‘โรม’ ซัดการต่างประเทศไทยทำได้แค่นี้ ชำแหละรัฐบาลอุนทินเหลวแก้ปัญหาชายแดน
https://www.dailynews.co.th/news/5407890/
.

.
‘โรม’ซัดการต่างประเทศไทยทำได้เพียง‘แค่นี้’ ปมขัดแย้ง ‘ไทย-กัมพูชา’ ชำแหละความล้มเหลวการแก้ปัญหาชายแดนของรัฐบาล ‘อนุทิน’เปลี่ยนสถานการณ์จาก ‘โลกอยู่ข้างไทย’ ไปสู่ ‘โลกล้อมไทย’ หวั่นกัมพูชามีเครื่องจักรสงครามที่ อาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้
.
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นาย
รังสิมันต์ โรม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรรประชาชนโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
.
ท่ามกลางการสู้รบ ในสงครามของฮุน เซน ที่ดูเหมือนจะลากยาวกว่าที่หลายฝ่ายประเมิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาวุธของฝ่ายกัมพูชาดีกว่าที่ประเมินกันไว้ ซึ่งอาจเป็นเพราะชาติมหาอำนาจบางชาติให้การสนับสนุนตามที่เคยเป็นข่าว แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาเตรียมพร้อมเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน เราก็ไม่รู้อีกว่ากัมพูชาได้รับการสนับสนุนด้านงานข่าวจากใครหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชากำลังยกระดับอย่างน่ากังวล หากงานต่างประเทศของเราทำได้เพียง “แค่นี้” ยังไม่นับว่าพันธมิตรเก่าแก่ของประเทศไทย อย่างสหรัฐอเมริกา ก็ดูเหมือนจะไม่สนับสนุนบทบาทของไทย และยังมีท่าทีในการกดดันประเทศไทยอย่างหนัก เป็นที่ชัดเจนว่าผลการพูดคุยกับคุณอนุทินออกมาในทิศทางที่ส่งผลลบต่อประเทศไทย นี่จึงเป็นอีกครั้งที่งานต่างประเทศของเราทำได้เพียง “แค่นี้”
.
นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า
ทั้งอาวุธของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นโดรนแบบกามิกาเซ่ การสนับสนุนอาวุธจากบางชาติ รวมถึงท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ออกมาในลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่คาดหมายไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคงย่อมรู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แต่คำถามคือ เพราะเหตุใดรัฐบาลจึงปล่อยให้งานต่างประเทศทำได้เพียง “แค่นี้” การที่กัมพูชาเลือกใช้แท็กติกทำตัวเป็นเหยื่อเพื่อหลอกสายตาสังคมโลกและสร้างความเห็นใจ เป็นวิธีการที่หลายฝ่ายพยายามนำเสนอต่อรัฐบาลให้ระมัดระวัง โดยเฉพาะในสนามต่างประเทศซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากจัดการไม่ดี เราอาจกำลังสร้างมิตรให้กับฝ่ายศัตรูโดยไม่รู้ตัว (ซึ่งเป็นงานถนัดของคุณอนุทิน) การที่งานต่างประเทศได้เพียง “แค่นี้” ทำให้วันนี้กัมพูชาได้รับการสนับสนุนและสามารถกดดันประเทศไทยโดยอาศัยชาติมหาอำนาจ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชามีเครื่องจักรสงครามที่อาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้ ความล้มเหลวของรัฐบาลภายใต้การนำของคุณอนุทิน ได้เปลี่ยนสถานการณ์จาก “โลกอยู่ข้างไทย” ไปสู่ “โลกล้อมไทย” ผมไม่แน่ใจว่าคุณอนุทินรู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่
.
นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า
เครื่องจักรต้องอาศัยน้ำมัน และสงครามก็มีต้นทุนสูง ที่ผ่านมาหลายฝ่ายเตือนรัฐบาลว่า หากไม่ทำลายเครือข่ายสแกมเมอร์ โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ฮุน เซน จะมีท่อน้ำเลี้ยงสำหรับหล่อเลี้ยงสงครามอย่างไม่สิ้นสุด ระเบิดแต่ละลูกมีราคาสูง ยังไม่นับโดรน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการติดต่อประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงกดดันต่อประเทศไทย ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงิน และเงินเหล่านั้นก็มาจากเงินสแกมเมอร์ที่ดูดมาจากประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน ความล่าช้าในการปราบปรามสแกมเมอร์ การปล่อยให้ เบน สมิธ ลอยนวล ไม่มีการออกหมายจับ ไม่มีหมายแดง การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการช่วยเหลือเบน สมิธ คุณอนุทินพูดเองว่ารู้จัก แต่ไม่สนิท ทว่ารู้มากพอว่าคนแบบนี้ไม่ควรให้สัญชาติ ถ้ารู้ขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่รีบจัดการตั้งแต่ก่อนที่เขาจะออกไปอยู่ต่างประเทศ และอย่าลืมว่า เบน สมิธ คือที่ปรึกษาของฮุน เซน เขาเชี่ยวชาญการเล่นกลทางการเงิน การที่เขามาอยู่เมืองไทย เขาทำงานให้ใคร และมีเครือข่ายชนชั้นนำจำนวนมากเป็นพวกพ้อง แบบนี้ไม่เท่ากับว่าทุนเทากำลังยึดประเทศไทยจากใจกลางเมืองหลวง โดยที่คุณอนุทินกำลังบกพร่องต่อหน้าที่อยู่หรือไม่
.
“ยิ่งไปกว่านั้น ยังปล่อยให้รัฐมนตรีสายเทาที่สนิทชิดเชื้อกับนายเบน สมิธ มีอำนาจใหญ่คับฟ้า คนเหล่านี้มีบทบาทไม่ต่างอะไรกับการช่วยทุนเทายึดประเทศ แล้วคุณอนุทินได้ทำอะไรบ้าง คุณธรรมนัสเคยให้ข้อมูลผ่านสื่อว่าใครบ้างที่รู้จักกับนายเบน สมิธ จนถึงตอนนี้ การสอบสวนไปถึงไหนแล้ว หากสุดท้ายรัฐบาลนี้อุ้มชูโจร และไม่จัดการกับโจร เราควรเรียกรัฐบาลนี้ว่าอย่างไร สุดท้ายนี้ เราคงไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลนี้ได้อีกต่อไป ก็ได้แต่หวังว่า ปปง. ก.ล.ต. รวมไปถึงองค์กรตำรวจ จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนยังเหลือความหวังในการเอาชนะศึกครั้งนี้ด้วยเถอะครับ”นายรังสิมันต์ระบุ..
.
https://www.facebook.com/rangsimanrome/posts/pfbid032hCtCiAiracBNUv7hcitruw8gzyzdAQLz1vEfD9YtkMSAxv4TNxhDzh5BZY5SK41l
.
.
เจออีกแล้ว อาวุธทันสมัยสัญชาติจีนของเขมร พบบนเนิน 500 หลังทหารไทยบุกยึดพื้นที่คืนสำเร็จ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10061394
.
ถ้ายึดไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น! เจออีกแล้ว อาวุธทันสมัยสัญชาติจีนของเขมร พบบนเนิน 500 หลังทหารไทยบุกยึดพื้นที่คืนสำเร็จ แต่ละอย่างสุดอันตราย
.
วันที่ 15 ธ.ค.68 เฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์ภาพอาวุธทันสมัยหลากหลายชนิดของกัมพูชา ที่ถูกทหารยึดได้บนเนิน500 หลังเพิ่งเข้าตีและปักธงชาติไทยได้สำเร็จ โดยระบุข้อความว่า
.
ทหาร ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนจากทหารกัมพูชาได้เป็นจำนวนมาก บนเนิน 500 ภายหลังปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่สำเร็จ อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งเป็นลูกระเบิดที่ใช้งานร่วมกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน และกระสุนชนิดต่างๆ
.
และเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 mm. ขนาดยาว 900 mm. ผลิตโดยบริษัทนอริงโก้ ประเทศจีน ถูกจัดให้เป็นเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังและต่อต้านบังเกอร์ (Anti-tank & Anti-bunker) มีระยะยิงหวังผล 200 เมตร และระยะยิงสูงสุด 400 เมตร
.
