เนื่องจากไม่ว่า จะ ผลโพล หรือ คอมเมนต์ในFacebook ที่ค่อนข้าง เอกฉันท์ ว่ามีคนชอบเยอะขึ้น ถ้าพูดตรงๆ ก็จากกระแส ชาตินิยม เรื่อง สงคราม ไทยและ กัมพูชา
ผมคงไม่อยากเป็นตัวขวางโลกหรือขวางสังคม ถ้าสังคมชอบในวิธี ที่ พรรคภูมิใจไทย หรือ โดยเฉพาะ นายก อนุทิน จัดการกับปัญหานี้ ผมก็ต้องยอมรับ และถึงแม้จะมีบางข้อ ที่ผมยังตั้งคำถาม และ เชื่อว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ , แต่ ผมจะละทิ้งประเด็นนี้ไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่า
แต่
ในกระทู้นี้ผมอยากให้คนที่อ่านเปิดใจ และ รับฟังว่า ทำไมผมคิดว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่สมควรเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า (Notthing personal, No hard feelings นะครับ พรรค ภูมิใจไทย)
เหตุผลที่ผมยังไม่สามารถสนับสนุนให้ พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า ไม่ได้อยู่ที่เรื่องสงคราม หรือกระแสชาตินิยมเพียงอย่างเดียว
แต่อยู่ที่ โครงสร้าง วิธีคิด และพฤติกรรมทางการเมืองที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง
1) ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บุคคล แต่อยู่ที่ “รูปแบบพรรค”
ผมไม่ได้โฟกัสแค่นายอนุทินในฐานะนายกฯ รักษาการ
แต่โฟกัสที่รูปแบบการเมืองของพรรคภูมิใจไทยโดยรวม
ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเป็นพรรคที่
– พร้อมร่วมรัฐบาลกับใครก็ได้
– เปลี่ยนจุดยืนได้ตามสถานการณ์
– และให้ความสำคัญกับ “อำนาจ” มากกว่า “อุดมการณ์”
คำถามคือ ถ้าพรรคไม่มีหลักยึดชัดเจน วันนี้อาจดูแข็งแรง
แต่วันข้างหน้า ใครจะรับประกันได้ว่าการตัดสินใจจะยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลักจริง?
2) การดูด สส. และบ้านใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย
แต่สำหรับผม มันสะท้อนแนวคิดที่ชัดมากว่า
พรรคนี้เติบโตด้วย “เครือข่ายอำนาจ” ไม่ใช่ “ความเชื่อร่วมกัน”
การรวมคนจำนวนมากที่มาจากหลากหลายพื้นเพ
โดยไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรมและนโยบายที่ชัด
อาจทำให้พรรคแข็งแรงในระยะสั้น
แต่เสี่ยงอย่างมากในระยะยาวต่อการคอร์รัปชันและการเมืองสีเทา
3) คำถามเรื่อง ส.ว. และอำนาจนอกระบบยังไม่เคยถูกตอบตรงๆไม่ว่าจะเป็นข้อครหาเรื่องความใกล้ชิดกับ ส.ว. หรือบทบาทในเกมการเมืองที่ทำให้กติกาประชาธิปไตยเดินต่อยาก
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ควรถูกกลบด้วยกระแสใดๆรัฐบาลที่ดี ไม่ควรได้อำนาจจาก “ทางลัด”
แต่ควรได้อำนาจจากความชอบธรรมที่ตรวจสอบได้ (ขอย้ำว่า ในข้อ นี้ ยังไม่ถูกยืนยันว่าจริง 100% และยังไม่มีคำตัดสินอย่างเป็นทางการว่า พรรค ภูมิใจไทย ทำจริง)
4) วิกฤตภายในประเทศสำคัญไม่แพ้วิกฤษชายแดน
แม้เรื่องความมั่นคงจะถูกพูดถึงมาก
แต่ปัญหาน้ำท่วม ภัยพิบัติ การบริหารท้องถิ่น
โดยเฉพาะในภาคใต้และหาดใหญ่
ยังทิ้งคำถามไว้มากว่า รัฐบาลนี้มีความพร้อมเชิงระบบจริงหรือไม่
การปกป้องประเทศ ไม่ได้มีแค่ปืนหรือทหาร
แต่รวมถึงการดูแลชีวิตประชาชนในยามวิกฤตด้วย
5) การเมืองที่ผมอยากเห็น คือการเมืองที่ “กลัวประชาชน” มากกว่า “กลัวเสียอำนาจ”
สิ่งที่ผมกังวลที่สุด ไม่ใช่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะแพ้หรือชนะ
แต่คือถ้าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง
จะมีแรงจูงใจมากพอไหมที่จะปฏิรูปตัวเอง
หรือจะเลือกเส้นทางเดิมที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
⸻
สุดท้ายนี้ ผมไม่ได้คาดหวังให้ทุกคนเห็นด้วยกับผม
และไม่ได้อยากให้ใครเลิกชอบพรรคภูมิใจไทยเพราะโพสต์นี้
ผมแค่อยากให้การเลือกตั้งครั้งหน้า
เป็นการตัดสินใจที่มอง ยาวกว่าอารมณ์ช่วงสั้น
และถามตัวเองให้ชัดว่า
เราอยากได้รัฐบาลที่ “เก่งเอาตัวรอด”
หรือรัฐบาลที่ “ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางจริงๆ”
