มาดามดำตับเป็ด :: บทที่ 20 :: ยกที่หนึ่ง

กระทู้สนทนา
ความเดิมตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บทที่ 20
ยกที่หนึ่ง




             “ รู้ไว้ก็เหยียบไว้เลยนะ ”

             หญิงชราขาเม้าท์ใช้มือขวาป้องปากในขณะที่กำลังกระจายข่าว มองซ้ายส่องขวาดูลาดเลาอย่างชำนาญ  กวักมืออีกข้างไหวๆเรียกคนที่เพิ่งมาเข้าร่วมวงสุมหัวนินทา  “ ถ้าจะมาฟังด้วย ก็มาให้ไว! มาช้าข้าไม่กรอเทปเล่าใหม่นะโว้ย เร็วๆเข้า!! ”

              พนักงานอีเว้นท์ที่กำลังตึงเครียดกับงาน  ต่างเข้ามารุมล้อมรอบโต๊ะกลมของยายม้วนราวกับไทยมุง “ เรื่องอะไรเหรอยาย ใช่เรื่องดาวหรือเปล่า ” หนึ่งในพนักงานเริ่มเปิดประเด็นถามด้วยความสงสัย  คนอื่นๆก็เริ่มขยับมาใกล้ๆ เงี่ยหูฟัง เพื่อที่จะได้ยินถนัดชัดขึ้น

              “ เรื่องนังดาวนั่นแหละ ” หญิงชราขาเม้ากระหยิ่มยิ้มหย่อง ทำท่าผยองเพราะตัวเองกลายเป็นบุคคลสำคัญที่จะป่าวประกาศข่าวนี้

              “ ใช่เรื่องที่เค้าลือกันว่าดาวท้องหรือเปล่ายาย ” พนักงานที่ยืนอยู่แทรกตัวเข้ามาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

              “ ข้าวงในตัวจริง ขอยืนยัน!ว่านังดาว!มันพริกแน่น!จริงๆว้อย!  ” หญิงชราทำตาโต พูดปากกว้าง  ตบโต๊ะเป็นจังหวะทุกครั้งเมื่อต้องการเน้นคำพูด

              “ พริกแน่น!? ” เสียงคนทั้งวงอุทานพร้อมกัน งงกับสิ่งที่ยายม้วนพูด

               “ พริกแน่นก็ท้องไง ที่มันแปลว่าตั้งท้องในภาษาประกิดไง  ข้าได้ยินมากะหูตอนไอ้ฝรั่งจิมมันพูด มันบอกแม่มันว่า นังดาวน่ะพริกแน่นกับมัน ”

               พอยายม้วนยืนยันเสียงแข็งว่าดาวท้องกับจิม คนในวงก็เริ่มจับกลุ่มคุยกันพึมพำ บางคนก็ไม่เชื่อ  บางคนก็เชื่อสนิทใจ ไม่มีใครสักคนสงสัยว่ายายม้วนแปลงสารศัพท์แสงภาษาอังกฤษจากจิมได้ยังไง  

               การคุยเริ่มแตกประเด็นไปวงย่อย  ยายม้วนก็ตบโต๊ะเพื่อเรียกทุกคนหันกลับมาฟังแกต่อ  “ เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย อย่าเพิ่งเม้าท์ ฟังข้าเล่าให้จบก่อน อยากรู้ไหมว่ามันท้องได้ยังไง ”  หญิงชราขาเม้าท์ก้มตัวลงต่ำเอามือป้องปาก พูดด้วยน้ำเสียงเบา “ เรื่องมันมีอยู่ว่า......”

               ยายม้วนเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่ดาวกับจิมพบกันโดยบังเอิญ จนกระทั่งไปได้เสียกันในกระท่อมตอนฝนตก สุดท้ายเกิดมีเรื่องกัน เพราะแม่ฝ่ายชายกีดกันไม่ยอมให้เป็นสะใภ้ เนื่องจากจิมมีคู่หมั้นตั้งแต่เด็กที่หมายจะให้แต่งงานกันเมื่อโตขึ้น ดาวเลยเสียใจหนีไปหลบหน้าโดยไม่บอกกับจิมว่าท้องอยู่  แต่ด้วยโชคชะตาทั้งสองเลยมาพบกันอีก และปรับความเข้าใจในที่สุด  จิมก็ดีใจที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคน แต่ก็ติดตรงฝ่ายแม่ที่ไม่ยอมรับสะใภ้อย่างดาว  

               “ ….เรื่องมันก็เป็นยังงี้ล่่ะ เฮ้อคอแห้ง ” ยายม้วนดูดน้ำหมดแก้วเสียงดังด้วยความกระหาย เพราะใช้กำลังสมองในการโม้เม้าท์แต่งเรื่องเยอะ

               “ โหยาย นี่มันละครน้ำเน่าชัดๆ ขาดแต่นางเอกยังไม่โดนวางยาด้วยน้ำส้ม หรือพระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนจบแฟนเก่าพระเอกจะเป็นบ้าหรือบวชชีล่ะเนี้ย  ”  พนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อยายม้วนเล่าเรื่องจบ

