กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในพันทิปเลยนะครับ
พี่ชายสายลมจะพาเที่ยวแดนคันไซ ( Kansai ) หรือ คินคิ (Kinki) โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เมืองโอซาก้า (ผสมเกียวโตนิดหน่อย) เป็นการมาโอซาก้าครั้งที่สองของพี่ชายสายลมละ ครั้งแรกหลงทางกระจาย คราวนี้วางแผนมาอย่างดี เตรียมข้อมูลแน่นมาก มาลุ้นกันนะครับว่าจะหลงทางไหม
หลายคนถามว่าทำไมไปโอซาก้าอีกรอบ เหตุผลเดียวเลยคือ โอซาก้ามี USJ (Universal Studio Japan) ด้วยความเป็นแฟนพันธ์แท้ พ่อมดน้อย Harry Potter และผองเพื่อน แต่ไม่มีสตางค์ไปไกลถึงอเมริกา ไปญี่ปุ่นแทนละกัน 555 (
ปล.เราจะพาเที่ยว USJ ในกระทู้สุดท้ายนะครับ)
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
- เริ่มต้นการเดินทางโดยการจองตั๋วเครื่องบินของ Thai AirasiaX เที่ยวบิน XJ610 บินจากดอนเมือง(DMK) 14.15น. ถึงสนามบินคันไซ(KIX) 21.40น. ราคา 7,000–15,000 บาท แล้วแต่จะเลือก ซึ่งคราวนี้เราได้ตั๋วในราคา ไปกลับ 7,990 บาท (รวมสัมภาระไป 10 กิโล กลับ 20 กิโลต่อคน)
- จองที่พัก จะโรงแรม โฮสเทล แคปซูล บ้านเป็นหลัง ซึ่งคราวนี้เราได้ที่พักของ Air Bnb เป็นอพาร์ตเมนท์ 1ห้องนอน 1ห้องรับแขก 1ห้องน้ำ ในราคา คืนละ 2200 บาท นอนได้ 6 คน เป็นเวลา 6 คืน ก็ตกคนละ 2,200 บาท
- ปริ๊นตั๋วเครื่องบินและใบจองโรงแรมที่มีชื่อของเราให้เรียบร้อย เพื่อการผ่าน ตม ที่ง่ายดาย
- บัตรพาสต่างๆ OAP (Osaka Amazing Pass) บัตร USJ (Universal Studio Japan) ในทริปนี้เลือกไปซื้อที่ญี่ปุ่นเอา เผื่อเปลี่ยนใจ แต่สุดท้ายค่าเงินขึ้น ขาดทุนค่าบัตรไปร่วม 300 บาท เศร้าเนอะ
- ซิมอินเตอร์เน็ตหรือพอคเกตไวไฟ แล้วแต่จะเลือก ค่อนข้างสำคัญ อ่านหลายกระทู้ไปหาไวไฟเอาดาบหน้า แต่บางทีไม่มีแล้วมันเซ็งนะจ๊ะ สำหรับเรา ใช้ Sugoi Sim แบบ 7 วัน ใช้เน็ตได้แบบอันลิมิต ถือว่าแรงพอสมควร ลงเครื่องปุ๊บ ต่อเน็ตปั๊บ ไลฟ์ลงเฟสได้เลย 555555
- วางแผนการท่องเที่ยว วงกลมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และสถานีรถไฟต่างๆ ได้มาเป็นสิ่งนี้
หมายเหตุ กระทู้นี้จะแบ่งเป็นสามตอนนะครับ
EP.1 ลัดเลาะชมโอซาก้า เดินเล่นย่านช้อปปิ้งสตรีท --->
http://pantip.com/topic/35320564
EP.2 เที่ยวโอซาก้า ใช้บัตรเบ่งให้คุ้มค่ากันหน่อย --->
http://pantip.com/topic/35324023
EP.3 ลุย USJ พร้อมเดินเล่นเมืองเพื่อนบ้าน เกียวโต --->
http://pantip.com/topic/35337101
มาถึงวันเดินทาง รวมพลที่ดอนเมืองตอน 12.00น. มีเรื่องน่าเศร้า คือ น้อง 3 คน นั่งเครื่องจากเชียงใหม่มาถึงดอนเมือง โดย 2 คนนั่งแอร์เอเชีย และอีก 1 นั่งไลออนแอร์ แล้ว...ไลออนแอร์ดีเลย์ครับพี่น้อง สุดท้ายตกเครื่องไปหนึ่งคน เลยไปกัน 5 คนก่อน อีกคนจะบินตามไปอีกวัน
