สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชื่อเกียร์นะคะ มาสมัครเป็นสมาชิกพันทิป เพราะอยากจะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการลดน้ำหนักค่ะ อยากจะมาเล่าเรื่องราวของตัวเองกับการลดน้ำหนักในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาค่ะ
ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ ชื่อเกียร์ อายุ 23 ปี สูง 155 เซนติเมตร เมื่อก่อนเป็นคนชอบทานมากค่ะ ทานอาหารแฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า มันฝรั่งทอด เค้ก น้ำอัดลมมากค่ะ
ทุกครั้งที่มีคนทักว่าอ้วนเราก็จะปลอบใจตัวเองค่ะว่าฉันไหล่กว้าง ตัวหนา ไม่เป็นไร คือช่วงนั้นรู้สึกเลยนะคะ ว่าตัวเองเสพติดอาหาร แบบว่าเราดีใจก็กิน เสียใจก็กิน เราก็ไม่ได้แคร์อะไรนะ เพราะว่ามีความสุขมากที่ได้กิน
จนกระทั่งวันหนึ่งไปงานรับปริญญาของเพื่อน ไปแสดงความยินดีถ่ายรูปกัน เพื่อน ๆ ก็แทครูปมาให้ในเฟสค่ะ สิ่งที่เราเห็นเป็นสิ่งที่เราไม่คิดค่ะ ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราได้ คือเราอ้วนมาก เหมือนตัวจะระเบิดอะ (ช่วงนั้นหนักประมาณ 80 กิโลกรัม) พอมาเห็นรูปเราก็มานึกได้ ว่าอยากให้งานรับปริญญาของตัวเองเป็นยังไง (เพิ่งจบค่ะ กำลังจะรับปริญญา เดือน พ.ย. 56) เราก็เลยเริ่มลดน้ำหนักมาเลยอะ ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2556 เราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินค่ะ จากเคยกินข้าว 2-3 จาน ก็ลดมาเหลือ 1 จาน เริ่มออกกำลังกายมากขึ้น จากปกติใช้ ลิฟท์ เราเปลี่ยนมาเดินขึ้นบันได ขึ้นบันได 8 ชั้น เดินขึ้นลงวันละประมาณ 5 รอบ น้ำหนักก็เริ่มลงแล้วค่ะ จากน้ำหนัก 80 กิโลกรัม เริ่มลงมาเป็น 57 กิโลกรัม(ช่วงเดือน พ.ย. 56) ช่วงนี้แค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินนะคะ ไม่ได้ออกกำลังกายจริงจัง
แชร์วิธีลดน้ำหนัก
ในรูปเป็นผู้หญิงคนข้างหน้า ที่วงกลมไว้ให้ค่ะ
หลังจากเดือนธันวาคม ก็ย้ายงานค่ะ มาทำงานที่ใหม่เลิกงานไว 16:30 น. ก็เลิกละ เราก็มีเวลามากขึ้น เพราะอยู่ที่ทำงานเก่าเลิก 2-3 ทุ่มทุกวัน ก็เริ่มออกกำลังกาย เข้างาน 8:30 น. เลยตื่นเช้ามากขึ้นเพื่อมาออกกำลังกายดังนี้ค่ะ
work out 7 นาที weighted training อีก 20 ครั้ง 3 เซต sit-up 100 ครั้ง เดินเข้าที่ทำงานประมาน 2 กิโลเมตรทุกวัน ถึงที่ทำงาน เดินขึ้นบันได 8 ชั้นทุกวัน (วันหนึ่งเดินขึ้นลงประมาน 5 รอบ) กลับบ้าน workout อีกครั้ง sit-up 50 ครั้ง วิ่งประมาณ 10 กิโลเมตรทุกวัน ก็ยอมรับนะคะว่าออกหนัก ออก 5-6 วันต่อสัปดาห์ พัก 1 วันค่ะ สิ่งที่ตามมาคือ น้ำหนักก็ค่อย ๆ ลง อาทิตย์ 1 ประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม อาหารที่ทานช่วงนั้น เน้นข้าวกล้องค่ะ มีผักในทุกมื้อที่ทาน เกียทานแค่เช้า กลางวันนะคะ เย็นจะไม่ทานค่ะ หลังออกกำลังกายช่วงเย็นเสร็จก็จะมีน้ำเต้าหู้ ไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย กับกล้วย 1 ลูก ตัดขนมระหว่างมื้อออกหมดเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ทานเย็น ทานปกติแล้วนะคะ เพราะร่างกายคงที่แล้ว แต่เน้น โปรตีน (อกไก่, ไข่ขาว) แทน