Norinco PF-89 เป็นอาวุธสำหรับทหารราบที่สามารถพกพาได้ง่าย น้ำหนักเบา ประมาณ 3.7 กิโลกรัม ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง (Single-shot, disposable launch tube)
.
จรวดต่อต้านรถถัง PF-89 (Type 89) มีการพัฒนารุ่นย่อยหลายรุ่นเพื่อใช้หัวรบที่ตอบสนองต่อเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป รุ่นพื้นฐานคือ PF-89 และ PF-89A ซึ่งใช้หัวรบแบบ HEAT (High-Explosive Anti-Tank) เป็นหลัก โดยเน้นการสร้างลำไอพ่นพลังงานสูงเพื่อเจาะเกราะยานพาหนะเบาถึงปานกลาง
.
สำหรับรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับรถถังสมัยใหม่ที่มีเกราะป้องกันพิเศษ เช่น เกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด (ERA) คือรุ่น PF-89B ซึ่งใช้หัวรบแบบ Tandem Shaped-Charge HEAT หัวรบแบบนี้จะมีส่วนนำขนาดเล็กยิงออกไปทำลาย ERA ก่อนที่หัวรบหลักจะตามไปเจาะเกราะจริง ๆ
.
นอกจากหัวรบสำหรับยานเกราะแล้ว ยังมีหัวรบสำหรับทำลายเป้าหมายในอาคารหรือกำลังพลในที่กำบัง คือรุ่น WPF-89-1 และ WPF-89-2 ที่ใช้หัวรบแบบ Thermobaric ซึ่งจะสร้างคลื่นระเบิดและแรงดันสูงในวงกว้าง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการทำลายล้างในพื้นที่ปิดอีกด้วย
.
.
เศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังไม่พ้นขีดอันตราย ทีดีอาร์ไอชี้ ‘จีดีพี’ โตถดถอยอีก 10 ปี
https://www.matichon.co.th/economy/news_5506248
.
เศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังไม่พ้นขีดอันตราย ทีดีอาร์ไอชี้จีดีพีโตถดถอยอีก 10 ปี
.
เศรษฐกิจไทยปี 2569 – จับสัญญาณเศรษฐกิจไทยในปี 2569 ในมุมมองของ
นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 2569 จะดีหรือไม่ ดูที่การเติบโตของจีดีพี โดยพื้นฐานตามศักยภาพแล้วเศรษฐกิจไทยควรโต 2.7% ต่อปี แต่ช่วงหลังโตไม่ถึง ซึ่งปี 2568 อาจโตเต็มที่ 2-2.2% ถือว่ายังต่ำ ปีหน้าอาจจะอันตรายกว่าเดิม เพราะอาจเหลือแค่ 1.7%
.
จึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังเติบโต แต่เป็นการโตแบบต่ำกว่าศักยภาพ ต้องยอมรับว่าปีหน้าเป็นปีที่รัฐบาลปัจจุบันอาจจะอยู่ไม่ครบทั้งปี เพราะมีการเลือกตั้งใหม่ การเดินหน้าเศรษฐกิจจึงมองได้เป็นสองส่วนคือ ช่วงที่รัฐบาลนี้ยังทำได้กับสิ่งที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา
.
“
รัฐบาลนี้มีเวลาแค่ 4 เดือน สิ่งที่ทำได้จะเป็นสิ่งที่เห็นผลเร่งด่วน แต่ไม่กระทบการทำงานรัฐบาลหน้าที่ต้องบริหารประเทศ 4 ปี จึงไม่ควรทำอะไรที่เป็นผลผูกพัน ทำให้รัฐบาลที่จะเข้ามาทำงานต้องสะดุด เช่น แผนการพัฒนาประเทศแบบใหญ่ๆ หรือมีอะไรที่ต้องอาศัยงบผูกพัน ซึ่งไม่ควรเร่ง ควรให้รัฐบาลใหม่ที่ประชาชนเลือกเป็นผู้คัดเลือกว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร รวมถึงการใช้งบประมาณปี 2569 ที่คาบเกี่ยวเดือนตุลาคม-กันยายน 2569 ถ้ารัฐบาลปัจจุบันใช้เงินไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก ทำนโยบายควิก
.