เป็นอุทาหรณ์เลยนะครับ บินไฟลท์ต่างประเทศ ต้องเผื่อเวลามากหน่อย ห้ามมาเครื่องแบบพอดีเป๊ะ เผื่อเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก เศร้าเน้อออออออ
แล้วเราก็มาถึง สนามบินนานาชาติคันไซ เวลา 21.50น. (ช้าไป 10 นาที) แต่ด้วยความเคยมา เอกสารพร้อม เราผ่าน ตม อย่างรวดเร็ว รับกระเป๋าในเวลา 22.15น. ทันเหลือเฟือ รถไฟเข้านัมบะจะหมด 23.40น. นะครับ จำเวลาไว้ดีๆ
ออกมาจากเกทก็จะเจอป้ายนี้ เลี้ยวขวา ขึ้นบันไดเลื่อน (2F) เลี้ยวซ้าย ออกประตู
เดินข้ามสะพานไป ก็จะเจอสถานีรถไฟ ที่ขายตั๋วอยู่ซ้าย คนมุงเยอะๆนี่ล่ะ ใช่เลย
นี่คือสายรถไฟ ดูยากใช่มั้ยล่ะ งงกันไปเลยล่ะ
แนะนำ
www.hyperdia.com เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง เวลาที่จะให้ค้นหา มันจะบอกราคามา กดตามนั้นล่ะ ได้ 920 เยน ก็ใส่เงิน กดเลข 920 ตั๋วก็จะเด้งออกมา (ใส่แบงค์ 10000 มันทอนแบงค์ 1000 ได้นะครับ)
ได้ตั๋วแล้วกลับหลังหัน เดินมาอีกฝั่งนึง สอดตั๋วเข้าตู้ ตั๋วจะเด้งขึ้นมาไกลๆ หยิบแล้วเดินเข้ามา ไม่ต้องรีบครับ ถ้าไม่ดึงตั๋วประตูไม่ปิด
ลงมาก็หาที่นั่งได้เลย รถไฟขบวนนี้จะไปที่ สถานีนัมบะ นานไค (Namba Nankai Station) แต่เราจะนั่งไปที่ Tengachaya เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาลไปสถานี Ebisucho ที่พักเราอยู่ตรงนั้น (เปลี่ยนสายรถไฟตรงไหน Hyperdia บอกหมดครับ)
ถ่ายรูปตัวเองบ้าง ยินดีรู้จักนะครับทุกคน
แล้วเราก็มาถึง Tengachaya
มาต่อรถไฟฟ้าใต้ดินกันเถิดหนา เดินไกลเหมือนกันนะครับ
อันนี้แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลา บัตรเติมเงินรถไฟฟ้าใต้ดิน ช่วยให้เราไม่ต้องต่อแถวซื้อบัตร เพราะรถไฟฟ้าญี่ปุ่นตรงเวลามาก เราอาจจะมีเวลาแค่ 4 นาที จากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่ง มีไว้ก็ช่วยลดเวลาได้เยอะ
พร้อมแล้วสอดตั๋วเข้ามาเลย
บันได้เลื่อนหายากนะครับ (น่าจะมีแต่หาไม่เจอ) แบกเอาละกัน แข็งแรง
บรรยากาศบนรถไฟฟ้าใต้ดิน ห้ามคุยเสียงดังนะครับ รักษามารยาทด้วย
ถึงแล้ว สถานีบ้านใหม่ของเรา Ebisucho เป็นจุดหลักในการเดินทางเลย ยกเว้นจะเดิน 555555
จำป้ายทางอออกดีๆนะครับ เดี๋ยวหลง
อยู่ติดรถไฟฟ้าเลย เดินมายังไม่ทันเหงื่อออก ก็เจอแล้ว Tessa Apartment ขึ้นมาถึงนี่ร้อง ว้าวววว..ห้องสวยมาก
มีห้องนอนเล็ก 1 ห้อง ให้สาวๆสองคนนอน
ห้องน้ำแยกไว้ต่างหากกับที่อาบน้ำ สไตล์ญี่ปุ่นเค้าล่ะ
มีเครื่องซักผ้าให้ด้วย พร้อมมากจริงๆ
ในห้องอาบน้ำ มีอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้วย สบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม ถือว่าคุ้มสุดๆเลย ตกวันละ 300 กว่าบาทต่อคนเอง