               “ เนี้ยล่ะเว้ยนี่ล่ะหว่า  เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ข้าเนี้ยไม่ได้ใส่สีตีไข่เลยนะ ข้าเนี้ยรู้ลึกรู้จริงยิ่่งกว่าทีวีพลูซะอีก อิอิอิ ” ยายม้วนขาเม้าท์ยิ้มด้วยความชอบคอพอใจ พลางตำหมากจีบพลูใส่ปากเคี้ยวหนุบหนับอย่างเพลิดเพลิน

                คนอื่นๆไม่ได้สนใจว่าเรื่องที่ยายม้วนเล่าจะเป็นจริงหรือไม่ เพราะในเมื่อประเด็นแม่ผัวลูกสะใภ้สไตล์น้ำเน่่ามันสนุกปากกับการนินทา แล้วยิ่งเป็นเรื่องคนใกล้ตัว เรื่องแบบนี้ก็ต้องขยายต่อ

                หนึ่งในคนที่นั่งฟังการสทนานินทาครั้งนี้ด้วย ก็คือชายคนขับรถที่เคยร่วมมือกับทรายและพี่น้อยในครั้งที่ย่าแอ๋วหายตัว  เมื่อฟังเรื่องราวจบครบถ้วน ก็เดินออกไปอย่างลับๆล่อๆ เพื่อมาหาทรายที่รออยู่ทางบันไดหนีไฟภายในของโรงแรม  

               ทรายลากตัวชายคนขับรถหลบเข้ามาด้านในทันที เพราะไม่ต้องการให้ใครเห็น “ ว่ายังไงพี่ ได้เรื่องว่ายังไง ตรงกับที่ทรายได้ยินมาไหม ”

               “ ครับ ดาวท้องจริงๆ อย่างที่น้องทรายไปแอบฟังมา  อันนี้วงในยืนยันมาแล้วคอนเฟิร์มแน่นอน ”

               “ หึ! ท้องงั้นเหรอ แรดไวไฟจริงนะนังดำ ดี!มันจะได้ไม่มายุ่งกับคนของทราย ”

               “ ใครครับ ”

               “ ไม่ใช่เรื่องของพี่นะคะ ” ทรายเหวี่ยงใส่ และหยิบเงินในกระเป๋าออกมาให้จำนวนหนึ่งแก่ชายคนขับรถ “ นี่ค่ะค่าสืบและค่าสงบปาก ”

               “ ครับ ขอบคุณครับ มีอะไรก็บอกพี่ได้อีกนะ พี่ยินดีช่วย ”  ชายคนขับรถรับเงินมาด้วยความดีใจ  และรีบเดินออกไปทันทีจากบริเวณนั้นทันที  ทางที่เดินเป็นทางยาวตรง ไม่สามารถเลี่ยงไปทางอื่นได้ เลยทำให้มาสวนทางพอดีกับน้อย    

               “ นี่...”    เจ้านายหญิงแก่เรียกชายคนขับรถทันทีที่เห็น

              “ ครับ! มีอะไรครับ ” ชายคนขับรถรีบชิงตอบรับทันทีก่อนที่จะโดนถาม  แต่ด้วยท่าทางที่ดูลุกลี้ลุกลน หลบสายตาเวลาพูด เลยทำให้น้อยเห็นพิรุธ

               “ เป็นอะไร!  พี่จะถามว่าเรามีไฟแช็คไหม พี่จะยืมจุดบุหรี่ ”

               “ มีครับมี ” ชายคนขับรถลนลานหาไฟแช็ค ซึ่งมันดันไปอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านที่เพิ่งยัดเงินเก็บเข้าไป  เขาจึงพยายามใช้มือป้องปิด และเอาเงินออกมาก่อนเพราะกางเกงฟิต  “ แหะๆ แปปนึงนะครับ ”

                “ แบงค์ดอลล่าร์ใหม่ๆเยอะดีเนอะ เพิ่งกดตู้มาเหรอจ้ะ”

                ชายคนขับรถตกใจ ที่การใช้มือป้องมันไม่สามารถหลุดรอดสายตานางพญาเหยี่ยวอย่างน้อยไปได้   “ อ่อ..ครับๆ เพิ่งไปกดเอทีเอ็มมาเมื่อกี้ อ่ะได้แล้วครับไฟแช็ค พี่น้อยเอาไปเลยนะครับ แล้วค่อยมาคืนผม ผมจะไปห้องน้ำ ขอตัวนะครับ ”  ชายคนขับรถยื่นไฟแช็คให้น้อยอย่างลุกลี้ลุกลนมือไม้สั่น  รีบร้อนเร่งฝีเท้าเดินจ้ำอ้าวเพื่อหนีการสอบสวนจากเจ้านายหญิงแก่

                ||||มีต่อด้านล่างค่ะ>>>>>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่