บิ๊กวิน ต้องระวังไม่ใช้เงินมากจนรัฐบาลหน้าไม่มีเงินใช้ ไม่ว่างบกลางที่ต้องใช้กรณีฉุกเฉิน เพราะไม่อย่างนั้นในช่วงไตรมาส2และไตรมาส 3 จะแห้งมาก เพราะจะไม่มีเงิน รัฐบาลขาดสภาพคล่องและจะกระทบเศรษฐกิจ”
.
นณริฏ กล่าวว่า ด้วยเวลาที่รัฐบาลมีจำกัด คิดว่าหลายๆมาตรการ เช่น คนละครึ่งพลัส รวมถึงความพยายามช่วยแก้หนี้ต่างๆ การแก้หนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่รัฐบาลได้ทำไปแล้ว ส่วนที่เหลือต้องพยายามเข้าสู่โหมดเลือกตั้งให้เร็วที่สุด และพยายามเคลียร์ปัญหาการเมืองให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะให้รัฐบาลหน้าเข้ามาและอยู่ได้อย่างยาวๆ ไม่เจออุบัติเหตุทางด้านการเมืองจนทำให้มีการออกนโยบายทางเศรษฐกิจไม่ได้
.
เมื่อถามว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์หรือไม่“
นณริฏ”มองว่า การลงทุนเมกะโปรเจ็กต์เป็นไอเดียที่ไปได้ ถ้าโครงการมีการประเมินที่ดี มีผลตอบแทนและสร้างรายได้สูง แต่ก็เป็นดาบสองคบ ถ้าลงทุนพลาดไม่เกิดขึ้นจริงจะกลายเป็นความสูญเปล่า เหมือนกับ”โฮปเวลล์” ซึ่งที่ผ่านมาไทยมีโครงการใหญ่หลายโครงการ ฟังดูดีแต่ท้ายสุดมันไม่เกิดผล สิ่งสำคัญต้องพิจารณาให้ชัด ต้องเกิดจริง เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจ ไม่งั้นอย่าทำดีกว่า นอกจากนี้มองว่าไทยอาจจะพ้นยุคที่ต้องหาโครการใหญ่ๆแล้ว ต้องมองโครงการเล็กๆ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด เกิดประโยชน์ เช่น ทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก ช่วยได้ทั้งเกษตรและผันเงินสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็ว
.
ส่วน โครงการรถไฟฟ้า หรือรถไฟความเร็วสูง ถ้ามองทางเศรษฐกิจ ต้องดูว่าสร้างรายได้ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ถ้าพูดถึงรถไฟฟ้าในกรุงเทพในปัจจุบันสร้างเต็มไปหมด ความเชื่อมโยงถ้าเทียบกับสมัยก่อน เมื่อมีการสร้างรถไฟฟ้า ทำให้อสังหาฯบูมตามรถไฟฟ้าด้วย แต่ปัจจุบันมันเริ่มไม่ค่อยเกิดแล้ว แสดงว่าในแง่ประโยชน์การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจมันจำกัดแล้ว แต่อาจจะมีคุณประโยชน์ทางอื่น เช่น มุมทางสังคม ช่วยลดต้นทุน ให้คนยากจนเข้าถึงโครงสร้างเข้ามาทำงานในเมืองได้ง่าย ถ้ารัฐบาลจะลงทุนก็ต้องเน้นไปในมุมนี้ แต่ถ้าวิเคราะห์ในมุมเศรษฐกิจคิดว่ารถไฟฟ้าประโยชน์เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆแล้ว ส่วนรถไฟความเร็วสูงตอนนี้มีแค่โครงการเดียวสร้างจากกรุงเทพ-นครราชสีมา แต่โครงการสร้างไปถึงหนองคายยังไม่มีงบ และจากผลการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยเกิดขึ้น
.
“
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแบบนี้ ถ้ารัฐจะสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลได้ น่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานอีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจ โดยการทำให้ประชาชนเข้ามาในโลกธุรกิจที่สามารถขายของทางออนไลน์ได้มากขึ้น ไม่ต้องสร้างถนน รถไฟฟ้าแล้ว เพราะดิจิทัลไปถึงทุกคนแล้ว ด้วยการอัพสกิลและรีสกิลผู้ประกอบการให้เก่งจนมาขายบนแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้วได้”
JJNY : ‘โรม’ซัดการต่างประเทศไทยทำได้แค่นี้│เจออีกแล้ว อาวุธจีนของเขมร│ศก.ปี 69 ยังไม่พ้นขีดอันตราย│เตือนมรสุมถล่มใต้ล่าง
https://www.dailynews.co.th/news/5407890/
.