ขอบคุณที่อ่านครับ และยินดีรับฟังทุกความเห็นด้วยความเคารพ 🙏
ทำไมผมถึงคิดว่า พรรคภูมิใจไทย ถึงไม่ควรเป็นรัฐบาลใน สมัยหน้า
ผมคงไม่อยากเป็นตัวขวางโลกหรือขวางสังคม ถ้าสังคมชอบในวิธี ที่ พรรคภูมิใจไทย หรือ โดยเฉพาะ นายก อนุทิน จัดการกับปัญหานี้ ผมก็ต้องยอมรับ และถึงแม้จะมีบางข้อ ที่ผมยังตั้งคำถาม และ เชื่อว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ , แต่ ผมจะละทิ้งประเด็นนี้ไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่า
แต่
ในกระทู้นี้ผมอยากให้คนที่อ่านเปิดใจ และ รับฟังว่า ทำไมผมคิดว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่สมควรเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า (Notthing personal, No hard feelings นะครับ พรรค ภูมิใจไทย)
เหตุผลที่ผมยังไม่สามารถสนับสนุนให้ พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า ไม่ได้อยู่ที่เรื่องสงคราม หรือกระแสชาตินิยมเพียงอย่างเดียว
แต่อยู่ที่ โครงสร้าง วิธีคิด และพฤติกรรมทางการเมืองที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง
1) ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บุคคล แต่อยู่ที่ “รูปแบบพรรค”
ผมไม่ได้โฟกัสแค่นายอนุทินในฐานะนายกฯ รักษาการ
แต่โฟกัสที่รูปแบบการเมืองของพรรคภูมิใจไทยโดยรวม
ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเป็นพรรคที่
– พร้อมร่วมรัฐบาลกับใครก็ได้
– เปลี่ยนจุดยืนได้ตามสถานการณ์
– และให้ความสำคัญกับ “อำนาจ” มากกว่า “อุดมการณ์”
คำถามคือ ถ้าพรรคไม่มีหลักยึดชัดเจน วันนี้อาจดูแข็งแรง
แต่วันข้างหน้า ใครจะรับประกันได้ว่าการตัดสินใจจะยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลักจริง?
2) การดูด สส. และบ้านใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย
แต่สำหรับผม มันสะท้อนแนวคิดที่ชัดมากว่า
พรรคนี้เติบโตด้วย “เครือข่ายอำนาจ” ไม่ใช่ “ความเชื่อร่วมกัน”
การรวมคนจำนวนมากที่มาจากหลากหลายพื้นเพ
โดยไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรมและนโยบายที่ชัด
อาจทำให้พรรคแข็งแรงในระยะสั้น
แต่เสี่ยงอย่างมากในระยะยาวต่อการคอร์รัปชันและการเมืองสีเทา
3) คำถามเรื่อง ส.ว. และอำนาจนอกระบบยังไม่เคยถูกตอบตรงๆไม่ว่าจะเป็นข้อครหาเรื่องความใกล้ชิดกับ ส.ว. หรือบทบาทในเกมการเมืองที่ทำให้กติกาประชาธิปไตยเดินต่อยาก
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ควรถูกกลบด้วยกระแสใดๆรัฐบาลที่ดี ไม่ควรได้อำนาจจาก “ทางลัด”
แต่ควรได้อำนาจจากความชอบธรรมที่ตรวจสอบได้ (ขอย้ำว่า ในข้อ นี้ ยังไม่ถูกยืนยันว่าจริง 100% และยังไม่มีคำตัดสินอย่างเป็นทางการว่า พรรค ภูมิใจไทย ทำจริง)
4) วิกฤตภายในประเทศสำคัญไม่แพ้วิกฤษชายแดน
แม้เรื่องความมั่นคงจะถูกพูดถึงมาก
แต่ปัญหาน้ำท่วม ภัยพิบัติ การบริหารท้องถิ่น
โดยเฉพาะในภาคใต้และหาดใหญ่
ยังทิ้งคำถามไว้มากว่า รัฐบาลนี้มีความพร้อมเชิงระบบจริงหรือไม่
การปกป้องประเทศ ไม่ได้มีแค่ปืนหรือทหาร
แต่รวมถึงการดูแลชีวิตประชาชนในยามวิกฤตด้วย
5) การเมืองที่ผมอยากเห็น คือการเมืองที่ “กลัวประชาชน” มากกว่า “กลัวเสียอำนาจ”
สิ่งที่ผมกังวลที่สุด ไม่ใช่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะแพ้หรือชนะ
แต่คือถ้าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง
จะมีแรงจูงใจมากพอไหมที่จะปฏิรูปตัวเอง
หรือจะเลือกเส้นทางเดิมที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว
⸻
สุดท้ายนี้ ผมไม่ได้คาดหวังให้ทุกคนเห็นด้วยกับผม
และไม่ได้อยากให้ใครเลิกชอบพรรคภูมิใจไทยเพราะโพสต์นี้
ผมแค่อยากให้การเลือกตั้งครั้งหน้า
เป็นการตัดสินใจที่มอง ยาวกว่าอารมณ์ช่วงสั้น
และถามตัวเองให้ชัดว่า
เราอยากได้รัฐบาลที่ “เก่งเอาตัวรอด”
หรือรัฐบาลที่ “ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางจริงๆ”
ขอบคุณที่อ่านครับ และยินดีรับฟังทุกความเห็นด้วยความเคารพ 🙏