ตอนนี้เกียร์น้ำหนัก 45 กิโลกรัมแล้วค่ะ ภายในเวลา 1 ปี จาก 80 กิโลกรัม เหลือ 45 กิโลกรัมแล้วค่ะ
แชร์วิธีลดน้ำหนัก
สิ่งที่ได้จากการออกกำลังกาย
1. สุขภาพแข็งแรง จากความดัน 180/90 ตอนนี้เหลือแค่ 110/70 แล้วค่ะ
2. มั่นใจมากขึ้น
3. ทัศนคติในการใช้ชีวิต จากคนที่เสพติดอาหารขั้นรุนแรง กลับกลายเป็นคนที่ทานอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายค่ะ
แรงบันดาลใจที่ดีที่สุดในการออกกำลังการลดน้ำหนักในครั้งนี้คือ
1. พ่อกับแม่ค่ะ (อยากให้งานรับปริญญา ของตัวเองออกมาดูดีที่สุดค่ะ)
2. เพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ในการลดน้ำหนัก เพจกลัวอ้วนของพี่ผึ้ง
3. กีฬาที่ชอบ วิ่ง จักรยาน เทนนิส ว่ายน้ำ
4. เวลาไม่ใช่ปัญหาในการออกกำลังกาย ทุกวันนี้ออกประมาณ 1-2 ชม. ก็เพียงพอแล้ว
5. สังเกตวิวัฒนาการ ดูจากรูปเก่า ๆ ของตัวเองเปรียบเทียบกับปัจจุบัน สัดส่วนที่ลดลง
6. ทำเป็นนิสัย ทุกวันนี้ออก 7 วันต่อสัปดาห์ เสพติดการออกกำลังกายไปแล้วค่ะ
Special Thank for Shawna Luckins-Elliott Big sister who lived in Canada
ถ้าอยากสุขภาพดี แข็งแรงพอกันทีค่ะ กับคำว่า จะ ทำเลยค่า
ส่งท้ายก่อนจากกันค่า
แชร์วิธีลดน้ำหนัก
รูปล่างนี่เป็นหุ่นสุดท้ายที่อยู่ตอนนี้นะคะ กำลังเข้า Focus T25 อยู่ ใกล้ได้เวลาไป Beta แล้ว อยากมี ซิกแพคค่ะ สู้กันต่อไป..
[SR] **[Before-After] 1 ปี กับการลดน้ำหนักจาก 80 กิโลกรัม เหลือ 44 กิโลกรัม**
ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ ชื่อเกียร์ อายุ 23 ปี สูง 155 เซนติเมตร เมื่อก่อนเป็นคนชอบทานมากค่ะ ทานอาหารแฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า มันฝรั่งทอด เค้ก น้ำอัดลมมากค่ะ
ทุกครั้งที่มีคนทักว่าอ้วนเราก็จะปลอบใจตัวเองค่ะว่าฉันไหล่กว้าง ตัวหนา ไม่เป็นไร คือช่วงนั้นรู้สึกเลยนะคะ ว่าตัวเองเสพติดอาหาร แบบว่าเราดีใจก็กิน เสียใจก็กิน เราก็ไม่ได้แคร์อะไรนะ เพราะว่ามีความสุขมากที่ได้กิน
จนกระทั่งวันหนึ่งไปงานรับปริญญาของเพื่อน ไปแสดงความยินดีถ่ายรูปกัน เพื่อน ๆ ก็แทครูปมาให้ในเฟสค่ะ สิ่งที่เราเห็นเป็นสิ่งที่เราไม่คิดค่ะ ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราได้ คือเราอ้วนมาก เหมือนตัวจะระเบิดอะ (ช่วงนั้นหนักประมาณ 80 กิโลกรัม) พอมาเห็นรูปเราก็มานึกได้ ว่าอยากให้งานรับปริญญาของตัวเองเป็นยังไง (เพิ่งจบค่ะ กำลังจะรับปริญญา เดือน พ.ย. 56) เราก็เลยเริ่มลดน้ำหนักมาเลยอะ ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2556 เราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินค่ะ จากเคยกินข้าว 2-3 จาน ก็ลดมาเหลือ 1 จาน เริ่มออกกำลังกายมากขึ้น จากปกติใช้ ลิฟท์ เราเปลี่ยนมาเดินขึ้นบันได ขึ้นบันได 8 ชั้น เดินขึ้นลงวันละประมาณ 5 รอบ น้ำหนักก็เริ่มลงแล้วค่ะ จากน้ำหนัก 80 กิโลกรัม เริ่มลงมาเป็น 57 กิโลกรัม(ช่วงเดือน พ.ย. 56) ช่วงนี้แค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินนะคะ ไม่ได้ออกกำลังกายจริงจัง
