ขอบคุณที่ทิ้งกัน : ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อโดนผัวทิ้ง [เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย]

เคยโดนทิ้งมั๊ยคะ?

ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้หรือไม่? มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก

เหมือนเราไม่อะไรดี ไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมายอะไรเหลืออีกแล้ว

ในโลกนี้ ไม่น่าจะมีสิ่งใดที่ทำให้ตัวเรารู้สึกไร้ค่า ไร้ความหมาย ได้เท่ากับการโดนคนที่เรารักทอดทิ้งไป

การโดนทิ้งทำให้ชีวิตหลายคนพัง บ้างก็เป็นรอยด่าง เป็นความทรงจำที่ไม่ดีชีวิต  

แต่สำหรับหลายๆคน รวมถึงตัวดิฉัน การถูกทิ้งในวันนั้น คือ จุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่

เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้หญิงคนนึง ได้กลับมาค้นพบคุณค่าในตัวเราเอง และความสุขที่แท้จริง




————-


ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน ดิฉันชื่อเล่นว่า “อ้ำ” ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทเอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่ง ที่ผ่านมาบริษัทเราที่ผ่านเราทำงานที่เรียกว่า “พีอาร์” ให้กับคนอื่นมากมาย รวมถึงทำเรื่อง “ภาพลักษณ์” ให้คนอื่นมาเยอะมาก ทำให้กับธุรกิจเล็กๆ ขนาดกลาง นักธุรกิจดังๆ เราแนะนำเขาได้หมดว่าจะต้องปรับปรุงภาพลักษณ์อย่างไร ใช้สื่ออย่างไรที่ทำให้ภาพที่สื่อออกมาดูดี แต่ที่ตลกมากๆ คือ อ้ำแทบไม่เคยดูแลเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเองเลย นี่คือรูปอ้ำสมัยก่อน....




หลายคนอาจจะสงสัยว่า
อ้าว ทำบริษัทด้านภาพลักษณ์แล้วไม่ดูแลตัวเองแบบนี้ ใครมาเห็นเขาจะเชื่อหรอ?
คำตอบคือ เขาเชื่อค่ะ แม้อ้ำจะเป็นทำงานเป็นหลักในออฟฟิศ
แต่คนที่ออกหน้าตลอด ตั้งแต่ขายงาน พรีเซนต์งาน เก็บเงินลูกค้า
คือเพื่ออ้ำอีกคนที่เป็นหุ้นส่วน พูดง่ายๆว่างานไหนใช้แรงอ้ำจะเป็นคนทำ
แต่งานไหนใช้หน้าตา อ้ำก็ให้เพื่อนทำ ฟังดูตลก แต่เป็นเรื่องจริง

เขียนไปเขียนมาเหมือนจะออกทะเล กลับเข้าเรื่องก่อนละกัน

เราเป็นคนต่างจังหวัด มีพื้นเพเป็นเด็ก  ปราจีนบุรี พ่อเป็นทหาร
ชีวิตวัยเด็กเติบโตและอยู่ในค่ายทหารมาร่วม 20 ปี  ฉะนั้นเรื่องความห้าวก็เต็มที่
ส่วนความสวยความงามแบบผู้หญิงก็ลืมไปได้เลย และด้วยความที่เป็นลูกทหารชั้นผู้น้อย  
พ่อก็จะสอนเสมอให้เราเจียมเนื้อเจียมตัว สมัยเด็กเรามีเพื่อนเป็นลูกนายร้อย นายพันที่เขาย้ายมา
คบได้ แต่ห้ามตีตัวเสมอ (พ่อเค้าเคร่งครัดเรื่องแบบนี้)  ที่บ้านต่างจังหวัด ย่าเรา เลี้ยงแบบเข้มงวด
ให้เราเป็นคนเจียมตัว อย่าทะเยอทะยาน ให้เสียสละให้น้องสาวเพราะเราเป็นพี่  
เราเลยกลายเป็นผู้หญิงที่โตมาเป็นผู้หญิงที่ ชอบทำงาน อดทนอดกลั้น เจียมตัว
ไม่รักสวยรักงาม คือเป็นคนที่มีลักษณะห้าวๆลุยๆ แต่จะไม่แข็งขืนกับใคร



เราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีโชคกับเรื่องรักเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะเป็นคนรักใครรักจริงและคบนาน แต่สุดท้ายด้วยความที่เราเป็นคนถึก บ้างาน และที่สำคัญไม่เป็นเรื่องการแต่งตัวเลย ความรักก็จืดจาง เพราะเราไม่มีความหวาน เดาว่าเราไม่มีเสน่ห์แบบที่ผู้ชายไทยชอบนัก อยากได้อะไรกมันกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ผู้ชายที่มาคบกับเรารู้สึกว่าเขาไม่ต้อง active อะไรก็ได้ เพราะเราดูแลตัวเองได้หมดแล้ว แต่จริงแล้วไม่ใช่เลย ลึกๆอ้ำว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากได้ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว มีความเป็นผู้นำ แม้ว่าเราจะทำงาน เลี้ยงตัวเองได้ แต่เราก็หวังให้คนที่จะมาเป้นคู่ชีวิตเรานั้น มีความรับผิดชอบ เติบโตก้าวหน้า และคิดถึงอนาคตของครอบครัว ของเรา และของลูก

แต่ประสบการณ์ส่วนตัวอ้ำไม่เคยเจอแบบนั้นเลย อ้ำเคยคบผู้ชายไทย 2 คน คนแรกเป็นแฟนกันที่คบตอนอยู่ต่างจังหวัดตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. เขาเป็นคนที่ดี รักเรามาก(ในแบบของเค้า) เราคบมาเรื่อยๆถึง 7-8 ปี ชีวิตไม่ไปไหน ไม่เห็นแววว่าเขาจะทำอะไร หรือจะเป็นหลักเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ แต่ประเด็นที่คิดย้อนไปแล้วน้ำตาจะไหลคือ เขาเป็นคนขี้หึงมาก (สมัยนั้นเราดีใจว่าเค้าคงรักเรามากๆ) เชื่อไหมว่า เค้าเคยขังเราไว้ในบ้านแล้วออกไปทำงาน ล็อคกลอนจากข้างนอก เราก็โง่เพราะแฟนบอกว่าหวงเลยรักมากไปไม่อยากให้ไปไหน ตอนนั้นทะเลาะกันเพราะเพื่อนในค่ายทหารมาคุยด้วยเฉยๆ แค่นั้นแหละแฟนจับล็อคไว้ แต่ไม่หนักเท่าครั้งหนึ่งที่ทะเลาะกันแล้วเค้าเอาเราขังไว้ในห้องเก็บของใต้บันได พอเราออกมาได้ เค้าก็เตะเราลงไปนอนกับพื้น แล้วยิ้มน้ำลายใส่หน้า เพื่อนๆเชื่อไหม ว่าตอนนั้นเราทนได้และรู้สึกว่าเราเป็นคนผิดเอง เพราะเค้าพูดจนเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลย เราเก็บมาตลอด เหมือนเป็นจุดดำมืดในชีวิต แต่ไหนๆอ้ำก็คิดจะเล่าแล้วก็ขอแชร์ให้หมดเลยละกัน ถ้ามีส่วนไหนดาร์กไปก็อย่าถือสาเลยนะ อ้ำเชื่อว่าผู้หญิงหลายๆคนก็อาจจะเคยเจอมาบ้าง เพียงแต่จะขุดมาเล่าให้คนอื่นฟังไหมก็เท่านั้นเอง

มีต่อ...
-----
* ขออนุญาติแท็กห้องแม่บ้านต่างแดนด้วย เพราะจะมีส่วนที่เกี่ยวกับสามีฝรั่ง เผื่อใครที่เจอประสบการณ์คล้ายๆกัน เราอาจจะแชร์กันได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่