.
‘โรม’ซัดการต่างประเทศไทยทำได้เพียง‘แค่นี้’ ปมขัดแย้ง ‘ไทย-กัมพูชา’ ชำแหละความล้มเหลวการแก้ปัญหาชายแดนของรัฐบาล ‘อนุทิน’เปลี่ยนสถานการณ์จาก ‘โลกอยู่ข้างไทย’ ไปสู่ ‘โลกล้อมไทย’ หวั่นกัมพูชามีเครื่องจักรสงครามที่ อาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้
.
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายรังสิมันต์ โรม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรรประชาชนโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
.
ท่ามกลางการสู้รบ ในสงครามของฮุน เซน ที่ดูเหมือนจะลากยาวกว่าที่หลายฝ่ายประเมิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาวุธของฝ่ายกัมพูชาดีกว่าที่ประเมินกันไว้ ซึ่งอาจเป็นเพราะชาติมหาอำนาจบางชาติให้การสนับสนุนตามที่เคยเป็นข่าว แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาเตรียมพร้อมเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน เราก็ไม่รู้อีกว่ากัมพูชาได้รับการสนับสนุนด้านงานข่าวจากใครหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชากำลังยกระดับอย่างน่ากังวล หากงานต่างประเทศของเราทำได้เพียง “แค่นี้” ยังไม่นับว่าพันธมิตรเก่าแก่ของประเทศไทย อย่างสหรัฐอเมริกา ก็ดูเหมือนจะไม่สนับสนุนบทบาทของไทย และยังมีท่าทีในการกดดันประเทศไทยอย่างหนัก เป็นที่ชัดเจนว่าผลการพูดคุยกับคุณอนุทินออกมาในทิศทางที่ส่งผลลบต่อประเทศไทย นี่จึงเป็นอีกครั้งที่งานต่างประเทศของเราทำได้เพียง “แค่นี้”
.
นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า ทั้งอาวุธของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นโดรนแบบกามิกาเซ่ การสนับสนุนอาวุธจากบางชาติ รวมถึงท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ออกมาในลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่คาดหมายไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคงย่อมรู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แต่คำถามคือ เพราะเหตุใดรัฐบาลจึงปล่อยให้งานต่างประเทศทำได้เพียง “แค่นี้” การที่กัมพูชาเลือกใช้แท็กติกทำตัวเป็นเหยื่อเพื่อหลอกสายตาสังคมโลกและสร้างความเห็นใจ เป็นวิธีการที่หลายฝ่ายพยายามนำเสนอต่อรัฐบาลให้ระมัดระวัง โดยเฉพาะในสนามต่างประเทศซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากจัดการไม่ดี เราอาจกำลังสร้างมิตรให้กับฝ่ายศัตรูโดยไม่รู้ตัว (ซึ่งเป็นงานถนัดของคุณอนุทิน) การที่งานต่างประเทศได้เพียง “แค่นี้” ทำให้วันนี้กัมพูชาได้รับการสนับสนุนและสามารถกดดันประเทศไทยโดยอาศัยชาติมหาอำนาจ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชามีเครื่องจักรสงครามที่อาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้ ความล้มเหลวของรัฐบาลภายใต้การนำของคุณอนุทิน ได้เปลี่ยนสถานการณ์จาก “โลกอยู่ข้างไทย” ไปสู่ “โลกล้อมไทย” ผมไม่แน่ใจว่าคุณอนุทินรู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่
.
นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า เครื่องจักรต้องอาศัยน้ำมัน และสงครามก็มีต้นทุนสูง ที่ผ่านมาหลายฝ่ายเตือนรัฐบาลว่า หากไม่ทำลายเครือข่ายสแกมเมอร์ โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ฮุน เซน จะมีท่อน้ำเลี้ยงสำหรับหล่อเลี้ยงสงครามอย่างไม่สิ้นสุด ระเบิดแต่ละลูกมีราคาสูง ยังไม่นับโดรน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการติดต่อประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงกดดันต่อประเทศไทย ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงิน และเงินเหล่านั้นก็มาจากเงินสแกมเมอร์ที่ดูดมาจากประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน ความล่าช้าในการปราบปรามสแกมเมอร์ การปล่อยให้ เบน สมิธ ลอยนวล ไม่มีการออกหมายจับ ไม่มีหมายแดง การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการช่วยเหลือเบน สมิธ คุณอนุทินพูดเองว่ารู้จัก แต่ไม่สนิท ทว่ารู้มากพอว่าคนแบบนี้ไม่ควรให้สัญชาติ ถ้ารู้ขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่รีบจัดการตั้งแต่ก่อนที่เขาจะออกไปอยู่ต่างประเทศ และอย่าลืมว่า เบน สมิธ คือที่ปรึกษาของฮุน เซน เขาเชี่ยวชาญการเล่นกลทางการเงิน การที่เขามาอยู่เมืองไทย เขาทำงานให้ใคร และมีเครือข่ายชนชั้นนำจำนวนมากเป็นพวกพ้อง แบบนี้ไม่เท่ากับว่าทุนเทากำลังยึดประเทศไทยจากใจกลางเมืองหลวง โดยที่คุณอนุทินกำลังบกพร่องต่อหน้าที่อยู่หรือไม่
.
“ยิ่งไปกว่านั้น ยังปล่อยให้รัฐมนตรีสายเทาที่สนิทชิดเชื้อกับนายเบน สมิธ มีอำนาจใหญ่คับฟ้า คนเหล่านี้มีบทบาทไม่ต่างอะไรกับการช่วยทุนเทายึดประเทศ แล้วคุณอนุทินได้ทำอะไรบ้าง คุณธรรมนัสเคยให้ข้อมูลผ่านสื่อว่าใครบ้างที่รู้จักกับนายเบน สมิธ จนถึงตอนนี้ การสอบสวนไปถึงไหนแล้ว หากสุดท้ายรัฐบาลนี้อุ้มชูโจร และไม่จัดการกับโจร เราควรเรียกรัฐบาลนี้ว่าอย่างไร สุดท้ายนี้ เราคงไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลนี้ได้อีกต่อไป ก็ได้แต่หวังว่า ปปง. ก.ล.ต. รวมไปถึงองค์กรตำรวจ จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนยังเหลือความหวังในการเอาชนะศึกครั้งนี้ด้วยเถอะครับ”นายรังสิมันต์ระบุ..
.
https://www.facebook.com/rangsimanrome/posts/pfbid032hCtCiAiracBNUv7hcitruw8gzyzdAQLz1vEfD9YtkMSAxv4TNxhDzh5BZY5SK41l
.
.
เจออีกแล้ว อาวุธทันสมัยสัญชาติจีนของเขมร พบบนเนิน 500 หลังทหารไทยบุกยึดพื้นที่คืนสำเร็จ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10061394
.
ถ้ายึดไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น! เจออีกแล้ว อาวุธทันสมัยสัญชาติจีนของเขมร พบบนเนิน 500 หลังทหารไทยบุกยึดพื้นที่คืนสำเร็จ แต่ละอย่างสุดอันตราย
.
วันที่ 15 ธ.ค.68 เฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์ภาพอาวุธทันสมัยหลากหลายชนิดของกัมพูชา ที่ถูกทหารยึดได้บนเนิน500 หลังเพิ่งเข้าตีและปักธงชาติไทยได้สำเร็จ โดยระบุข้อความว่า
.
ทหาร ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนจากทหารกัมพูชาได้เป็นจำนวนมาก บนเนิน 500 ภายหลังปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่สำเร็จ อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งเป็นลูกระเบิดที่ใช้งานร่วมกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน และกระสุนชนิดต่างๆ
.
และเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 mm. ขนาดยาว 900 mm. ผลิตโดยบริษัทนอริงโก้ ประเทศจีน ถูกจัดให้เป็นเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังและต่อต้านบังเกอร์ (Anti-tank & Anti-bunker) มีระยะยิงหวังผล 200 เมตร และระยะยิงสูงสุด 400 เมตร
.