แชร์วิธีลดน้ำหนัก
ในรูปเป็นผู้หญิงคนข้างหน้า ที่วงกลมไว้ให้ค่ะ
หลังจากเดือนธันวาคม ก็ย้ายงานค่ะ มาทำงานที่ใหม่เลิกงานไว 16:30 น. ก็เลิกละ เราก็มีเวลามากขึ้น เพราะอยู่ที่ทำงานเก่าเลิก 2-3 ทุ่มทุกวัน ก็เริ่มออกกำลังกาย เข้างาน 8:30 น. เลยตื่นเช้ามากขึ้นเพื่อมาออกกำลังกายดังนี้ค่ะ
work out 7 นาที weighted training อีก 20 ครั้ง 3 เซต sit-up 100 ครั้ง เดินเข้าที่ทำงานประมาน 2 กิโลเมตรทุกวัน ถึงที่ทำงาน เดินขึ้นบันได 8 ชั้นทุกวัน (วันหนึ่งเดินขึ้นลงประมาน 5 รอบ) กลับบ้าน workout อีกครั้ง sit-up 50 ครั้ง วิ่งประมาณ 10 กิโลเมตรทุกวัน ก็ยอมรับนะคะว่าออกหนัก ออก 5-6 วันต่อสัปดาห์ พัก 1 วันค่ะ สิ่งที่ตามมาคือ น้ำหนักก็ค่อย ๆ ลง อาทิตย์ 1 ประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม อาหารที่ทานช่วงนั้น เน้นข้าวกล้องค่ะ มีผักในทุกมื้อที่ทาน เกียทานแค่เช้า กลางวันนะคะ เย็นจะไม่ทานค่ะ หลังออกกำลังกายช่วงเย็นเสร็จก็จะมีน้ำเต้าหู้ ไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย กับกล้วย 1 ลูก ตัดขนมระหว่างมื้อออกหมดเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ทานเย็น ทานปกติแล้วนะคะ เพราะร่างกายคงที่แล้ว แต่เน้น โปรตีน (อกไก่, ไข่ขาว) แทน
ตอนนี้เกียร์น้ำหนัก 45 กิโลกรัมแล้วค่ะ ภายในเวลา 1 ปี จาก 80 กิโลกรัม เหลือ 45 กิโลกรัมแล้วค่ะ
แชร์วิธีลดน้ำหนัก
สิ่งที่ได้จากการออกกำลังกาย
1. สุขภาพแข็งแรง จากความดัน 180/90 ตอนนี้เหลือแค่ 110/70 แล้วค่ะ
2. มั่นใจมากขึ้น
3. ทัศนคติในการใช้ชีวิต จากคนที่เสพติดอาหารขั้นรุนแรง กลับกลายเป็นคนที่ทานอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายค่ะ
แรงบันดาลใจที่ดีที่สุดในการออกกำลังการลดน้ำหนักในครั้งนี้คือ
1. พ่อกับแม่ค่ะ (อยากให้งานรับปริญญา ของตัวเองออกมาดูดีที่สุดค่ะ)
2. เพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ในการลดน้ำหนัก เพจกลัวอ้วนของพี่ผึ้ง
3. กีฬาที่ชอบ วิ่ง จักรยาน เทนนิส ว่ายน้ำ
4. เวลาไม่ใช่ปัญหาในการออกกำลังกาย ทุกวันนี้ออกประมาณ 1-2 ชม. ก็เพียงพอแล้ว
5. สังเกตวิวัฒนาการ ดูจากรูปเก่า ๆ ของตัวเองเปรียบเทียบกับปัจจุบัน สัดส่วนที่ลดลง
6. ทำเป็นนิสัย ทุกวันนี้ออก 7 วันต่อสัปดาห์ เสพติดการออกกำลังกายไปแล้วค่ะ
Special Thank for Shawna Luckins-Elliott Big sister who lived in Canada
ถ้าอยากสุขภาพดี แข็งแรงพอกันทีค่ะ กับคำว่า จะ ทำเลยค่า
ส่งท้ายก่อนจากกันค่า
แชร์วิธีลดน้ำหนัก
รูปล่างนี่เป็นหุ่นสุดท้ายที่อยู่ตอนนี้นะคะ กำลังเข้า Focus T25 อยู่ ใกล้ได้เวลาไป Beta แล้ว อยากมี ซิกแพคค่ะ สู้กันต่อไป..