หญิงสาวสวยชาวสยามแต่ปางก่อน — ความงดงามในห้วงเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา

หญิงสาวสวยชาวสยามแต่ปางก่อน — ความงดงามในห้วงเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา

ภาพเก่า-แต่งใหม่


— ความงามในห้วงเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา —
ในสังคมไทยสมัยโบราณ
ผู้คนโดยทั่วไป ไม่นิยมสวมเสื้อ
แม้ในโอกาสเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์
ถือเป็นธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาแต่เดิม

จนกระทั่งในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔)
ทรงเล็งเห็นถึงความเหมาะสมและภาพลักษณ์ของสยาม
ในสายตาชาวต่างประเทศ
จึงมีพระราชประกาศ
ให้ข้าราชการ สวมเสื้อเข้าเฝ้า
พร้อมทั้งทรงสนับสนุน
การศึกษาภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมตะวันตก
ภายในราชสำนัก

การเปลี่ยนแปลงนี้
ค่อย ๆ แผ่ขยายมาสู่
การแต่งกายของสตรีชาวสยาม
อย่างงดงามและมีแบบแผนมากขึ้น

ทรงผมของหญิงไทยในยุคนั้น
นิยมไว้ผมสั้น เรียกว่า “ผมปีก”
ความยาวไม่ถึงบ่า
ด้านหลังตัดสั้น บางรายโกนขึ้นสูง
คล้ายผมมหาดไทยของบุรุษ
มีการถอนไรผม
ให้เกิดรอยเส้นวงรอบผมปีกอย่างประณีต
ผมที่ตกลงบริเวณข้างหูทั้งสองข้าง
เรียกว่า “ผมทัด”
สะท้อนความเรียบร้อยและรสนิยมของยุคสมัย

การแต่งกาย
สตรีนุ่งผ้าลาย
ทั้งโจงกระเบนหรือผ้าจีบ
สวมเสื้อผ่าอก คอตั้งเตี้ย
ปลายแขนแคบ ยาวจรดข้อมือ
เสื้อมีลักษณะพอดีตัว
ยาวเพียงระดับเอว
เรียกว่า “เสื้อกระบอก”
จากนั้นห่ม แพรสไบจีบเฉียง
ทับบนเสื้ออีกชั้นหนึ่ง
ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕
เรียกว่า “แพรสพาย”
เป็นเอกลักษณ์ความงามแบบสยามแท้

เครื่องประดับ
สตรีชั้นสูงจะประดับกายอย่างงามสง่า
ด้วยกระเจียก ทับทรวง ตาด
พาหุรัด สะอิ้ง สร้อย และสังวาลย์
พร้อมหุ้มหูเพชร แหวนเพชร
สะท้อนฐานะและศิลปะการแต่งกายของราชสำนัก

หญิงสาวชาวสยามในยุคนั้น
งามด้วยความพอดี
งามด้วยระเบียบ
และงามด้วยจิตวิญญาณของยุคเปลี่ยนผ่าน
เป็นความงามที่ไม่ต้องเร่งรีบ
แต่ค่อย ๆ ผลิบาน
อย่างมั่นคงและสง่างาม





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่