Norinco PF-89 เป็นอาวุธสำหรับทหารราบที่สามารถพกพาได้ง่าย น้ำหนักเบา ประมาณ 3.7 กิโลกรัม ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง (Single-shot, disposable launch tube)
.
จรวดต่อต้านรถถัง PF-89 (Type 89) มีการพัฒนารุ่นย่อยหลายรุ่นเพื่อใช้หัวรบที่ตอบสนองต่อเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป รุ่นพื้นฐานคือ PF-89 และ PF-89A ซึ่งใช้หัวรบแบบ HEAT (High-Explosive Anti-Tank) เป็นหลัก โดยเน้นการสร้างลำไอพ่นพลังงานสูงเพื่อเจาะเกราะยานพาหนะเบาถึงปานกลาง
.
สำหรับรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับรถถังสมัยใหม่ที่มีเกราะป้องกันพิเศษ เช่น เกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด (ERA) คือรุ่น PF-89B ซึ่งใช้หัวรบแบบ Tandem Shaped-Charge HEAT หัวรบแบบนี้จะมีส่วนนำขนาดเล็กยิงออกไปทำลาย ERA ก่อนที่หัวรบหลักจะตามไปเจาะเกราะจริง ๆ
.
นอกจากหัวรบสำหรับยานเกราะแล้ว ยังมีหัวรบสำหรับทำลายเป้าหมายในอาคารหรือกำลังพลในที่กำบัง คือรุ่น WPF-89-1 และ WPF-89-2 ที่ใช้หัวรบแบบ Thermobaric ซึ่งจะสร้างคลื่นระเบิดและแรงดันสูงในวงกว้าง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการทำลายล้างในพื้นที่ปิดอีกด้วย
.
.
เศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังไม่พ้นขีดอันตราย ทีดีอาร์ไอชี้ ‘จีดีพี’ โตถดถอยอีก 10 ปี
https://www.matichon.co.th/economy/news_5506248
.
เศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังไม่พ้นขีดอันตราย ทีดีอาร์ไอชี้จีดีพีโตถดถอยอีก 10 ปี
.
เศรษฐกิจไทยปี 2569 – จับสัญญาณเศรษฐกิจไทยในปี 2569 ในมุมมองของ นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 2569 จะดีหรือไม่ ดูที่การเติบโตของจีดีพี โดยพื้นฐานตามศักยภาพแล้วเศรษฐกิจไทยควรโต 2.7% ต่อปี แต่ช่วงหลังโตไม่ถึง ซึ่งปี 2568 อาจโตเต็มที่ 2-2.2% ถือว่ายังต่ำ ปีหน้าอาจจะอันตรายกว่าเดิม เพราะอาจเหลือแค่ 1.7%
.
จึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังเติบโต แต่เป็นการโตแบบต่ำกว่าศักยภาพ ต้องยอมรับว่าปีหน้าเป็นปีที่รัฐบาลปัจจุบันอาจจะอยู่ไม่ครบทั้งปี เพราะมีการเลือกตั้งใหม่ การเดินหน้าเศรษฐกิจจึงมองได้เป็นสองส่วนคือ ช่วงที่รัฐบาลนี้ยังทำได้กับสิ่งที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา
.
“รัฐบาลนี้มีเวลาแค่ 4 เดือน สิ่งที่ทำได้จะเป็นสิ่งที่เห็นผลเร่งด่วน แต่ไม่กระทบการทำงานรัฐบาลหน้าที่ต้องบริหารประเทศ 4 ปี จึงไม่ควรทำอะไรที่เป็นผลผูกพัน ทำให้รัฐบาลที่จะเข้ามาทำงานต้องสะดุด เช่น แผนการพัฒนาประเทศแบบใหญ่ๆ หรือมีอะไรที่ต้องอาศัยงบผูกพัน ซึ่งไม่ควรเร่ง ควรให้รัฐบาลใหม่ที่ประชาชนเลือกเป็นผู้คัดเลือกว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร รวมถึงการใช้งบประมาณปี 2569 ที่คาบเกี่ยวเดือนตุลาคม-กันยายน 2569 ถ้ารัฐบาลปัจจุบันใช้เงินไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก ทำนโยบายควิก
.
