย่างตรงหน้า เมื่อมองตาม ปณิตาเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของนายจ้างหนุ่ม เขากำลังโน้มตัวไปหาร่างผ่ายผอมบนเตียง ศีรษะได้รูปก้มต่ำ ผมตัดสั้นดูยุ่งเหยิงผิดกว่าที่เคยเห็น แขนล่ำสันทั้งสองข้างวางลงน้ำหนักบนขาของตัวเอง

“เขาเริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว เธอคงยกโทษให้เขาได้ใช่ไหม…”

เสียงของหญิงสาวซึ่งแต่งตัวเหมือนผู้หญิงโบราณคนนั้นเนิบนาบ เยือกเย็น ยิ้มเศร้าสร้อยผุดขึ้นที่มุมปาก สายตายังคงจับนิ่งอยู่ที่เดิม

“…เหมือนอย่างที่ฉันยกโทษให้เขาแล้ว”

“ยกโทษให้เขาเรื่องอะไรคะ” ครูสาวถามกลับ “คุณเขตไม่เคยทำอะไรฉันนี่คะ”

“เอาเถอะ แล้วเธอก็จะรู้ บอกเขาด้วยว่าฉันยกโทษให้เขาแล้ว”

“ฉันจะบอกเขาได้ยังไงละคะ” ผู้หญิงคนนี้พูดราวกับว่าเธอกับคุณเขตมีโอกาสจะได้พูดคุยกันอีกอย่างนั้นแหละ

แทนที่จะตอบ หล่อนกลับหันไปทางขวามือ

ครูสาวมองตาม เพิ่งเห็นเดี๋ยวนี้เองว่ามีใครคนหนึ่งซ่อนอยู่ในเงามืด เห็นก็เพียงท่อนล่างซึ่งสวมใส่อะไรบางอย่างดูคล้ายโจงกระเบน

“อูซอ”

เขาก้าวออกมาเมื่อหล่อนร้องเรียก

พอเห็นหน้าครูสาวก็จำได้ทันที ผู้ชายอีกคนที่เห็นในความฝันของคุณเขต ร่างล่ำสันนั้นไม่สวมเสื้อ แต่มีสักเป็นตัวอักขระเต็มแผงอก เลยเรื่อยไปถึงสองข้างแขนด้วย ดูเผินๆ เหมือนสวมเสื้อลายพร้อยเลยทีเดียว

“เธอจำอูซอได้ใช่ไหม”

ปณิตาตอบได้ทันที รอยสักเป็นแผงเต็มแผ่นอกแบบนั้นใครเลยจะจำไม่ได้

“จำได้ค่ะ”

อีกคำถามตามมาติดๆ “เธอคงจำอูซอแบบนี้ได้เหมือนกันใช่ไหม”

พอเหลียวกลับไปทางนั้น ครูสาวถึงกับตะลึงเมื่อเห็นชายหนุ่มค่อยๆ เลือนหายกลายเป็นผู้ชายสูงวัย ไหล่ที่เมื่อครู่ผึ่งผายกลับลู่ลง รอยสักเลือนหายไปจากแผงอกซึ่งแน่นเครียดด้วยมัดกล้าม กลับกลายเป็นเสื้อม่อฮ่อมสีคล้ำเก่าคร่ำคร่าเข้ามาแทนที่ โจงกระเบนกลายเป็นกางเกงตัวเก่าๆ ขายาวถึงแข้ง

ทำไมเธอจะจำผู้ชายวัยปลายคนนั้นไม่ได้ แกเคยเตือนเธอหลายเรื่อง แต่จะเรื่องอะไรบ้างก็จำไม่ได้เสียแล้ว

“ลุงคะยอหรือคะ”

คะยอยิ้ม เหมือนจะเป็นยิ้มครั้งแรกของแกเลยก็ว่าได้

เห็นและพอเข้าใจความประหลาดล้ำของสภาพรอบตัวจนปณิตาไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว ไม่แปลกใจว่าทำไมอูซอจึงกลายเป็นคะยอไปได้ เพียงแต่ยังไม่เข้าใจเท่านั้นเองว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกันอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่