หิวแล้วลงมาหาอะไรกิน เจอร้านราเมง 24 ชม.หน้าบ้านเลย จัดละ..เกลี้ยงในพริบตา (GPS : 34.656196, 135.505480)
ท้องอิ่มก็เดินต่อไป หาเสบียงตุนไว้ ตอนนี้เกือบตีหนึ่งละทุกคนยังไม่ง่วง ก็เวลาที่ไทยเพิ่งห้าทุ่มเองนิ
สุดท้ายก็มาจบที่นี่ 7-11 ไม้ตายจริงๆ
ใครชอบข้าวปั้นก็เลือกเอา ดูรูปแล้วเลือกเลย อร่อยหรือไม่ แล้วแต่ดวง
เดี๋ยวนอนไม่หลับ จัดเบียร์ซะหน่อย (หน่อยมากเลย)
ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน
เริ่มต้นเช้าแรกในโอซาก้า เราตื่นกันประมาณ 9.00น. โปรแกรมวันแรกคือเดินชมเมืองชิวๆ ผ่านจุดช้อปปิ้งต่างๆ เป็นการวอร์มร่างกาย (คำแนะนำ-โปรแกรมท่องเที่ยววันแรก อย่าจัดเยอะเกิน เพราะถ้าเหนื่อยหรือปวดขา วันหลังๆจะไม่สนุกนะครับ)
ตื่นมากินมาม่า (มันอร่อยหนา) อากาศวันนี้ดีมากๆ เช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นแม่นยำมาก จะได้วางแผนเที่ยวได้สนุกครับ เช็คได้ที่
http://www.jma.go.jp/en/week/#explain (เราใช้อันนี้ล่ะแม่นใช้ได้)
ออกเดินทาง ยังไม่พ้นช่วงตึกเลย กิเลสเกิดละ เจอเกมเซนเตอร์
แวะเสียตังนิดหน่อยพอกล้อมแกล้ม
ถนนเส้นหน้าบ้าน จะเต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเกมส์
ใครเป็นเซียนคีบตุ๊กตาน่าจะชอบนะ มีให้เลือกเล่นเป็นร้อยๆแบบ
ของเล่นสาวๆก็มีนะ กาชาปอง-หยอดไข่ เจอเป็นต้องหมดตัง ได้ไข่กลับบ้านมาเป็นโหล
ร้านรวงต่างๆที่น่าค้นหามากมาย
ร้าน Daiso ของแท้ออริจินัล 100 เยนทั้งร้าน แต่ไม่เคยจะจ่ายน้อยกว่า 1000 เยน
เราเดินกันไปเรื่อยๆ ลอดสถานีรถไฟนัมบะนานไค มาที่
ศาลเจ้านัมบะยาซากะ Nambayasaka Shrine (GPS : 34.661577, 135.496707 ) หรือศาลเจ้าหน้ายักษ์นี่เอง เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย แล้วไว้พระขอพรกัน
นี่คือที่มาของ ศาลเจ้าหน้ายักษ์
จุดขอพรและทำบุญ มีชาวญี่ปุ่นมาทำบุญไม่ขาดสาย
มุมขายเครื่องรางภายในศาลเจ้า คนขายพูดอังกฤษไม่ได้เราเลยอดซื้อ เพราะไม่รู้ว่าช่วยเสริมดวงอะไร
อันนี้หินไรไม่รู้ ถ่ายมาสวยดี
ออกจากศาลเจ้า เดินชมบ้านชมเมืองโอซาก้าแบบเบาๆ ไปถนนโดทมโบริกัน
แนะนำกาแฟใน Family Mart กดเอง อร่อยมาก เรากินทุกวัน เข้าไปเค้าเตอร์ ชี้ Café Frappe ได้แก้วมาก็เดินไปกดที่ตู้
แล้วออกมาบีบๆๆๆ ให้มันผสมกัน โบ้มมมมม...กลายเป็นกาแฟปั่น หวานนะครับขอเตือน ใครไม่ชอบหวานจงผ่านไป
เดินกลับมาที่
สถานีรถไฟนัมบะนานไค Namba Nankai Station (GPS : 34.662715, 135.502633 ) จุดศูนย์รวมของการเดินทางในย่านนี้ ปักหมุดไว้เลย วันกลับเราต้องมาขึ้นรถไฟที่นี่ตรงไปสนามบินคันไซ
[img]http://f.ptcdn.info/905/043/000/o9fo6gmcnJny7wLiEva-o.jpg[/i