บิ๊กวิน ต้องระวังไม่ใช้เงินมากจนรัฐบาลหน้าไม่มีเงินใช้ ไม่ว่างบกลางที่ต้องใช้กรณีฉุกเฉิน เพราะไม่อย่างนั้นในช่วงไตรมาส2และไตรมาส 3 จะแห้งมาก เพราะจะไม่มีเงิน รัฐบาลขาดสภาพคล่องและจะกระทบเศรษฐกิจ”
.
นณริฏ กล่าวว่า ด้วยเวลาที่รัฐบาลมีจำกัด คิดว่าหลายๆมาตรการ เช่น คนละครึ่งพลัส รวมถึงความพยายามช่วยแก้หนี้ต่างๆ การแก้หนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่รัฐบาลได้ทำไปแล้ว ส่วนที่เหลือต้องพยายามเข้าสู่โหมดเลือกตั้งให้เร็วที่สุด และพยายามเคลียร์ปัญหาการเมืองให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะให้รัฐบาลหน้าเข้ามาและอยู่ได้อย่างยาวๆ ไม่เจออุบัติเหตุทางด้านการเมืองจนทำให้มีการออกนโยบายทางเศรษฐกิจไม่ได้
.
เมื่อถามว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์หรือไม่“นณริฏ”มองว่า การลงทุนเมกะโปรเจ็กต์เป็นไอเดียที่ไปได้ ถ้าโครงการมีการประเมินที่ดี มีผลตอบแทนและสร้างรายได้สูง แต่ก็เป็นดาบสองคบ ถ้าลงทุนพลาดไม่เกิดขึ้นจริงจะกลายเป็นความสูญเปล่า เหมือนกับ”โฮปเวลล์” ซึ่งที่ผ่านมาไทยมีโครงการใหญ่หลายโครงการ ฟังดูดีแต่ท้ายสุดมันไม่เกิดผล สิ่งสำคัญต้องพิจารณาให้ชัด ต้องเกิดจริง เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจ ไม่งั้นอย่าทำดีกว่า นอกจากนี้มองว่าไทยอาจจะพ้นยุคที่ต้องหาโครการใหญ่ๆแล้ว ต้องมองโครงการเล็กๆ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด เกิดประโยชน์ เช่น ทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก ช่วยได้ทั้งเกษตรและผันเงินสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็ว
.
ส่วน โครงการรถไฟฟ้า หรือรถไฟความเร็วสูง ถ้ามองทางเศรษฐกิจ ต้องดูว่าสร้างรายได้ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ถ้าพูดถึงรถไฟฟ้าในกรุงเทพในปัจจุบันสร้างเต็มไปหมด ความเชื่อมโยงถ้าเทียบกับสมัยก่อน เมื่อมีการสร้างรถไฟฟ้า ทำให้อสังหาฯบูมตามรถไฟฟ้าด้วย แต่ปัจจุบันมันเริ่มไม่ค่อยเกิดแล้ว แสดงว่าในแง่ประโยชน์การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจมันจำกัดแล้ว แต่อาจจะมีคุณประโยชน์ทางอื่น เช่น มุมทางสังคม ช่วยลดต้นทุน ให้คนยากจนเข้าถึงโครงสร้างเข้ามาทำงานในเมืองได้ง่าย ถ้ารัฐบาลจะลงทุนก็ต้องเน้นไปในมุมนี้ แต่ถ้าวิเคราะห์ในมุมเศรษฐกิจคิดว่ารถไฟฟ้าประโยชน์เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆแล้ว ส่วนรถไฟความเร็วสูงตอนนี้มีแค่โครงการเดียวสร้างจากกรุงเทพ-นครราชสีมา แต่โครงการสร้างไปถึงหนองคายยังไม่มีงบ และจากผลการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยเกิดขึ้น
.
“การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแบบนี้ ถ้ารัฐจะสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลได้ น่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานอีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจ โดยการทำให้ประชาชนเข้ามาในโลกธุรกิจที่สามารถขายของทางออนไลน์ได้มากขึ้น ไม่ต้องสร้างถนน รถไฟฟ้าแล้ว เพราะดิจิทัลไปถึงทุกคนแล้ว ด้วยการอัพสกิลและรีสกิลผู้ประกอบการให้เก่งจนมาขายบนแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้วได้”