[CR] ตะลุย..โอซาก้า หน้าฝน..ถูกและดี+เที่ยวทุกที่+กินทุกอย่าง+ช้อปทุกสิ่ง EP.1
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในพันทิปเลยนะครับ พี่ชายสายลมจะพาเที่ยวแดนคันไซ ( Kansai ) หรือ คินคิ (Kinki) โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เมืองโอซาก้า (ผสมเกียวโตนิดหน่อย) เป็นการมาโอซาก้าครั้งที่สองของพี่ชายสายลมละ ครั้งแรกหลงทางกระจาย คราวนี้วางแผนมาอย่างดี เตรียมข้อมูลแน่นมาก มาลุ้นกันนะครับว่าจะหลงทางไหม
หลายคนถามว่าทำไมไปโอซาก้าอีกรอบ เหตุผลเดียวเลยคือ โอซาก้ามี USJ (Universal Studio Japan) ด้วยความเป็นแฟนพันธ์แท้ พ่อมดน้อย Harry Potter และผองเพื่อน แต่ไม่มีสตางค์ไปไกลถึงอเมริกา ไปญี่ปุ่นแทนละกัน 555 (ปล.เราจะพาเที่ยว USJ ในกระทู้สุดท้ายนะครับ)
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
- เริ่มต้นการเดินทางโดยการจองตั๋วเครื่องบินของ Thai AirasiaX เที่ยวบิน XJ610 บินจากดอนเมือง(DMK) 14.15น. ถึงสนามบินคันไซ(KIX) 21.40น. ราคา 7,000–15,000 บาท แล้วแต่จะเลือก ซึ่งคราวนี้เราได้ตั๋วในราคา ไปกลับ 7,990 บาท (รวมสัมภาระไป 10 กิโล กลับ 20 กิโลต่อคน)
- จองที่พัก จะโรงแรม โฮสเทล แคปซูล บ้านเป็นหลัง ซึ่งคราวนี้เราได้ที่พักของ Air Bnb เป็นอพาร์ตเมนท์ 1ห้องนอน 1ห้องรับแขก 1ห้องน้ำ ในราคา คืนละ 2200 บาท นอนได้ 6 คน เป็นเวลา 6 คืน ก็ตกคนละ 2,200 บาท
- ปริ๊นตั๋วเครื่องบินและใบจองโรงแรมที่มีชื่อของเราให้เรียบร้อย เพื่อการผ่าน ตม ที่ง่ายดาย
- บัตรพาสต่างๆ OAP (Osaka Amazing Pass) บัตร USJ (Universal Studio Japan) ในทริปนี้เลือกไปซื้อที่ญี่ปุ่นเอา เผื่อเปลี่ยนใจ แต่สุดท้ายค่าเงินขึ้น ขาดทุนค่าบัตรไปร่วม 300 บาท เศร้าเนอะ
- ซิมอินเตอร์เน็ตหรือพอคเกตไวไฟ แล้วแต่จะเลือก ค่อนข้างสำคัญ อ่านหลายกระทู้ไปหาไวไฟเอาดาบหน้า แต่บางทีไม่มีแล้วมันเซ็งนะจ๊ะ สำหรับเรา ใช้ Sugoi Sim แบบ 7 วัน ใช้เน็ตได้แบบอันลิมิต ถือว่าแรงพอสมควร ลงเครื่องปุ๊บ ต่อเน็ตปั๊บ ไลฟ์ลงเฟสได้เลย 555555
- วางแผนการท่องเที่ยว วงกลมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และสถานีรถไฟต่างๆ ได้มาเป็นสิ่งนี้
หมายเหตุ กระทู้นี้จะแบ่งเป็นสามตอนนะครับ
EP.1 ลัดเลาะชมโอซาก้า เดินเล่นย่านช้อปปิ้งสตรีท ---> http://pantip.com/topic/35320564
EP.2 เที่ยวโอซาก้า ใช้บัตรเบ่งให้คุ้มค่ากันหน่อย ---> http://pantip.com/topic/35324023
EP.3 ลุย USJ พร้อมเดินเล่นเมืองเพื่อนบ้าน เกียวโต ---> http://pantip.com/topic/35337101
มาถึงวันเดินทาง รวมพลที่ดอนเมืองตอน 12.00น. มีเรื่องน่าเศร้า คือ น้อง 3 คน นั่งเครื่องจากเชียงใหม่มาถึงดอนเมือง โดย 2 คนนั่งแอร์เอเชีย และอีก 1 นั่งไลออนแอร์ แล้ว...ไลออนแอร์ดีเลย์ครับพี่น้อง สุดท้ายตกเครื่องไปหนึ่งคน เลยไปกัน 5 คนก่อน อีกคนจะบินตามไปอีกวัน
เป็นอุทาหรณ์เลยนะครับ บินไฟลท์ต่างประเทศ ต้องเผื่อเวลามากหน่อย ห้ามมาเครื่องแบบพอดีเป๊ะ เผื่อเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก เศร้าเน้อออออออ
แล้วเราก็มาถึง สนามบินนานาชาติคันไซ เวลา 21.50น. (ช้าไป 10 นาที) แต่ด้วยความเคยมา เอกสารพร้อม เราผ่าน ตม อย่างรวดเร็ว รับกระเป๋าในเวลา 22.15น. ทันเหลือเฟือ รถไฟเข้านัมบะจะหมด 23.40น. นะครับ จำเวลาไว้ดีๆ
ออกมาจากเกทก็จะเจอป้ายนี้ เลี้ยวขวา ขึ้นบันไดเลื่อน (2F) เลี้ยวซ้าย ออกประตู
เดินข้ามสะพานไป ก็จะเจอสถานีรถไฟ ที่ขายตั๋วอยู่ซ้าย คนมุงเยอะๆนี่ล่ะ ใช่เลย
นี่คือสายรถไฟ ดูยากใช่มั้ยล่ะ งงกันไปเลยล่ะ
แนะนำ www.hyperdia.com เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง เวลาที่จะให้ค้นหา มันจะบอกราคามา กดตามนั้นล่ะ ได้ 920 เยน ก็ใส่เงิน กดเลข 920 ตั๋วก็จะเด้งออกมา (ใส่แบงค์ 10000 มันทอนแบงค์ 1000 ได้นะครับ)
ได้ตั๋วแล้วกลับหลังหัน เดินมาอีกฝั่งนึง สอดตั๋วเข้าตู้ ตั๋วจะเด้งขึ้นมาไกลๆ หยิบแล้วเดินเข้ามา ไม่ต้องรีบครับ ถ้าไม่ดึงตั๋วประตูไม่ปิด
ลงมาก็หาที่นั่งได้เลย รถไฟขบวนนี้จะไปที่ สถานีนัมบะ นานไค (Namba Nankai Station) แต่เราจะนั่งไปที่ Tengachaya เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาลไปสถานี Ebisucho ที่พักเราอยู่ตรงนั้น (เปลี่ยนสายรถไฟตรงไหน Hyperdia บอกหมดครับ)
ถ่ายรูปตัวเองบ้าง ยินดีรู้จักนะครับทุกคน
แล้วเราก็มาถึง Tengachaya
มาต่อรถไฟฟ้าใต้ดินกันเถิดหนา เดินไกลเหมือนกันนะครับ
อันนี้แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลา บัตรเติมเงินรถไฟฟ้าใต้ดิน ช่วยให้เราไม่ต้องต่อแถวซื้อบัตร เพราะรถไฟฟ้าญี่ปุ่นตรงเวลามาก เราอาจจะมีเวลาแค่ 4 นาที จากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่ง มีไว้ก็ช่วยลดเวลาได้เยอะ
พร้อมแล้วสอดตั๋วเข้ามาเลย
บันได้เลื่อนหายากนะครับ (น่าจะมีแต่หาไม่เจอ) แบกเอาละกัน แข็งแรง
บรรยากาศบนรถไฟฟ้าใต้ดิน ห้ามคุยเสียงดังนะครับ รักษามารยาทด้วย
ถึงแล้ว สถานีบ้านใหม่ของเรา Ebisucho เป็นจุดหลักในการเดินทางเลย ยกเว้นจะเดิน 555555
จำป้ายทางอออกดีๆนะครับ เดี๋ยวหลง
อยู่ติดรถไฟฟ้าเลย เดินมายังไม่ทันเหงื่อออก ก็เจอแล้ว Tessa Apartment ขึ้นมาถึงนี่ร้อง ว้าวววว..ห้องสวยมาก
มีห้องนอนเล็ก 1 ห้อง ให้สาวๆสองคนนอน
ห้องน้ำแยกไว้ต่างหากกับที่อาบน้ำ สไตล์ญี่ปุ่นเค้าล่ะ
มีเครื่องซักผ้าให้ด้วย พร้อมมากจริงๆ
ในห้องอาบน้ำ มีอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้วย สบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม ถือว่าคุ้มสุดๆเลย ตกวันละ 300 กว่าบาทต่อคนเอง
หิวแล้วลงมาหาอะไรกิน เจอร้านราเมง 24 ชม.หน้าบ้านเลย จัดละ..เกลี้ยงในพริบตา (GPS : 34.656196, 135.505480)
ท้องอิ่มก็เดินต่อไป หาเสบียงตุนไว้ ตอนนี้เกือบตีหนึ่งละทุกคนยังไม่ง่วง ก็เวลาที่ไทยเพิ่งห้าทุ่มเองนิ
สุดท้ายก็มาจบที่นี่ 7-11 ไม้ตายจริงๆ
ใครชอบข้าวปั้นก็เลือกเอา ดูรูปแล้วเลือกเลย อร่อยหรือไม่ แล้วแต่ดวง
เดี๋ยวนอนไม่หลับ จัดเบียร์ซะหน่อย (หน่อยมากเลย)
ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน
เริ่มต้นเช้าแรกในโอซาก้า เราตื่นกันประมาณ 9.00น. โปรแกรมวันแรกคือเดินชมเมืองชิวๆ ผ่านจุดช้อปปิ้งต่างๆ เป็นการวอร์มร่างกาย (คำแนะนำ-โปรแกรมท่องเที่ยววันแรก อย่าจัดเยอะเกิน เพราะถ้าเหนื่อยหรือปวดขา วันหลังๆจะไม่สนุกนะครับ)
ตื่นมากินมาม่า (มันอร่อยหนา) อากาศวันนี้ดีมากๆ เช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นแม่นยำมาก จะได้วางแผนเที่ยวได้สนุกครับ เช็คได้ที่ http://www.jma.go.jp/en/week/#explain (เราใช้อันนี้ล่ะแม่นใช้ได้)
ออกเดินทาง ยังไม่พ้นช่วงตึกเลย กิเลสเกิดละ เจอเกมเซนเตอร์
แวะเสียตังนิดหน่อยพอกล้อมแกล้ม
ถนนเส้นหน้าบ้าน จะเต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเกมส์
ใครเป็นเซียนคีบตุ๊กตาน่าจะชอบนะ มีให้เลือกเล่นเป็นร้อยๆแบบ
ของเล่นสาวๆก็มีนะ กาชาปอง-หยอดไข่ เจอเป็นต้องหมดตัง ได้ไข่กลับบ้านมาเป็นโหล
ร้านรวงต่างๆที่น่าค้นหามากมาย
ร้าน Daiso ของแท้ออริจินัล 100 เยนทั้งร้าน แต่ไม่เคยจะจ่ายน้อยกว่า 1000 เยน
เราเดินกันไปเรื่อยๆ ลอดสถานีรถไฟนัมบะนานไค มาที่ ศาลเจ้านัมบะยาซากะ Nambayasaka Shrine (GPS : 34.661577, 135.496707 ) หรือศาลเจ้าหน้ายักษ์นี่เอง เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย แล้วไว้พระขอพรกัน
นี่คือที่มาของ ศาลเจ้าหน้ายักษ์
จุดขอพรและทำบุญ มีชาวญี่ปุ่นมาทำบุญไม่ขาดสาย
มุมขายเครื่องรางภายในศาลเจ้า คนขายพูดอังกฤษไม่ได้เราเลยอดซื้อ เพราะไม่รู้ว่าช่วยเสริมดวงอะไร
อันนี้หินไรไม่รู้ ถ่ายมาสวยดี
ออกจากศาลเจ้า เดินชมบ้านชมเมืองโอซาก้าแบบเบาๆ ไปถนนโดทมโบริกัน
แนะนำกาแฟใน Family Mart กดเอง อร่อยมาก เรากินทุกวัน เข้าไปเค้าเตอร์ ชี้ Café Frappe ได้แก้วมาก็เดินไปกดที่ตู้
แล้วออกมาบีบๆๆๆ ให้มันผสมกัน โบ้มมมมม...กลายเป็นกาแฟปั่น หวานนะครับขอเตือน ใครไม่ชอบหวานจงผ่านไป
เดินกลับมาที่ สถานีรถไฟนัมบะนานไค Namba Nankai Station (GPS : 34.662715, 135.502633 ) จุดศูนย์รวมของการเดินทางในย่านนี้ ปักหมุดไว้เลย วันกลับเราต้องมาขึ้นรถไฟที่นี่ตรงไปสนามบินคันไซ
[img]http://f.ptcdn.info/905/043/000/o9fo6gmcnJny7wLiEva-o.jpg[/i